ดวงใจภวินท์ - บทที่704 ดาราสาวพูดจาเสียดแทง
บทที่704 ดาราสาวพูดจาเสียดแทง
ชาช่าพูดเสร็จแล้วก็เชิดหน้าขึ้น พร้อมกับพูดกับภวินท์อย่างไม่เกรงใจว่า “คุณภวินท์แค่ดูแลเด็กๆ ให้ดีก็พอแล้วค่ะ ที่เหลือให้สามีฉันจัดการ”
สายตาที่ลึกซึ้งของภวินท์กวาดตามองเธอ แต่ไม่ได้มีท่าทีจะปฏิเสธ หลังจากส่งกระเป๋าเดินทางให้คุณอนณ สามีของชาช่าแล้ว ก็พาอีธานกับเอลล่าไปหาห้องเด็ก
พอเป็นแบบนี้ญาธิดาก็รู้สึกไม่สบายใจเท่าไหร่่นัก เพราะถึงยังไงเมื่อก่อนเธอก็ไม่ได้รู้สึกกับชาช่าดีเท่าไหร่ ในอินเทอร์เน็ตต่าก็บอกว่าชาช่าชอบพูดตาเสียดแทง แล้วก็ชอบเล่นตัวด้วย
“ความจริงแล้วฉันไม่ได้ต้องการความช่วยเหลืออะไรหรอกค่ะ อีธานกับเอลล่าน่ะรู้เรื่องรู้ราวมาก ฉันดูแลคนเดียวก็ได้แล้ว วินแค่ดูแลเรื่องต่างๆ ในชีวิตก็พอแล้วล่ะ”
“ครอบครัวฉันมีกันแค่สองคน แต่ว่าครอบครัวของคุณมีตั้งสี่คน ฉันบอกว่าคุณต้องการความช่วยเหลือก็แสดงว่าต้องการนั่นแหละ!”น้ำเสียงของเธอดูเอาแต่ใจมาก พอพูดจบก็เข้ามาคล้องแขนญาธิดาอย่างคุ้นเคย
ตอนที่ทั้งสองเดินเคียงข้างกันไปยังบริเวณที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก สายตาของชาช่าก็มองไปที่แผ่นหลังของคุณอนณพร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หอมหวาน “เมื่อก่อนสามีของฉันเป็นผู้จัดการของฉันเอง เขาเคยชินกับงานที่ต้องใช้แรงแบบนี้แหละ ไม่มีผลอะไรหรอก”
สามี?
ญาธิดาฟังเธอเรียกอย่างคล่องปากขนาดนั้น ในใจก็รู้สึกอิจฉาอยากบอกไม่ถูก
เธอกับภวินท์รู้จักกันมาหกปี แต่งงานกันมาสองครั้ง แถมมีอีธานกับเอลล่าเป็นตัวสร้างสัมพันธ์ แต่ว่าเหมือนเธอจะไม่เคยเรียกเขาว่า “สามี”เลยสักครั้งเดียว
ชาช่ากลับไม่ได้สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเธอ พร้อมกับพูดต่อว่า “การเลี้ยงลูกให้โตมาขนาดนี้น่าจะเหนื่อยมากเลยใช่ไหมคะ ฉันเห็นคนจำนวนมากออกจากวงสังคมหลังจากคลอดลูก”
พอพูดถึงลูกขึ้นมา อารมณ์ของญาธิดาก็ถูกดึงกลับมาทันที ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข “เหนื่อยมากจริงๆ แหละค่ะ แต่พอเห็นพวกเด็กๆ รู้เรื่องรู้ราวขนาดนี้ ก็รู้สึกว่าความเหนื่อยนี้มันไม่ได้หนักหนาอะไรเลย อย่างน้อยมันก็คุ้มค่ามาก”
“สูญเสียชีวิตวัยรุ่น เสียเวลาการทำงาน มันคุ้มค่าแล้วจริงๆ เหรอคะ? ”มือขาวๆ ของชาช่ากุมหน้าท้องของตัวเอง สายตาแสดงความรำคาญอย่างอดไม่ได้ “ในวงการของฉัน มีลูกก็เท่ากับทิ้งอาชีพไปเลย……”
แต่ว่าเธอยังไม่ทันจะพูดจบ จู่ๆ ก็บีบปลายนิ้วของญาธิดา ส่วนอีกมือหนึ่งก็ปิดปากของตัวเองเอาไว้ งอตัวลงเพราะรู้สึกคลื่นไส้
ญาธิดาเห็นว่าเธอมีอาการแพ้ท้องก็รู้สึกตกใจขึ้นมาทันที ตอนที่พยายามช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นนั้น ก็เอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วงว่า “ความจริงถ้าดูจากอายุครรภ์ของคุณแล้วไม่น่าจะมีอาการแพ้ท้องแล้วนะ คุณได้ไปตรวจที่รพ.บ้างรึยัง? ”
ชาช่าโบกมือ
พอไม่คลื่นไส้แล้ว เธอก็แสดงสีหน้าที่เมินเฉย พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “น่าจะเพราะว่าทำงานเยอะไปหน่อย ไม่ได้พักผ่อนให้เพียงพอถึงได้เกิดอาการแบบนี้ หมอบอกว่าเด็กในท้องมีพัฒนาการที่ดีมาก ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร”
ในหัวของญาธิดาปรากฏภาพเหตุการณ์ที่เธอไปเข้าร่วมงานต่างๆ ทั้งที่ท้องโต “ตอนนี้อาการของคุณไม่ควรจะทำงานต่อเลยนะ น่าจะรีบกลับไปพักผ่อนมากกว่า”
ชาช่าถอนหายใจเบาๆ “ฉันชอบงานของฉันมากเลย แต่ว่าในอุตสาหกรรมนี้การแทนที่กันมันร้ายแรงมาก การจะหายไปจากสายตาของประชาชนนั้นมันง่ายมาก แต่ถ้าจะกลับมานะยากสุดๆ ฉันออกจากวงการนี้ไม่ได้หรอก”
ระหว่างที่ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่นั้น ก็เดินมาถึงหน้าห้องพักของชาช่า คุณอนณเตรียมผลไม้เย็นๆ ให้เธออย่างใส่ใจ ทั้งสองคนโชว์หวานอยู่หน้าประตูเป็นเวลานานกว่าจะปิดประตูไป ในช่องคอมเมนท์ก็เต็มไปด้วยความเห็นที่อิจฉาริษยา
พอญาธิดากลับมาที่ห้อง ก็เห็นว่าภวินท์กำลังอ่านหนังสือเป็นเพื่อนเด็กน้อยทั้งสองคนอยู่ หัวใจของเธอก็รู้สึกอบอุ่น
ระหว่างที่ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่นั้น ก็เดินมาถึงหน้าห้องพักของชาช่า คุณอนณเตรียมผลไม้เย็นๆ ให้เธออย่างใส่ใจ ทั้งสองคนโชว์หวานอยู่หน้าประตูเป็นเวลานานกว่าจะปิดประตูไป ในช่องคอมเมนท์ก็เต็มไปด้วยความเห็นที่อิจฉาริษยา
“คุยกับเธอสนุกเลยล่ะสิ? ” เสียงที่ชัดเจนของภวินท์ดังขึ้น
ญาธิดาพยักหน้า “เธอไม่ค่อยเหมือนกับที่ฉันคิดไว้เท่าไหร่นะ ถึงแม้ว่าท่าทางจะดูพูดจาเจ็บแสบ แต่ว่าก็ถือว่ายังเป็นคนดีอยู่นะ”
“ต่อไปก็ไปมาหาสู่กันเยอะๆ ล่ะ”เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา ได้แต่พลิกหนังสือดาราศาสตร์ให้เอลล่า และพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง
ลมพัดผ่านหน้าต่างสูงจรดเพดาน ทำให้ผ้าม่านสีขาวเปิดขึ้นเล็กน้อย แสงแดดสะท้อนลงมาที่เรือนร่างของทั้งสามคน ทำให้ร่างกายของพวกเขาทั้งสามคนนั้นถูกเคลือบด้วยสีทอง
เข้ากันพอดีกับใบหน้าที่เหมือนพระเจ้าแกะสลักมา ญาธิดารู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังชมภาพวาดที่สวยงาม
ริมฝีปากสีเชอร์รี่ของเธออ้าออกเล็กน้อย แล้วก็พยายามบีบคำพูดออกมาจากลำคอ “ที่รัก……”
ความจริงตั้งแต่ตอนที่เธอรู้จักชาช่า เธอก็อยากจะเรียกภวินท์แบบนี้มาโดยตลอด แต่ว่าก็ไม่มีความกล้าพอ
พอภวินท์ได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาทันที สายตาที่ลึกซึ้งของเขามีคลื่นพลุกพล่านเต็มไปหมด แล้วก็จ้องมองมาที่เธออยู่ครู่หนึ่ง
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกดีใจเล็กน้อย โชคดีที่เธอไม่ได้เรียกเขาแบบนี้ตอนที่อยู่ด้วยกันแค่สองคน ไม่อย่างนั้นเกรงว่าเขาจะจับเธอกินอย่างหมดจดไปแล้ว
ผ่านไปนาน ลูกกระเดือกของภวินท์ก็ขยับ และเขาก็เอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “ทำไมเหรอ? ”
ญาธิดารีบหาข้อแก้ตัวที่เหมาะสมทันที “เดี๋ยวตอนที่งานบริษัทไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่แล้ว ฉันอยากไปหาคนมาสอนถ่ายภาพน่ะ”
เธอเกลียดที่ตัวเองไม่มีกล้องถ่ายรูปภาพเหตุการณ์ที่สวยงามแบบนี้
“ได้สิ”สายตาของภวินท์เต็มไปด้วยความอ่อนโยน
อีธานกับเอลล่าอ่านหนังสือไปได้ไม่กี่หน้า พนักงานก็มาเคาะห้อง แล้วก็พูดอยู่หน้าห้องอย่างเกรงใจว่า “คุณภวินท์ คุณธิดา การถ่ายทอดสดช่วงบ่ายเริ่มต้นขึ้นแล้วค่ะ รบกวนพาเด็กน้อยทั้งสองคนไปรวมตัวกันที่ศาลากลางด้วยนะคะ”
ตามกำหนดการ ต่อไปควรพาลูกๆ ไปเก็บผักในสวนระบบนิเวศของรีสอร์ท พอกลับมาแล้วก็ต้องทำอาหารเย็นด้วยตัวเอง
ญาธิดาหยิบชุดลำลองสีเทาหลวมๆ ออกจากกระเป๋าเดินทางแล้วเปลี่ยนเป็นชุดนั้น จากนั้นเปิดกระเป๋าเดินทางของเด็กและนำเสื้อผ้าพ่อแม่ลูกที่เข้าชุดกันออกมา แล้วสุดท้ายก็ยื่นชุดผู้ชายสไตล์เดียวกันให้กับภวินท์
แม้ว่าจะเป็นชุดลำลองที่เรียบง่าย แต่ภวินท์ใส่แล้วดูหรูหรา เหมือนกับว่าชุดนี้ตัดมาพิเศษเพื่อเขาโดยเฉพาะ ดูสบายๆ แต่ไม่ราคาถูก แถมยังลดอายุเขาไปได้ตั้งหลายปี
เธออดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำในใจ คนที่ใส่อะไรก็ดูดี นี่คือไม้แขวนเสื้อจากธรรมชาติที่แท้จริง
ตอนที่ทั้งสามคนเดิมไปที่ศาลากลางนั้น ชาช่าก็กำลังนั่งอาบแดดอยู่บนม้านั่งอย่างเกียจคร้าน พอเห็นเธอเดินมาก็รีบเรียกให้เธอมานั่งด้วยทันที
“ฉันเห็นคำเขียนอยู่บนใบหน้าของคุณ——ความเก่งนั้นมันสู้มีสามีรวยไม่ได้!”
ถึงแม้ว่าชาช่าจะพูดจาแย่ไปหน่อย แต่ว่าญาธิดาเข้าใจว่าเธอไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี ก็เลยยิ้มพร้อมกับพูดแขวะว่า “ช่างเป็นผู้หญิงที่ดีเลิศอะไรขนาดนี้ น่าเสียดายที่ปากเสียไปหน่อย”
รอยยิ้มบนใบหน้าของชาช่าหายไปทันที อดไม่ได้ที่จะกลอกตาใส่เธอ “ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าท้องของฉันหนักมาก ฉันจะทำให้คุณได้รู้ว่ามือของฉันไม่ได้มีไว้แค่ตกแต่งเฉยๆ นะ”
ผู้หญิงสองคนหัวเราะคิกคักและพูดคุยกันเป็นเวลานาน จนกระทั่งแสงแดดที่ร้อนแรงทำให้ทั้งสองคนเหงื่อตก แต่ครอบครัวสามคนของเน็ตไอดอลนั้นก็ยังไม่มา จนพนักงานที่อยู่ด้านข้างพากันบ่นอุบอิบ
“เร่งตั้งหลายครั้งแล้วก็ยังไม่ยอมมา ทำตัวไม่รู้เรื่องจริงๆ ”สายตาของชาช่าเต็มไปด้วยความรังเกียจ แค่อายุครรภ์ขนาดนี้ก็ทำให้เธอทรมานมากพอแล้ว แต่ยังต้องมารอนานขนาดนี้อีก มันทำให้เธอรู้สึกโมโห
ญาธิดาถามหาพัดลมตัวเล็กจากพนักงานคนหนึ่ง แล้วก็เป่าให้เธออย่างใส่ใจพร้อมกับถามด้วยความสงสัยว่า “เหมือนกับว่าคุณจะมีอคติกับพี่ยู่ยี่เลยนะ”
“ถูกแล้ว!”เธอยอมรับโดยไม่ลังเลเลย “พี่ยู่ยี่คนนั้นพยายามทำทุกอย่างเพื่อหาเงิน ของที่เอามาขายต่างก็เป็นของปลอมไม่ก็มีตำหนิ หลอกแฟนคลับฉันไปตั้งหลายคน แน่นอนว่าฉันต้องไม่พอใจเธออยู่แล้ว”