ดาบพิโรธสวรรค์ - ตอนที่ 140
ตอนที่ 140 คลุ้มคลั่ง
โซ่สีดําปรากฏขึ้นรอบด้านหลินเซวียนอีกครั้ง
“ก้าวอัสนี!”
หลินเซวียนรีบพุ่งหนีพร้อมทิ้งร่างเงาสายฟ้าไว้
หมอกทมิฬพุ่งเข้าโจมตีร่างเงาสายฟ้าทันที
ขณะเดียวกัน สตรีชุดขาวได้เริ่มสู้กับชายชุดดําต่อ
ฝ่ามือสีขาวของนางนั้นงดงามอย่างมาก ทุกครั้งที่มันปรากฏจะมีแสงส่องสว่างออกไปทั่วทิศหมอกทมิฬที่ถูกโจมตีจะหายไปทันที
แต่นางก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย ทุกครั้งที่ประมือ มันจะมีบาดแผลปรากฏขึ้นบนร่างของนาง ซึ่งมันดูเจ็บปวดไม่น้อย
ไม่นานสตรีชุดขาวก็เริ่มเสียเปรียบ
” ผสานสายฟ้ากับลม”
ดาบอันทรงพลังได้ตัดไปยังชายชุดดําอย่างรวดเร็ว
ชิ้ง!
เงาดาบยาวสิบปิ้งได้ฟันผ่าลงพื้นพร้อมประกายสายฟ้าที่สั่นสะเทือนมิติ
มันเป็นการโจมตีที่ไม่ทันตั้งตัว ชายชุดดําได้รับผลจากสายฟ้าทันทีก่อนจะถอยออกไป
เขาไม่ได้สนใจหลินเซวียนหลังจากใช้คุกนรก แต่ไม่คาดคิดว่าร่างที่โดนคุกนรกตรึงจะเป็นเพียงภาพลวงตา
“กรงเล็บปีศาจ!”
กรงเล็บสีดําขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้าหลินเซวียน
ตู้ม!
กรงเล็บปีศาจพุ่งผ่านอากาศ แรงกระแทกของมันสามารถทําลายภูเขาได้
หลินเซวียนต้องการจะหนี แต่ก็พบว่าถูกล้อมโดยหมอกทมิฬ เขาทําได้แค่รับมันตรง ๆ
” ปราณดาบคุ้มภัย!”
ร่างของหลินเซวียนปรากฏปราณดาบสีแดงขึ้น ขณะเดียวกัน ชุดเกราะโบราณในตัวก็เริ่มทํางานเช่นกัน
ตู้ม!
เมื่อกรงเล็บปีศาจแตะเข้ากับร่างหลินเซวียน ปราณดาบสีแดงรอบตัวเขาถึงกับระเบิดออกทันที ขณะเดียวกัน เขาสัมผัสได้ถึงแรงดันมหาศาล
พลังวิญญาณและเลือดลมในร่างของเขาแปรปรวน มันรู้สึกราวกับร่างกายจะระเบิดออก
โชคดีที่มันมีการป้องกันจากชุดเกราะโบราณ เขาจึงต้านทานการโจมตีนี้ได้
ตุ้ม!
หลินเซวียนพุ่งหนีออกไปอีกฝังทันที
” บัดซบ โคตรแรงเลย!” หลินเซวียนอาเจียนออกมาเป็นเลือด ใบหน้าของเขาเผยความโกรธอย่างชัดเจน
ครั้งนี้เขาได้รับบาดเจ็บหลายจุดรวมถึงอวัยวะภายใน หากไม่ใช่เพราะชุดเกราะโบราณ การโจมตีเมื่อครู่คงสังหารเขาไปแล้ว
เขานําขวดสุราขึ้นมาดื่มและเดินพลังคงกระพันเพื่อรักษาอากาศบาดเจ็บทันที จากนั้นจึงค่อยๆ ยืนขึ้น
” ทําไมยังมีชีวิตอยู่อีก?” ชายชุดดําที่ต่อสู้กับสตรีชุดขาวอยู่ประหลาดใจเมื่อเห็นว่าหลินเซวียนยังไม่ตาย
การโจมตีของเขาเมื่อครู่มันเพียงพอจะสังหารยอดฝีมือขั้นสมุทรวิญญาณขั้นกลางระดับสามได้ แต่หลินเซวียนกลับแค่บาดเจ็บ
“ในตัวเจ้ามีของวิเศษมากมายเลยสินะ เมื่อเจ้าตาย พวกมันก็จะเป็นของข้า!” ชายชุดดําเย้ยเยาะ
กรงเล็บปีศาจได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งกลางอากาศ แรงดันวิญญาณที่น่าสะพรึงกวาดออกไปรอบด้าน
ม่านตาหลินเซวียนจมลง เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความอันตรายถึงตาย
โชคดีที่สตรีชุดขาวเข้ามาช่วยไว้ทันเวลา นางเข้าไปสกัดกรงเล็บปีศาจได้ในครั้งนี้
หลินเซวียนยืนมองอย่างเย็นเยือก เขาต้องสังหารชายชุดดําให้เร็วที่สุด มิเช่นนั้นเขาอาจต้องตายอย่างอนาถ
เพราะหากชายชุดดําใช้กรงเล็บปีศาจอีก เขาคงรับมือไม่ไหวแน่
“ลองชิมอันนี้ดู” หลินเซวียนนํายอดเขาทมิฬที่ได้จากหลิงเฟิงออกมา
หลังจากโคจรพลังวิญญาณลงไป หินแปดเหลี่ยมก็ส่องแสงขึ้นก่อนจะตามมาด้วยพลังกดดันอันหนักอึ้ง
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังกดดัน ทั้งสตรีชุดขาวและชายชุดดําต่างประหลาดใจ
หากเป็นข้างนอก พวกเขาจะไม่กลัวเลย แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่ในพื้นที่ทดสอบโลหิต ซึ่งขั้นพลังถูกลดลง ดังนั้นมันจึงอันตรายถึงชีวิต
ฟิ้ว!
ชายชุดดําตัดสินใจพุ่งไปหาหลินเซวียน
“ถอยเร็ว!” สตรีชุดขาวตะโกนขึ้น ขณะเดียวกันนางรีบใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปขัดขวาง
“ไปเลย!” หลินเซวียนใช้ยอดเขาทมิฬ
ยอดเขาขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นกลางอากาศ มันบดบังแสงทั้งหมดที่ส่องเข้ามาทันที
มันค่อย ๆ หมุนก่อนจะกดลงพื้นด้านล่าง
”เงาใต้พิภพ!”
ชายชุดดําหลบการโจมตีของหลินเซวียนและพุ่งตรงมา
“ไอ้เด็กบัดซบ ตายซะ!”
ชายชุดดําเผยกรงเล็บอันมืดมนตรงหน้า มันเต็มไปด้วยรังสีพลังที่น่าขนลุก
หลินเซวียนสัมผัสได้ถึงความตายจนผมของเขาลุกตั้ง เขาพยายามกระตุ้นชุดเกราะโบราณอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันปราณดาบสายฟ้าได้ปรากฏขึ้นรอบตัว
”ย๊าก!!!”
เวลานี้หลินเซวียนใช้ทุกอย่างที่มี
ตู้ม!
กรงเล็บปีศาจถูกสตรีชุดขาวทําลายจนระเบิดออก
แรงระเบิดทําให้ทั้งสามถอยออกไปคนละทิศทาง บนอากาศ ยอดเขาทมิฬยังคง เล็งไปยังชายชุดดํา
หลินเซวียนกระอักเลือดอย่างรุนแรง
กระดูกหลายท่อนในตัวเขาเกือบจะหัก อีกทั้งอวัยวะภายในยังได้รับแรงกระแทกมากมาย
มันเป็นครั้งแรกที่เขาบาดเจ็บขนาดนี้
ฟุบ!
หลินเซวียนทรุดลงกับพื้น
เขาพยายามข่มความเจ็บปวดไว้และดื่มสุราวิญญาณเพื่อรักษาตัวเอง
พลังคงกระพันของเขาเริ่มฟื้นฟูร่างกายอีกครั้ง
อีกด้านหนึ่ง ชายชุดดํากําลังหาทางรับมือกับยอดเขาทมิฬ
หมอกทมิฬบนร่างของเขากระจายออกมาและรวมตัวกันเป็นโครงกระดูก เขายกมือขึ้นเพื่อป้องกัน
“อย่าปล่อยเขาหนี!” หลินเซวียนตะโกนขึ้น
สตรีชุดขาวพุ่งออกไปราวกับนางฟ้า นางสร้างดอกบัวขึ้นมาจากนั้นได้ใช้มันล้อมมิติไว้
ดอกบัวสีเขียวราวกับคมดาบ มันตัดผ่านมิติไปยังชายชุดดํา
“ความมืดกลืนสวรรค์!? ชายชุดดําตะโกนขึ้น จากนั้นโลหิตสีดําของเขาได้ไหลออกมาจากร่างกาย มันราวกับว่าเขากําลังใช้วิชาลับอะไรบางอย่าง ลมหายใจของเขารุนแรงขึ้นอย่างชัดเจน
ดอกบัวสีเขียวถูกตัดออกทันทีโดยหมอกสีดํา อีกทั้งพลังงานอันน่าสะพรึงยังกวาดไปทั่วพื้นที่
หลินเซวียนใช้นัยน์ตาสีม่วงตรวจดู เขาพบว่าายชุดดําบาดเจ็บหนักจริง แต่ยังไม่ตาย
“ลองอีกที!”
เขานําปลอกแขนทองแดงออกมา พลังวิญญาณในตัวหลินเซวียนเหลืออีกไม่มาก ดังนั้นจึงสามารถใช้ได้อีกครั้งเดียว
แสงสีขาวสว่างขึ้นขณะที่หลินเซวียนยกมือซ้ายเล็งไปทางชายชุดดํา
“มันจบแล้ว!”
พลังงานสีฟ้าพุ่งออกมาและตรงไปยังชายชุดดํา
“ดอกบัวเขียวกล่อมฟ้า!” สตรีชุดขาวขยับมือร่ายรํา ดอกบัวสีเขียวได้แหวกผ่านมิติออกมา
เมื่อสัมผัสได้ถึงอันตราย ชายชุดดําจึงคิดจะหนี
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เขากระแทกไปทางซ้ายและขวาสลับไปมาจากการโจมตีของทั้งสอง
เวลานี้ ชายชุดดําถูกขังอยู่กลางอากาศและยากที่จะหลบหนี
ประกายแสงกะพริบอยู่รอบตัวเขา
” หากอยากให้ข้าตายนัก… เช่นนั้นก็มาตายด้วยกัน!” ชายชุดดําหัวเราะขึ้นดังก่อนที่ร่างกายจะขยายใหญ่ขึ้น
“ไม่นะ เขากําลังจะระเบิดตัวเอง!” สตรีชุดขาวรีบเบิดเกราะป้องกันอย่างเต็มที่
หลินเซวียนก็ใช้พลังวิญญาณที่เหลือโคจรไปยังชุดเกราะโบราณ
ตุ้ม!!!
มิติรอบด้านถูกทําลาย เสียงระเบิดดังก้องอยู่นาน พลังวิญญาณกระจัดกระจายไปทุกหนแห่ง
ด้านนอกประตูโลหิต เจิ้งจอิ่นและคนอื่น ๆ ถึงกับประหลาดใจ
เพราะแรงระเบิดข้างในนั้นทําให้ข้างนอกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
” พลังอะไรกัน?” ผู้คนมากมายต่างมองอย่างผวา