ดวงใจภวินท์ - บทที่691 สนามรบที่หนึ่ง
บ้านตระกูลกรเวช
แม้ว่าสีหน้าของธีทัตจะเหนื่อยล้าเต็มทน แต่น้ำเสียงของเขายังคงเย็นชาสุขุม เขาถามน้องสาวของตัวเอง “ทำไมถึงโทรหาธิดา?”
“อันเป็นห่วงเธอเกินไป……” อัญมณีก้มหน้าแล้วตอบ
เธอรู้ว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนสนิทกับพี่ชายของเธอนั้นมาถึงทางตันแล้ว และความสัมพันธ์ในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อพี่ชายของเธอเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นเธอมักจะพยายามติดต่อกับญาธิดาอย่างลับๆ กลัวว่ามันจะไปกระตุ้นพี่ชายของเธอ ไม่คิดว่าสุดท้ายแล้ววันนี้จะถูกธีทัตจับได้เสียแล้ว
“บริษัทพี่และSTNกำลังแย่งโครงการEAST Residencesกัน น้องจะติดต่อกับธิดาในช่วงเวลาแบบนี้ไม่ได้ ถ้าพวกผู้ถือหุ้นรู้เรื่องแล้วพูดต่อๆ กันไป ตำแหน่งของพี่กับพ่อจะเสี่ยงทันที” ธีทัตจริงจังผิดปกติ
อัญมณีเข้าใจถึงความหนักหนาของปัญหา จึงรีบพูดขอโทษธีทัต แล้วมองเขาเดินหันหลังกลับไปยังห้องอ่านหนังสือ สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถควบคุมความใจร้อนของเธอได้ เธอเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า “พี่คะ พี่จะจัดการเรื่องข่าวลือของธิดาเมื่อไหร่คะ?”
ธีทัตได้ยินเช่นนั้นก็หยุดชะงัก จากนั้นก็หันหน้ามาแล้วตอบว่า “เรื่องนี้น้องไม่ต้องยุ่ง”
เขารู้เรื่องข่าวลือที่แพร่หลายมาสักพักแล้ว แต่เขายังไม่เคยทำอะไรเลย เพียงแค่แก้ปัญหาของฝั่งบริษัทเทคโนโลยีคลาวด์เท่านั้น
เหตุผลหนึ่งคือเขาอยากใช้ข่าวนี้กดSTN แล้วใช้โอกาสนี้คว้าโครงการEAST Residences ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคือเรื่องส่วนตัวของเขา
แม้ว่าทั้งสองจะเซ็นใบหย่ากันแล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อคนนอก ดังนั้นถ้าข่าวยังคงมีผลไปเรื่อยๆ ญาธิดาก็ยังคงเป็นภรรยาของเขา
ถ้าเขาไม่สามารถครอบครองญาธิดา ภวินท์ก็อย่าคิดว่าจะได้ครอบครองง่ายๆ!
“แต่ว่า……”
อัญมณีกำลังลังเลเหมือนอยากจะพูดอะไร เขาก็พูดตัดสนทนาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นขึ้นมาทันที “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป น้องห้ามติดต่อกับพายุอีก และห้ามให้มันเข้ามาในบ้านแม้แต่ก้าวเดียว พี่จะคอยเช็กข้อความทั้งหมดของน้อง จนกว่าโครงการEAST Residencesจะเสร็จสิ้น”
พอได้ฟังสิ่งที่เขาได้ตัดสินใจไป อัญมณีก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิด แล้วตะคอกเสียงดังว่า “พี่!!!”
ธีทัตไม่สนใจเธอ แล้วยังแย่งโทรศัพท์จากมือเธออีก พอเห็นประวัติการสนทนา “ธิดา” ที่เผยอยู่บนจอโทรศัพท์ ดวงตาของเขามืดมนลงในทันที เขากดปุ่มปิดเครื่องอย่างแน่น
เขาสั่งแม่บ้านแถวนั้นว่า “เฝ้าคุณหนูเอาไว้ ตั้งแต่วันนี้ห้ามให้คุณหนูออกจากบ้านไปแม้แต่ก้าวเดียว”
ส่วนฝั่งภวินท์นั้นก็พยายามระงับข่าวอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะควบคุมมันได้ เช้าวันที่สองบนแพลตฟอร์มต่างๆ มีคนคอมเมนต์ด่าญาธิดากันกระหน่ำ
ญาธิดาไม่อยากอ่านข่าวบนอินเทอร์เน็ตอีกต่อไป หลังจากที่เตรียมตัวเสร็จก็ตามเขาไปบริษัท
เลขาคนใหม่ของท่านประธานยื่นตารางงานให้เธอ เธอที่เป็นเลขาส่วนตัวท่านประธาน จึงเดินเข้าไปในห้องประชุมกับภวินท์พร้อมกันไปโดยปริยาย
ผู้บริหารฝ่ายธุรการและฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้นั่งรออยู่ในห้องแล้ว บรรยากาศในห้องประชุมตึงเครียดขึ้นมาในทันทีที่เริ่มการประชุม
“ฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้ทำการวางแผนฉุกเฉินเมื่อบ่ายวานนี้ ข่าวด้านการเงินกลบข่าวประชาสัมพันธ์เมื่อวานแล้วค่ะ สำนักข่าวหลายเจ้าตกลงที่จะไม่รายงานเรื่องที่เกี่ยวข้องแล้วค่ะ สิ่งที่ยากที่สุดในตอนนี้มีเพียงเรื่องที่ไม่สามารถบล็อกคอมเมนต์ของชาวเน็ตได้ค่ะ”
“นอกจากนี้ พวกเรายังได้ติดต่อไปที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทเทคโนโลยีคลาวด์ พวกเขายอมรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมดที่ได้รับค่ะ และปฏิเสธที่จะร่วมมือกับพวกเราในการหยุดข่าวลือครั้งนี้ค่ะ” หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์พูดถึงเท่านี้ ก็แสดงสีหน้าที่ลำบากออกมา
ตามที่ภวินท์คาดเอาไว้ว่าธีทัตจะไม่ร่วมงานกับเขา แต่ยังไงแล้วนี่มันก็เรื่องของประชาสัมพันธ์ของทั้งสองบริษัท ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาและธีทัต เขาจึงไม่ได้พูดอะไรมาก แล้วหันไปมองทางฝ่ายบริหารแทน
“ฝ่ายธุรการกำลังเร่งวางแผนโครงการEAST Residences ต้องสำเร็จก่อนที่ข่าวลือจะแพร่วงกว้างไปกว่านี้ เรื่องร่วมงานกันโครงการEAST Residencesตอนนี้พวกเขายังไม่ยอมติดต่อกับทางเราค่ะ พวกเราต้องให้ความร่วมมือกับฝ่ายบริการด้วยค่ะ”
ระหว่างที่ชมพู่พูด ก็ยื่นเอกสารไว้ตรงหน้าภวินท์ หลังจากที่ภวินท์กวาดตาดูเสร็จก็ยื่นให้กับญาธิดา
ตอนนี้เธอเป็นถึงผู้จัดการฝ่ายธุรการ นอกจากใบหน้าที่ดูอ่อนโยน กิริยาท่าทางของเธอนั้นเหมือนที่ผู้ใหญ่วัยกลางคนควรจะเป็น เอกสารที่ส่งมาเธอก็อ่านมันอย่างรอบคอบเช่นกัน
หลังจากที่ประชุมเสร็จ เธอเดินตามหลังญาธิดา ทั้งสองใช้เวลาว่างที่ยังไม่ได้เริ่มการประชุมผู้ถือหุ้น เดินเข้าไปในห้องดื่มชาด้วยกัน
ภายในห้องดื่มชา เลขาประมาณสองสามคนกำลังนั่งคุยกันเสียงเจื้อยแจ้ว
“เลขาส่วนตัวที่ท่านประธานพามาวันนี้ คือผู้หญิงที่อยู่ในข่าวไม่ใช่หรือไง?”
“ถ้าฉันเป็นหล่อนฉันยอมเป็นคุณนายนั่งเฉยๆ อยู่ที่ตระกูลกรเวช สถานะหรืออำนาจฉันก็มีหมด ทำไมต้องมาโกงคนอื่นด้วย แล้วยังเข้ามาในบริษัทอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้อีก หน้าด้านจริงๆ”
“พวกเธอไม่รู้เรื่องภายในกันทั้งนั้น ฉันได้ยินบัวจากแผนกออกแบบว่า ความสัมพันธ์หล่อนกับท่านประธานไม่ชัดเจนตั้งแต่ห้าปีก่อนแล้ว ต่อมาSTNเกิดวิกฤต หล่อนก็เลยไปอ่อยคุณธีทัตแทน คงเห็นว่าSTNกลับมายืนหยัดอย่างยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง หล่อนเลยกลับมาไงล่ะ”
“แค่มองก็รู้ว่านางผู้หญิงคนนี้แปลกคนเป็นพวกชอบจับคนรวย พอคิดดูแล้วเมื่อคืนฉันคงคอมเมนต์ด่ายังแรงไม่พอ เดี๋ยวฉันจะกลับไปด่าเพิ่มอีก”
เสียงดังเข้าหูพวกเขาทั้งสอง ชมพู่รีบเดินก้าวเข้าไปสองก้าว แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “คุณภวินท์จะเลือกเลขาต้องการความเห็นพวกเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำงานกันเสร็จแล้วหรือไง?”
พอเลขาพวกนั้นเห็นญาธิดา ก็รีบก้มหัวลง ทักทายพวกเขาทั้งสองเสร็จก็รีบหนีออกจาก “ที่เกิดเหตุ” ทันที
“ธิดา อย่าเอาคำพูดคนพวกนั้นมาใส่ใจเลยนะ พวกนั้นไม่รู้ว่าเรื่องนี้ไปมายังไงกันแน่”
ญาธิดาที่เห็นว่าเธอยังคงขี้หงุดหงิดเหมือนเดิม ก็หัวเราะดังลั่น “ไม่เป็นไร บริษัทไหนก็มีคนแบบนี้กันทั้งนั้น ฉันเจอมาเยอะเลย ควรชินได้ตั้งนานแล้ว”
ขณะที่พูดเธอก็เหลือบมองไปที่ชมพู่ จากนั้นก็พูดเชิงชื่นชมว่า “เธอเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเยอะเลยนะ พอได้นั่งตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายธุรการก็กลายเป็นคนละคนเลย”
“ปีที่แล้วพิชญ์สินีเป็นหนอนบ่อนไส้ทำงานให้บริษัทคู่แข่ง เกือบเปิดเผยเอกสารลับของฝ่ายธุรการ โชคดีที่พี่แนนจับได้พอดี หลังจากที่ไล่พิชญ์สินีออกเธอเลยโดนย้ายไปเป็นผู้จัดการสาขาย่อย ฉันเลยต้องฝืนทนรับตำแหน่งนี้ไป”
พอพูดถึงเอกสารลับ ญาธิดาก็คิดอะไรบางอย่างขึ้น แล้วเปิดเอกสารที่ฝ่ายธุรการส่งมา “โครงการEAST Residencesยุ่งยากมาก”
ชมพู่ถอนหายใจออกมาเบาๆ “หลายปีมานี้บริษัทข้ามชาติ JVพัฒนาจนแข็งแกร่ง ในการเลือกบริษัทเพื่อร่วมงานนั้น ตอนแรกฉันยังพอจะมีโอกาส แต่ข่าวนี้มันฉุดไม่หยุดจริงๆ โครงการนี้คงจะได้หลุดมือแน่ๆ”
บริษัทข้ามชาติ JV?
ญาธิดาขมวดคิ้วแน่น รู้สึกว่าชื่อบริษัทนี้คุ้นหูมาก
เธอรีบถามเสียงเข้มว่า “ตอนนี้ใครคือผู้รับผิดชอบบริษัทนี้? เคยร่วมงานกับบริษัทพวกเราไหม?”
ชมพู่ไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอถามสักเท่าไหร่ แต่ก็ตอบกลับไปว่า “เคยร่วมงานกันแค่สองครั้งเท่านั้น……จริงด้วย เมื่อก่อนเหมือนเธอจะเคยเจอรองประธานของบริษัทนั้น ชื่อคณิน ปรักกมะกุล”
คณิน?!
พอนึกถึงคุณคณินที่เที่ยวเล่นไปวันๆ เธอก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที ชมพู่ยื่นแก้วกาแฟให้เธอ แล้วถามอย่างสงสัยว่า “ข่าวเมื่อวานเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ช่วงเวลาพักนั้นสั้นมาก หลังจากที่ญาธิดาเล่าว่าเรื่องนี้ไปมาเช่นไร ก็จัดเตรียมเอกสารแล้วรีบเข้าห้องประชุมอีกครั้ง
การประชุมผู้ถือหุ้นที่กำลังจะเริ่มนี้ต่างหาก คือสิ่งที่เธอและภวินท์ต้องสู้อย่างยากลำบาก