ดวงใจภวินท์ - บทที่68 ลงโทษด้วยถังน้ำแข็ง
หลังจากให้ภวินท์มัดขาทั้งคู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว พายุรีบเข้าไป และหยิบเชือกมัดมือของพวกเขาไว้ด้วยกัน
ญาธิดารู้สึกได้อย่างชัดเจน สายตาของเพื่อนร่วมงานทางโน้นสามารถมองเธอจนทะลุตัวไปเลย
ขณะที่หลังมือของเธอสัมผัสกับมือของเขา แก้มเธอแดงก่ำขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
จู่ๆ เสียงทุ้มต่ำได้ดังขึ้นมาข้างหู “ยื่นมือให้ผม”
ญาธิดาอึ้ง ถัดมา มือก็ถูกคนจับไว้แล้ว
นี่เป็นครั้งแรก ที่ภวินท์จับมือของเธอต่อหน้าคนตั้งมากมายเช่นนี้
“อ้า ”
เสียงตะโกนแหลมคมของเพื่อนร่วมงานข้างๆ ไม่พอใจ ดั่งเช่นน้ำท่วมที่ซัดเข้ามา
ญาธิดาอดกลั้นความอยากหัวเราะ มองดูเชือกสีแดงซึ่งมัดไว้ที่มือของทั้งคู่ มีความสุขซะจนอยากเป็นลมแล้ว
ในที่สุดต้องที่เป็นผู้ตัดสินที่อยู่ข้างๆทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว หยิบทรัมเป็ตคันใหญ่ตะโกน “เอาหล่ะๆ ทุกคนเตรียมตัว การแข่งขันใกล้เริ่มขึ้นแล้ว”
ภวินท์ก้มหน้า มองดูผู้หญิงที่เบลอๆ แล้วพูดด้วยเสียงเบาว่า “เดี๋ยวคุณตามจังหวะผมนะ รู้รึเปล่า?”
เขาไม่หวังที่หนึ่งอะไรนั่น ขอแค่ธีมของพวกเขาไม่อยู่อันดับท้ายสุดและไม่ถูกลงโทษก็พอแล้ว
ญาธิดางงๆเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมาตอบรับแบบงงๆ “……ค่ะ”
ปรับตัวให้เรียบร้อย หลังทุกคนต่างยืนที่เส้นเริ่มต้น ตามคำสั่งต้องนับสามสองหนึ่ง สองคนเป็นธีมหนึ่งเคลื่อนไหวไปข้างหน้าอย่างเร็วไว
ระหว่างญาธิดาศึกษาเล่าเรียนก็เคยเล่นเกมคล้ายๆแบบนี้ ไม่รู้สึกว่ายากอะไร แต่ใครจะไปรู้หล่ะเธอเพิ่งก้าวขาออกไปปุ๊บ ร่างกายก็ล้มไปข้างหน้าอย่างควบคุมไม่ได้
โชคดีข้างกายมีภวินท์พยุงตัวไว้ เธอจึงไม่ถึงขั้นล้มลงไป
ภวินท์เอ่ยปากด้วยเสียงเบา “นิ่งไว้ ไม่ต้องรีบ”
ถึงจะพูดแบบนี้ก็ตามแต่ว่าพอญาธิดาเงยหน้าปุ๊บ เห็นบางธีมได้วิ่งไปข้างหน้าแล้ว เธอใจร้อนโดยไม่รู้ตัว
พอเธอใจร้อนปุ๊บ จังหวะขาก็สับสนไปหมด บวกกับภวินท์ขายาวและก้าวเท้าใหญ่ๆ ร่างกายเธอเอียง เกือบล้มลงไปเลย
ไปๆมาๆหยุดไปตั้งหลายครั้ง เป็นไปตามนั้น เธอกับภวินท์อยู่อันดับสามนับจากท้ายสุด หนีการลงโทษไม่พ้นแล้ว
ลงโทษคือจับฉลากก่อน ตามลำดับคือดื่มไวท์แก้วใหญ่หมดแก้ว ท้าทายถังน้ำแข็งกับTruth or Dare
ญาธิดาจับมั่วๆหนึ่งใบ คิดไม่ถึงจับได้ท้าท้ายถังน้ำแข็ง
ภวินท์ก้มหน้า มองดูตัวหนังสือสี่ตัวบนกระดาษ สายตามัวหมองอย่างกะทันหัน
ถ้าการลงโทษคือการท้าทายถังน้ำแข็ง งั้นเขากับญาธิดาก็ต้องถูกน้ำแข็งที่ใส่เต็มถังสาดลงไป ส่วนเธอเพิ่งเป็นไข้เมื่อหลายวันก่อน ถ้าถูกสาดน้ำเย็นลงไปอีกครั้ง เกรงว่าร่างกายของเธอคงรับไม่ไหว เสียงนินทาของเพื่อนร่วมงานข้างๆดังมาจากทางโน้น “คุณภวินท์จะถูกลงโทษแล้ว เป็นเพราะญาธิดาล้วนๆ เธอโง่มากเลย”
“ใช่ล่ะสิ ทีแรกคิดว่าคุณภวินท์ชนะขาดลอย คิดไม่ถึงเลย……”
ได้ยินเสียงเหล่านี้ ญาธิดาโทษตัวเอง ตอนที่แข่งขันเมื่อกี้เป็นเธอจริงๆด้วยที่ทำให้ภวินท์พ่ายแพ้
ภวินท์ก็ได้ยินแน่นอนอยู่แล้ว เขาทำหน้านิ่งๆ เอ่ยปากพูดว่า “ลงโทษครั้งนี้ ฉันรับผิดคนเดียว เพราะว่าการแข่งขันเมื่อกี้ ฉันก้าวขาเร็วเกินไป ไม่ได้นึกถึงญาธิดา เพราะฉะนั้นฉันรับผิดชอบคนเดียว”
คำนี้ออกมาปุ๊บ ทุกคนต่างตกใจกัน ถัดมาเสียงที่ชื่นชมเขาทุกอย่างดังตามมาเรื่อยๆ
“เฮ้ย คุณภวินท์สุภาพบุรุษจริงๆ”
ญาธิดาอยู่ข้างๆ มองดูภวินท์ถอดเสื้อคลุมนอกออกจากตัว ใส่แค่เสื้อแขนสั้น สั่งพายุเอาถังน้ำแข็งมา เธอถอนหายใจตามโดยไม่รู้ตัว
ถึงแม้อากาศไม่เย็นก็ตาม แต่ว่ายังไงซะนี่ก็คือน้ำที่ใส่น้ำแข็ง สองถังเต็มๆ เขาถึงกับรับผิดชอบคนเดียว
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ เและเข้าไปทันที ขัดขวางพายุ “ ไม่ได้นะ ฉันก็ต้องรับผิดชอบด้วย”
ภวินท์ได้ยิน เงยหน้ามองไปที่เธอ ทั้งคู่มองหน้ากัน ชั่วขณะหนึ่ง ญาธิดารู้สึกว่าจะถลำลงไปทั้งคนแล้ว
หลังจากสักพัก เขาย้ายสายตา แล้วหันไปที่พายุ
พายุเข้าใจ ยกน้ำหนึ่งถังเอาไว้ แล้วสาดลงไปที่ตัวเขา อยู่ใต้เสียงตะโกน ภวินท์เผยผิวสีแทนที่แดงก่ำออกมา เปียกไปทั้งตัว เสื้อแขนสั้นแนบตัว ตัวเปียกอย่างยั่วยวน
ถัดมา พายุยกอีกถังขึ้นมา ญาธิดาอดเอ็นดูไม่ไหว เห็นเขาสาดลงไปที่ภวินท์แบบต่อหน้าต่อตา
ต้องที่อยู่ข้างๆรีบเอาผ้าขนหนูยื่นเข้าไปทันที สีหน้าของทุกคนเข้มงวดเล็กน้อย ไม่ว่ายังไงซะ ภวินท์ก็คือเจ้านายของพวกเขา เป็นประธานSTN group ถูกสาดน้ำสองถังต่อหน้าทุกคนแบบนี้ ไม่ค่อยให้เกียรติซะเท่าไหร่
แต่ใครจะไปรู้ล่ะภวินท์หยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดหน้า แล้วมองไปที่ทุกคนใต้ตากลับมีรอยยิ้มเพิ่มขึ้น “ต้องการพนันก็ต้องรับความพ่ายแพ้ให้ได้ และทำใจได้ด้วย พวกเธอเล่นต่อไป ฉันกลับไปเปลี่ยนเสื้อ”
คำนี้ออกมาปุ๊บ ทุกคนหัวเราะ บรรยากาศคึกคักอีกครั้ง
คิดไม่ถึง ประธานผู้หน้าเย็นชาของพวกเขาก็มีด้านนี้อีกด้วย มีความเป็นสุภาพบุรุษและมีความรับผิดชอบ รับการลงโทษแบบสวยๆ สุดท้ายยังถ่ายทอดเหตุผลให้กับทุกคน อีกด้วย ช่างมีเสน่ห์จริงๆ
ญาธิดามองดูข้างหลังผู้ชายที่จากไปไกล ยกมุมปากขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความหวานชื่น
“เฮ้อ ธิดา”
ชมพู่วิ่งเข้ามา ใช้แขนทิ่มญาธิดา แล้วหัวเราะอย่างกะหนุงกะหนิง“จับมือของประธานภวิยท์มันเป็นความรู้สึกยังไงกันนะ มีความสุขจนเป็นลมเลยใช่มั้ยล่ะ”
ญาธิดาตบเขาหนึ่งครั้งอย่างยิ้มแย้ม “เธอยังกล้ามาล้อเล่นกับฉันอีก”
“เปล่านะ ฉันพูดดจริงๆ ตอนนี้เธอเป็นคนที่เพื่อนร่วมงานหญิงต่างอิจฉากันอ่ะ”
“เชอะ อิจฉาตายล่ะ” จู่ๆเสียงผู้หญิงได้ดังเข้ามาจากข้างๆ น้ำเสียงช่างเสียดสี
ญาธิดากับชมพู่ต่างก็อึ้ง หันหน้าปุ๊บ ก็เจอนีราภาที่เดินมาจากข้างๆ
มองเห็นเธอ สายตาญาธิดามัวหมอง
นีราภาเหลือบมองเธอหนึ่งครั้ง พูดเสียงเย็นชาว่า “เมื่อกี้เธอไม่ได้ยินรึไงคุณภวินท์บอกว่าเขาแต่งงานแล้ว ใครบางคนคิดอยากจะเป็นมือที่สามและทำลายครอบครัวคนอื่น”
ชมพู่ทนดูต่อไปไม่ไหว เอ่ยปากช่วยญาธิดาพูดว่า“เธอพูดจาน่าเกลียดเกินไปแล้วนะ ”
นีราภาหัวเราะเย็นชาและถามกลับไปว่า “ฉันเอ่ยชื่อแล้วเหรอ ใครจะยอมรับก็ตามใจสิอย่ามาโทษคนอื่น”
“นี่เธอ”
ญาธิดายื่นมือจับชมพู่ไว้ ลากเขาไปที่ข้างๆ “พอแล้ว โกรธคนแบบนั้นไม่คุ้มเลย”
อีกอย่าง เธอรู้ดีว่าเธอกับภวินท์มีความสัมพันธ์อะไรกัน แน่นอนอยู่แล้วว่าไม่โกรธที่เธอพูดว่า“มือที่สาม”
ชมพู่พูดด้วยความโมโห “ช่างเกลียดหล่อนจริงๆ ”
ญาธิดาพูดแบบยิ้มแย้มว่า “เราไปกันเถอะ ไปทานอะไรที่ร้านอาหารสักหน่อย ”
“ก็ได้”
ทั้งคู่พอพูดถึงเรื่องกินปุ๊บ อารมณ์ดีขึ้นไม่น้อยเลยทันที หลังพูดกับหัวหน้าเรียบร้อย พวกเขาก็ออกไปจากห้องบันเทิง
ตอนที่เดินไปถึงร้านอาหาร มีคนเดินไปเดินมาไม่น้อยแล้ว
ญาธิดากับชมพู่หาที่นั่งแล้วนั่งลงไป จากนั้นก็สั่งอาหาร
เพิ่งพูดคุยกันได้สักพัก จู่ๆชมพู่เห็นอะไร ชี้ไปทิศทางหนึ่งด้วยสีหน้าที่ตกใจ “ธิดา เธอดูสิ”
ญาธิดามองไปทางที่เธอชี้ แล้วมองเห็นภวินท์เดินข้างเคียงของแพรวา และเดินเข้ามาจากหน้าประตูร้านอาหาร
ข้างหลังของทั้งคู่ไม่มีผู้ช่วยตามหลัง เดินไปด้วยและพูดคุยกันไปด้วย แพรวาหันหน้ามาเป็นช่วงๆ มองดูผู้ชายข้างกาย ยิ้มอย่างอ่อนโยน
ญาธิดาตกใจอย่างกะทันหัน ถัดมารู้สึกหดหู่บ้างเล็กน้อย เธอย้ายสายตา หัวใจเจ็บจิ๊ดเลยทีเดียว
ชมพู่ยังจ้องพวกเขาไว้ ถอนหายใจอย่างควบคุมไม่ได้ “ที่แท้วันนี้ที่พิชญ์สินีพูดเป็นเรื่องจริงสินะ หรือว่าคุณภวินท์ของเรากำลังเดทกับแพรวาอยู่?แต่ว่าคุณภวินท์แต่งงานแล้วไม่ใช่หรอ……”
ฟังคำนี้ไว้ ญาธิดาขมวดคิ้วจากจิตใต้สำนึก เธอหายใจเข้าลึกๆ ช่างวุ่นวายใจเหลือเกิน
หรือว่า ระหว่างภวินท์กับแพรวามีความสัมพันธ์กันจริงๆ?