ดวงใจภวินท์ - บทที่616 หาเรื่องเธอหรือไง
บทที่616 หาเรื่องเธอหรือไง?
ญาธิดาตามอัญมณีเข้าไปบนชั้นของเครื่องประดับ ทั้งชั้นเต็มไปด้วยเครื่องประดับแบรนด์เนมมากมาย มีทั้งแบรนด์จากต่างประเทศ ใช้แบรนด์ที่มีชื่อเสียงมานาน นำมาแข่งขันกัน จนทำเอาคนตาลายไปหมด
อัญมณีลากเธอเข้าไปในร้านแบรนด์เนมร้านหนึ่ง ชี้ไปยังเครื่องประดับในตู้กระจกที่เด่นที่สุดในร้าน “ธิดาดูสิ อันนี้สวยไหม!”
ญาธิดายิ้มแล้วพยักหน้า “สวยสิ”
“อันนี้ละ?”
“สวย”
“อันนี้แต่ก็อันนี้ล่ะ ประณีตกว่านิดหน่อย เป็นไง?”
“ก็สวยเหมือนกัน”
กวาดตามองไปรอบๆ ทุกที่ที่มองไปต่างก็ประกายแสงวิบวับแสบตา สว่างไสวจนทำให้คนที่เห็นแล้วไม่อาจละสายตาได้ เครื่องประดับแต่งละชิ้นสวยมากจริงๆ แต่ญาธิดากลับรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง
อัญมณีมองดูรอบๆ ใบหน้าย่นขมวดขึ้นมา “รู้สึกว่าสวยหมดเลย แต่ถ้าจะซื้อจริงๆ ฉันก็ไม่ได้อยากได้ขนาดนั้น”
ญาธิดาสูดหายใจเข้า ลังเลสักพัก แล้วพูดเสียงเบาว่า “เพราะถึงแม้พวกนี้จะสวยมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีความแตกต่างกันเลย เหมือนๆกันไปหมด ไม่มีลักษณะเด่นอะไร”
ได้ยินดังนั้น อัญมณีก็พยักหน้าเบาๆ “เธอพูดถูก”
ว่าแล้ว เธอเงยหน้ามองไปยังพนักงาน แล้วถามว่า “ที่นี่ไม่มีสินค้าที่ดีกว่านี้แล้วเหรอคะ?”
พนักงานดวงตาเปล่งประกายขึ้นมา รีบพยักหน้าแล้วพูดว่า “มีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าต้องการดูไหมคะ?”
อัญมณีพยักหน้าอย่างไม่ลังเล “ดูค่ะ”
“ได้เลยค่ะ เชิญคุณลูกค้าตามดิฉันมาเลยนะคะ ไปรอที่ห้องรับแขกก่อน”
ว่าแล้ว พนักงานก็เดินไปข้างหน้า นำทางพวกเขาขึ้นไปชั้นสอง
เมื่อพวกเธอมาถึงชั้นสอง การตกแต่งหน้าร้านที่พวกเขามองเห็นก็ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับพื้นที่จัดแสดงที่ชั้นหนึ่ง ด้านนี้สว่างและกว้างขวางกว่ามาก มีชั้นวางสูงต่างกันและมีสินค้าวางอยู่บนนั้น บางอันก็เป็นรุ่นลิมิเต็ด
เห็นได้ชัดว่า ชั้นสองหรูหรากว่าชั้นหนึ่งเยอะมาก
“ธิดา เธอดูทับทิมนั่นสิ!”
อัญมณีเชิดคางขึ้น ให้ญาธิดามองไปยังสินค้าที่จัดอยู่ตรงนั้นสิ ญาธิดาได้ยินแล้วก็หันหน้าไปมอง พยักหน้าอย่างไม่รู้ตัวแล้วพูดเสียงเบาว่า “สินค้าของที่ดีขึ้นกว่าชั้นหนึ่งเยอะเลยนะ”
อัญมณีพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
พนักงานเดินมาตรงหน้าพวกเธอ แนะนำสินค้าบนชั้นวางที่อยู่ตรงหน้าให้พวกเธอทีละชิ้น “คุณลูกค้าคะ เชิญดูทางนี้ค่ะ เครื่องประดับพวกนี้เป็นแบรนด์เฉพาะของทางร้านเรา เป็นรุ่นลิมิเต็ดทั้งหมดเลยค่ะ คุณลูกค้าสามารถดูก่อนได้เลยค่ะว่าชอบชิ้นไหนพวกนี้ไม่มีสินค้าจริงมีแต่รูปภาพ ถ้าหากชอบชิ้นไหนทางร้านค่อยเอาสินค้ามาให้ค่ะ”
พนักงานแนะนำให้พวกเธอ ญาธิดาเดินตามหลังช้าๆ ทันใดนั้น สายตาของเธอก็ชะงักค้างอยู่กับที่ สายตาของเธอหยุดอยู่ตรงชุดเครื่องประดับแซฟไฟร์ สร้อยกับต่างหูเป็นเซตเดียวกัน ไม่แพงมาก แต่ก็ประณีตและสวยมาก ใส่ที่คอแล้ว เหมาะกับเสื้อผ้าแบบเปิดไหล่มากกว่า และวันนี้เธอก็ไปลองชุดแต่งงานเปิดไหล่พอดี เหมาะสมกันมาก……
สังเกตเห็นสายตาของเธอ อัญมณีก็รีบหยุดเดินแล้วหันหน้าไปมองเธอ พูดเสียงเบาว่า “ธิดา สร้อยที่เธอดูสวยมากเลย เหมาะกับเธอมากด้วย”
ญาธิดาพยักหน้าเบาๆ ไม่ได้พูดอะไร
แซฟไฟร์เซตนี้ ทำให้เธอนึกถึงแซฟไฟร์ที่ภวินท์เคยให้เธอก่อนหน้านี้โดยไม่รู้ตัว ต่อมาเธอก็ไม่ได้เก็บไว้ แต่ตอนนี้ยังจำได้อยู่อีกดูแบบนี้แล้ว เหมือนจะมีความเหมือนกับสร้อยเส้นนี้เลย
อัญมณีเห็นความประทับใจจากแววตาของเธอ ก็รีบเรียกพนักงานแล้วพูดว่า “เอาเซตนี้ออกมาได้ไหม พวกเราอยากดูใกล้ๆหน่อย”
พนักงานตอบตกลง ไม่นานก็เอากุญแจสีเงินออกมาเปิดตู้กระจก ไม่มีกระจก พื้นผิวที่โค้งมนของสร้อยคอเพชรประกายพร่างพรายยิ่งขึ้น ซึ่งสะท้อนแสงที่แตกต่างกันภายใต้แสงไฟที่สาดส่องลงมา
ญาธิดามองดูสร้อยคอเส้นนี้ เธอก็ถูกดึงดูดจนไม่อาจละสายตาออกไปได้
สักพักใหญ่ เธอก็ขยับริมฝีปากแล้วพูดว่า “ราคานี้……”
พนักงานบอกราคาเสียงเบา
ญาธิดาได้ยินแล้วก็อึ้งไปทันที ไม่คิดว่า ราคาของแซฟไฟร์เซตนี้จะแพงขนาดนี้
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ละสายตาไปทางอื่นแล้วพูดขึ้นช้าๆว่า “ราคาแพงไปนะ……”
ว่าแล้ว เธอก็ลาดอัญมณีไปข้างๆ “พวกเราไปดูอย่างอื่นกันเถอะ”
อัญมณีถามอย่างไม่เข้าใจว่า “ฉันว่าที่นี่ดีออก มีอะไรไม่เหมาะสมเหรอ?”
ญาธิดาลังเลสักพัก แล้วพูดเสียงเบาว่า “ราคามันค่อนข้าง……”
ได้ยินดังนั้น อัญมณีก็ “ฮ่าๆ” หัวเราะออกมาเสียงดัง “มีบัตรของพี่ทัตอยู่ เธอจะกังวลราคาทำไมกัน? พี่ทัตให้บัตรดำมาเชียวนะ! มีเงินพอให้รูดแน่นอน!”
ญาธิดาพูดขึ้นช้าๆว่า “ฉันแค่รู้สึกว่ามันสิ้นเปลืองไปน่ะ”
ถึงเธอกับธีทัตจะแต่งงานกันแล้ว แต่เธอก็ไม่อยากใช้เงินของเขามากมายขนาดนี้
อัญมณีได้ยินก็รีบพูดเกลี้ยกล่อมว่า “สิ้นเปลืองอะไรกัน เธอซื้อเพื่อไปสวมตอนงานแต่ง! เหมาะสมแน่นอน!”
พนักงานที่อยู่ข้างๆได้ยินแล้วก็รีบเดินขึ้นไปข้างหน้า แนะนำลักษณะพิเศษของสร้อยคอเซตนี้ให้กับเธอ
ญาธิดาเริ่มรู้สึกหวั่นไหว เธอกัดฟัน นึกได้ว่างานแต่งมีครั้งเดียวในชีวิต ในใจก็เริ่มมีคำตอบขึ้นมา
แต่ในตอนนี้เอง ข้างๆก็มีเสียงแหลมของหญิงสาวดังขึ้น “รบกวนช่วยฉันห่อแซฟไฟร์เซตนั้นด้วยค่ะ ฉันขอซื้อค่ะ”
คำพูดที่ไม่ทันตั้งตัว ทำเอาญาธิดากับอัญมณีตกตะลึงมาก พวกเธอหันไปมองพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ญาธิดาเห็นรูปร่างเพรียวบางที่คุ้นเคย
หญิงสาวสวมแว่นสีดำไว้ รูปร่างสูงเพรียวบาง ใบหน้าสวย ที่สำคัญคือ เมื่อไม่นานมานี้ญาธิดาเพิ่งเจอกับเธอที่สนามตีกอล์ฟมา
เธอก็คือแพรวา ผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับภวินท์
ตอนนี้เอง อัญมณีก็รู้ตัวแล้วรีบเข้าไปขัดขวาง “นี่! เดี๋ยวก่อน พวกเราเลือกก่อนนะ!”
แพรวากระตุกมุมปาก ยกบัตรสีเงินในมือขึ้นมา แล้วแสยะยิ้มถามว่า “พวกเธอจ่ายเงินแล้วเหรอ?”
ทันใดนั้น พวกเธอก็เงียบพูดไม่ออก
แพรวาเห็นแล้วก็เชิดหน้าขึ้น ยิ้มแล้วพูดว่า “ใครจ่ายก่อน ก็ได้ก่อน”
ว่าแล้ว สายตาเธอก็มองไปยังญาธิดาอย่างท้าทาย ญาธิดาหัวใจเย็นวาบ รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
เธอดูออกว่าแพรวากำลังท้าทายตัวเองอยู่
เธอเงียบไปสักพัก แล้วหันหน้ากลับไปมองรอบด้าน แต่พอหันหน้าไป ก็เห็นภวินท์ที่นั่งอยู่บนรถเข็นกำลังมองพวกเธออยู่
ทันใดนั้นเอง เธอก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
ภวินท์มาเมื่อไหร่กัน? เมื่อกี้เขาโทรหาเธอเพื่ออยากพูดเรื่องนี้เหรอ? เขากับแพรวามาเที่ยวห้างด้วยกัน แถมยังมาเจอกับพวกเธอด้วย เป็นเรื่องบังเอิญหรือความตั้งใจกันนะ?
ขณะนั้น คำถามมากมายผุดขึ้นมาในสมองของเธอ และไม่มีคำตอบด้วย
อัญมณีที่อยู่ข้างๆเห็นภวินท์มา เธอก็ขมวดคิ้ว เห็นแพรวากำลังยิ้มให้กับภวินท์ สีหน้าก็บึ้งตึงลงมาทันที
เธอขมวดคิ้วแล้วถามญาธิดาว่า “ผู้หญิงคนนี้กับภวินท์เป็นพวกเดียวกันเหรอ?”
ญาธิดาพูดเสียงเบาว่า “อืม คงจะใช่”
อัญมณีโกรธจัด “แล้วหล่อนหมายความว่าไง? เข้ามาแย่งของที่พวกเราเห็นก่อนโดยไม่พูดอะไรเลย? หรือว่าตั้งใจท้าทายเหรอ?”
ขณะนั้น ญาธิดาพูดไม่ออก สายตามองดูแพรวาที่เดินไปหาภวินท์ ในใจก็รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
เห็นแพรวาเดินไปอยู่ข้างตัวภวินท์ เอาบัตรที่เพิ่งรูดในมือยื่นให้เขา ไม่รู้ว่าพูดอะไรกัน บัตรที่อยู่หนีบอยู่ตรงนิ้วมือก็เอาเข้าไปใว้ในกระเป๋าเสื้อตรงหน้าอกของเขาเบาๆ
ขณะนั้นเอง ญาธิดาก็รู้สึกโมโหขึ้นมา
ดูแบบนี้แล้วก็รู้ว่าภวินท์ตั้งใจให้แพรวาทำแบบนี้! แต่ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ด้วย? ตั้งใจหาเรื่องเธอหรือไงกัน?