ดั่งรักบันดาล - บทที่ 373 หลีกเลี่ยงการพบเจอ
ชีวิตของฉันก็ทรมานจะแย่อยู่แล้ว ฉันจะให้คนอื่นทรมานยิ่งกว่าฉันร้อยเท่าพันเท่า!
เย่หว่านเอ๋อจ้องมองไปยังเสี่ยวเหอที่ก้มหน้าลงกลัวจนตัวสั่น ถามขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเย็นชา : “แกจะไม่ดื่มจริงๆใช่ไหม?”
เย่หว่านเอ๋อค่อยๆก้มลงไปมองใบหน้าที่กำลังหวาดกลัวของเสี่ยวเหอ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : “แกกล้าต่อต้านฉันเหรอ? แกคิดว่าต่อจากนี้ไป แกจะได้อยู่ดีเหรอ?”
คำๆเดียว ราวกับหมัดหนัก ที่ชกลงกลางอกของเสี่ยวเหอ
เสี่ยวเหอสั่นไปทั้งตัว เธอกลัวจนแทบจะเป็นบ้า ถ้าเธอไม่ดื่ม วันข้างหน้าคงจะโดนเย่หว่านเอ๋อหาเรื่องเธอไม่หยุด เมื่อนึกแบบนี้ ก็ยิ่งสั่นเข้าไปใหญ่
“คุณผู้หญิง……ฉันยอมดื่มค่ะ……”
เย่หว่านเอ๋อเมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว แววตาก็เต็มไปด้วยความพึงพอใจ เธอหัวเราะเบาๆ มองไปที่เสี่ยวเหอด้วยสายตาเย็นชา : “ดื่มสิ”
เสี่ยวเหอยื่นมือออกมาค่อยๆยกถ้วยซุปขึ้น กัดฟันแน่น แล้วก้มหน้าลงดื่มซุปถ้วยนั้น
เย่หว่านเอ๋อพูดขึ้นต่อว่า : “ดื่มให้ หมดอย่าให้เหลือแม้แต่หยดเดียว!”
เสี่ยวเหอทำตามคำสั่ง เธอดื่มซุปในถ้วยจนหมด แล้วค่อยๆวางถ้วยซุปลง
เย่หว่านเอ๋อเมื่อเห็นแล้ว ก็ยิ้มขึ้นที่มุมปาก เธอเดินไปที่หน้าโซฟา มองหน้าเสี่ยวเหอสลับกับมองนาฬิกาบนผนัง แล้วพูดขึ้นว่า : “พอดีเลย ทดสอบกับแกหน่อยแล้วกัน”
ตอนที่รับยาตัวนี้มา เขาบอกว่ายาตัวนี้ออกฤทธิ์เร็วมาก เพียงห้านาทีก็ทำให้ร้อนทั้งร่างกาย ไม่ได้สติ หลังจากสิบนาทีก็จะไม่สามารถควบคุมร่างกายได้
ไม่นึกเลยว่าใช้ครั้งแรกก็จะได้ใช้กับคนรับใช้หญิง
เธอมองหน้าเสี่ยวเหอ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : “เปลืองตัวหน่อยก็แล้วกัน”
เสี่ยวเหอได้ยินแล้ว ไม่สบายใจมาก เพียงครู่เดียว ก็เริ่มออกเหงื่อทั้งตัว เริ่มหายใจเร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆ
ราวสามนาทีผ่านไป ก็รู้สึกร้อนไปทั้งตัว มองไปทางเย่หว่านเอ๋อ แล้วพูดขึ้นว่า : “คุณผู้หญิง ฉันร้อนค่ะ นี่มันเป็นยาอะไรกันแน่คะ?”
เย่หว่านเอ๋อน้ำเสียงเย็นชา : “ยาที่จะทำให้แกรู้สึกมีความสุขไงล่ะ”
เสี่ยวเหอตกใจกลัว ยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่หน้าผาก แต่เหงื่อกลับไหลเหมือนน้ำก๊อก เช็ดตรงนี้เสร็จ ตรงนั้นก็ไหล
“ร้อน…….ร้อนมาก”
เสี่ยวเหอพยายามดึงคอเสื้อให้หลวม ใช้มือพัดลมให้ตัวเอง แต่เธอยิ่งขยับเลือดก็ยิ่งไหลเวียนเร็วขึ้น ยาก็จะออกฤทธิ์เร็วกว่าเดิม
“ทรมานจัง……” เสี่ยวเหอที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ใบหน้าก็เริ่มแดงก่ำ
เย่หว่านเอ๋อเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกา เพิ่งผ่านมาห้านาที ฤทธิ์ยาก็ออกแล้ว ยาตัวนี้ก็ใช้ได้เหมือนกันนี่นา!
เมื่อผ่านไปสิบนาที เสี่ยวเหอที่สะลึมสะลือไม่ได้สติ ชุดแม่บ้านที่เธอสวมใส่ก็ถูกปลดออก เหลือเพียงเสื้อซับในสีขาวที่เธอใส่ซ้อนอยู่ด้านใน
เย่หว่านเอ๋อชายตาไปมองด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : “เป็นไงบ้าง? รู้สึกดีไหม?”
เสี่ยวเหอนอนราบกับพื้น เธอพยายามให้ผิวของเธอสัมผัสไปที่พื้นเย็นๆ หลับตาสนิท เธอร้องครวญครางไม่หยุด : “ร้อน……ร้อน……”
เย่หว่านเอ๋อมองดูผู้หญิงที่สูญเสียสติสัมปชัญญะของตัวเอง เสี่ยวเหอค่อยๆถอดกางเกงของตัวเองออก แววตาของเย่หว่านเอ๋อเต็มไปด้วยความขยะแขยง : “ต่ำ! ปกติเห็นแสร้งทำเป็นเรียบร้อย นึกไม่ถึงว่าลับหลังจะแรดขนาดนี้!”
เธอหยิบมือถือที่วางอยู่ข้างๆขึ้นมา แล้วกดโทรออก : “ขึ้นมาชั้นบน เข้ามาที่ห้องนอนของฉัน”
เพียงครู่เดียว ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอลุกขึ้นแล้วไปเปิดประตู ที่ประตูปรากฏชายผิวดำวัยกลางคนคนหนึ่ง
ชายคนนั้นเมื่อมองเห็นเสี่ยวเหอที่นอนอยู่กับพื้น ก็ตะลึงตาค้าง
“คุณผู้หญิง เธอ……”
เย่หว่านเอ๋อเงยหน้าขึ้น มองไปที่เสี่ยวเหอด้วยสายตาที่เยือกเย็น : “คนขับรถหลัว โสดมาตลอดไม่ใช่เหรอ? ครั้งนี้ ก็ช่วยจัดการหน่อยแล้วกัน”
คุณขับรถหลัวได้ยินดังนั้นแล้ว ก็หันไปมองเสี่ยวเหอ แววตาเต็มไปด้วยความโลภและความต้องการ เขารีบพยักหน้าพร้อมกับพูดขึ้นว่า : “ขอบคุณครับคุณผู้หญิง ขอบคุณครับ!”
เย่หว่านเอ๋อพูดขึ้นต่อว่า : “ลากมันไปชั้นใต้ดิน เบาเสียงหน่อย ได้ยินไหม?”
คนขับรถหลัวรีบพยักหน้า รอที่จะทำเรื่องสกปรกแทบไม่ไหวแล้ว : “เข้าใจแล้วครับ ผมเข้าใจแล้ว!”
เธอยืนรอให้เสี่ยวเหอโดนลากไป ประตูปิดลงดัง”ปัง” ในห้องก็กลับเข้าสู่ภาวะเงียบสงบ
เย่หว่านเอ๋อนั่งอยู่บนโซฟา นึกถึงเรื่องที่จะเกิดต่อจากนั้น ก็รู้สึกขยะแขยงเข้าไปกันใหญ่
ถึงแม้ว่าเธอจะจัดการเสี่ยวเหอแล้ว แต่ความโกรธแค้นในใจยังไม่หายไปไหน
เธอกับอวี้อี่มั่วจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เพราะสักวันหนึ่ง เธออาจจะสูญเสียพี่มั่วไปจริงๆก็เป็นได้!
เพราะฉะนั้น เธอต้องรีบหาวิธีจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด!
แล้วยังหร่วนซือซืออีก เธอจะไม่ยอมให้หร่วนซือซือเข้ามาในชีวิตของอวี้อี่มั่วได้อีกเป็นอันขาด ไม่อย่างงั้นโอกาสที่เธอจะชนะก็จะน้อยลงไป!
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะหร่วนซือซือ เธอกับอวี้อี่มั่วคงไม่เกิดอุปสรรคขึ้น และคงไม่ต้องมาใช้ชีวิตแบบนี้
เย่หว่านเอ๋อยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ความโกรธเกลียดที่มีต่อหร่วนซือซือเพิ่มทวีคูณขึ้นอย่างไม่รู้ตัว กัดฟันแน่น หยิบมือถือขึ้นมา แล้วกดโทรออก
เพียงครู่เดียว ก็มีคนรับสาย เย่หว่านเอ๋อสูดลมหายใจเข้า จับโทรศัพท์แน่น พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ว่า : “ทนายฉิน ฉันไม่สนว่าคุณจะใช้วิธีอะไร ใช้เงินเท่าไหร่ จะต้องประกันตัวเขาออกมาให้เร็วที่สุด”
คนอื่นอาจรอได้ แต่เธอรอไม่ได้แล้ว
เรื่องแบบนี้ จะต้องจัดการให้เร็วที่สุด!
เวลาเดียวกัน ณ ซีเฉียว หร่วนซือซือจู่ๆก็จามสองครั้งติด
“แม่ครับ แม่เป็นหวัดแล้วรึเปล่า?”
ซ่งอี้เซินโผล่หัวออกจากผ้าห่ม ดวงตากลมโตกระพริบเบาๆ มองไปยังหร่วนซือซือ
หร่วนซือซือรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาทันที เธอยื่นมือไปลูบหัวของเขาเบาๆ : “เปล่าหรอก รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้เรายังจะไปเที่ยวที่สวนสนุกนะ”
ซ่งอี้ซาก็โผล่ดวงตากลมโตออกมา พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า : “แม่คะ งั้นพรุ่งนี้หนูพาเพื่อนไปด้วยได้ไหมคะ?”
หร่วนซือซือหัวเราะออกมาเบาๆ ถามกลับไปว่า : “พวกเราเพิ่งมาถึงเจียงโจวเอง หนูก็มีเพื่อนใหม่แล้วเหรอคะ?”
ซ่งอี้ซาพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น : “มีสิ่คะ ก็คุณลุงหล่อๆที่เราเจอที่สนามบินคนนั้นไง เขาบอกว่าเขาเป็นเพื่อนที่ดีของหนูค่ะ!”
เมื่อหร่วนซือซือได้ยินแล้ว รอยยิ้มของเธอก็เจื่อนไป เธอไม่คิดเลยว่าซาซาจะจำอวี้อี่มั่วได้ลึกซึ้งขนาดนี้
สีหน้าของหร่วนซือซือที่ไม่เหมือนเดิม ซาซาจึงเอียงหน้าถามด้วยความสงสัย : “แม่คะ เป็นอะไรไปเหรอ? แม่อารมณ์ไม่ดีเหรอคะ?”
เซินเซินที่อยู่ข้างๆเมื่อได้ยินแล้วจึงพูดขึ้นว่า : “แม่ไม่ชอบคุณลุงคนนั้นมั้ง ครั้งที่แล้วพี่ดูออก”
“เพราะอะไรล่ะคะ คุณลุงคนนั้นออกจะนิสัยดี แล้วก็หล่อมากด้วย……”
“หล่ออย่างเดียวกินไม่ได้ซะหน่อย” เซินเซินพูดด้วยอารมณ์ฉุนหน่อยๆ ยื่นมือมาจับมือของหร่วนซือซือไว้ : “คนที่แม่ไม่ชอบ ผมก็ไม่ชอบด้วยครับ!”
“พี่พูดไปเรื่อย ครั้งที่แล้วพี่ยังบอกกับน้องอยู่เลยว่าคุณลุงหล่อมาก!”
“ใครพูด? พี่ไม่ได้พูดเลย……”
ทั้งสองก็เริ่มเถียงกัน เหมือนอย่างปกติที่เถียงกันทุกวัน
หร่วนซือซือที่นั่งอยู่ขอบเตียง มองดูสองพี่น้องที่เถียงกันไม่มีใครยอมใคร รู้สึกเอือมสองเด็กนี้จริงๆเลย
“พอแล้ว พอแล้ว”
หร่วนซือซือยกมือขึ้นมาตบมือเบาๆให้ทั้งสองหยุด แล้วห่มผ้าให้กับทั้งสอง : “นอนหลับก่อน พรุ่งนี้เราค่อยว่ากันใหม่ โอเคไหม?”
ทั้งสองที่กำลังเถียงกันเป็นตุเป็นตะ ก็เริ่มลังเล สุดท้ายก็พยักหน้าพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
มองดูเด็กทั้งสองที่หลับตาลงอย่างเชื่อฟัง หร่วนซือซือก็ใจอ่อนไปทั้งใจ ลุกขึ้นปิดไฟที่หัวเตียงแล้ว ค่อยๆออกจากห้องไป
ในหัวก็ยังมีคำพูดซาซาที่วนเวียนอยู่ เธอรู้สึกกังวลใจอยู่หน่อย
อวี้อี่มั่วก็เพิ่งเคยเจอหน้ากับซาซาเป็นครั้งแรก ทำไมซาซาถึงติดเขาได้ขนาดนั้น? หรือคำว่าเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ มันจะจริงนะ?
ไม่ได้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะต้องกันไม่ให้เซินเซินและซาซาเจอหน้ากับอวี้อี่มั่วอีกเด็ดขาด!
มีแค่วิธีนี้วิธีเดียว ถึงจะไม่เกิดปัญหาได้!