ดวงใจภวินท์ - บทที่ 970 ฉันอยู่ที่นี่ตลอดไปได้
ดวงใจภวินท์ บทที่ 970 ฉันอยู่ที่นี่ตลอดไปได้
พอเห็นใบหน้าที่ไร้เดียงสาของเด็กทั้งสองคน ญาธิดาก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ แต่สุดท้ายก็บอกเรื่องที่ตัวของภวินท์ถูกติดตั้งระเบิดเอาไว้กับเด็กทั้งสองคน
พอได้ฟังแบบนี้ อีธานก็มองภวินท์อย่างนิ่งเงียบ สองพ่อลูกมองหน้ากันไม่พูดอะไร อีธานกำหมัดแน่น สีหน้าดูแย่อยู่ไม่น้อย
เขาคิดไม่ถึง ว่าทั้งที่แม่ผ่านประสบการณ์ความลำบากมาตั้งมากมาย แถมยังเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนในเมืองอีก ตอนนี้กำลังจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันกับพ่อ ในที่สุดครอบครัวของพวกเขาก็จะได้กลับไปอย่างมั่งคงปลอดภัยแล้วแท้ๆ
แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นแบบนี้ซะอย่างนั้น พ่อของตัวเองอาจจะถูกขังเอาไว้ในคฤหาสน์ตระกูลสมิทตลอดชีวิต
เอลล่าอดกลั้นอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้ไม่อยู่ กระโจนเข้ามาในอ้อมกอดของภวินท์ทันที เงยหน้าขึ้นมาทั้งน้ำตา“พ่อ ไม่มีหนทางอื่นแล้วจริงๆเหรอคะ?”
ภวินท์เม้มปาก มองสีหน้าที่เศร้าสร้อยของลูกสาวตัวเอง ในใจรู้สึกเสียใจไม่น้อย
เขาโอบเอลล่าไว้ในอ้อมกอดตบลงบนไหล่น้อยๆของเธอ ปลอบประโลมอย่างไม่ส่งเสียงออกมา
ผ่านไปสักพัก ภวินท์ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม“ไม่เป็นไร แค่ขาข้างเดียวเอง การรักษาในปัจจุบันนี้ก็พัฒนาไปมากแล้วด้วย”
ขอแค่ออกไปจากที่นี่ ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน เขาก็ยอมที่จะใส่ขาเทียม
อีธานใบหน้านิ่งขรึม ดึงขากางเกงของภวินท์ขึ้นมาอย่างไม่ยอมตัดใจ เผยให้เห็นถึงกำไลข้อเท้าที่อยู่ตรงข้อเท้า คิดหาวิธีต่างๆนานาเพื่อที่จะถอดระเบิดออกจากขา
แต่ระเบิดขนาดเล็กแบบใหม่ล่าสุดนี้ วัสดุแข็งแรงมากๆ ประกอบอย่างแน่นหนาไร้ซึ่งรอยต่อ แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย
พยายามอยู่นานสองนาน อีธานก็ไม่สามารถทิ้งร่องรอยอะไรไว้ข้างบนได้เลยแม้แต่นิดเดียว
“น่ารังเกียจที่สุด!ไม่มีหนทางอื่นเลยหรือไงกันนะ…..”
อีธานจ้องมองระเบิดที่ข้อเท้าของภวินท์ สีหน้าดูแย่สุดๆ
ญาธิดากอดอีธานเอาไว้ ยิ้มอย่างกล้ำกลืนฝืนทน“ไม่เป็นไร แม่อยู่ที่นี่ตลอดชีวิตได้……”
ซื้อคฤหาสน์มาซะ จากนั้นก็อยู่ด้วยกันกับภวินท์ที่นี่ตลอดไป
สำหรับญาธิดาแล้ว นี่ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องยากอะไร
แต่ว่าลูกทั้งสองคนต้องอยู่ที่เมือง J ถึงตอนนั้นครอบครัวก็อาจจะได้อยู่ด้วยกันน้อยลง
แต่ ขอแค่ภวินท์ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้มันก็เล็กน้อยมากๆ
แม้ว่าจะพูดโน้มน้าวตนเองขนาดนี้แล้ว แต่ในใจของญาธิดาเองก็ยังรู้สึกเศร้าเสียใจอยู่ดี เธอไม่คาดหวังว่าให้ภวินท์ต้องมาถูกขังอยู่ในสถานที่เล็กๆแบบนี้ไปตลอดชีวิต
คนในครอบครัวต่างก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ในขณะที่บรรยากาศกำลังนิ่งเงียบสุดๆนั้น อีธานที่คิ้วขมวดอยู่ตลอดเวลาจู่ๆก็เปิดปากพูดขึ้น“แม่ เมื่อตะกี้แม่บอกว่า ตราบใดที่พ่อไม่ได้ออกจากอาณาเขตของคฤหาสน์ตระกูลสมิทระเบิดก็จะไม่ทำงาน?”
ญาธิดาก้มลงมองเขา สองตาเป็นประกาย“ลูกมีวิธีถอดมันออกเหรอ?”
พอได้ฟังแบบนี้ เอลล่าก็เงยขึ้นมาจากในอ้อมกอดภวินท์ หันมองไปยังอีธาน จ้องมองเขาตาไม่กะพริบ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
ภายใต้สายตาที่จ้องมองของสองแม่ลูก อีธานก็คิ้วขมวดพยักหน้า“มันยังถอดไม่ได้หรอกครับ ในเมื่อเลยอาณาเขตแล้วมันจะระเบิด ถ้าอย่างนั้นข้างในจะต้องติดตั้งระบบGPSไว้อย่างแน่นอน ขอแค่แฮ็กเข้าไปในระบบระบุตำแหน่ง แล้วแก้ไขขอบเขตของอาณาเขต แม้ว่าจะถอดมันออกมาไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถรับประกันได้ว่าพ่อจะเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ”
เขาเพิ่งจะพยายามลองมาเมื่อตะกี้ ระเบิดนี้มันไม่สามารถถอดออกจากข้างนอกได้ แต่ขอแค่ภวินท์ได้เคลื่อนไหวอย่างอิสระ อย่างน้อยก็ช่วยจัดการแก้ไขปัญหานี้ไปได้ส่วนหนึ่ง
ส่วนเรื่องที่จะถอดระเบิดนี้ออกมาได้ยังไงนั้น มีแต่ต้องรอกลับไปที่เมือง Jก่อนแล้วค่อยมอบให้เป็นหน้าที่ของช่างทางเทคนิค
แต่แม้ว่าจะเป็นแบบนี้ ญาธิดาก็ถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก ในใจผ่อนคลายลงไปไม่น้อย
ไม่ว่าจะยังไง ก็ออกไปจากขุมนรกแห่งนี้ก่อนก็พอ
อีธานก็ไม่ได้ลังเล รีบขึ้นไปเอาคอมเตอร์ของตัวเองจากบนรถทันที ก่อนจะนั่งขัดสมาธิลงบนพื้นอย่างไม่สนใจว่าพื้นจะสกปรกแค่ไหน
เขาเปิดคอมพิวเตอร์ หลังจากที่ใส่รหัสแล้ว ก็สูดหายใจหนึ่งที สิบนิ้วเคาะลงไปบนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว