ดวงใจภวินท์ - บทที่ 838 คืนสู่เจ้าของเดิม
บทที่ 838 คืนสู่เจ้าของเดิม
“ปล่อย!” ญาธิดากดเสียงต่ำและพยายามดิ้นเพื่อจะหลุดพ้นจากเงื้อมมือของเขา “คุณสมิธที่นี่ถิ่นของฉันโปรดให้ความเคารพกับฉันด้วย”
อาริโอไม่พบแผ่นชิปบนตัวของเธอซึ่งมันทำให้สีหน้าของเขายิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ก่อนจะสลัดข้อมือของเธอออกและเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ยังไม่ทันที่เธอจะได้ถอนหายใจโล่งอก ร่างสูงของใครคนหนึ่งก็สะท้อนอยู่ในดวงตาของเธออีกครั้ง
ภวินท์…
ปลายนิ้วของเธอสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ขาทั้งสองข้างเดินแหวกผ่านฝูงชนออกไปด้านหน้าเหมือนขาเต็มไปด้วยตะกั่ว
เมื่อเธอขยับเข้าไปใกล้คนที่เฝ้านึกถึงอยู่ทั้งวันทั้งคืน จู่ ๆ ฝีเท้าของเธอก็หยุดชะงักอย่างกะทันหันและมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ไม่รู้ว่านพเก้าเดินมาโผล่ข้าง ๆ ภวินท์ตั้งแต่เมื่อไหร่ แขนเรียวขาวคล้องแขนของภวินท์ไว้อย่างเป็นธรรมชาติพลางเอนศีรษะซบลงตรงไหล่เขา
ญาธิดามองภาพปาดตาปาดใจตรงหน้า ปลายนิ้วกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัวจนเล็บจิกเข้ากับฝ่ามือจนเป็นรอยไปหมด
เธอร้องตะโกนในใจหวังให้ภวินท์ผลักนพเก้าออกไป
แต่น่าเสียดายที่มันไม่เป็นแบบนั้น…
ภวินท์ลูบปัดลูกผมตามหน้าผากของเธออย่างแผ่วเบา พลางก้มกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของเธอ ส่วนนพเก้าก็ฉีกยิ้มออดอ้อนอยู่ในอ้อมแขนของเขา
ญาธิดาถอยหลังสองก้าวอย่างอดไม่ได้ ทำได้เพียงใช้มือค้ำโต๊ะที่อยู่ข้าง ๆ เพื่อพยุงตัวเองไว้
เธอพยายามห้ามไม่ให้ตัวเองหุนหันพลันแล่นเดินเข้าไปถาม และคอยบอกตัวเองอยู่ตลอดว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่วิน วินไม่มีทางใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้หญิงคนอื่นขนาดนี้…
เพล้ง——
ขณะที่กำลังเหม่อลอยหอคอยแก้วที่อยู่ข้าง ๆ ก็ถูกเธอปัดจนร่วงแตก สายตาของทุกคนทยอยหันมองมาที่เธอ ทุกคนต่างกำลังแสดงสีหน้าที่ยากจะอธิบายได้
ราวกับกำลังคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่สามารถพยุงเมือง J ได้ด้วยมือเพียงข้างเดียวจะมีด้านที่อับอายแบบนี้ด้วย
กลิ่นไวน์แดงหอมกรุ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ของเหลวสีแดงเลอะเปรอะตามชุดกระโปรงสีขาวของเธอ เธอเงยหน้าขึ้นมองภวินท์โดยไม่รู้ตัว ราวกับอยากจะเห็นว่าใบหน้าเมินเฉยไม่แยแสของเขามีอะไรเปลี่ยนไปบ้างไหม แต่สุดท้ายเขาก็ยังมองเหมือนเป็นคนแปลกหน้าอยู่ดี
อารมณ์ของเธอจมดิ่ง สายตาเย็นชาค่อย ๆ เหลือบมองไปทางนพเก้า ส่วนนพเก้าก็กำลังมองตามสายตาของภวินท์ด้วยเหมือนกัน
วินาทีที่พวกเธอสบตากัน สีหน้าของเธอเหมือนกำลังตื่นตระหนก ราวกับคิดไม่ถึงว่าจะมาเจอญาธิดาที่นี่ แต่แค่ไม่นานเธอก็ปรับอารมณ์ของตัวเองได้ และยังทำท่าทางสนิทสนมกับภวินท์ต่อโดยไม่คิดที่จะเข้ามาทักทายเธอ
รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ไม่สามารถรอดพ้นจากสายตาของญาธิดาไปได้ แสงหนึ่งวาบเข้ามาในแววตาของเธอ หลังจากสูดหายใจเข้าลึก ๆ ยกมือขึ้นเช็ดคราบไวน์แดงบนชุดกระโปรงของตัวเองแล้วเดินตรงเข้าไปหานพเก้า
“คุณเก้าไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เธอเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดก่อน
นพเก้ายังคงจับมือกับภวินท์อย่างสนิทสนม ความตื่นตระหนกเมื่อครู่ได้หายไปแล้ว การได้มาเผชิญหน้ากับญาธิดาในวันนี้ ในแววตาของเธอมีแต่ความสะใจ ราวกับเธอเป็นผู้ชนะคนสุดท้าย
“ไม่คิดเลยนะว่าเพื่อนเก่าคนแรกที่ฉันได้เจอหลังกลับจากยุโรปจะเป็นเธอ”
นพเก้าพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม ทันใดนั้นก็ซุกตัวเข้าซบอกของภวินท์พลางพูดแนะนำว่า “นี่ภวินท์คู่หมั้นของฉัน”
คู่หมั้น…
แววตาของญาธิดาตึงเครียดขึ้นมาเล็กน้อย แต่โชคดีที่เพียงไม่นานเธอก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม เธอเหลือบมองใบหน้าเคร่งขรึมของภวินท์แล้วพูดช้า ๆ ว่า “นพเก้า เธอก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าภวินท์เป็นสามีของฉัน”
เมื่อได้ยินแบบนั้นภวินท์ก็ขมวดคิ้วแน่น แถมยังไม่ลืมที่จะกอดนพเก้าไว้ในอ้อมแขนแน่นกว่าเดิม
ญาธิดาหวี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะเบือนหน้าหนี
เสียงแห่งชัยชนะของนพเก้าดังขึ้นอีกครั้ง “ถึงฉันจะไม่ได้อยู่ที่จีนมาสองปีแล้ว แต่ฉันก็พอจะดูข่าวเรื่องการเงินและธุรกิจอยู่บ้าง คุณญาธิดาคงไม่ใช่เห็นคู่หมั้นของฉันแล้วนึกถึงสามีที่เสียชีวิตไปของตัวเองหรอกใช่ไหมคะ?”
ญาธิดาไม่โกรธแต่กลับขำออกมา แสงสลัวเปล่งประกายอยู่ในดวงตาของเธอ “สามีของฉันยังมีชีวิตอยู่ และฉันจะต้องตามหาเขาเจอแน่!”
เธอเน้นคำว่า “เขา” อย่างหนักแน่น พลางเหลือบสายตามองภวินท์อย่างลึกซึ้ง
“ฉันก็หวังว่าคุณจะตามหาสามีผู้ล่วงลับไปแล้วจนเจอนะคะ เหมือนกับที่ฉันได้เจอคู่หมั้นของฉัน แต่ว่า…”
นพเก้าเดินเข้ามาใกล้เธอก่อนจะพูดเตือนเสียงเบาว่า “ผู้ชายสองคนนี้ชื่อภวินท์เหมือนกัน คุณญาธิดาก็อย่าหลับหูหลับตาจำคนผิดแล้วมายุ่งกับแฟนของคนอื่นแล้วกันนะคะ”
“ฉันไม่ได้เลวเหมือนเธอที่ชอบขโมยผัวของคนอื่น!” ขณะที่กำลังพูด ญาธิดาเอื้อมมือไปคว้าข้อมือของเธอ ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนหดสั้นลงยิ่งกว่าเดิม
เธอพูดย้ำทีละคำด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นหนาวเหน็บไปถึงกระดูก “ไม่มีใครในเมือง J ไม่รู้จักวิน เธอกล้าพาเขามาถึงที่นี่ก็เตรียมตัวคืนเขาให้กับเจ้าของเดิมไว้ด้วยล่ะ”
“แก…” เสียงของนพเก้าอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด “เขาทำธุรกิจอยู่ที่ยุโรปตลอด ไม่รู้จักใครในจีน และไม่มีทางคืนหาเจ้าของเดิมอย่างที่เธอว่าแน่นอน”
เธอไม่เคยเห็นด้านของญาธิดามาก่อนเลย และเธอยอมรับว่าเมื่อครู่นี้จู่ ๆ เธอก็รู้สึกขลาดกลัวขึ้นมาในใจ ไม่เจอกันสองปี ญาธิดายิ่งปีกกล้าขาแข็งขึ้นเรื่อย ๆ แถมตอนนี้ยังสามารถข่มขู่ให้เธอกลัวได้ด้วย
เพิ่งจะพูดจบจู่ ๆ ข้อมือของญาธิดาก็ถูกบีบแน่น ยังไม่ทันที่เธอจะได้ตั้งตัวภวินท์ก็ดึงเธอผลักออกไปอีกทาง ก่อนจะป้องนพเก้าเข้าไปไว้ในอ้อมแขนของตัวเองอย่างระมัดระวัง
ตอนนี้นพเก้าเป็นเหมือนกับกระต่ายขาวตัวน้อยที่กำลังซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างหวาดกลัว แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความพึงพอใจ เหลือก็แค่ประจันหน้ากับญาธิดาตรง ๆ เท่านั้น
“นี่เธอ ไม่ว่าเธอกับเก้าจะเคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกัน แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอทำร้ายคู่หมั้นของฉันแน่ ถ้ายังมีคราวหน้าอีก ฉันจะไม่เกรงใจเธอแน่”
วินาทีถัดมา เสื้อสูทอบอุ่นก็ตกลงบนไหล่ของเธอ ห่อหุ้มร่างเพรียวบางของเธอเอาไว้ ก่อนที่น้ำเสียงอบอุ่นของใครคนหนึ่งจะดังขึ้นตามมา “คิดจะแตะญาธิดาก็ผ่านผมไปให้ได้ก่อนนะครับ”
ภวินท์เหลือบมองนิธิศและถามอย่างเย็นชาว่า “คุณมีสิทธิ์อะไรมาออกหน้าแทนเธอ?”
“ก็สิทธิ์ของคนที่กำลังตามจีบไง ผมเต็มใจจะแบกรับทุกอย่างแทนเธอ ไม่ได้หรือไง?” นิธิศมองตรงเข้าไปในดวงตาของเขายิ้ม ๆ
“แตะต้องคนของฉันแล้ว ก็รอดูว่าคุณจะสามารถรับผลที่ตามมาได้ไหวหรือเปล่า” น้ำเสียงของภวินท์เยือกเย็น ในแววตาเขาแทบไม่มีความรู้สึกอะไรอยู่เลย
น้ำเสียงเยือกเย็นดังเข้ามาในหูของญาธิดา ร่างกายของเธอแข็งทื่อ แน่นหน้าอกจนแทบหายใจไม่ออก
เมื่อก่อนเธอมักจะนำความเดือดร้อนมาให้ภวินท์เสมอ และตอนนั้นเขาก็ปกป้องเธอเหมือนกัน แต่ตอนนี้ คนที่เขากำลังปกป้องกลับเป็นผู้หญิงอีกคน
ไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ของพวกเขาพังทลายแต่เป็นเพราะตกหลุมพรางของคนอื่น และเธอจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเด็ดขาด…
เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอจึงค่อย ๆ ยืดหลังตรง เชิดใบหน้าและเดินเข้าไปใกล้ ๆ เขา “จำชื่อของฉันไว้ให้ดี ฉันชื่อญาธิดา ต่อไปคุณจะได้ยินชื่อนี้บ่อยขึ้นแน่นอน”
แววตาของนิธิศ มืดลง เขารีบจับไหล่ของเธอเบา ๆ “ดึกมากแล้วเดี๋ยวผมไปส่ง”