ดวงใจภวินท์ - บทที่620 ทำงานแต่งพัง
บทที่620 ทำงานแต่งพัง
ธีทัตได้ยินแล้วก็ชะงัก ต่อมาก็เอียงหัวถามด้วยรอยยิ้มว่า “ทำไมถึงรีบแบบนี้ล่ะ?”
ญาธิดาสูดน้ำมูก “จัดให้เสร็จเร็วๆ จะได้สบายใจด้วย และพ่อแม่ว่าจะไปเที่ยวกันด้วยน่ะ”
ธีทัตยิ้มกว้าง จับหลังมือของเธอที่โอบเอวของเขาไว้ พูดพึมพำเสียงเบาว่า “คุณพูดถูก จัดให้เสร็จเร็วๆ จะได้สบายใจด้วย”
บางเรื่องก็รอต่อไปไม่ได้ เขารู้ดีว่า ภวินท์จับตามองญาธิดาอยู่ตลอดเวลา เขาจะต้องป่าวประกาศให้ทั่วเมือง J รู้ว่าธิดาเป็นผู้หญิงของเขาธีทัต มีเพียงแบบนี้ เขาถึงจะสบายใจได้!
ภายในสามวันนี้ เกี่ยวกับงานแต่งที่จัดพร้อมกับของญาธิดากับอัญมณีก็เตรียมเสร็จแล้ว การตกแต่งสถานที่ แขกที่จะเชื้อเชิญ รวมไปถึงอีกหลายๆด้านก็เตรียมการไว้แล้ว ทุกอย่างพร้อมพรัก ขาดแต่ลมบูรพา
ข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วเมือง J อย่างรวดเร็ว สังคมเอาแต่พูดคุยเรื่องนี้กันหมด
ทำให้เรื่องที่พี่น้องตระกูลกรเวชเมือง J จะแต่งงานพร้อมกันเป็นข่าวที่แปลกใหม่ และกลายเป็นเรื่องที่พูดคุยกันบนโต๊ะอาหาร
ถึงแม้งานแต่งที่จัดพร้อมกันในครั้งนี้จะเชิญคนมาไม่มาก แต่บวกกันแล้วก็ถือว่ามีไม่น้อยเลย เพราะงานแต่งนี้ดังมาก มีคนมากมายที่เข้ามาขอร่วมงานเอง ถือว่าเป็นเกียรติแก่ตระกูลกรเวชมาก
วันที่สี่ งานแต่งเริ่มขึ้นอย่างตรงเวลา ตอนเช้าตีห้ากว่าๆ ญาธิดากับอัญมณีก็ถูกคนปลุกขึ้นจากเตียง เตรียมตัวแต่งหน้าทำผม อีธานกับเอลล่าก็ถูกจับมาเป็นเด็กโปรยดอกไม้
แต่งหน้าทำผมอยู่หลายชั่วโมง พวกเธอก็ไปรออยู่ในงาน ฟังเสียงพิธีกรที่พูดไปตามขั้นตอน ญาธิดาก็รู้สึกประหม่าไม่ไหว
จะว่าไป งานแต่งที่โด่งดังขนาดนี้ นี่ยังเป็นครั้งแรกของเธอ ตอนนั้นจดทะเบียนสมรสกับธีทัตเพราะมีเงื่อนไข ก็เลยไม่มีพิธีการอะไร แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เธอกับธีทัตกำลังจะจัดงานแต่งที่เมือง J นั่นก็คือการประกาศความสัมพันธ์ของพวกเขาให้โลกได้รับรู้
พอเสียงของพิธีกรหายไป ก็มีเสียงดนตรีบรรเลงขึ้น ทุกคนหันไปมองตรงสุดทางของพรมแดง
ฝ่ามือของญาธิดาเหงื่อแตก “อันอัน ฉันตื่นเต้นจัง……”
อันอันที่อยู่ข้างๆก็ใจเย็นผิดปกติ ไม่พูดอะไรตั้งครึ่งชั่วโมง ดูแล้วตื่นเต้นกว่าเธออีก
เธอพูดตะกุกตะกักว่า “ฉัน…ก็ตื่นเต้นเหมือนกัน ธิดา นี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกของฉันเลยนะ……”
ได้ยินดังนั้นแล้ว ญาธิดาก็อดไม่ได้หัวเราะออกมาเสียงดัง พอหัวเราะออกมาความตื่นเต้นก็จางหายลงไปมาก
ตอนนี้เอง ดร.ยติภัทรกับพ่อของอัญมณีก็เตรียมพร้อมแล้ว พวกเรายืนอยู่ข้างพวกเธอ พาพวกเธอเดินไปยังพรมแดง
วินาทีนี้ สายตาของทุกคนจดจ่อไปที่พวกเธอ ญาธิดากับอัญมณีสวมชุดแต่งงานที่คล้ายกันแต่ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนหนึ่งสั้นอีกคนหนึ่งยาว คนที่สวมกระโปรงยาวดูสง่ามาก คนที่สวมกระโปรงสั้นดูร่าเริงสดใสมาก สาวสวยสองคนปรากฏตัวขึ้นทำเอาทุกคนที่เห็นแล้วรู้สึกเป็นบุญตามาก
ปลายสุดของพรมแดง ธีทัตกับพายุยืนอยู่ด้วยกัน พวกเขายืนอยู่ตรงนั้น มองดูเจ้าสาวของตัวเองเดินเข้ามาใกล้ตัวเองช้าๆ
อีธานกับเอลล่าเดินนำหน้าพวกเขา ถือกระเช้าเล็กคนละใบ ยกมือขึ้นแล้วสาดดอกไม้ตามทาง
วินาทีนี้ ญาธิดามองไปข้างหน้า ก็รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างควบคุมไม่ได้
และในตอนนี้เอง เธอกวาดตามองไปทั่ว สังเกตเห็นดวงตาสีดำของใครบางคนได้อย่างรวดเร็ว
ภวินท์นั่งอยู่บนที่นั่งแขก จ้องมองเธออยู่อย่างนั้น เหมือนอยากมองทะลุเธอ สายตาของเขาสงบและใจเย็น เหมือนไม่มีอารมณ์อื่นร่วมด้วยเลย แต่กลับทำให้ญาธิดารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
ไม่คิดว่า งานแต่งในครั้งนี้ ธีทัตจะเชิญภวินท์มาด้วย ที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงไปกว่านั้นก็คือ เขามาเข้าร่วมจริงๆ
เธอลดสายตาลง พยายามใจเย็นให้มากที่สุด เธอเดินตามพ่อบนพรมแดงไปข้างหน้าช้าๆ
เธอกับอัญมณีเดินยังพรมแดงถึงครึ่งทาง ใกล้จะไปหาธีทัตกับพายุได้อยู่แล้ว ทันใดนั้นเอง จอแอลอีดีปรากฏขึ้น มีภาพหนึ่งลอยขึ้นมา
สายตาของทุกคนในงานต่างก็ถูกดึงดูดไปยังภาพที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ นั่นเป็นรูปภาพหนึ่ง คนนี้รูปภาพคือญาธิดา!
ญาธิดามองดูชัดๆ ก็ถึงเห็นว่าเป็นภาพที่ครั้งก่อนเธอกับชวิศไปเที่ยวด้วยกัน ในภาพชวิศกำลังสวมสร้อยคอให้เธอ
ทันใดนั้นเอง ทุกคนในงานแต่งฮือฮากันไปหมด ญาธิดาก็อึ้งจนร่างกายแข็งทื่อไปหมด เลือดในร่างกายเดือดพลุกพล่าน
คิดไม่ถึงว่า เวลาแบบนี้จะมีภาพหนึ่งปรากฏขึ้นกะทันหัน หนึ่งในนางเอกในงานแต่งในครั้งนี้กลับมีรูปที่มีท่าทีสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่น นี่มันสวมเขาให้เจ้าบ่าวกลางแจ้งชัดๆ
“นี่…เป็นไปได้ยังไง!”
“คนในรูปไม่ใช่เจ้าสาวเหรอ? ทำไมถึงอยู่กับผู้ชายคนอื่นล่ะ……”
“พวกเธอดูสิ มุมขวาล่างของรูปยังมีเวลาเขียนไว้ด้วยนะ เป็นเรื่องเมื่อไม่นานมานี้เอง……”
เสียงซุบซิบดังขึ้น ทันใดนั้นเอง เสียงที่เหมือนคลื่นซัดกระหน่ำเข้ามาในหูของญาธิดา สมองของเธอว่างเปล่าไปหมด
ทำยังไงดี? ทำยังไงดี?
และในตอนนี้เอง ภาพบนหน้าจอก็เปลี่ยนไปช้าๆ กลายเป็นอีกรูปหนึ่ง ตัวเอกยังคงเป็นญาธิดากับชวิศ ทั้งสองกินข้าวด้วยกัน เดินห้างด้วยกัน…… เหมาะสมยังกับคู่รักกัน……
ในงานฮือฮามากขึ้นกว่าเดิม ดร.ยติภัทรกับอัญมณีพวกเขาอึ้งกันไปหมด “นี่มันเรื่องอะไรกัน!”
ปลายพรมแดงใบหน้าของธีทัตบึ้งตึงไปหมด ให้คนมาถอดปลั๊กของหน้าจอออกเดี๋ยวนี้ และเรียกพิธีกรกับพนักงานมาควบคุมดูแล
งานแต่งครั้งนี้ยังไม่ทันได้เริ่ม ก็กลายเป็นละครตลกไปเสียแล้ว วุ่นวายไปหมด คนก็แห่กลับบ้านกัน……
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น แขกทุกคนก็เดินออกจากงานกันหมด ญาธิดานั่งอยู่บนรถราวกับรูปปั้น ไม่พูดไม่จาและไม่ขยับ
ธีทัตร้อนรนใจมาก “ธิดาเธอพูดอะไรหน่อยสิ เธออย่าเป็นแบบนี้สิ……”
เห็นเธอยังคงไม่ตอบสนอง ขอบตาของเธอแดงก่ำ “ธิดา……”
หนังตาของญาธิดากระตุกเล็กน้อยและแสบจมูกด้วย เขาอ้าแขนโอบกอดเธอไว้ น้ำตา ‘พรึ่บ’ ไหลลงมาเป็นสาย
เธอไม่คิดว่าเรื่องจะเลยเถิดมาถึงขั้นนี้ ถึงแม้เธอจะแน่ใจว่าระหว่างเธอกับชวิศไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ปล่อยภาพแบบนี้ออกมา จะต้องมีคนเอาไปซุบซิบนินทาแน่ ยิ่งไปกว่านั้น ยังถูกคนเอาภาพมาปล่อยในงานแบบ มีปากทั้งตัวก็คงแก้ตัวอะไรไม่ได้……
เธอพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นอย่างรู้สึกผิด “ฉันทำพังทุกอย่าง……”
เพราะเธอ เธอทำงานแต่งเองพังไม่ว่า ยังลำบากเพื่อนสนิทตัวเองอีก ทำให้เธอกลายเป็นตัวตลกของทั้งเมือง J
นี่เป็นเรื่องที่เธอรู้สึกผิดมากๆที่สุด
“อันอัน ขอโทษด้วยนะ”
อัญมณีอดไม่ได้น้ำตาไหล “ไม่โทษเธอหรอก ธิดา เรื่องนี้ฉันไม่โทษเธอ……”
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ทั้งสองก็ใจเย็นลงช้าๆ
ทันใดนั้นด้านนอกก็มีเสียงดังขึ้น “ร้องไห้จะมีประโยชน์อะไร ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดคือแก้ปัญหานี้”
ได้ยินเสียงแล้ว ญาธิดาก็เงยหน้ามองไปยังนอกรถ
รถที่พวกเขานั่งนั้นเป็นเอ็มพีวีสามแถวโดยเปิดประตูแนวนอน ไม่รู้ว่าด้านนอกมีคนสองคนปรากฏขึ้นเมื่อไหร่ ภวินท์ที่นั่งอยู่บนรถเข็นรวมไปถึงพยัคฆ์ที่อยู่ด้านหลังเขา
พยัคฆ์มองญาธิดาอย่างเป็นห่วง แต่ภวินท์กลับมีสีหน้าเรียบเฉย ทำให้คนมองไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่
ไม่รอญาธิดาพูด อัญมณีที่กำลังโกรธอยู่ก็พูดก่อนว่า “เรื่องของพวกเราไม่เกี่ยวกับนาย!”
ภวินท์ไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของเธอ เขามองไปยังญาธิดาแล้วพูดว่า “ญาธิดา ฉันเคยเตือนเธอแล้วใช่ไหม”
ถ้าเธอเลือกที่จะจัดงานแต่ง ถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดอะไร เธอจะถอยหลังอีกไม่ได้
ตอนนี้ เป็นไปตามอย่างที่เขาพูดจริงๆ