ดวงใจภวินท์ - บทที่ 969 ถ้าไม่ได้ก็จะทำลายทิ้ง
ดวงใจภวินท์ บทที่ 969 ถ้าไม่ได้ก็จะทำลายทิ้ง
มาเลน่าถูกคนของทางตำรวจควบคุมตัวเอาไว้ ผมที่ยุ่งเหยิงกระจัดกระจายอยู่บนใบหน้าที่บิดเบี้ยวของเธอ มองใบหน้าของญาธิดา สองตาที่แดงก่ำของเธอก็มีความชั่วร้ายสว่างวาบขึ้นมา แต่มุมปากกลับคว่ำลงเล็กน้อย สีหน้าดูผิดปกติอย่างถึงที่สุด
“กุญแจ? มันไม่มีกุญแจอะไรนั่นอีกต่อไปแล้วในชีวิตนี้!”
พอได้ยินเธอพูดขนาดนี้ ญาธิดาก็กำนิ้วมือไว้แน่น แววตาเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย“หมายความว่ายังไง?”
มาเลน่าเงยหน้าขึ้น ยิ้มอย่างมุ่งร้าย“กุญแจถูกฉันทำลายไปแล้ว ไม่มีใครสามารถถอดสิ่งนั้นที่อยู่ที่ข้อเท้าของภวินท์ออกมาได้อีก”
กำไลข้อเท้านั้นเป็นสิ่งที่เธอซื้อมันมาด้วยกำลังที่มากมายมหาศาลของเธอ เธอมีกุญแจที่สามารถถอดกำไลข้อเท้าออกได้ แล้วก็สัญญากับภวินท์ไว้แล้วว่าขอแค่เขาสงบจิตสงบใจแต่งงานกับเธอ เธอก็จะถอดสิ่งที่อยู่ที่ข้อเท้าของเขาออกให้
แต่ว่า นั่นก็เป็นแค่คำพูดที่เอามาหลอกลวงภวินท์เท่านั้น
กว่าเธอจะได้เขามาอยู่ในกำมือมันไม่ใช่ง่ายๆ แล้วจะปล่อยให้เขาจากไปง่ายๆได้ยังไงกัน
กุญแจที่สามารถถอดกำไลข้อเท้าออกได้ ถูกเธอทำลายไปตั้งแต่แรกแล้ว
ตอนนี้ นอกซะจากว่าต้องทำให้มันระเบิดแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถถอดออกได้อีก
ญาธิดาใบหน้าซีดขาว ริมฝีปากสั่นเล็กน้อย คว้าแขนของมาเลน่าเอาไว้“เธอกำลังหลอกฉัน บอกฉันมา ว่ามีวิธีการไหนอีกที่สามารถถอดของสิ่งนี้ออกมาได้!”
พอคิดว่าภวินท์จะต้องเป็นอันตรายด้วยระเบิดลูกนั้นอยู่ตลอดเวลา ถึงขนาดที่อาจจะได้อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลสมิทตลอดไปแล้ว หัวใจของญาธิดาก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา
สีหน้าท่าทางแบบนี้ของญาธิดาทำให้มาเลน่ารู้สึกมีความสุขอยู่ภายในใจมากๆ เกิดความรู้สึกสุขสบายใจเหมือนกับได้แก้แค้นขึ้นมา“จะหลอกแกไปทำไม? ในเมื่อเขาไม่ยอมอยู่ด้วยกันกับฉัน ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะทำให้เขาทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต”
ภวินท์นิ่งเงียบไม่พูดอะไรต่อหน้าของเธอ แต่มาเลน่ากลับยังคงเห็นความหยิ่งทะนงที่ออกมาจากตัวของเขาอยู่ดี
ถูกขังอยู่ที่นี่ตลอดชีวิต หรือว่าสูญเสียขาไปหนึ่งข้าง ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ก็ทำให้อีกครึ่งชีวิตของภวินท์ตกอยู่ในความทุกข์ทรมานไปตลอดอยู่ดี
ในเมื่อเธอไม่ได้ภวินท์ ถ้าอย่างนั้นก็ทำลายคนคนนี้ทิ้งไปซะ!
พอคิดถึงตรงนี้ ภายในใจของมาเลน่าก็รู้สึกสุขสบายใจอย่างถึงที่สุด
มาเลน่าถูกควบคุมตัวขึ้นไปบนรถ ญาธิดายืนอยู่กับที่อย่างเหม่อลอย กัดริมฝีปากอย่างรุนแรง
ยืนอยู่สักพัก ญาธิดาก็หันตัว เห็นภวินท์ที่กำลังมองเธอด้วยสีหน้าลึกซึ้ง
เขาก้าวเดินมาข้างหน้าสองสามก้าว อยากที่จะเข้ามาอยู่ข้างกายของญาธิดา แต่ในตอนนี้เอง ระเบิดที่อยู่ที่ข้อเท้าก็ดังขึ้นมา
ถ้าเกิดเลยออกจากอาณาเขตของคฤหาสน์ตระกูลสมิท มันก็จะระเบิดทันที
ภวินท์ขมวดคิ้ว เก็บเท้าที่กำลังจะก้าวเดินออกไปกลับเข้ามา
ญาธิดามองภาพภาพนี้ ในใจรู้สึกเจ็บปวด เดินตรงไปยังทิศทางของเขา สบกับตาที่นิ่งลึกของเขา ญาธิดายกมุมปาก“วิน พวกเราจะต้องหาหนทางเจอแน่นอน……”
ภวินท์ไม่ได้พูดอะไร แค่เอาญาธิดาเข้ามากอดในอ้อมกอดเท่านั้น เสียงทุ้มต่ำ“ไม่เป็นไร ก็แค่ขาข้างเดียวเท่านั้น”
ญาธิดามุดเข้าไปในอ้อมกอดของภวินท์ พอได้ยินเขาพูดประโยคนี้ออกมาอย่างง่ายๆสบายๆ น้ำตาก็ไหลอาบใบหน้าที่ขาวสะอาดทันที
นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง
เธอไม่มีทางยอมให้ภวินท์สูญเสียขาข้างนี้ไปเด็ดขาด
ภวินท์เข้าใจญาธิดามากๆ รู้ว่าในตอนนี้เธอกำลังคิดอะไรอยู่
แต่ว่า ในตอนนี้เขาไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น ดวงตาสีดำยิ่งดูนิ่งลึกมากขึ้น
ขอแค่ครอบครัวของพวกเขาได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน แค่สูญเสียขาไปข้างเดียวมันถือเป็นเรื่องเล็กน้อยมากๆ
ญาธิดารู้สึกทุกข์ทรมานใจสุดๆ เงยหน้าขึ้นมาจากอ้อมกอดของภวินท์หันมองไปที่เขา ตอนที่กำลังจะเตรียมพูดอะไรนั้น ในเวลานี้อีธานกับเอลล่าก็เดินตรงเข้ามาพอดี
“แม่ ทำไมพวกเรายังไม่ไปกันอีก?”