ดวงใจภวินท์ - บทที่702 แฮ็คไฟร์วอลล์
งานแต่งงานของญาธิดากับภวินท์เป็นข่าวฮอตอันดับหนึ่งในเมืองJ ความนิยมขึ้นสูง ข่าวนี้ดึงให้หุ้นของSTN Groupขึ้นสูง Jv Groupก็ประกาศการดำเนินการโครงการ EAST Residences อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ญาธิดาจัดการเรื่องที่บริษัทเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนในวันหยุดยาว แล้วก็ลากให้ภวินท์ที่ไม่ค่อยมีงานทำให้อยู่บ้านด้วยกัน เธอแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้ชดเชยเวลาให้ลูกๆ
“แม่ครับ การที่พ่อกับแม่เอาแต่อยู่บ้านแบบนี้ ผมกับน้องสาวกังวลเกี่ยวกับอนาคตเหมือนกันนะครับ” อีธานกอดคอมพิวเตอร์ แล้วก็บ่นพึมพำทั้งๆ ที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ
เอลล่ากำลังถือเสื้อผ้าเด็กคอเล็กชั่นใหม่ที่เหมาะสมกับฤดูกาลในอ้อมแขนของญาธิดา พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ก็ทำปากมุ่ยด้วยความไม่พอใจ “พอพ่อกับแม่แก่จนเดินไม่ได้เมื่อไหร่ ก็ยังมีหนูคอยเลี้ยงพวกเขาไง”
“ถ้าเกิดจะให้เธอเลี้ยงพ่อแม่ พวกเขาทั้งสองคนคงหิวตายกันพอดี” อีธานตอกกลับอย่างไม่เกรงใจ
พอเห็นว่ากำลังจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น ญาธิดาก็รีบเอ่ยปากตัดบทสนทนาของทั้งสองคน แล้วก็กลอกตาใส่ภวินท์ด้วยความไม่พอใจว่า “คุณว่า มีวิธีไหนบ้างที่ได้ผลที่จะทำให้พวกเขาทั้งสองคนเลิกทำร้ายกันได้บ้าง? ”
ภวินท์ได้ยินดังนั้นก็ลูบหัวของอีธานอย่างอ่อนโยนและพูดว่า “ลูกเป็นพี่ชาย ลูกมีหน้าที่ถ่อมตัวและปกป้องน้องสาวนะ”
อีธานพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง หลังจากนั้นก็ถามด้วยความสงสัยว่า “พ่อครับ ใครเป็นคนรับผิดชอบดูแลไฟร์วอลล์เครือข่ายของSTN Groupครับ? ”
พอภวินท์ได้ยินดังนั้นก็อดประหลาดใจไม่ได้ ถ้าพูดตามหลักเหตุผลแล้ว อายุอย่างอีธานน่าจะไม่สนใจเรื่องของบริษัทเท่าไหร่นัก แต่ทำไมจู่ๆ วันนี้เขาถึงได้พูดถึงSTN Groupขึ้นมาได้?
เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองแล็ปท็อปของเขา และสายตาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
นี่อีธานกำลังลองแฮ็คไฟร์วอลล์ของSTN Groupอยู่งั้นเหรอ?!
นิ้วก้อยที่อ่อนนุ่มของเขาไหลเลื่อนผ่านแป้นพิมพ์ และโค๊ดยาวๆ ก็ปรากฏขึ้นที่หน้าจอ หลังจากดำเนินการอย่างราบรื่น ตัวอักษรสีแดงขนาดใหญ่สองตัวปรากฏบนหน้าจอพร้อมคำสีเขียวบนพื้นหลังสีดำ – OK!
“จัดการได้แล้ว!”เสียงเด็กน้อยของอีธานเต็มไปด้วยความตื่นเต้น สีหน้าของภวินท์ดูเหมือนพูดอะไรไม่ออก
เขาไม่เคยมีสีหน้าแบบนี้มาก่อนเลย เพราะว่าไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกตกใจได้ขนาดนี้ แต่ว่าวันนี้ เขาที่ยืนอยู่บนยอดพีระมิดมาโดยตลอด กลับถูกจัดการด้วยลูกชายวัยห้าขวบของเขาเอง
ธุรกิจของSTN Groupไม่ได้เพียงแค่ครอบครัวทุกสาขากิจการในเมือง Jเท่านั้น แต่ยังรวมถึงห่วงโซ่อุตสาหกรรมในประเทศหลายอุตสาหกรรมด้วย ดังนั้นไฟร์วอลล์ของบริษัทจึงมีจุดตรวจต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียไฟล์สำคัญ
อีธานพึ่งจะได้สัมผัสคอมพิวเตอร์ไม่กี่วันเท่านั้นเอง แต่กลับเรียนรู้วิธีการถอดรหัสการป้องกันที่ยากขนาดนี้ ภวินท์นวดคิ้วเบาๆ แอบคิดอยู่ในใจว่า สงสัยต้องเปลี่ยนพนักงานฝ่ายเทคนิคของบริษัทอีกแล้ว
ญาธิดาที่อยู่ด้านข้างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พอเห็นอีธานตื่นเต้นขนาดนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือนว่า “เล่นพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้มันน้อยๆ หน่อยนะ กล้องโทรทรรศน์ของลูกถูกทิ้งอยู่ที่ระเบียงเป็นเวลานานมากแล้วนะ”
อีธานรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก แล้วก็วางคอมพิวเตอร์ลงทันทีอย่างเชื่อฟัง แล้วก็ไปหยิบหนังสือดาราศาสตร์ที่พึ่งซื้อมาอ่าน
โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะสั่นครั้งแล้วครั้งเล่า ญาธิดาอยากจะรับสายหลายครั้งแล้ว แต่เพราะว่าเอลล่าไม่ยอมลุก สุดท้ายเธอก็รู้สึกรำคาญมาก ก็เลยเปิดลำโพงและวางทิ้งไว้ด้านข้าง”
“ธิดา ช่วงนี้พักผ่อนเป็นยังไงบ้าง? ” เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาจากปลายสาย นั่นก็คือพี่โอ๊ต ผู้จัดการของอีธานกับเอลล่า
พอญาธิดาได้ยินคำทักทายอย่างเป็นทางการของเขา ก็พูดอะไรไม่ออก “พี่โอ๊ต มีเรื่องอะไรดีๆ ก็ไม่เคยคิดถึงฉันหรอกนะ แล้วตอนนี้ที่โทรมาเพราะคิดอะไรไม่ดีอีกแล้วล่ะ? ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ คนที่อยู่ปลายสายก็ตกอยู่ในห้วงของความเงียบ
ผ่านไปนานเขาถึงกระแอมออกมาเพื่อทำลายบรรยากาศที่กระอักกระอ่วน แล้วก็พูดต่อว่า “พี่เห็นว่าเธอไม่มีวี่แววว่าจะกลับอเมริกาเลย ก็เลยจะถามเธอว่าอยากให้อีธานกับเอลล่ากลับเข้าวงการไหม”
ญาธิดาคิดอยู่สองวิทนาทีแล้วก็ตอบว่า “อีธานกับเอลล่าถึงวัยที่จะเข้าโรงเรียนอนุบาลได้แล้ว ตอนนี้การศึกษาสำคัญที่สุด”
ตอนนี้เธอไม่ได้เงินขาดมือ และก็ไม่จำเป็นต้องให้ลูกทั้งสองคนไปหาเงินสำหรับค่าใช้จ่าย เธออยากให้อีธานกับเอลล่าได้มีชีวิตแบบที่เด็กในวัยนี้ควรจะมีกัน ไม่ใช่ไปโชว์ตัวอยู่ข้างนอกทั้งวัน
“ตอนนี้ชีวิตของอีธานกับเอลล่าเป็นที่รู้จักของสาธารณชนแล้ว แถมข่าวการแต่งงานของเธอก็ร้อนแรงมาก สิ่งพวกนี้มันเพิ่มความดังให้พวกเขาได้อย่างมองไม่เห็น รายการเรียลลิตี้โชว์พ่อแม่ลูกยอดนิยมในประเทศจีนต้องการให้เด็กทั้งสองคนนี้ไปปรากฏตัวขึ้น นี่เป็นโอกาสที่ดีที่พวกเขาจะได้กลับมานะ”
ระหว่างที่เขาพูด เด็กทั้งสองคนก็ขยับเข้ามาใกล้โทรศัพท์ แล้วก็หันไปมองญาธิดาด้วยสีหน้าที่รอคอย
แล้วเสียงของพี่โอ๊ตก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง “พี่รู้ว่าเธอกังวลเรื่องอะไรอยู่ และก็จะไม่บังคับให้เธอต้องตัดสินใจด้วย พี่เข้าใจนิสัยของเธอดี ที่พี่โทรหาเธอ ก็เพราะว่าอยากจะให้โอกาสเธอได้ลองเลือกดูเท่านั้นเอง”
“ขอบคุณนะพี่โอ๊ต ฉันจะไปคิดถึงข้อเสนอพี่อีกทีหนึ่ง” ญาธิดาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็วางสาย
อีธานกับเอลล่ายื่นหน้าเล็กๆ ออกมามองเธอด้วยความสงสัย “แม่ครับ ทำไมไม่ตอบตกลงลุงโอ๊ตล่ะ? ”
“หนูกับพี่ชายชอบทำเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ทำไมถึงมีแต่แม่ที่ไม่ชอบล่ะคะ? ”
ญาธิดาไม่รู้ว่าควรจะตอบลูกน้อยทั้งสองคนยังไง ก็เลยส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปหาภวินท์
ภวินท์ที่ได้ยินบทสนทนาก็พอจะเข้าใจสถานการณ์นี้ ก็เบาเสียงลงและพูดว่า “ในเมื่ออีธานกับเอลล่าชอบ ก็ปล่อยให้พวกเขาทำไปเถอะ”
“แต่ว่า……”เธอมองเขาด้วยความลังเล “ในรายการเรียลลิตี้โชว์พ่อแม่ลูก ทุกคนในครอบครัวมักจะปรากฏตัวพร้อมๆ กัน แล้วบริษัทก็พึ่งจะคงที่ได้ไม่นาน ถ้าเกิดว่าคุณไปเข้าร่วมด้วยล่ะก็……”
เธอยังไม่ทันจะพูดจบ ภวินท์ก็ส่งสายตาที่มั่นคงให้กับเธอ หลังจากนั้นก็โทรไปหาพายุ “เปิดบริษัทแยกมาแล้วจัดทีมขึ้นมา แล้วก็พัฒนาเกี่ยวกับวงการบันเทิง เริ่มจากรายการเรียลลิตี้โชว์พ่อแม่ลูกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด”
ญาธิดามองเขาหน้าแหยๆ แล้วก็แอบชื่นชมการกระทำของเขา
ทันใดนั้น เธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วก็รีบจิ้มขาของภวินท์ แล้วก็อ้าปากพูดออกมาชื่อบางคนแบบไม่มีเสียง
อัญมณี!
ภวินท์เข้าใจทันที เขากดเปิดลำโพงแล้วญาธิดาก็รีบเอ่ยถามว่า “พายุ ครั้งก่อนที่ให้ไปสืบเรื่องของอันอัน ตอนนี้เริ่มมีวี่แววบ้างยัง? ”
พอพูดถึงอันอัน น้ำเสียงของพายุก็ดูกลัดกลุ้นขึ้นมาทันที “อันอันไม่เคยออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลกรเวชเลย แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมโทรศัพท์เธอถึงปิดอยู่ตลอดเวลา เป็นไปได้ว่าตอนนี้เธอน่าจะถูกคุณธีทัตควบคุมอยู่
“เป็นไปไม่ได้!”เธอรีบตัดความเป็นไปได้ทันทีโดยไม่คาดคิดเลย
ถึงแม้ว่าธีทัตจะเข้มงวดกับอันอันมาก แต่ว่าเขารักและโอ๋น้องสาวมาตั้งแต่เล็กจนโต ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องมันไม่สามารถพังทลายไปได้ง่ายๆ หรอก แล้วอีกอย่างถ้าดูจากนิสัยของธีทัตแล้ว เขาไม่มีวันกักขังบริเวณน้องสาวไว้ในบ้านอย่างแน่นอน
ภวินท์เห็นว่าเธอมีปฏิกิริยาเช่นนี้ นัยน์ตาลึกของเขาค่อยๆ มืดลงเรื่อยๆ แต่ว่าตอนนี้ญาธิดาคิดถึงแต่อัญมณี ก็เลยไม่ได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของเขา
“แค่แน่ใจว่าอันอันยังอยู่ในบ้านตระกูลกรเวช ก็แสดงว่ายังสุขสบายดี น่าจะขาดการติดต่อไปเพราะว่าโทรศัพท์ของเธอมีปัญหามากกว่า คุณไม่ต้องเป็นกังวลมากเกินไปหรอก เดี๋ยวฉันจะไปหาเธอที่ตระกูลกรเวชให้รวดเร็วที่สุด”
ถึงแม้ว่าญาธิดาจะพูดจาอย่างเฉียบขาด แต่ว่าจู่ๆ ในใจก็มีความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา