ดั่งรักบันดาล - บทที่ 427 โดนจับตามองสะแล้ว
ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะการกระทำเล็กๆน้อยในตอนเช้านั้น เลยทำให้บรรยากาศในตอนเช้าของพวกเขากลมกลืนเข้าด้วยกัน
หลังจากที่เก็บของเสร็จเรียบร้อย พวกเขาก็มุ่งหน้าไปที่ลานสระว่ายน้ำที่เซินเซินและซาซาเรียนว่ายน้ำอยู่
ที่นราคือสระว่ายน้ำระดับวีไอพี สภาพแวดล้มดี การสอนดี และแน่นอนว่าค่าเรียนก็ต้องสูง แต่ก็ว่าไม่ได้นะเจ้าตัวเล็กทั้งสองเรียนไปแค่ครั้งเดียวสองครั้ง ทักษะการว่ายน้ำก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
กิจกรรมในครั้งนี้ก็ถือได้ว่าเป็นการทดสอบกลางภาคด้วย ในตอนแรกจะเป็นการแข่งขันว่ายน้ำระหว่างเด็กนักเรียน หลังจากนั้นก็จะให้คุณพ่อคุณแม่ลงไปทำกิจกรรมร่วมกันในน้ำแบบครอบครัว
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันมีทั้งหมดสอบกลุ่ม คุณพ่อและคุณแม่ของผู้เข้าแข่งขันตัวน้อยต่างก็พากันมาอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา หลังจากที่โค้ชหญิงจัดการลงทะเบียนรายชื่อเรียบร้อยแล้ว ก็บอกให้พวกเขาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเตรียมตัวก่อนได้เลย
ในเมื่อเป็นกิจกรรมในน้ำ ซึ่งก็หลีกเลี่ยงการลงน้ำไม่ได้อยู่แล้ว ผู้ปกครองของหลายๆคนต่างก็เปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำกันไปบ้างแล้ว หลังจากที่ซ่งเย้อันพาเซินเซินไปเปลี่ยนชุดแล้วออกมา เขาก็กวาดสายตามองไปรอบสระว่ายน้ำ ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของหร่วนซือซือและซาซา
หลังจากรอไปสักพัก ก็เห็นว่าผู้เข้าแข่งขันตัวน้อยและผู้ปกครองก็มากขึ้นเรื่อยๆ เซินเซินอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า ” พ่อครับ ทำไมคุณแม่กับน้องถึงไม่ออกมากันสักทีนะ? ”
ซ่งเย้อันก้มหน้าลงขยี้ผมเจ้าตัวเล็กเล็กน้อย ” เซินเซิน ลูกผู้ชายต้องมีความอดทนกับผู้หญิงให้มากๆ เข้าใจไหมครับลูก? ”
เซินเซินพยักหน้าราวกับว่าเข้าใจ ซ่งเย้อันมองเขาแล้วหัวเราะ ทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เขาก็เห็นรูปร่างของผู้หญิงตัวสูงและตัวเล็กสองคนเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
หร่วนซือซือสวมชุดว่ายน้ำรัดรูปสีขาว เผยให้เห็นแขนขาที่เรียวยาวของเธอ ผิวพรรณที่ขาวผ่องทำให้คนมองละสายตาไม่ได้ รูปร่างที่สง่างามของเธอกลายเป็นที่ดึงดูดสายตาผู้คนในทันที
ซ่งเย้อันกลืนน้ำลายลงคอ และรู้สึกเร่าร้อนอย่างบอกไม่ถูก
แม้ว่าจะรู้สึกกับหร่วนซือซือมานานหลายปี แต่เธอก็มักจะให้ความรู้สึกที่น่าอัศจรรย์แก่เขาอยู่ทุกครั้ง
ซาซาสวมใส่ชุดว่ายน้ำลายผีเสื้อ น่ารักจนใจแทบจะละลายแล้ว
สองสาวสวยที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวเดินมา ก็ดึงดูดสายตาของผู้คนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้ชายที่อยู่ตรงนั้น
หร่วนซือซือจูงมือซาซาเดินมาอยู่ข้างๆซ่งเย้อัน เมื่อพวกชายพวกนั้นเห็นซ่งเย้อัน ก็เรียบเก็บความคิดพวกนั้นกลับเข้าไปทันที
โบราณเขาว่าไว้หนุ่มหล่อคู่กับสาวสวย คนรอบๆอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ก็ต้องพ่อแม่ที่หน้าตาดีแบบนี้อยู่ด้วยกันนั่นแหละถึงได้มีลูกหน้าตาดีและน่ารักแบบนั้น
ไม่นาน ทุกคนก็มีถึง โค้ชทั้งสองคนแนะนำกฎกติกาให้ทุกคน และเปิดงานอย่างเป็นทางการ
อีกด้านหนึ่งของสระว่ายน้ำ ผู้ชายแต่งตัวดีคนหนึ่งนั่งชมอยู่ข้างๆเวที สายตาเขาจับจ้องไปที่ ” ครอบครัวสี่คน ” ที่ดึงดูดสายตาผู้คนได้มากที่สุด
ในเวลาเดียวกัน ณ อวี้กรุ๊ป
ในห้องประชุมบนตึกสูงนั่งเต็มไปด้วยผู้คน แต่กลับไม่ได้ยินเสียใดในห้องเลยแม้แต่น้อย ทุกคนล้วนแต่นั่งก้มนั่ง บรรยากาศช่างน่ากลัวมาก
เสียงดัง ” เพี๊ยะ! ” เอกสารในมืออวี้อี่มั่วกระทบลงกับโต๊ะอย่างสุดแรงด้วยสีหน้าเย็นชาราวกับเยือกน้ำแข็ง
” นี่คือเอกสารแผนการงานที่พวกคุณส่งมาถึงมือผมที่ผ่านการอนุมัติจากแต่ละแผนกมาแล้วงั้นหรอ? ”
แววตาอวี้อี่มั่วเต็มไปด้วยความโกรธ เขาจ้องไปที่ทุกคนในห้องประชุม
คนพวกนั้นเหมือนนัดกันมาอย่างไรอย่างนั้น ต่างก็พากันเงียบไม่พูดไม่จา
อวี้อี่มั่วค่อยๆกำหมัดแน่น สีหน้าเขาค่อยๆเปลี่ยนไป
ในการประชุมครั้งนี้ที่เขาแสดงอารมณ์โกรธมากขนาดนี้ออกมาก็เพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู ช่วงนี้ผู้บริหารระดับสูงหลายคนในบริษัทมักทำตัวอวดเก่งมากเกินไป เอกสานสำคัญแบบนี้กลับไม่ผ่านเขา แต่กลับส่งเรื่องโดยตรงไปที่อวี้กู้เป่ย
แม้เขาจะยุ่งๆกับเรื่องอื่น แต่ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่านั้นเป็นฝีมือของอวี้กู้เป่ย เขาใช้เงินซื้อตัวพวกนั้นเพื่อที่จะเปลี่ยนระบบบริษัทและยึดอำนาจในมือเขาไป
แม้สุดท้ายเขาจะทำไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยเขาก็คงจะสร้างความสับสนให้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทได้อยู่ไม่น้อย
ช่างเป็นแผนที่แหลมคมมากจริงๆ
อวี้อี่มั่วขมวดคิ้ว เงยหน้ามองผู้จัดการการวางแผน และพูดขึ้นนิ่งๆว่า ” ผู้จัดการฉิน ได้ยินมาว่าช่วงนี้คุณลาบ่อยเพราะธุระของครอบครัว ตอนนี้ผมเห็นว่าคุณไม่มีกระจิตกระใจที่จะทำงาน ผมอนุญาตให้คุณลาพักเลยแล้วกัน คุณคิดว่ายังไง ดีไหม? ”
เมื่อผู้จัดการฉินที่ถูกเอ่ยนามถึงได้ยินเข้า ใบหน้าเขาก็ซีดเซียวทันที
ใครมันจะมองไม่ออกว่าอวี้อี่มั่วหมายความว่ายังไง ความหมายซ้อนความหมาย ปากบอกว่าให้พักแต่จริงๆแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับการออกจากงาน
เขาถึงกับมือสั่น เขาเงยหน้ามองอวี้อี่มั่วด้วยท่าทีที่หนักแน่นพร้อมกับหัวเราะ ” ประธานอวี้ครับ ผมอยู่กับแผนกการจัดการวางแผนมานานหลายปี ถ้าผมหยุดพักกะทันหัน ผมเกรงว่าทางแผนกคงจะไม่มีวิธีการรับมือ……”
อวี้อี่มั่วรู้อยู่แล้วว่าเขาจะพูดอะไร เขายักคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับพูดขึ้นนิ่งๆว่า ” ไม่เป็นไรหรอกครับ รองผู้จัดการอู๋เจิ้นก็รับหน้าที่มานานนับสามปีแล้ว หลายๆเรื่องเขาก็คงมีวิธีรับมือเป็นอย่างดี คุณไปพักอย่างสบายใจเถอะ รอให้คุณกลับมาตำแหน่งผู้จัดการแผนกก็ยังคงเป็นของคุณตามเดิม ”
อวี้อี่มั่วพูดถึงขนาดนี้แล้ว คำพูดพวกนั้นที่ผู้ชายการฉินอยากจะพูดก็ต้องกลืนลงคอไป เขาอ้าปากเหมือนจะพูดแต่สุดท้ายก็ไม่มีเสียงใดเปล่งออกมา
เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าเขายอมตอบตกลง ก็เกรงว่าจะไม่ได้กลับมาอีก
ในขั่ววินาทีนั้น ผู้จัดการฉินก็เสียใจมากที่ตอนนั้นตัวเองเลือกฟังคำของอวี้กู้เป่ย เขาเลือกข้างผิดจริงๆ!
ห้องประชุมเงียบสงบ ทุกคนต่างรอให้ผู้จัดการฉินพูด
อวี้อี่มั่วเงยหน้าขึ้นด้วยท่าทีสบายๆ เขากวาดสายตามองไปทั่วห้องประชุมท จากนั้นก็จ้องไปที่ผู้จัดการฉิน เขารอให้เขาพูดอย่างไม่เร่งรีบ
ทันใดนั้น ก็มีเสียงโวยวายดังมาจากข้างนอก หลังจากนั้นตู้เยี่ยก็เดินออกไป ไม่นานเขาก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขารีบเดินไปหยุดอยู่ข้างๆอวี้อี่มั่วพร้อมกับรายงานเขาว่า ” ท่านประธานครับ อู๋เจิ้นทิ้งจดหมายลาออกไว้ และตัวเขาก็หายไปแล้ว! ”
” อะไรนะ? ”
อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเขาเย็นชามาก
ทางเขาพึ่งจะเผยความตั้งใจว่าจะให้อู๋เจิ้นรับหน้าที่แทน อู๋เจิ้นก็กลับทิ้งจดหมายลาออกไว้อย่างกะทันหัน! มันจะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้ได้ยังไง?
เขาเงยหน้ามองทุกคนด้วยความรู้สึกหงุดหงิด
เขาลุกขึ้นและเดินออกจากห้องประชุมไปทันที
ทันทีที่เขาเดินออกมา ก็กำชับตู่เยี่ยทันทีว่า ” ไปตามอู๋เจิ้นมา ไม่ว่ายังไงก็ต้องหาตัวเขาให้เจอ ฉันอยากพบเขา! ”
เขาดูออกตั้งนานแล้วว่าผู้จัดการฉินโดนอวี้กู้เป่ยซื้อตัวไปตั้งแต่แรก เขาเลยอยากใช้โอกาสนี้ในการบีบให้เขาลาออก แต่ไม่คาดคิดเลยว่าเขาพึ่งจะเอ่ยถึงรองผู้จัดการอู๋เจิ้น อู๋เจิ้นก็ยื่นใบลาออกสะอย่างนั้น
ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้นั้น ไม่จำเป็นต้องพูดก็รู้
อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วแน่น ดวงตาที่เย็นชาของเขาก็เย็นชายิ่งขึ้นอีก เขาพยายามครุ่นคิดถึงรายละเอียดและหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้อง
ตอนนี้ เขากล้าทำอย่างเปิดเผยแบบนี้ ดูเหมือนว่าอวี้กู้เป่ยต้องการที่จะเปิดศึกกับเขาอย่างต่อไปตรงมาแล้วสินะ
ระหว่างพวกเขาทั้งสองคน ต้องมีเรื่องบาดหมางครั้งใหญ่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เมื่อหลายปีก่อนเขาก็ดูออกแล้ว และตอนนี้ดูเหมือนว่าอวี้กู้เป่ยจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
ในใจเขาโกรธขั้นสุดอย่างอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ อวี้อี่มั่วสับขาเดินเข้าไปยังห้องทำงาน เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาวางบนโต๊ะอย่างหงุดหงิด มือเขาเผลอไปสัมผัสกับหน้าจอ ทันทีที่จอภาพสว่างขึ้นเขาก็เห็นมีข้อความใหม่ส่งเข้ามา
” อวี้อี่มั่ว เห็นภาพบรรยากาศแบบนี้รู้สึกยังไงบ้างล่ะ? ”
มีรูปแนบมาด้วย เป็นภาพบรรยากาศของสระว่ายน้ำแห่งหนึ่ง หญิงสาวที่สวมใส่ชุดว่ายน้ำสีขาวยิ้มแย้มสดใสมากและจูงมือเซินเซินที่สวมห่วงยางไว้บนตัว ซ่งเย้อันที่อยู่ข้างก็กอดเอวเธอไว้ มืออีกข้างของเขาก็จูงมือซาซาไว้ ทุกคนในครอบครัวมีความสุข
อวี้อี่มั่วจุกที่อก ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายผุดขึ้นในใจของเขา
ทันใดนั้น สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นลายแมงมุมที่มุมขวาล่างของรูปภาพ แววตาเขาก็บึ้งตึงทันที
เป็นสัญลักษณ์ลายแมงมุมนั่นอีกแล้ว! เห็นได้ชัดเจนว่าแต่งเข้าไปหลังจากถ่ายเสร็จ!
แววตาของอวี้อี่มั่วเย็นชาขึ้นมาก บรรยากาศรอบๆเขาก็เยือกเย็นตามไปด้วย
เมื่อวานที่งาน starlight square หยกอันนั้นและการ์ดใบนั้นที่หร่วนซือซือได้รับมา มันไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาแน่ใจอะไรบางอย่าง แต่จากข้อความนี้เห็นได้ชัดว่าหร่วนซือซือโดนลั่วจิ่วเหยี่ยคอยจับตามองสะแล้ว!