ดวงใจภวินท์ - บทที่806 เชิงเขา บทที่805 ดึงสัญญาณแจ้งตือน บทที่807 ไม่มีใครเหมาะไปมากกว่าฉันอีกแล้ว
- Home
- ดวงใจภวินท์
- บทที่806 เชิงเขา บทที่805 ดึงสัญญาณแจ้งตือน บทที่807 ไม่มีใครเหมาะไปมากกว่าฉันอีกแล้ว
“อย่าเพิ่งบู่มบ่าม ฉันจะรีบติดต่อองค์กรให้ไปรวมตัวกับพวกแกเร็วที่สุด ห้ามขาดการติดต่อเด็ดขาด จบการรายงาน” ภวินท์กำหมัดทั้งสองข้าง ข้อต่อค่อยๆ ซีดขึ้น ดวงตาของเขาเริ่มแดงก่ำ
“รอไม่ได้แล้ว……”
หลังจากที่เสียงสู้ที่ระเบิดออกมาอีกครั้ง หลุยส์ก็ได้ส่งเสียงมาอีกครั้ง “ฉันและทีมเอสล้อมรอบภายในได้แล้ว ฉันไม่แน่ใจว่าจะต้านทานได้นานแค่ไหน แกคิดแผนบีก่อนยังไม่ต้องสนใจพวกฉัน จบการรายงาน!”
สายตาของภวินท์หันไปทางอีธาน ก็เห็นว่าเขายกแล็ปท็อปขึ้นมาดำเนินงานแล้ว คิ้วที่ขมวดกันเป็นปมคลายออกเล็กน้อย
อีธานพยายามพูดด้วยเสียงเบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้ “ผมจะอยู่รายงานคุณพ่อที่นี่เองครับ เดี๋ยวผมรับผิดชอบส่งข้อความระหว่างองค์กรและozoneให้ครับ ผมทำได้แค่นี้ครับ”
แม้ว่าญาธิดาจะรู้ถึงความสาหัสของปัญหา แต่เธอไม่เคยมีประสบการณ์ในการต่อสู้แบบนี้มาก่อน เธอประหม่าจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง
เหมือนมีอะไรบางอย่างติดอยู่ในคอของเธอจนไม่กล้าพูดอะไร วินาทีนี้เธอฟุ้งซ่านถึงขั้นสงสัยว่าอีธานคือลูกแท้ๆ ของเธอหรือเปล่า ระหว่างแม่ลูกนั้นต่างกันได้ขนาดนี้เลยเหรอ!
หลุยส์ที่เหมือนจะได้ยินสิ่งอีธานพูด น้ำเสียงไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด แต่ในขณะที่เขาพูดนั้นก็ยังคงได้ยินเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “ภวินท์ อลิสาอยู่ในที่ปลอดภัย ถ้าฉันตกอยู่ในน้ำมือศัตรูด้านใน ช่วยฉันดูแลเธอให้ดีด้วย”
“ฉันรับปาก!”
หลังจากที่ภวินท์ตอบด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม แล้วรีบโอนสายสื่อสารไปยังโทรศัพท์ แล้วรีบเดินไปทางประตูห้องทำงาน
ใบหน้าของญาธิดาเริ่มวิตกกังวล และขวางทางเดินเขาเอาไว้ในทันที “ฉันจะไปกับคุณ”
“ไร้สาระหน่า!” น้ำเสียงของเขาโกรธเล็กน้อย ก่อนจะกวาดร่างกายผอมเพรียวของเธอไปทางโซฟา “คุณกับอีธานรออยู่ที่นี่ ผมจะสั่งให้พายุส่งคนที่บ้านพักมาดูแลที่นี่เอง”
STN Groupที่มีคนพลุกพล่าน ณ ตอนนี้เป็นที่ที่ปลอดภัยมากที่สุด ไม่มีใครกล้าทำร้ายพวกเขาต่อหน้าสายตาของผู้คนมากมายหรอก
ญาธิดาเดินโซเซไปสองก้าว พยายามทรงตัวให้ยืนนิ่งๆ สีหน้าของเธอดูจริงจังมาก “อลิสายังอยู่ที่นั่น ฉันยืนดูพวกคุณไปเผชิญกับอันตรายเฉยๆ ไม่ได้”
“คนที่อยู่ต่างแดนตกอยู่ในอันตรายประสบการณ์ของพวกเขากับคุณไม่เหมือนกัน คุณรออยู่ที่นี่เป็นการช่วยที่ดีที่สุด”
คำพูดของภวินท์ฟังแล้วเจ็บเล็กน้อย ขอบตาของญาธิดาเริ่มแดง “ฉันก็เป็นคนของozone ฉันมีประสบการณ์ด้านการฝึกอย่างมืออาชีพ!”
น้ำเสียงของเธอสะอื้น ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าช้าๆ แล้วจับมือของเขาเอาไว้อย่างแน่น “เราคลาดกันไปห้าปีแล้ว ถึงแม้ครั้งนี้จะโชคร้ายจนถูกกวาดล้างจนไม่มีใครรอด ก็ไม่สสามารถแยกเราออกจากกันได้”
ภวินท์ได้ยินเช่นนั้นแววตาที่นุ่มนวลก็ปรากฏขึ้น หลังจากที่เขาเปลี่ยนมาจับมือเธอสีหน้าของเขาก็กลับมาเคร่งขรึมอีกครั้ง “พวกเราจะกลับมาอย่างปลอดภัย”
ญาธิดาสูดจมูก แล้วพยักหน้าอย่างแรง
ควันระเบิดปกคลุมไปทั่วบริเวณozone อากาศโดยรอบเต็มไปด้วยฝุ่นที่หนาทึบ
บ้านพักชั่วคราวหลายหลังที่เชิงเขาไม่ไกลมาก ผู้คนที่ผ่านไปมาแถวนั้นต่างก็มีสีหน้าที่กระวนกระวาย เดินไปมาอย่าว่องไว ผู้คนบริเวณนั้นรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
ญาธิดาที่เพิ่งมาถึงเชิงเขาก็ได้กลิ่นเลือดฉุนที่แสบจมูก มันยังผสมกับกลิ่นของดินและกำมะถันต่างๆ หัวใจของเธอบีบรัดในทันที ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล
ชายชุดดำหลายคนที่ผ่านสายตาเธอไปนั้น บนตัวทุกคนเต็มไปด้วยบาดแผลไม่ว่าจะหนักหรือเบา พวกเขาแบกคนที่เลือดท่วมตัวเดินผ่านเธอไปอย่างพร้อมเพรียง
เธอไม่กล้าที่จะส่งเสียงถาม รีบปล่อยมือออกจากภวินท์และเดินตามพวกเขาไปในทันที
พวกเขาเดินไปยังหน้าประตูห้องหนึ่งในพวกเขาเคาะประตูเบาๆ และพูดอย่างสุภาพว่า “คุณหมอครับ ต้องรบกวนคุณอีกแล้วครับ”
เสียงเปิดประตูออกดัง “ปัง” อลิสาที่เห็นภาพตรงหน้าขมวดคิ้วแน่น รีบหลีกทางให้พวกเขาส่งคนเข้าไปด้านใน จากนั้นสายตาก็หยุดลงที่ญาธิดา
ดวงตาสีเข้มของอลิสาเต็มไปด้วยคำพูดล้านแปดพันอย่าง หลังจากที่ทั้งสองสบตากันและเงียบไม่พูดอะไรไปสองวินาที เธอก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ขาดช่วง “รีบเข้ามาช่วยฉัน”
ญาธิดาได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้า รีบเข้าไปในบ้านแล้วสวมเสื้อที่ฆ่าเชื้อแล้ว จากนั้นก็ยืนนิ่งอยู่กับที่ดูอลิสาที่ยุ่งหัวหมุนอยู่คนเดียว
“พวกคุณได้แผลใหม่ทับแผลเก่า ซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้จะมีอันตรายแทรกซ้อนนะ ห้ามไปอยู่ด้านหน้าแล้ว”
พวกเขาเพิกเฉยต่อสิ่งที่อลิสาพูด หลังจากที่วางคนที่ได้รับบาดเจ็บลงก็ออกจากบ้านพักชั่วคราวอย่างสุภาพเรียบร้อย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาจะเข้าไปสู้อยู่แถวหน้าอีก
เธอถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะยื่นมือไปหาญาธิดา “ตรงนั้นมีถุงมือทางการแพทย์ ช่วยฉันทำแผลขั้นต้นให้เขาก่อน”
ญาธิดารีบทำตามคำสั่งของเธอ ก่อนจะยื่นเวชภัณฑ์ให้เธอ หญิงสาวทั้งคนทำแผลให้ผู้บาดเจ็บตรงหน้าอย่างระมัดระวัง
เธอไม่ค่อยมีความรู้ทางด้านนี้สักเท่าไหร่ ส่วนมากเธอจะทำตามที่อลิสาสั่งเสียมากกว่า เธอพยายามทำเท่าที่เธอจะทำได้ หลังจากที่ยุ่งอยู่สักพักบนสันจมูกของพวกเธอก็เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อเล็กๆ
“ฉันคิดว่าคุณเป็นแค่จิตแพทย์ ไม่คิดว่าคุณจะทำเรื่องพวกนี้ได้ด้วย” ญาธิดาถอดถุงมือทางการแพทย์ออก แล้วล้างครบสีแดงบาดตาบนมือออก
สีหน้าสุขุมบนหน้าของอลิสาไม่ได้ผ่อนลงแม้แต่น้อย เธออธิบายช้าๆ ว่า “เมื่อก่อนเคยเรียนความรู้ขั้นพื้นฐานมาบ้าง แต่อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมาก ก็แค่ทำแผลเบื้องต้น ทางองค์กรจะส่งองค์กรมืออาชีพมาทีหลัง”
เธอได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้ว “นี่มันผ่านมาหลายชั่วโมงตั้งแต่เกิดเรื่องแล้วนะ ทางสำนักงานใหญ่ควรจะมีมาตรการอะไรบางอย่างสิ ทำไมถึงตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวอะไรอีก”
อลิสาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่ ทางสำนักงานใหญ่ก็คงต้องพิจารณา นี่ไม่ใช่การแก้ปัญหาวิกฤตการณ์สักหน่อย พวกเขาจะยื่นมือเข้ามาช่วยง่ายๆ ได้ยังไง”
ระหว่างที่ทั้งสองคุยกันอยู่นั้น ภวินท์ก็ได้ผลักประตูบ้านพักชั่วคราวเข้ามา พอมองสีหน้าที่ยุ่งเหยิงของเขา คิ้วของอลิสาขมวดเข้าหากันอย่างแน่น แล้วรีบพุ่งตัวไปหาเขา
“คุณไปเขตอันตรายมาแล้วใช่ไหมคะ?” เสียงของเธอชะงักลง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่อ้ำอึ้งว่า “พวก……เขาเป็นยังไงบ้างคะ?”
ไม่ต้องเดาก็รู้ ว่าเธอเป็นห่วงหลุยส์
ภวินท์ไม่มีเวลาแม้แต่จะดื่มน้ำ มองดวงตาทั้งสองคู่ที่เต็มไปด้วยความกังวลก่อนจะอธิบายด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ทางสำนักงานใหญ่กำลังเดินทางมา หลุยส์ต้องอดทนอีกสักพักครับ”
อลิสากัดริมฝีปากล่างเอาไว้อย่างแน่น ราวกับว่าอยากจะพูดอะไร แต่เธอก็ลังเลที่จะพูดออกมา
ญาธิดาเห็นเช่นนั้นก็เดินก้าวขึ้นมา แล้วถามแทนเธอว่า “งั้นหลุยส์ได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า โอกาสถอนตัวออกมามีเท่าไหร่ ตอนนี้สถานการณ์ด้านในเป็นยังไงบ้าง?”
“ดูเหมือนอุปกรณ์สื่อสารของหลุยส์จะได้รับความเสียหาย ได้รับเพียงสัญญาณอ่อนๆ เป็นระยะเท่านั้น ผมไม่สามารถตอบคำถามของคุณได้” เขาปรายตามองอลิสา ดูเหมือนเขากำลังคุยกับญาธิดา แต่ก็เหมือนกำลังอธิบายให้อลิสาฟัง
ความเศร้าบนใบหน้าของอลิสาหายวับไปในทันที เธอตั้งสติอย่างรวดเร็ว แล้วแสร้งฝืนยิ้มออกมา “ฉันขอไปดูสถานการณ์เขตอันตรายหน่อยได้ไหมคะ?”
“ไม่ได้ครับ!” เขาตอบเสียงแข็ง “คุณต้องอยู่ที่นี่เพื่อดูแลอยู่เบื้องหลัง นี่คือคำสั่งขององค์กรครับ”
“คำสั่งบ้าบออะไร รู้จักคำว่ากันไว้ดีกว่าแก้ไหม ต้องรอให้เขาตายก่อนหรือไงถึงจะให้ฉันเจอเขา?” อลิสาขึ้นเสียงอย่างไม่ได้ตั้งใจ