ดาบพิโรธสวรรค์ - ตอนที่ 87
ตอนที่ 87 ทำลายความมั่นใจ
ดาบของจางเฉียนเปล่งประกายและตามมาด้วยเสียงหัวเราะ
“หลินเซวียน…” เย่ฉิงและคนอื่น ๆ มองอย่างวิตกกังวล หากมันเป็นอย่างที่จางเฉียนว่า สถานการณ์ของหลินเซวียนตอนนี้นับว่าอันตราย
“ไม่ต้องห่วงศิษย์น้องเย่ น้องหลินยังไม่ได้ใช้ดาบเลย” หลัวซิงชานยังไม่ลืมฉากบนผาเทพวายุในวันนั้น เขารู้สึกไว้วางใจหลินเซวียนอย่างอธิบายไม่ได้
“เกราะพลังกาย?” หลินเซวียนเอ่ยเบา ๆ จากนั้นเขาได้ขยับแหวนที่นิ้วเพื่อเรียกดาบเพลิงโลหิต
“ดาบวายุสามวิถี!”
วิชาดาบของหลินเซวียนแข็งแกร่งอย่างมาก มันก่อตัวเป็นพายุสีเขียวก่อนจะพุ่งออกไปตรงหน้าทั้งสามทิศทาง
“ปฐพีดาบคลั่ง!”
ขณะเดียวกัน วิชาดาบของจางเฉียนได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง จากนั้นใบมีดได้ส่องสว่างเป็นสีแดง ทันใดนั้น ความร้อนได้ปะทุขึ้นกลางอากาศราวกับทะเลเพลิงที่กำลังจะเข้าท่วมลานประลอง
ทะเลเพลิงอันร้อนแรงเข้ากลืนกินหลินเซวียนทันที เขารู้สึกร้อนจนแสบผิวหนัง
“ปราณดาบคุ้มภัย!” หลินเซวียนเอ่ยเสียงเย็นเยือก จากนั้นไอพลังสีเขียวเข้มได้ปรากฏขึ้นรอบตัวเขาเพื่อปัดเปลวเพลิงรอบด้าน
“ก้าวอัสนี!” เขาพุ่งไปทางจางเฉียนอีกครั้ง
“ไร้ประโยชน์ เจ้าไม่สามารถทะลวงเกราะป้องกันข้าได้หรอก!” จางเฉียนแสยะยิ้มพร้อมอ้าแขนรับดาบของหลินเซวียน
ประกายแสงสีเขียวของหลินเซวียนเข้ากระหน่ำจางเฉียนทันที
เมื่อเห็นฉากนี้ ผู้ชมรอบด้านต่างพากันอุทานขึ้น
“ช่างโง่เขลาจริง ๆ ที่กล้าประลองฝีมือกับศิษย์พี่จาง เขาไม่รู้ความต่างระหว่างพลังเลยหรือไง?”
“เพราะความเย่อหยิ่งนะสิ!”
“รนหาที่ตายโดยแท้!”
กลุ่มคนส่ายหัวพร้อมถอนหายใจ พวกเขาไม่คิดว่าหลินเซวียนสามารถทะลวงเกราะป้องกันของจางเฉียนได้
มู่หรงเฉียนหลิงขมวดคิ้วเช่นกัน นางไม่พอใจที่หลินเซวียนจะยังสู้ แต่ก็ต้องประหลาดใจในความผิดปกติของหลินเซวียน ‘นี่แค่สองวัน แต่หลินเซวียนกลับบรรลุปราณดาบคุ้มภัยระดับแรกแล้ว’
นางที่เป็นอาจารย์ใช้เวลากว่าครึ่งเดือนกว่าจะบรรลุระดับแรก และพรสวรรค์ของนางยังทำให้อยู่ในสิบอันดับแรกของสำนักซวนเทียน!
“อัจฉริยะคนนี้จะตายในที่แบบนี้ไม่ได้!” ดวงตาของมู่หรงเฉียนหลิงเปิดกว้าง
เวลานี้บนลานประลองเป็นตายกำลังสู้กันอย่างดุเดือด
ตู้ม! ตู้ม!
แสงสีเขียวและสีแดงประสานกันจนเกิดเสียงดังก้องสนั่นฟ้า
ดาบของจางเฉียนฟันไปที่หลินเซวียนพร้อมส่งเสียงเย้ยเยาะ ปราณดาบคุ้มภัยของเขาถูกฟันลงมาครึ่งหนึ่ง และหยุดดาบของจางเฉียนไว้ได้
หลินเซวียนรู้สึกดีใจเมื่อเห็น เขาพยายามอย่างเต็มที่ในการป้องกันร่างกายตนเอง ปราณดาบคุ้มภัยนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก อีกทั้งจางเฉียนยังไม่ได้เอาจริง เพราะขั้นพลังที่ต่ำกว่าของหลินเซวียนไม่มีค่าพอให้เขาใช้พลังทั้งหมด
“สายฟ้า!” หลินเซวียนรีบโคจรพลังสายฟ้าในตัวกลับทันที
ประกายไฟฟ้าปรากฏขึ้นรอบตัวของเขา จางเฉียนคือคนที่รับกระแสไฟฟ้าตรงหน้าโดยตรง มันไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาราวกับสายน้ำ
ทันใดนั้นเขาสัมผัสได้ถึงอาการชาไปทั้งตัว ทั้งพลังวิญญาณ และการเคลื่อนไหวของเขาช้าลงถึงสามระดับ หากเป็นในวันปกติ การถูกช็อตเช่นนี้แทบไม่มีปัญหาอะไร แต่ตอนนี้เขาเผชิญหน้าอยู่กับหลินเซวียน การหยุดชะงักเพียงเวลาสั้น ๆ นั้นอันตรายถึงชีวิต
ด้วยพลังของเจตนารมณ์แห่งดาบระดับเล็ก ดาบของหลินเซวียนสามารถทะลวงพลังป้องกันของจางเฉียนได้ และมันสร้างบาดแผลบนตัวของจางเฉียนไว้
กระบวนการนี้เกิดขึ้นรวดเร็วมาก ก่อนหน้านี้หลินเซวียนใช้เจตนารมณ์แห่งดาบพร้อมเพ่งสมาธิให้มันไปอยู่ในดาบ และไม่ได้ปล่อยให้ฟุ้งกระจายออกมา แต่หลังจากโจมตีเสร็จเขาได้ถอยออกมาทันที
ไม่ใช่เพราะเขาไม่ต้องการจะโจมตีต่อ แต่เพราะรู้สึกถึงอันตราย
ฟูม! หลินเซวียนทิ้งร่างเงาไว้ขณะถอย
จากนั้นไม่นาน พลังของจางเฉียนได้ระเบิดออกจากร่างและทำลายล้างทุกสิ่งในรัศมีสามจั้ง อีกทั้งพื้นลานประลองยังจมลงไปเล็กน้อย
“ไอ้สารเลว แกกล้าทำข้าเป็นแผล!” หลังจากจางเฉียนบาดเจ็บ เขาก็คลั่งเหมือนสัตว์ป่าทันที
“อะไรนะ? จางเฉียนบาดเจ็บ!” ศิษย์มากมายไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น มีเพียงศิษย์ไม่กี่คนและผู้อาวุโสเท่านั้นที่สามารถเห็นทุกอย่าง
ใบหน้าเจียงอู่หลง ซ่างกวนหลิวหยุน และคนอื่น ๆ เปลี่ยนไปทันที ขณะที่ถังอี้และยอดฝีมือคนอื่นขมวดคิ้วเล็กน้อย พวกเขาเห็นทุกอย่างก่อนหน้านี้ ถึงแม้จางเฉียนจะประมาท แต่การโจมตีของหลินเซวียนก็ประเมินว่าต่ำไม่ได้
โดยเฉพาะดาบนั่น มันทำให้พวกเขารู้สึกใจสั่นไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม ผู้คนกลับรู้สึกตกตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงของจางเฉียนมากกว่า
“ลมหายใจนี้ ไม่ใช่ว่ามันเป็นลมหายใจของผู้เปิดชีพจรระดับเก้างั้นหรือ?” ผู้คนมากมายต่างส่งเสียงขึ้นดัง เพราะลมหายใจที่แผ่รัศมีออกมานั้นแข็งแกร่งอย่างมาก มันราวกับภูเขาที่กดทับผู้คนจนหายใจไม่ออก
“หลินเซวียนไม่ใช่คนธรรมดา แต่จางเฉียนเองก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน เขาได้บรรลุไปถึงระดับเก้าแล้ว ดูเหมือนเขาจะมีความสามารถพอที่จะเข้าทดสอบศิษย์สายตรง!” ดวงตาของผู้อาวุโสคุมกฎเปล่งประกาย
“ฮ่าฮ่า หลังจากจบการประลองนี้ ข้าจะรับจางเฉียนเป็นศิษย์แน่” ผู้อาวุโสเยว่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“หลินเซวียนเองก็เป็นอัจฉริยะในด้านดาบ หากเขาตายที่นี่คงจะเป็นการสูญเสียต่อสำนักไม่น้อย ข้าหวังว่าผู้อาวุโสจะตัดสินใจดูใหม่!” มู่หรงเฉียนหลิงวิตกอย่างมาก หากจางเฉียนอยู่ขั้นเปิดชีพจรระดับแปด หลินเซวียนยังพอจะมีโอกาสชนะ แต่ตอนนี้ ช่องว่างระหว่างพวกเขาได้ต่างกันเกินไป
“ฮ่าฮ่า ศิษย์หลานมู่หรง ลานประลองเป็นตายมีกฎของมัน อย่าเข้าไปยุ่งเลย” ผู้อาวุโสเยว่กล่าวอย่างสบายใจ
หลินเซวียนมองไปยังจางเฉียนพร้อมสูดหายใจเข้าลึก ขั้นเปิดชีพจรระดับเก้านั้นยากที่จะสู้ด้วยอย่างแท้จริง แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะยอมแพ้ตอนนี้
ถึงความหวังจะริบหรี่เขาก็ต้องสู้จนนาทีสุดท้าย
“ไอ้หนู หากข้าใช้พลังทั้งหมด เจ้าสามารถตายได้อย่างง่ายดาย!” หลังจากจางเฉียนบรรลุขั้นเปิดชีพจรระดับเก้าแล้ว เขาก็มั่นใจอย่างมาก
เมื่อสัมผัสถึงพลังของเขาดี ๆ ใบหน้าของหลินเซวียนก็เปล่งประกายขึ้นมา
‘ถึงแม้ลมหายใจจะทรงพลัง แต่ก็ยังไม่ใช่ขั้นเปิดชีพจรระดับเก้าอย่างแท้จริง ดูเหมือนจางเฉียนจะบรรลุขั้นพลังและยังปรับให้มันเสถียรไม่ได้’ หลินเซวียนวิเคราะห์อย่างสงบ ดวงตาของเขาเปิดกว้างขณะมองไปที่จางเฉียน
งไม่มีทางจะโจมตีโดยฉับพลันอีก ตอนนี้เขาคงจะระวังตัวมากกว่าเดิม ตอนนี้มีเพียงแผนเดียว นั่นก็คือสู้กับเขาจนสุดแรงเพื่อทำให้สภาพจิตใจของเขาสั่นคลอน เช่นนั้นก็ยังพอมีโอกาส’ หลินเซวียนพยายามคิดหาหนทาง
มีเพียงแค่ทำลายความมั่นใจของจางเฉียนเท่านั้น เขาถึงจะมีชีวิตรอด
เมื่อนึกได้เช่นนี้ หลินเซวียนจึงทำการสื่อสารกับเมล็ดพันธุ์แห่งดาบในตัวอย่างเต็มที่ พลังของเจตนารมณ์แห่งดาบได้หลั่งไหลออกมารอบด้าน
เวลานี้ดาบของศิษย์ที่อยู่บนที่นั่งรอบด้านถึงกับสั่นไหว มันราวกับได้พบราชาผู้อยู่สูงสุด
“เกิดอะไรขึ้น?” ศิษย์หลายคนตกตะลึงและพยายามควบคุมดาบของตัวเอง
“นี่มัน…” ใบหน้าผู้อาวุโสคุมกฎเปลี่ยนไปทันที เขามองหลินเซวียนด้วยสายตาที่ไม่น่าเชื่อ
“เจต… เจตนารมณ์แห่งดาบ! เจตนารมณ์แห่งดาบของจริง!” ผู้อาวุโสคุมกฎอดไม่ได้ที่จะอุทานขึ้น แม้แต่ผู้อาวุโสเยว่ยังเผยใบหน้าที่ตกตะลึง
ศิษย์หลายคนมองหลินเซวียนเช่นกัน แม้แต่เจียงอู่หลงยังตัวสั่น เมื่อมองร่างบนลานประลองแล้ว เขารู้สึกไร้พลังทันที
เจตนารมณ์แห่งดาบนี้แตกต่างจากพลังดาบแฝงเร้นที่พวกเขาใช้กันวันนั้น พลังดาบแฝงเร้นคือสิ่งที่ฝึกฝนวิชาดาบจนถึงจุดสูงสุด แล้วค่อยดึงพลังแฝงที่แท้จริงออกมา ถึงแม้มันจะเหมือนเจตนารมณ์แห่งดาบ แต่ก็ไม่ใช่ของจริง
สิ่งที่หลินเซวียนกำลังปล่อยออกมาตอนนี้ต่างหาก คือเจตนารมณ์แห่งดาบของจริง ทุกการเคลื่อนไหวของเขาเต็มไปด้วยพลังที่มองไม่เห็น มันเหมือนกับดาบที่ไม่มีใครเทียบได้
มู่หรงเฉียนหลิงสัมผัสได้ถึงพลังดาบนี้จนทำให้นางตกตะลึงอีกครั้ง “เพียงไม่กี่วัน เจตนารมณ์แห่งดาบของเขาทรงพลังขึ้นกว่าที่แสดงให้เราดูอีก มันไม่ใช่แค่เจตนารมณ์แห่งดาบระดับเล็กแล้ว!”