ดวงใจภวินท์ - บทที่521 นิวราเสียสติไปแล้ว
บทที่521 นิวราเสียสติไปแล้ว
เธอพึ่งจะพูดจบ นิวราก็เบิกตาโพลงใส่เธอ แล้วก็มองเธอด้วยความประหลาดใจ ไม่นาน ใบหน้าที่ตกตะลึงของเธอก็เปลี่ยนไปกลายเป็นความโกรธเข้ามาแทนที่ “ญาธิดา ทั้งๆ ที่แกก็รู้ทุกอย่างรู้แล้ว แต่กลับมาหลอกให้ฉันพูดอย่างนั้นเหรอ!”
เธอได้ส่งคนไปที่สอดแนมที่คุณย่าจริง เดิมทีเอาไว้ใช้ประโยชน์เรื่องอื่น แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีประโยชน์ในเรื่องนี้ด้วย ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่รู้เรื่องเยอะขนาดนี้หรอก
นิวรายิ่งคิดยิ่งโกรธ ความโกรธท่วมท้นอยู่เต็มอกไปหมด เธอจ้องไปที่ญาธิดา และถามอย่างดุร้ายว่า “เธอจะฟ้องฉันใช่ไหม? ”
ญาธิดายังไม่ทันจะได้ตอบอะไร ก็เห็นนิวราพุ่งเข้ามาใกล้เธออย่างโกรธเคือง แล้วก็ยื่นมือทั้งสองข้างออกมาบีบคอของเธอเอาไว้
การกระทำของนิวรานั้นมันกะทันหันมาก เธอไม่ทันได้เตรียมป้องกันตัวเลย ก็ถูกเธอบีบคอแล้วดันไปด้านหลัง พื้นตรงภูเขาจำลองนั้นไม่ค่อยราบเรียบเท่าไหร่นัก เธอเดินเซถอยหลังไปสองสามก้าว เกือบจะล้มลง
ทันใดนั้น หัวของเธอก็กระแทกเข้ากับก้อนหินดัง “ตึก” เธอถูกนิวราผลักให้ถอยไปจนสุดทาง ตัวแนบอยู่บนโขดหินของภูเขาจำลอง ไม่เหลือทางให้ถอยได้อีกแล้ว
นิวรากัดฟันแน่น และพูดอย่างเกลียดแค้นว่า “ญาธิดา!เพราะแกคนเดียว!ที่ฉันต้องกลายมาเป็นแบบนี้ ก็เพราะว่าแกคนเดียว! แถมตอนนี้แกก็ยังคิดจะทำร้ายฉัน จะไปฟ้องฉันกับคุณย่า ฉันไม่มีวันปล่อยให้แกประสบความสำเร็จหรอกนะ!ไปตายซะเถอะ ญาธิดา ยังไงแกก็สมควรตายตั้งนานแล้ว!”
ดวงตาทั้งสองข้างของเธอนั้นแดงก่ำ ตอนนี้เธอถูกครอบงำด้วยความโกรธ ไม่มีสติอีกต่อไป มือทั้งสองข้างของเธอติดแน่นอยู่ตรงคอของญาธิดา แล้วก็ผลักเธอถอยไปด้านหลังอย่างรุนแรง
ญาธิดารู้สึกเหมือนมีเชือกป่านมัดแน่นอยู่ที่คอของตัวเอง ทำให้เธอหายใจไม่ออก จะร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่ได้ เธอยื่นมือออกไป พยายามจะดึงมือทั้งสองข้างของนิวราออก แต่ใครจะไปรู้ว่าเธอแรงเยอะขนาดนี้ บวกกับการที่เธอได้เปรียบด้านตำแหน่งที่ยืนด้วย ทำให้เธอไม่สามารถเป็นคู่แข่งของเธอได้เลย
เธอส่งเสียงออกมาอย่างเหนื่อยล้า “นิวรา ปล่อย……”
ไม่ค่อยมีคนอยู่แถวภูเขาจำลองเท่าไหร่นัก
ปกติแล้วคนไม่ค่อยมาตรงนี้กัน บวกกับตอนนี้พวกเธอทั้งสองคนหลบอยู่ด้านหลังภูเขาจำลอง ผู้คนที่เดินผ่านสวนเล็กๆ นี้จะไม่ทันสังเกตถึงจุดนี้เลย แล้วอีกอย่าง คอของญาธิดาตอนนี้นั้นถูกรัดแน่น
ทำให้เธอไม่สามารถส่งเสียงดังได้เลย และก็ไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ด้วย
ใบหน้าของนิวราดูดุร้ายมาก ถลึงตา ให้ตายยังไงก็ไม่ยอมปล่อยมือเด็ดขาด
“ญาธิดา
แกสมควรตายตั้งนานแล้ว!แล้วก็ลูกนอกคอกทั้งสองคนของแกด้วย ครั้งก่อนถ้าเกิดว่าไม่ได้ยัยชั้นต่ำอย่างอัญมณีปกป้องเอาไว้ คนที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงก็คือพวกมันทั้งสองคนนั่นแหละ!”
ประโยคนี้เหมือนกับฟ้าผ่า ผ่าเข้ามาที่หูของญาธิดา
ก่อนหน้านี้เธอพยายามทุกวิถีทางเพื่อหาหลักถาม เพื่อพิสูจน์ว่าผู้กระทำผิดในตอนนั้นก็คือนิวรา
แต่ว่ามันก็ยากลำบากมาก ไม่คิดเลยว่าในสถานการณ์แบบนี้ เธอกลับจะยอมรับออกมาเอง!
ที่แท้ก็เป็นเธอนั่นเอง เธอเป็นคนทำทุกอย่าง!
แต่ว่าตอนนี้
คอของญาธิดานั้นถูกนิวราบีบเอาไว้แน่น หายใจลำบากขึ้นเรื่อยๆ สีของใบหน้าเธอก็เปลี่ยนจากสีแดงกลายเป็นเขียว
มือทั้งสองข้างก็เริ่มหมดเรี่ยวแรงลงไปเรื่อยๆ
ตอนนี้เธอก็เหมือนกับปลาที่กำลังเผชิญหน้ากับความตาย
พยายามอ้าปากเพื่อสูดลมหายใจเข้าไป แต่ว่าสติของเธอก็เริ่มเลือนหายไป แขนขาก็เริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ
หรือว่า เธอจะล้มลงในมือของนิวราอย่างนั้นเหรอ?
ตอนที่สติของญาธิดาเริ่มอ่อนตัวลงเรื่อยๆ ทันใดนั้น
ก็มีเงาหนึ่งแวบมาตรงข้างเธอ และหลังจากนั้น เธอก็เห็นชายคนหนึ่งอยู่ด้านหลังของนิวรา
เขายกมือขึ้นมา และใช้มือสับไปที่หลังคอของนิวรา!
ทันใดนั้น นิวราก็ตาเหลือก ร่างกายอ่อนลง พร้อมกับปล่อยเธอและล้มลงไป
ในที่สุดสิ่งที่บีบคอเธออยู่นั้นก็หลุดออก ญาธิดาก็ขาอ่อนตามไปเหมือนกัน เธอพิงไปตรงก้อนหินที่ภูเขาจำลอง
พยายามหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่ เอามือทั้งสองข้างกุมคอของตัวเองเอาไว้ ความเจ็บปวดแผ่กระจายไปทั่วคอของเธอ
เธอมองไปที่นิวราที่หมดสติอยู่ที่พื้น หลังจากนั้นก็มองไปที่ผู้ชายที่ทำให้นิวราหมดสติไป
สีหน้าของเขาปกติมาก โค้งคำนับให้กับเธอ แต่ว่าไม่ได้พูดอะไรเลย
แล้วก็เดินจากไป
ญาธิดาตะลึงไป
แล้วก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นคุ้นตาอย่างแปลกประหลาด แต่ว่าเธอยังไม่ทันจะจำได้ คนคนนั้นก็เดินไปไกลแล้ว
เหลือให้เธอเห็นเพียงแค่แผ่นหลังของเขาเท่านั้น
เธอหอบอย่างหนัก เจ็บคอจนไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ในทันที เธอรีบก้าวขาเพื่อตามคนคนนั้นไป
แต่ว่าเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นก็มีภาพหนึ่งปรากฏขึ้นมาในหัวของญาธิดา ใบหน้าของผู้ชายคนนั้นตรงกับคนที่ความทรงจำของเธอ
มีครั้งหนึ่งที่เธอเห็นเขาเดินตามภวินท์ เหมือนกับว่าเป็นลูกน้องของเขา
ญาธิดาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที เธอรีบเร่งฝีก้าวเดินตามไป ถ้าเกิดว่าผู้ชายคนนั้นคือลูกน้องของภวินท์จริงๆ แสดงว่ามีความเป็นไปได้ว่าเขาจะรู้ว่าตอนนี้ภวินท์อยู่ที่ไหน
ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอ แต่ว่าเธอก็ไม่สามารถปล่อยโอกาสที่อยู่ตรงหน้าของตัวเองไปได้อย่างง่ายดายหรอก
เธอเดินตามผู้ชายคนนั้นมาเรื่อยๆ
จนออกมาจากหน้าประตูของโรงพยาบาล หลังจากเดินไปตามทางเท้าอยู่พักหนึ่ง คอของญาธิดาก็เริ่มฟื้นตัวกลับมาเล็กน้อย เธอพยายามส่งเสียงออกมา
“รอก่อน…เดี๋ยว!”
เหมือนกับว่าผู้ชายคนนั้นรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอตามมา
พอได้ยินเสียงเธอ เขาก็หันหลังกลับมา
สีหน้าไม่ได้ดูแปลกใจเลยแม้แต่นิดเดียว ได้แต่จับจ้องมาที่เธอโดยไม่ขยับเลย
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ
คอของเธอก็รู้สึกเจ็บไปด้วย เธอกลืนน้ำลาย แล้วก็ถามออกมาด้วยความรีบร้อน “คุณคือคนของภวินท์เหรอ?
”
ผู้ชายคนนั้นกวาดสายตามองไปรอบๆ พอเห็นว่าไม่มีใครอยู่ด้านข้าง ถึงได้พยักหน้าช้าๆ
ญาธิดารู้สึกดีใจขึ้นมาในทันที
เหมือนกับว่าสามารถคว้าฟางที่ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ เธอรีบลดเสียงลงและถามต่อว่า
“คุณรู้ไหมว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน? ”
พอประโยคนี้ดังขึ้น ความเศร้าก็ปรากฏขึ้นในสายตาของเขา เขาส่ายหน้าช้าๆ และหลุบตาลง
พอเห็นดังนี้ ญาธิดาก็รู้สึกผิดหวังอย่าประหลาด เธอหยุดไปครู่หนึ่ง
และก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ พร้อมกับถามต่อว่า “เมื่อกี้ขอบคุณคุณมากนะคะ
แต่ว่าทำไมคุณถึงมาช่วยฉันล่ะ? ”
ถ้าบอกว่ามันเป็นความบังเอิญ
เธอจะไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน เธอกับนิวราอยู่ด้านหลังภูเขาจำลอง สถานที่ลับตาคนแบบนั้น ไม่มีทางถูกพบเห็นอย่างแน่นอน
แล้วทำไมเขาถึงตามมาช่วยเธอได้ล่ะ?
ผู้ชายคนนั้นเงียบไปหลายวินาที
หลังจากนั้นก็พูดว่า “คุณภวินท์ได้สั่งไว้ให้ผมคอยแอบปกป้องคุณ ก่อนหน้านี้คุณไปต่างประเทศ ผมก็เลยไม่สามารถตามไปปกป้องคุณได้ เลยได้แต่อยู่ที่นี่มาโดยตลอด สองวันก่อนถึงจะได้ข่าวว่าคุณกลับมาแล้ว ก็เลยคอยติดตามคุณ
แอบปกป้องคุณ”
พอได้ยินดังนั้น
ญาธิดาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ทันใดนั้นก็รู้สึกอบอุ่นหัวในขึ้นมา ไม่คิดเลยว่า
ภวินท์จะส่งคนมาคอยปกป้องเธอ
แต่ว่าตอนนี้ เขาอยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครรู้……
ญาธิดารู้สึกปวดใจอย่างแปลกประหลาด เธอเงยหน้าขึ้นมามองผู้ชายคนนั้น สูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดว่า “ตอนนี้ภวินท์อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ หลายวันนี้ฉันก็พยายามหาเบาะแสอยู่ แต่ว่าก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย”
ผู้ชายคนนั้นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็เอ่ยปากถามออกมาว่า “ผมสามารถตามหากับคุณได้ไหมครับ? ”
ญาธิดาเงยหน้าขึ้นมามองไปที่เขา ผู้ชายคนนี้ยังดูอายุน้อยอยู่ ดูท่าทางเหมือนจะเด็กกว่าเธอสองสามปี เขาผิวแทนและดูเป็นคนไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ดูจากหน้าก็พอมองออกว่าเขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์และภักดี
เธอเอ่ยปากถาม “คุณชื่ออะไร? ”
“คุณภวินท์เรียกผมว่าพยัคฆ์”
ญาธิดาพยักหน้าช้าๆ และตอบตกลง “โอเค ถ้ายังงั้นพยัคฆ์นายก็มาอยู่กับฉันเถอะ มาตามหาภวินท์ด้วยกัน”
ตอนนี้เธอกำลังขาดคนอยู่พอดี แล้วอีกอย่างพยัคฆ์ก็เป็นคนของภวินท์ เขาน่าจะรู้อะไรหลายๆ อย่างมากกว่าเธอ และน่าจะสามารถช่วยเหลือด้านการสืบสวนได้มาก แล้วอีกอย่างเรื่องนี้มันไม่ได้ง่ายเหมือนที่พวกเขาคิด ระหว่างทางอาจจะพบเจออันตรายบ้าง การที่มีเขาอยู่ เธอก็คงจะพอสบายใจได้บ้าง
ในที่สุดสีหน้าของพยัคฆ์ก็เริ่มเปลี่ยน เขาพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “ได้ครับ คุณญาธิดา ต่อจากนี้ไปผมจะติดตามคุณ!”