ดวงใจภวินท์ - บทที่981 ทิ้งแบบไม่เสียดาย
ดวงใจภวินท์ บทที่981 ทิ้งแบบไม่เสียดาย
นารารู้ดีอยู่แล้วว่าธีทัตไม่ได้ชอบเธอ หลังจากแต่งงานมาธีทัตก็ไม่เคยไปบ้านตระกูลหาริชัยเลยแม้แต่ครั้งเดียว
นาราก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าการที่เธอชวนเขาครั้งนี้มันจะสำเร็จ
ความโกรธที่มีก่อนหน้านี้มันหายไปเกินครึ่ง นาราก็กลับไปอย่างพึงพอใจ
ญาธิดากับขวัญตาเพิ่งจะมาถึงด้านล่างบริษัทกรเวช ก็ได้เจอกับนาราเข้า
พอนาราเห็นขวัญตาสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที เธอพูดอย่างดุเดือดว่า “ขวัญตา เธอจะมาที่นี่ทำไม ฉันขอเตือนไว้เลยนะ ว่าอย่ามายุ่งเกี่ยวกับสามีของฉันอีก”
ขวัญตานึกไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอกับนาราที่นี่ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนาราที่ดุร้าย ตอนนี้เธอไม่ใช่ขวัญตาที่เอาแต่นิ่งเงียบไม่ต่อสู้เหมือนเมื่อ 2 ปีก่อนอีกต่อไป
ขวัญตายิ้มอย่างสง่างาม และตอบกลับไปว่า “คุณนารา สรุปแล้วใครมายุ่งกับใครกันแน่?”
“แก!”
นาราโมโหเพราะขวัญตาเป็นอย่างมาก เธอแยกเขี้ยวยิงฟันพุ่งเข้ามา ยกมือขึ้นเตรียมจะตบเธอ
ญาธิดาหรี่ตาทั้งสองข้าง และจับข้อมือของนาราไว้ด้วยความว่องไว พร้อมกับพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณนารา อย่าลืมสถานะของตัวเองนะคะ การกระทำของคุณในตอนนี้ มันเป็นเหมือนตัวแทนของบริษัทกรเวชนะ”
คนนอกน้อยคนนักที่จะรู้ถึงความแค้นของขวัญตากับนารา
ตอนที่นาราเตรียมจะลงไม้ลงมือนั้น พนักงานที่เดินผ่านไปผ่านมาก็มองมาด้วยความสงสัย
พอได้ยินญาธิดาพูดแบบนี้ นาราก็กัดฟันและพยายามควบคุมไม่ให้ตัวเองลงไม้ลงมือ แต่ว่าสายตาที่จับจ้องมาที่ขวัญตานั้นมันกลับเหมือนถูกเคลือบด้วยยาพิษ
“ขวัญตา ตอนนี้ฉันต่างหากที่เป็นภรรยาที่ถูกต้องของธีธัต ไม่ว่าแกจะใช้วิธีไหน ตำแหน่งภรรยาของธีทัตก็มีเพียงแค่ฉันเท่านั้น”
ขวัญตายิ้ม และพูดด้วยสีหน้าที่เฉยเมย “คุณนารา คุณคิดเยอะเกินไปแล้ว ตำแหน่งภรรยาของธีทัต ไม่ใช่ว่าใครก็อยากได้นะคะ”
สิ่งที่นาราหวงแหน สำหรับขวัญตาแล้ว มันเป็นสิ่งที่ละทิ้งได้แบบไม่ต้องเสียดายเลยด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามนาราไม่ได้เชื่อในสิ่งที่ขวัญตาพูด เธอหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาและพูดว่า “ขวัญตา เมื่อ 2 ปีก่อนฉันเอาชนะแกได้ และตอนนี้ฉันก็ยังเอาชนะแกได้เหมือนเดิม แกคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงคิดจะมาสู้กับฉัน”
ขวัญตายิ้ม เธอรู้อยู่แล้วว่านาราคงไม่เชื่อตัวเองอย่างแน่นอน และก็ไม่อยากจะมายุ่งวุ่นวายกับเธอในเรื่องนี้อีกต่อไป ก็เลยได้แต่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “นารา ฉันอยากถามอะไรเธอหน่อย ว่าเธอทำอะไรกับอันอันกันแน่?”
ตั้งแต่ตอนที่อาการของอันอันกำเริบ พวกเธอก็ไม่มีทางรู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับอันอันกันแน่ ได้แต่คาดเดาไปกันเองว่ามันน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับนารา
แต่ก็ทำได้เพียงแค่คาดเดาเท่านั้น ตอนนี้พวกเธอไม่ได้มีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ว่านาราเป็นคนทำ
สิ่งที่ขวัญตาพูดตอนนี้ ก็เป็นแค่การลองเชิงเท่านั้น
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด นารารีบหลบสายตาทันที ไม่กล้าสบตากับขวัญตา เห็นได้ชัดว่ากำลังรู้สึกหวาดผวา
“ฉันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอาการป่วยของอัญมณี อย่าเอาเรื่องนี้มายัดใส่ฉันนะ”
พอพูดประโยคนี้เสร็จ นาราก็เดินออกไปโดยที่ไม่หันหลังกลับมามองเลยด้วยซ้ำ
ญาธิดามองดูปฏิกิริยาของเธอ และหรี่ตาลง “ที่แท้ก็เป็นฝีมือเธอจริงๆ ด้วย”
ขวัญตาขมวดคิ้ว “พวกเราไม่มีหลักฐาน และเธอก็ไม่มีทางยอมรับอยู่แล้ว”
ตอนนี้ทำได้แค่ไปถามจากปากของธีทัต
ทั้ง 2 คนขึ้นไปชั้นบนสุด ไปที่ห้องทำงานของธีทัต
ขวัญตาผลักประตูเข้าไป แล้วก็เห็นธีทัตที่นั่งอ่านเอกสารอยู่บนโต๊ะ
ธีทัตกำลังตั้งใจอ่านเอกสารมาก มีความเยือกเย็นปะปนอยู่ในออร่าที่สง่างามของเขา
ธีทัตนึกว่าลูกน้องของตัวเองเข้ามา ก็ขมวดคิ้วเข้าหากันและพูดว่า “ผมไม่เคยบอกเหรอ ว่าถ้าจะเข้ามาให้เคาะประตูก่อน”
ขวัญตาเงียบไปหลายวินาที “ฉันเอง”
พอได้ยินเสียงของเธอ ธีทัตก็ชะงักไป หลังจากนั้นก็รีบเงยหน้าขึ้นมาทันที