ดวงใจภวินท์ - บทที่462 เป็นเธอที่คิดไปเอง
“ไม่…ไม่หรอกครับ?”
เจอกับคำถามและข้อสงสัยของนิวรา คุณบิ๊กเหงื่อแตกพลั่กเต็มหน้าผาก
เขายังไม่ทันได้พูดอะไร ไม่คิดว่านิวราจะก้าวเข้ามาก่อน แล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า “คุณบิ๊ก เมื่อกี้ฉันเห็นคุณกับญาธิดาอยู่ด้วยกัน เธอพูดอะไรกับคุณบ้างเหรอคะ?”
คุณบิ๊กตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่มีอะไรหรอก แค่เรื่องงานน่ะ”
“งั้นเหรอ?” แววตาของนิวราประกายไปด้วยความเย็นชา สายตากวาดมองไปยังของในมือคุณบิ๊ก
เธอเชยคางขึ้นเล็กน้อย แล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “งั้นของในมือคืออะไรคะ?”
คุณบิ๊กสูดหายใจเข้า แล้วเอาของซ่อนไว้ด้านหลัง “ไม่มีอะไร”
ยิ่งเขาทำแบบนี้ ก็ยิ่งกระตุ้นต่อมความอยากรู้อยากเห็นของนิวรา นิวราเดินเข้าไปยื่นมือไปแย่งของในมือเขา
คุณบิ๊กรีบหลบอย่างรวดเร็ว ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “คุณนิว ขอโทษด้วยนะ นี่เป็นเอกสารเกี่ยวกับงาน เผยแพร่ออกไปไม่ได้”
ทันใดนั้น สีหน้าของนิวราก็บึ้งตึงลงทันที “เผยแพร่? อะไรคือเผยแพร่กัน หรือว่าคุณไม่รู้ความสัมพันธ์ของฉันกับภวินท์เหรอ?”
เห็นคนอื่นปกป้องญาธิดา เธอก็ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ ในใจรู้สึกโกรธมาก เธอยื่นมือเข้าไปแย่งอีกครั้ง
คุณบิ๊กรีบหลบ แต่มือก็ยังไปโดนอยู่ดี กล่องกำมะหยี่สีดำร่วงตกจากมือเขา แล้วหล่นลงพื้น
รอเขารู้ตัว นิวราก็ก้มลงเก็บกล่องขึ้นมาแล้ว
นิวราถือกล่องไว้ กระตุกยิ้มมุมปากอย่างได้ใจ
เธอจะดูสิว่าด้านในมีอะไรกันแน่!
วินาทีต่อ เธอเปิดกล่องออก ในตอนที่เห็นสร้อยบลูแซฟไฟร์อยู่ด้านในก็ชะงักไปทันที
ร่างกายเธอแข็งทื่อ ความเย็นเฉียบวูบวาบไปทั่วแผ่นหลัง ทำไม……ทำไมถึงเป็นสร้อยคอเส้นนี้!
คุณบิ๊กที่อยู่ข้างๆไม่รู้ เห็นเธอมีท่าทีแบบนี้ก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “คุณนิว นี่เป็นของของคนอื่น……”
วินาทีต่อมา นิวราเงยหน้าที่ซีดเซียวขึ้น มองค้อนเขาแล้วถามว่า “ญาธิดาเอาของนี่ให้คุณ แล้วพูดอะไรอีก!”
เหมือนไม่คิดว่านิวราจะมีปฏิกิริยาขนาดนี้ คุณบิ๊กชะงักสักพัก อ้าปากอย่างลังเล แต่กลับไม่ได้พูดอะไร
นิวรารู้สึกโมโหจัด เธอมองค้อนคุณบิ๊กแล้วถามอีกครั้งว่า “บอกฉันมานะ เธอบอกอะไรกับคุณกันแน่!”
“เธอ…ให้ผมเอาของสิ่งนี้ส่งต่อให้คุณภวินท์”
ได้ยินคำนี้แล้ว นิวราก็รู้สึกเหมือนในสมองมีเสียงดัง ‘ปัง’ เหมือนมีของอะไรมาระเบิดข้างหูเธอ
สร้อยเส้นนี้ เธอรู้จัก เป็นผลงานของนักออกแบบเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทั้งโลกมีเพียงเส้นเดียว ใช่ว่ามีเงินแล้วจะหาซื้อได้
ตอนนั้นเธอเคยเห็นรูปและกระดาษออกแบบของสร้อยเส้นนี้ในห้องของภวินท์ ก็รู้ว่าภวินท์จองสร้อยเส้นนี้ไว้แล้ว ตอนนั้น เธอดีใจอย่างมาก คิดว่าภวินท์เตรียมไว้เป็นของที่ระลึกครบรอบแต่งงานสามปีของเธอ ไม่คิดว่า ตอนนี้เธอกลับเห็นสร้อยเส้นนี้ในมือญาธิดาแทน
งั้นก็หมายความว่า ภวินท์ไม่ได้เตรียมสร้อยเส้นนี้ไว้ให้เธอ แต่เขาเอาสร้อยเส้นนี้ให้ญาธิดา!
พอเข้าใจเรื่องราวความเป็นมาแล้ว ความรู้สึกโมโหที่ข่มเอาไว้ไม่อยู่พลุ่งพล่านขึ้นมา เธอกำกล่องกำมะหยี่สีดำไว้แน่น อยากจะบีบสร้อยเส้นนี้ให้แหลกสลายคามือ
“คุณนิว สร้อยเส้นนี้……”
คุณบิ๊กที่อยู่ข้างๆทนดูต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ก็พูดเตือนขึ้นมา
นิวราได้สติ เธอกัดฟันกรอด มองดูสร้อยในมือ ในที่สุดก็ปิดฝาลง ข่มอารมณ์โกรธไว้แล้วโยนคืนให้คุณบิ๊ก “คุณบิ๊ก เรื่องที่ฉันเคยเห็นสร้อยเส้นนี้แล้ว อย่าไปบอกใครนะ ไม่งั้นรับผิดชอบกับผลที่ตามมาด้วยล่ะ”
พอพูดข่มเส้นแล้ว เธอก็กลับหลังหันรีบเดินออกไปทันที
คุณบิ๊กอึ้ง สุดท้ายก็เก็บของให้ดีแล้วกลับหลังหันเดินออกไป
เขาดูออกตั้งนานแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างภวินท์ ญาธิดาและนิวราสามคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่
เขาแค่จัดการเรื่องที่ญาธิดาฝากให้เขาทำให้ดีก็พอ เรื่องอื่นอย่าไปสนใจเลย
ข้างถนน นิวราเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง โกรธจนสมองแทนระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ
ทำไมเธอถึงนึกไม่ได้นะ ภวินท์เอาสร้อยเส้นนั้นให้ญาธิดา ก่อนหน้านี้เธอคิดว่า ไม่ว่ายังไง ภวินท์ก็คงไม่กล้าทำแบบเปิดเผยขนาดนั้น แต่ตอนนี้ เขากลับไม่มีความคิดที่จะปกปิดเลยด้วยซ้ำ!
เสียแรงที่เธอแชร์เรื่องที่ว่าภวินท์เตรียมสร้อยคอให้เธอกับพวกเพื่อนๆอย่างดีใจ แต่สุดท้ายกลับเป็นเธอที่คิดไปเอง ถ้าคนอื่นรู้ความจริงเข้า เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่ยอมให้ญาธิดาขี่หัวเธอหรอกนะ!
“ให้ตายสิ!”
นิวราโกรธจนคว้ากระเป๋าขึ้นมาแล้วโยนไปข้างๆ
ชยินที่นั่งอยู่ข้างหน้าได้ยินก็เงยหน้าขึ้นช้าๆ มองนิวราจากกระจกมองหลัง แล้วถามขึ้นว่า “คุณหนูเป็นอะไรไปครับ?”
นิวราโกรธจนกัดฟันกรอด นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไง เรื่องแบบนี้พูดออกไปแล้วเหมือนตบหน้าตัวเองเลย!
“ชยิน นายช่วยฉันคิดหน่อยสิ! จะจัดการเสี้ยนหนามอย่างญาธิดายังไง!”
แค้นครั้งก่อนตอนอยู่ต่อหน้าคิรินแล้วถูกญาธิดากดหัวไว้ยังไม่ได้ชำระเลย ตอนนี้มาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก เธอทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วนะ!
เทียบกันแล้ว ชยินใจเย็นกว่ามาก เขาขับรถอย่างใจเย็นแล้วพูดเสียงเบาว่า “ผมบอกคุณหนูแล้ว อยากจัดการญาธิดา พวกเราต้องทำช้าๆ รีบไม่ได้”
นิวรากัดฟันกรอด “ฉันรอไม่ไหวแล้ว!”
ชยินพูดขึ้นอย่างเชื่องช้าว่า “เรื่องเล็กน้อยไม่อดทน ก็จะทำให้เสียการใหญ่ คุณหนูลองคิดดูดีๆนะครับ ตอนนี้คุณใจร้อนเกินไป”
ฟังที่เขาพูดอย่างจริงจัง นิวราไม่เพียงแต่ไม่หายโกรธ แต่กลับโกรธมากขึ้นกว่าเดิม
ถ้าไม่ใช่ชยินที่คอยห้าม เรื่องคิรินครั้งก่อนเธอคงแก้แค้นญาธิดาไปนานแล้ว ตอนนี้เธอทนไม่ไหวแล้ว ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ! ถ้าไม่ได้แก้แค้น เธอคงนอนไม่ได้ กินไม่ลง!
ในเมื่อชยินลังเลไม่ลงมือสักที งั้นเธอจะลงมือเอง!
เธอไม่เชื่อว่า ญาธิดาเป็นคนมีเลือดมีเนื้อ จะแข็งแกร่งจนแทงไม่เข้าเลยหรือไง!
ยิ่งไปกว่านั้น ญาธิดายังมีเด็กอีกสองคนอีก ถ้าเธอปล่อยไว้แบบนี้ต่อไป สักวัน เธอจะต้องถูกตระกูลสถิรานนท์ไล่ออกมาแน่!
ไม่ได้ เธอจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด!
นิวราคิดแล้วก็กัดฟัน มองข้างหน้าแล้วสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ชยิน จอด ฉันจะลงรถ”
“คุณหนูจะไปห้างไม่ใช่เหรอครับ?”
เธอพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันจะไปทำธุระละแวกนี้สักหน่อย นายจอดรถเถอะ”
ชยินลังเลสักพัก สุดท้ายก็จอดรถไว้ข้างถนน
ลงจากรถ นิวรารีบเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันหลังกลับไปมองอีก
ก่อนหน้านี้เธอรู้สึกว่าชยินเป็นลูกน้องที่มีเก่งมากของเธอ ใช้งานแล้วรู้สึกสบายใจ แต่ตอนนี้ เขานอกจากจะเกลี้ยกล่อมให้เธออดทนแล้ว ก็ไม่ยอมทำอะไรอย่างอื่นเลย!
ไม่เป็นไร เธอลงมือเองก็ได้!
ถ้ายังจัดการญาธิดาเสี้ยนหนามที่ตำใจไม่ได้ เธอก็คงไม่มีวันสบายใจได้อีก!
ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดคือ เธอต้องไปSTN Group ดูสถานการณ์ตอนนี้ของภวินท์!
ช่วงนี้STN Groupเกิดเรื่องขึ้นตลอด ภวินท์ก็ยุ่งจนไม่มีเวลาว่างเลย ถ้าเธอใช้โอกาสตอนนี้ลงมือกับญาธิดา เกรงว่าภวินท์คงไม่มีโอกาสสนใจเรื่องทางนี้!
เรียบเรียงความคิดในใจได้แล้ว นัยน์ตาของนิวราก็ประกายไปด้วยความเย็นชา เดินวนหนึ่งรอบ ก็เดินไปข้างถนนใหม่ โบกรถแท็กซี่ แล้วมุ่งหน้าไปยังSTN Groupทันที
ไม่นาน เธอก็มาถึงสำนักงานCEO นิวราเดินมาถึงหน้าประตูก็ถูกคนขวางทางไว้
“คุณภวินท์ประชุมอยู่ค่ะ รบกวนไปรอที่ห้องรับแขกก่อนนะคะ”
ถูกเลขาขวางทางไว้ นิวรารู้สึกไม่พอใจ ขมวดคิ้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เธอลืมตาดูว่าฉันเป็นใคร? ยังกล้ามาขวางทางฉันอีก!”