ดาบพิโรธสวรรค์ - ตอนที่ 48
ตอนที่ 48 เริ่มการทดสอบรอบที่สอง!
ความแข็งแกร่งของหลินเซวียนนั้น เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อาจหยั่งรู้ได้ ถึงแม้พวกเขาจะไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรวู่วามที่นี่ พวกเขาทำได้แค่ส่งเสียงฮึดฮัดก่อนจะหันหลังไป
หลังจากหลินเซวียนขึ้นมาได้ไม่นาน ขั้นบันไดที่เก้าสิบเก้าก็ถูกปิดด้วยเมฆหมอก บนท้องฟ้า ชายวัยกลางคนชุดคลุมสีม่วงได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขาสะบัดมือเล็กน้อย จากนั้นแสงสีดำหลายเส้นได้พุ่งไปหาศิษย์ที่ผ่านการทดสอบ
หลินเซวียนคว้าวัตถุที่ลอยมานั้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเปิดดู มันเขียนไว้ว่า ‘135’ เขามองหยินฉิงอี้ นางได้เลข ‘134’
“ไม่คาดคิดเลยว่าศิษย์นับแสนคนจะเหลือเพียงแค่ร้อยกว่าคน การทดสอบนี้เข้มงวดอย่างแท้จริง!” หลินเซวียนแอบถอนหายใจเบา ๆ
“ขอแสดงความยินดีที่ผ่านการทดสอบแรกมาได้ ตอนนี้พวกเจ้าจะได้ผ่านไปยังการทดสอบที่สอง” ชายวัยกลางคนกล่าว “ลงไปจากภูเขานี้ ที่นั่นจะมีคนอธิบายการทดสอบต่อ”
เมื่อได้ยิน พวกเขาจึงพากันลงไปยังภูเขาทันที เมื่อลงมาถึงด้านล่าง เสียงระเบิดได้ดังขึ้นด้านหลัง จากนั้นภูเขาเมฆาอัสนีได้หายไปอย่างช้า ๆ คนอื่นไม่ได้สนใจในการเปลี่ยนแปลงนี้ แต่หลินเซวียนไม่ใช่ เขามองมันอย่างเสียดาย “อ๊ะ มันยังมีพลังงานสายฟ้าสีทองที่เรายังไม่ดูดซับอยู่เลย!”
หลินเซวียนส่ายหัวข่มอารมณ์ไว้ในใจก่อนจะหันไปมองตรงหน้า
“ศิษย์ทุกคนขึ้นมายังลานประลอง!” เสียงหนึ่งได้ดังขึ้นผ่านหูพวกเขา จากนั้นศิษย์ผู้ที่สอบผ่านด่านแรกได้เดินขึ้นไปยังลานประลอง
“ดูเหมือนการทดสอบที่สองจะเป็นการประลองยุทธ์” หลินเซวียนนึกคิดในใจ
“สวัสดีเจ้าทึ่ม ทำไมถึงขึ้นมาช้านัก?” ถังอวี้โน้มตัวลงมาและเงยหน้าถามหลินเซวียน
“เอ่อ ข้าขอโทษ เป็นเพราะข้าเอง ศิษย์พี่หลินเลยช้าไปด้วย” หยินฉิงอี้ที่อยู่ด้านข้างหลินเซวียนได้รีบกล่าวแทน
“ไม่มีอะไรหรอก” หลินเซวียนรีบตอบแทนหยินฉิงอี้อย่างรวดเร็วก่อนจะอธิบายให้ถังอวี้ “เมื่อวานนี้ข้าตื่นเต้นเกินไปจนนอนไม่ค่อยหลับ”
เวลานี้มีสาวงามสองคนอยู่กับเขา มันทำให้หลินเซวียนยิ่งดึงดูดสายตาผู้คนมากขึ้น ศิษย์ชายมากมายต่างมองเขาด้วยสายตาอันแหลมคม หากสามารถตายด้วยสายตาได้ หลินเซวียนคงตายไปนับพันครั้งแล้ว
เวทีประลองนั้นกว้างขวางอย่างมาก เมื่อพวกของหลินเซวียนมาถึง พวกเขาก็พบว่ามีคนมากมายอยู่ที่นี่แล้ว
ในทางทิศเหนือจะมีอัฒจันทร์สีทอง ส่วนรอบด้านจะเป็นอัฒจันทร์ธรรมดาที่เต็มไปด้วยผู้คน
เมื่อมองดูดี ๆ จะเห็นว่าพวกเขากำลังตื่นเต้นอย่างมาก
หลินเซวียนและศิษย์อีกหนึ่งร้อยสี่สิบคนกำลังยืนรออยู่บนลานประลองอย่างเงียบ ๆ แต่บรรยากาศนั้นกลับเต็มไปด้วยไฟแห่งการต่อสู้
ไม่มีใครอยากจะพ่ายแพ้ พวกเขาทุกคนล้วนต้องการแสดงศักยภาพของตนเองต่อหน้าผู้คน นอกจากนั้นมันยังจะได้เข้าไปสำนักชั้นในอีก หากแสดงออกมาดี บางทีผู้อาวุโสบางคนจากสำนักชั้นในจะถูกใจจนรับเป็นศิษย์ส่วนตัว เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ บรรดาคนหนุ่มสาวบนเวทีต่างพากันตื่นเต้น
เพียงไม่นาน ประกายแสงได้ปรากฏขึ้น และตามมาด้วยลมหายใจอันทรงพลังของผู้ที่ปรากฏตัวบนลานประลอง
พวกเขาเปล่งแสงราวกับเปลวเพลิง ผ้าคลุมด้านหลังพริ้สไสวไปกับแรงลม ผู้คนกำลังมองพวกเขาราวกับเทพเจ้า
ทั้งลานประลองได้เข้าสู่ความเงียบ
หลินเซวียนรู้สึกถึงแรงกดดันอันมหาศาลจากคนเหล่านี้จนต้องโคจรพลังต้าน ไม่ใช่แค่หลินเซวียน แต่ศิษย์ทั้งหมดต่างพากันหน้าซีด กระทั่งบางคนยังเผยถึงความกลัวออกมา
ทันใดนั้นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งได้เดินออกมากล่าว “เอาล่ะ การทดสอบรอบที่สองคือการประลองฝีมือ“
“ตัวเลขที่อยู่บนตราในมือพวกเจ้า มันคืออันดับและสิ่งที่ใช้แสดงตำแหน่ง ทุกอันดับจะมีรางวัลให้ และการทดสอบที่สองก็เช่นกัน”
“รางวัลของการทดสอบที่สองคือ ผู้ที่ได้อันดับหนึ่งจะได้รับโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ วรยุทธ์ขั้นสีดำระดับสูง และอาวุธขั้นมนุษย์”
“อันดับสองจะได้วรยุทธ์ขั้นสีดำระดับกลางและสมุนไพร”
……
ฟืด!
บรรดาศิษย์บนเวทีประลองต่างหายใจกันแรง วิชาขั้นสีดำระดับสูง และอาวุธขั้นมนุษย์! ของเหล่านี้นับว่าล่อตาล่อใจพวกเขาอย่างมาก อีกทั้งยังมีโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ สิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้พวกเขาแทบจะคลุ้มคลั่ง
“โอสถวิญญาณบริสุทธิ์คืออะไรงั้นหรือ?” หลินเซวียนรู้สึกสงสัย
“เจ้างั่ง!” ถังอวี้ดูหมิ่นกลับอีกครั้ง “โอสถวิญญาณบริสุทธิ์คือโอสถระดับสาม หลังจากคนธรรมดากินมันในขั้นเปิดชีพจร คนผู้นั้นจะบรรลุไปอีกระดับได้ทันที หากกินตอนอยู่ขั้นเปิดชีพจรระดับเก้า ผู้ใช้ก็มีโอกาสเปิดทะลวงไปยังขั้นสมุทรวิญญาณได้อย่างรวดเร็ว นี่คือสมบัติที่ผู้ใช้พลังวิญญาณหมายปอง!”
“เพิ่มระดับขั้นพลัง อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสบรรลุขั้นสมุทรวิญญาณ!” หลินเซวียนสูดหายใจลึก “เขาจะต้องเอาสิ่งนี้มาให้ได้!”
ไม่เพียงแค่หลินเซวียน แต่ศิษย์ทุกคนต่างคิดเหมือนเขา พวกเขาอยากจะเริ่มการประลองตั้งแต่ตอนนี้แล้ว
เมื่อชายวัยกลางคนเห็นว่าบรรยากาศเริ่มเดือดขึ้นจึงได้เผยรอยยิ้ม “ตัวเลขของพวกเจ้าใช้แทนในการเรียกชื่อ หากถูกกรรมการจับเลขขึ้นมา พวกเจ้าจะต้องขึ้นมาประลองกันทันที สำหรับรางวัลของการทดสอบรอบแรก ผู้ที่ผ่านยอดเขาสิบอันดับแรกไม่ต้องประลองในรอบนี้!”
“ตอนนี้การทดสอบรอบที่สองเริ่มได้!”
ขณะเดียว ชายวัยกลางคนทั้งห้ากำลังยืนจับฉลากในกล่องอยู่บนเวที
ผู้คนต่างพากันอิจฉาสิบอันดับแรก และภาวนาให้คู่ต่อสู้ของตนนั้นอ่อนแอ
เพียงไม่นานเสียงประกาศได้ดังขึ้น
“การประลองในลานที่หนึ่ง หมายเลข 38 พบกับ หมายเลข 53”
“การประลองในลานที่สอง หมายเลข 77 พบกับ หมายเลข 63”
……
ศิษย์ทั้งสิบคนที่ถูกขานชื่อได้ขึ้นไปเตรียมตัวบนลานประลอง ถึงแม้อันดับจากการทดสอบแรกจะแตกต่างกัน มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกที่อยู่อันดับต่ำกว่าจะอ่อนแอ เพราะการทดสอบแรกนั้นทดสอบเกี่ยวกับความเพียรและศักยภาพ ไม่ได้ทดสอบทักษะการต่อสู้และวรยุทธ์
ในการประลองของเวทีแรก หมายเลข 35 เอาสามารถชนะหมายเลข 38 ได้ และได้เข้าไปยังรอบต่อไป
หลินเซวียนและคนอื่น ๆ ยืนชมอยู่ด้านข้าง ส่วนหลิวหยุนนั่งบ่มเพาะพลังโดยไม่สนใจใคร กล่าวได้ว่า ไม่มีใครในที่นี้สามารถเป็นคู่ต่อสู้กับเขาได้
หลังจากการประลองจบลง ผู้ตัดสินได้เริ่มประกาศอีกครั้ง และครั้งนี้หลินเซวียนได้อยู่ในการประลองด้วย
“หมายเลข 135 พบกับ หมายเลข 88”
บนลานประลองที่ห้า หลินเซวียค่อย ๆ ก้าวขึ้นบันได ขณะที่คู่ต่อสู้ยืนรออยู่นานแล้ว
“เยี่ยมไปเลย ข้าช่างโชคดีนักที่ได้สู้กับหมายเลข 135! ดูเหมือนรอบนี้จะผ่านไปได้อย่างง่ายดายเสียแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวเย้ยหยัน เขามองหลินเซวียนด้วยดวงตาแห่งความสุข
หลินเซวียนยังคงสงบนิ่ง
เจียงอู่หลงก็มองหลินเซวียนชั่วครู่และไม่สนใจอีก บรรดาศิษย์ระดับสูงสนใจเวทีที่ห้าเพียงชั่วครู่ก่อนจะหันไปมองเวทีที่สอง บนเวทีนี้คือการประลองของหมายเลข 15 และ หมายเลข 21 พวกเขาเป็นศิษย์ที่มีฝีมือ ดังนั้นจึงได้รับการสนใจจากผู้คนในทันที