ดาบพิโรธสวรรค์ - ตอนที่ 127
ตอนที่ 127 สมุนไพร
ราชสีห์คลังคําราม คือวิชาชั้นสีดําระดับสูง ใช้การสั่นสะเทือนสร้างคลื่นเสียง และรวมกับพลังวิญญาณเข้าสังหารศัตรู
ยิ่งหลินเซวียนเห็นก็ยิ่งดีใจ เขามีความคิดว่าหากใช้พลังจิตในคลื่นเสียงด้วย เช่นนั้นมันจะกลายเป็นปืนใหญ่ทําลายล้างที่น่าสะพรึง
เพราะการโจมตีโดยใช้จิตนั้นหายากอย่างมาก อย่างน้อยจนถึงตอนนี้ หลินเซวียนยังไม่เคยเห็นใครใช้จิตโจมตีสักครั้ง
เขาอ่านอย่างรวดเร็วและเริ่มฝึกฝน
“โฮก!”
หลินเซวียนคํารามเสียงต่ำเป็นเสียงของราชสีห์ อากาศรอบด้านสั่นไหวจนเป็นคลื่นก่อนจะพุ่งไปชนต้นไม้แตกกระจาย
เมื่อเห็นผลของมัน เขาก็พึงพอใจอย่างมาก รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นทันที จากนั้นเขาได้หันไปมองฝ่ามือทลายภูผา
วิชานี้คือวิชาของตระกูลหลิง มันคือวิชาขั้นวิญญาณระดับต่ำ พลังทําลายล้างของมันน่าสะพรึงอย่างมาก แต่ก่อนหน้านี้เป็นเพราะพลังของศิษย์ตระกูลหลิงต่ำเกินไป มันจึงไม่ได้แสดงประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
ตามที่เขียนไว้ในคัมภีร์ หากฝึกไปจนถึงขั้นสูงสุดได้ มันจะสามารถระเบิดภูเขาได้ถึงห้าลูก
หลินเซวียนพยายามศึกษาอยู่นาน ตอนนี้เขาสามารถใช้ระดับแรกระได้
แต่เขายังไม่กล้าใช้ในราชวังโลหิต หากมีคนทราบเรื่อง เขาเกรงว่าผู้อาวุโสตระกูลหลิงคงไม่ยอมแน่นอน!
ดังนั้นปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่า
หลินเซวียนเริ่มออกค้นหาสมบัติต่อ ภายใต้คําชี้แนะของเซียนสุรา เขาได้มายังสวนสมุนไพร
เห็นได้ชัดว่าที่นี่มีคนอยู่มากมาย ส่วนใหญ่จะอยู่รอบนอก บางคนเท่านั้นที่เข้าไปส่วนลึก
หลินเซวียนใช้นัยน์ตาสีม่วงส่องไปไปมา เขาพบว่าทั้งสวนเต็มไปด้วยเขตอาคม แต่เพราะการคงอยู่มานานเกินไป มันจึงสึกหรอและมีช่องโหวหลายจุด
ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นมันก็ไม่ง่ายสําหรับนักสู้ธรรมดา
แต่ภายในสวนนี้มีสมุนไพรวิเศษมากมายจนดึงดูดผู้คน ถึงแม้มันจะเสี่ยงชีวิต คนเหล่านี้ก็อยากจะเสี่ยงดู
” หญ้าทิเบต!”
ห่างออกไปมีคนตะโกนขึ้น เมื่อได้ยิน พวกเขาจึงพุ่งไปหาศิษย์คนดังกล่าวกันอย่างตื่นเต้น
ตรงหน้าเขามีดอกไม้สีฟ้าอยู่
“มันเป็นยาอายุวัฒนะที่ใกล้จะสูญพันธุ์ในเมืองอวิ่นโจว!” หลินเซวียนผงะเล็กน้อย ดวงตาของเขาเผยประกายสีส้มและขมวดคิ้ว
ภายใต้การกระทํานี้ เขาเห็นหลายอย่างที่คนธรรมดาไม่อาจเห็น
มันมีกับดักอาคมอยู่ใกล้หญ้าทิเบต อีกทั้งยังทรงพลังอย่างมาก มันสามารถสังหารยอดฝีมือขั้นสมุทรวิญญาณได้ง่าย ๆ
” อย่าจับนะ นั่นเป็นกับดัก!” หลินเซวียนกล่าวขึ้นเสียงดัง
ทุกคนหันไปมองเขาอย่างประหลาดใจ บางคนก็เยาะเย้ยกลับ
“เจ้าคิดว่าตนเองเป็นใคร? เจ้าสามารถเห็นกับดักได้ด้วยตาเปล่างั้นหรือ?”
“น่าโมโห ข้าคิดว่าเขาคงอิจฉาเลยพูดเช่นนั้น!”
“อย่าไปสนเลย รีบเก็บหญ้าทิเบตเถอะ!”
หลินเซวียนถอนหายใจและไม่สนใจพวกเขาอีก
ศิษย์คนนั้นจึงค่อย ๆ ยื่นมือลงไปภายใต้สายตาของฝูงชน
ฝ่ามือของเขาเข้าไปใกล้เรื่อย ๆ จนห่างเพียงไม่กี่คืบ จากนั้นอากาศรอบด้านหญ้าทิเบตเริ่มกระเพื่อม
สายฟ้าปรากฏขึ้นกลางอากาศและโจมตีศิษย์คนนั้นโดยตรง พลังทําลายล้างของมันรุนแรงจนเขาตายคาที่
พุบ!
ร่างของเขาไหม้เกรียมและทรุดลงกับพื้น
“…”
ทั้งกลุ่มเหงื่อแตกและมีเพียงความเงียบงัน น่ากลัวมาก ตอนแรกมันดูไม่มีอะไรเลย แต่ทันใดนั้นก็เกิดสายฟ้าขึ้น สิ่งนี้ทําให้พวกเขากลัว
นอกจากความกลัวแล้ว พวกเขายังชื่นชมหลินเซวียนด้วย เขาเป็นคนเดียวที่สามารถเห็นอันตรายเหล่านี้ คนแบบนี้นับว่าหายาก
ศิษย์มากมายต่างพากันละอายใจที่เย้ยหยันเขาไป พวกเขาทราบว่ามันคือความผิดพลาดของตน ศิษย์หลายคนเริ่มหันไปมองหลินเซวียน แต่เขาไม่อยู่ที่เดิมแล้ว
”เขาอยู่นั่น!”
ท้ายที่สุดก็มีคนหาเขาพบ ตอนแรกพวกเขาอยากจะขอคําแนะนําจากหลินเซวียน
แต่เมื่อเห็นว่าหลินเซวียนเข้าไปลึกแล้วพวกเขาจึงไม่สามารถพูดอะไรได้อีก ศิษย์มากมายต่างพากันกัดฟันกลืนความเสียใจ
หลินเซวียนยืนอยู่ในสวนสมุนไพร และค่อย ๆ เดินอย่างระมัดระวัง
ทุกครั้งที่เก็บ เขาจะทิ้งรากหรือเมล็ดไว้ด้วย ดังนั้นสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้จึงมีชีวิตอยู่ต่อเพียงชั่วพริบตา เขาเก็บสมุนไพรวิญญาณได้ถึงห้าชนิด
ตอนนี้เขาจึงออกจากสวนสมุนไพรและไปยังที่อื่นต่อ
ผ่านมาได้ชั่วครู่ เขาได้มาถึงยังอีกแห่ง มันมีเหมือนอาคารรูปบ้านอยู่ตรงหน้าและมีคนอยู่รอบ
ในหมู่คนเหล่านั้น หลินเซวียนพบว่ามีหว่านเจี้ยนซิง อ้วนเฟย และศิษย์คนอื่น ๆ อยู่อีกมาก
เมื่อมาถึง ศิษย์หลายคนได้หันไปมองเขาก่อนจะหันกลับไป
หลินเซวียนก็ไม่ได้สนใจ ในกรณีนี้ ยิ่งผู้คนสนใจเขาน้อยเท่าไหร่ มันยิ่งดีเท่านั้น
” หากข้าไม่ผิด นี่น่าจะเป็นสถานที่สําหรับกลั่นยา” บางคนกล่าว ” ข้าไม่รู้ว่าทําไม นาน ๆ ทีจะมียาพุ่งออกมาจากบ้านหลังนั้น”
” พวกเราฟังเข้าไปเลยไม่ได้หรือ?” ที่นี่มีศิษย์หัวกะทิมากมาย แต่พวกเขาก็ได้ลองทุกวิธีแล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครสามารถทําลายประตูและฟังเข้าไปได้
หลินเซวียนยืนดูอยู่ข้าง ๆ และเข้าใจสถานการณ์
“มันเป็นไปไม่ได้เลยหรือที่จะเข้าไป?” หลินเซวียนถามเซียนสุรา
“ยากมาก! หากขั้นพลังเจ้าสูงกว่านี้อาจจะทําได้ แต่ตอนนี้มันยากเกินไป!” เซียนสุรากล่าว
หลินเซวียนถอนหายใจ เวลานี้บ้านตรงหน้าส่องประกายและน่าดึงดูดอย่างมาก
“มียากําลังจะออกมากแล้ว!”
ศิษย์บางคนตะโกนขึ้น จากนั้นพวกเขาได้จ้องมองขึ้นไปบนฟ้า
หลินเซวียนดูอย่างระมัดระวัง เขาพบว่ามียาเม็ดกําลังพุ่งออกมา ทุกเม็ดจะแตกต่างกัน บางเม็ดสีขาว บางเม็ดสีแดง บางเม็ดลูกใหญ่ บางเม็ดก็เล็กเท่าองุ่น
“อันที่อยู่ด้านซ้ายสุด!” เซียนสุราเอ่ยขึ้น
หลินเซวียนมองอย่างประหลาดใจ
เม็ดที่เซียนสุราบอกเป็นเม็ดที่เล็กที่สุด และสียังหม่นหมองราวกับยาเสีย
บางคนกระโดดขึ้นไปคว้าเม็ดใหญ่สุด ถึงแม้หลินเซวียนจะสงสัย เขาก็ยังพุ่งไปคว้าเม็ดสีดําไว้
มันมียาอยู่ห้าเม็ด ในหมู่เม็ดยาเหล่านั้น เม็ดที่ใหญ่ที่สุดล่อตาล่อใจทุกคนรอบด้าน ในยาที่หลินเซวียนไปเอานั้นมีคนแย่งกันเพียงสามคน
หลินเซวียนคือหนึ่งในพวกเขา อีกคนคือศิษย์สํานักดอกบัว อีกคนเป็นศิษย์ตระกูลเฉินจากสี่ตระกูลใหญ่ ทั้งสองอยู่ขั้นสมุทรวิญญาณระดับกลาง ลมหายใจจึงแข็งแกร่งอย่างมาก
เป้าหมายของพวกเขาคือเม็ดยาสีหม่นมองเหมือนกับหลินเซวียน