ดวงใจภวินท์ - บทที่973 คนที่ผมชอบก็มาจากเมือง J
ดวงใจภวินท์ บทที่973 คนที่ผมชอบก็มาจากเมือง J
ญาธิดาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่พอมาคิดดูแล้วก็คิดว่าสิ่งที่ภวินท์พูดนั้นก็ถูก ก็เลยวางเรื่องเครียดไว้ชั่วคราว และไปที่โรงแรมใจกลางเมืองแห่งหนึ่งกับภวินท์
ทั้งสองคนเดินเข้ามาในล็อบบี้ของโรงแรม ภวินท์ก็ไปจัดการเรื่องเข้าพัก ส่วนญาธิดาก็นั่งพักผ่อนอยู่บนโซฟา
ตอนที่เธอกำลังมองบรรยากาศรอบๆ ล็อบบี้อยู่นั้น หูก็ได้ยินเสียงบ่นอุบอิบของผู้ชายคนหนึ่ง “จอร์จ เพราะนายนั่นแหละที่ยืนกรานจะให้ฉันไปงานนิทรรศการนั้นให้ได้……ตอนนี้จบกันแล้ว ฉันไป เมือง Jไม่ได้แล้ว”
พออีกฝ่ายพูดถึงเมือง Jขึ้นมา ญาธิดาก็อดมองไปที่เขาไม่ได้
อีกฝ่ายหนึ่งเป็นชายชาวยุโรปที่มีผมสีบลอนด์เป็นประกาย สวมเสื้อสเวตเตอร์ที่มีสไตล์และสวมใส่แว่นกันแดด แต่ก็ยังดูออกว่าอีกฝ่ายดูดีแค่ไหน
ถัดจากเขา ผู้ชายที่ชื่อจอร์จก็ทำอะไรไม่ถูก “คุณเอลี งานครั้งนี้ชานน่า จิวเวลรี่เป็นคนเชิญไปเลยนะครับ และอีกฝ่ายก็ได้เชิญมาตั้งห้าครั้งแล้ว……คุณทำให้คนอื่นขุ่นเคืองใจมาเยอะแล้ว อย่างน้อยก็ควรไว้หน้าแบรนด์นี้หน่อยนะ”
จอร์จทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ถึงแม้ว่าดีไซเนอร์ที่มีพรสวรรค์ต่อหน้าเขาจะได้รับความนิยมมาก แต่เขาก็มีบุคลิกที่แปลกประหลาดและไม่ชอบมีส่วนร่วมในกิจกรรมของแบรนด์
แต่ต้องยอมรับว่าเอลีนั้นเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองมากจริงๆ
เอลีดันแว่นกันแดดขึ้น และหัวเราะในลำคอ “การไปงานเลี้ยงมันจะสำคัญกว่าความรักของฉันได้ยังไงกัน?”
จอร์จก็พึมพำอะไรออกมาอีกครั้ง ญาธิดาไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกประหลาดใจกับบทสนทนาของทั้งสองคนอยู่เหมือนกัน
ชานน่า จิวเวลรี่ เป็นแบรนด์หรูระดับนานาชาติที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ชนชั้นสูง
และผู้ชายที่ชื่อเอลีคนนี้เนี่ย กลับปฏิเสธแม้แต่คำเชิญของชานน่า จิวเวลรี่อย่างนั้นเหรอ?
“คุณผู้หญิงท่านนี้ ไม่ทราบว่าหน้าผมมีอะไรติดอยู่รึเปล่าครับ?” น่าจะสัมผัสได้ถึงสายตาของญาธิดาเอลีหันหน้ามาแล้วก็สบตากับเธอ
ญาธิดาถูกจับได้ว่าแอบมองคนอื่น ก็หน้าแดงขึ้นมาทันทีและรีบเอ่ยขอโทษ “ขอโทษด้วยนะคะคุณผู้ชาย แค่เมื่อกี้ฉันได้ยินพวกคุณพูดถึงเมือง Jขึ้นมา แล้วมันก็เป็นบ้านเกิดของฉันพอดี ก็เลยอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง”
เอลียกยิ้มมุมปาก เหมือนกับว่านึกถึงเรื่องอะไรที่นาสนุกๆ ขึ้นมาได้ “ที่แท้ก็แบบนี้เอง บังเอิญจังเลยนะครับ เพราะว่าคนที่ผมชอบเนี่ยก็มาจากเมือง Jเหมือนกัน”
ญาธิดายังคงยิ้มเหมือนเดิม “บังเอิญมากจริงๆ ค่ะ”
เอลีก้มหน้ากระซิบอะไรบางอย่างกับจอร์จ แล้วจอร์จก็หยิบของชิ้นหนึ่งจากกระเป๋าสัมภาระและยื่นให้เขา
เอลีเดินเข้ามาหาญาธิดา และส่งของในมือเขาให้กับเธอ “คุณผู้หญิงสุดสวย ผมให้ครับ ไปกับเพื่อนคุณได้นะ”
ตอนที่ญาธิดากำลังจะปฏิเสธเอลีก็ยัดเข้ามาในมือเธออย่างไม่พูดไม่จา ญาธิดาก้มหน้าลงมอง ก็พบว่ามันเป็นบัตรเข้างานนิทรรศการเครื่องประดับสองใบ
“ฉันรับไว้ไม่ได้……”
ตอนที่เธอเงยหน้าขึ้นมานั้น ก็เห็นว่าเอลีเดินจากไปแล้ว แล้วก็กำลังโบกมือบอกลาเธอ
ในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว ญาธิดาก็เลยไม่ได้ตามไปอีก
ภวินท์จัดการเรื่องเข้าพักเรียบร้อยแล้ว ก็เดินเข้ามา “มีอะไรเหรอ?”
ญาธิดาลุกขึ้นจากโซฟา แล้วก็ยิ้มให้เขาพร้อมกับส่ายหน้า และเดินเข้าไปพร้อมเอามือคล้องแขนเขา และวางบัตรเข้างานนั้นไว้ในมือของเขา “เมื่อกี้มีคนให้นี่กับฉันมา”
ระหว่างที่เดินตรงไปที่ลิฟต์ ญาธิดาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ให้ภวินท์ฟังอย่างรวดเร็ว
“ในเมื่อเขาให้มาแล้ว แล้วก็ถือว่าเป็นเจตนาดีของเขา พรุ่งนี้พวกเราก็ลองไปดูกันเถอะ”ภวินท์พูดนิ่งๆ
พอเข้าไปในห้อง ญาธิดาก็ไปอาบน้ำ พออาบน้ำร้อนก็อดไม่ได้ที่จะเผลอนอนหลับไป
ภวินท์รออยู่ในห้องตั้งนานญาธิดาก็ยังไม่ออกมา ก็เลยกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เลยเดินไปตรงหน้าประตูห้องน้ำและเอ่ยเรียก “ ธิดา?”