ดวงใจภวินท์ - บทที่ 961 สายตาที่คุ้นเคย
ดวงใจภวินท์ บทที่ 961 สายตาที่คุ้นเคย
เวลาเดินมาถึงช่วงสิบเอ็ดโมง ก่อนงานแต่งงานหนึ่งชั่วโมง
ตรงประตูทางเข้าของคฤหาสน์ตระกูลสมิทเหล่าคนมีชื่อเสียงของเมือง Lแทบจะทั้งหมดต่างก็มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ที่มากกว่าผู้คนก็คือเหล่าพวกลูกน้องของคฤหาสน์ตระกูลสมิทเทียบกับงานแต่งงานเมื่อครั้งที่แล้ว ลำพังแค่จำนวนคนอย่างเดียวก็มากกว่าเท่าตัวแล้ว แถมแต่ละคนก็พกอาวุธติดตัวมาด้วย
ตรงทางเข้า คนที่ไม่มีการ์ดเชิญห้ามเข้า ต่อให้มีคนเข้าไป ก็ต้องถูกตรวจค้นร่างกาย
ด้วยเหตุนี้เอง เหล่าบรรดาสตรีมีชื่อเสียงที่สูงส่งทะนงตัวต่างก็รู้สึกไม่พอใจ แต่กลับไม่มีใครกล้าพูดอะไรทั้งนั้น ถึงยังไงที่นี่ก็เป็นถิ่นของตระกูลสมิธ ภายในเมือง L คนที่กล้าท้าทายกับตระกูลสมิธมีแค่ไม่กี่คนจริงๆ
ญาธิดามองทางเข้าที่ผู้คนคับคั่ง ดึงหมวกสีดำที่อยู่บนหัวลงมาให้ต่ำลงนิดหน่อย
เธอใช้การ์ดเชิญที่ได้มาจากทางด้านของMrs. Robert เข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลสมิทได้อย่างราบรื่น
ญาธิดาเดินตรงเข้าไปในงาน พลางมองสำรวจสถานการณ์โดยรอบ พูดแบ่งปันสถานการณ์ของกำลังคนของที่นี่ให้กับจรณ์ผ่านหูฟังขนาดเล็ก
คฤหาสน์ตระกูลสมิทที่มีการคุ้มกันอย่างเข้มงวดแน่นหนา ญาธิดาแอบขมวดคิ้ว
รอหลังจากที่เรื่องทั้งหมดของตระกูลสมิธถูกเปิดโปงออกมา ที่นี่จะต้องโกลาหลวุ่นวายไปหมดแน่นอน หวังแค่ว่ามาเลน่าจะไม่ทำเรื่องอะไรที่บ้าคลั่งออกมาก็พอ
ถ้าเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้นมาจริงๆ ตัวเองก็อาจจะต้องอยู่ที่นี่จัดการเรื่องให้เสร็จจริงๆ
ได้แต่หวังว่าถึงตอนนั้นกำลังเสริมของเมือง Lจะมาเยอะๆหน่อย
ญาธิดาสงบจิตสงบใจ ผ่านไปไม่นานเธอก็มาถึงสถานที่จัดงานแต่งงานในครั้งนี้ตามคำแนะนำของคนรับใช้
ดูเหมือนว่าจะมีบทเรียนจากครั้งที่แล้ว ครั้งนี้มาเลน่าก็เลยจัดงานแต่งงานบนสนามหญ้าที่เปิดโล่ง ถ้ามีเรื่องผิดปกติอะไรเกิดขึ้น ก็จะได้สังเกตเห็นและจัดการควบคุมเอาไว้ทันที
ญาธิดาหาที่นั่งที่อยู่ข้างหลังนั่งลงไป ดึงปีกหมวกสีดำลงมาให้ต่ำลง ผ้าบางๆที่โปร่งแสงปิดบังใบหน้าส่วนหนึ่งของเธอเอาไว้ แต่กลับทำให้เธอมองเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบๆตัวได้อย่างชัดเจน
งานแต่งงานยังไม่ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ภวินท์กับมาเลน่าก็ยังไม่ได้ปรากฏตัวออกมา เหล่าบรรดาคุณหญิงคุณนายมีชื่อเสียงที่นั่งอยู่ข้างๆตัวเธอล้วนแต่รู้จักซึ่งกันและกัน บทสนทนาที่ออกจากปากก็ไม่พ้นเรื่องงานแต่งงานที่ทำให้คนรู้สึกประหลาดใจสุดๆงานนี้
ญาธิดาฟังอยู่สักพักก็รู้สึกว่าน่าเบื่อ หลับตาพักผ่อน
อีกทางด้านหนึ่ง ภายในห้องห้องหนึ่งของคฤหาสน์ตระกูลสมิท
โซ่เหล็กที่ล่ามภวินท์เอาไว้ถูกปลดออกมาแล้ว เขานั่งอยู่ตรงหน้ากระจก ปล่อยให้ช่างทำผมฉีดสเปรย์ที่หัว
ภวินท์ก้มหน้าลงมองข้อเท้าของตัวเอง ผิวสีเหลืองอ่อนเริ่มแดงแล้วเนื่องจากท่าทางที่ดิ้นไปมาของเขา มีบางจุดถึงขนาดที่ถูกขยี้จนหนังหลุดออกมาเป็นแผ่น
นี่ล้วนแต่เป็นร่องรอยบาดแผลที่เกิดจากการที่เขาลองพยายามที่จะสลัดกำไลข้อเท้าให้หลุดออกไป แต่ไม่ว่าจะดึงจะกระชากจนรุนแรงหรือว่าใช้ของมีคมทำลายขนาดไหนกำไลข้อเท้าก็ยังคงไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย ถึงขนาดที่ไม่สามารถทำให้ข้างบนเป็นรอยได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ตอนที่ยังสลัดกำไลข้อเท้าไม่หลุด ตัวเองก็จะผลีผลามทำอะไรโดยพลการไม่ได้
แต่ไม่รู้ว่าทางด้านของธิดาเป็นยังไงบ้าง……
ในเวลานี้ คนรับใช้คนหนึ่งก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชา ก่อนจะพูดแจ้งให้ทราบ“เจ้าบ่าว ออกไปได้แล้วค่ะ”
ภวินท์สูดหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆเดินออกไปยังสถานที่จัดงานแต่งงานช้าๆ
ตำแหน่งที่เขาอยู่ในตอนนี้ ไม่ได้อยู่ไกลจากสถานที่จัดงานแต่งงาน เวลาไม่ถึงสิบนาที ภวินท์ก็มาถึงสถานที่จัดงานแต่งงาน
มาเลน่าเพื่อป้องกันไม่ให้ภวินท์ฉวยโอกาสนี้เคลื่อนไหวลงมือทำอะไร ก็เลยจัดเตรียมลูกน้องสองคนมาคอยยืนประกบอยู่ข้างหลังของเขาโดยเฉพาะ
เสียงดนตรีดังขึ้นมา เหล่าบรรดาตระกูลชั้นสูงมีชื่อเสียงที่มาเข้าร่วมงานแต่งงานต่างก็หันมองไปยังทิศทางของเขา
ท่ามกลางสายตาเหล่านี้ มีทั้งสายตามองสำรวจ หยอกล้อ แล้วก็อยากรู้อยากเห็น แต่ในเวลานี้เอง จู่ๆภวินท์รู้สึกได้อย่างว่องไว ว่ามีสายตาที่คุ้นเคยอย่างถึงที่สุดกำลังมองมาที่เขา