ดาเรียสผู้ยิ่งใหญ่ Darius Supreme - ตอนที่ 62
กันเนอร์กระโดดพุ่งไปหาโอเกอร์และต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของโอเกอร์ด้วยความแรงที่น่าตกใจ
ดาเรียสเลือกที่จะมองดูกันเนอร์ที่กำลังต่อสู้ และสิ่งหนึ่งที่ดาเรียสไม่อยากจะเชื่อเลย แต่ดูเหมือนว่ากันเนอร์จะสามารถจัดการมอนเตอร์ที่มีเลเวลสูงกว่าถึง 7 เลเวล
ไม่ว่าเขาจะมีความสามารถ หล่อเหลา หรือมีไหวพริบเพียงได้ ท้ายที่สุด พรสวรรค์ของเขาก็จะเชื่อมโยงกับการค้าขาย อัจฉริยภาพของเขาที่มีเกี่ยวกับการค้าขายและความสามารถในการเจรจา
โดยเฉพาะการต่อสู้ ซีซาร์ได้กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่าเหล่าผู้ที่ว่าเขานั้นจะต้องดิ้นรนเพื่อให้มีความสามารถก่อนที่จะเข้าขั้นผู้ผจญภัย ซึ่งคงจะเป็นคาวมจริงถ้าหากเขาไม่ได้รับทักษะการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ที่ช่วยให้เขานั้นใช้ชีวิตในโลกนี้ได้ง่ายขึ้น
ดาเรียสนั้นเรียนรู้ทักษะและสกิลต่างๆ ได้อย่างง่ายดายผ่านหนังสือและคัมภีร์เวทย์ และถ้าหากไม่มีแต้มทักษะที่จะช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ ของเขา ทักษะและสกิลเหล่านั้นคงต้องอยู่ในระดับต่ำไปตลอด และไม่ต้องพูดถึงแต้ม CP ที่มีอันน้อยนิดในแต่ละวัน
ในทางตรงข้ามกันเนอร์นั้นเป็นลูกครึ่งยักษ์ที่เกิดมาพร้อมกับค่าสถานะที่ดีกว่าดาเรียส ซึ่งมีความสามารถในการต่อสู้ที่เหนือกว่าเขาเนื่องจากสายเลือดของยักษ์ จากระบบ สายเลือดนั้นยังเป็นสายเลือดราชวงศ์
โอเกอร์หัวเดียว – มอนสเตอร์ระดับ 7
HP: 98/125
MP: 14/14
กันเนอร์โจมตีอย่างรุนแรงให้กับมอนเตอร์ด้วยการโจมตีอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ดาเรียสยังตกตะลึงกับความสามารถของกันเนอร์ และลองคิดดูว่าถ้าเขานั้นติดอยู่กับเด็กครึ่งยักษ์ที่กำลังอาละวาดจะเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตาม โอเกอร์ยังคงเป็นมอนเตอร์เลเวล 8 แม้มันจะมึน แต่มันก็ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วมันจับกันเนอร์เหวี่ยงออกไปและทำให้กันเนอร์นั้นกลิ้งและทรุดลง สีหน้าของกันเนอร์นั้นดุร้ายขึ้น นัยต์ตาสีเขียวถูกกระตุ้นราวกับฉลามได้กลิ่นเลือด
กันเนอร์ไม่ปล่อยให้โอเกอร์ไว้ ในขณะที่เขาพุ่งเข้าหามัน และดันพุ่งตัวมันไปด้านหน้า โอเกอร์หัวเดียวคำรามด้วยความโกรธเมื่อเห็นการจู่โจมของกันเนอร์ จากนั้นมันก็เหวี่ยงกระบองโจมตีใส่กันเนอร์ และเห็นได้ชัดว่ากันเนอร์นั้นมีความคล่องตัวที่ต่ำ
เขาไม่สามารถหลบกระบอกได้และกันเนอร์เองก็ใช้พลังมากเกินไปจากการพุ่งใส่โอเกอร์หัวเดียว เขาจึงถูกกระบอกโจมตี ทำให้เด็กครึ่งยักษ์กระเด็นออกไปกระทบกับต้นไม้ใกล้ๆ
ดาเรียสกำลังวางแผนที่จะเข้ารักษากันเนอร์อย่างรวดถ้าเขาได้รับบาดเจ็บมากเกินไป แต่ดาเรียสก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงคำราม กันเนอร์ลุกขึ้นและจ้องมองไปที่โอเกอร์ด้วยแสงแห่งความบ้าคลั่งในดวงตา
ยิ่งคำราม พลังงานสีเขียวแปลกๆ ก็เกิดขึ้นรอบตัวของกันเนอร์ แม้แต่ดาเรียสยังรู้สึกกดดันจากพลังที่กันเนอร์สร้างขึ้น ดาเรียสสับสนว่าเกิดอะไรขึ้น และตรวจสอบสถานะของกันเนอร์
ดวงตาของดาเรียสเบิกกว้างเมื่อได้เห็นว่าเด็กครึ่งยักษ์ได้ทักษะใหม่ ‘เอิร์ธ กาเดี้ยน’ เมื่อตรวจสอบทักษะดาเรียสก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
จากคำอธิบายของ ‘เอิร์ธ กาเดี้ยน’ เป็นทักษะเฉพาะสำหรับสายเลือดราชวงศ์ของเผ่ายักษ์ซึ่งได้รับพรจากเทพไกอาในฐานะผู้พิทักษ์ของเธอ พวกเขาได้รับที่ช่วยเพิ่ม พลังป้องกัน โจมตี และต้านทานเวทย์ แต่ก็ยังมีความคล่องตัวที่ต่ำ
ดังนั้นมันจึงอธิบายได้ว่า ทำไมค่าเริ่มต้นของกันเนอร์ถึงได้สูงมาก เนื่องจากมันเป็นความสามารถทางสายเลือด
อย่างไรก็ตาม แนวคิดที่ว่าผู้ถูกประทับตาสามารถที่จะเรียนรู้และรักษาทักษะทางสายเลือดได้ แม้จะถูกเขียนทับจากระบบพิเศษใหม่ก็ตาม ทำให้ดาเรียสนั้นมีความคิดมากมายเกิดขึ้น
กันเนอร์พุ่งไปที่โอเกอร์อีกครั้ง ซึ่งมันคำรามกลับมาอย่างท้าทาย มันเปิดใช้งานทักษะของมัน ‘แกรบเปิ้ล’ มันวิ่งมุ่งไปที่กันเนอร์ และทั่งสองก็ปะทะกันอย฿่ตรงกลางของลานว่าง
ทั้งคู่พยายามที่จะเอาชนะกันและกัน แต่สุดท้ายกันเนอร์ก็เสียเปรียบเนื่องจากเขามีพละกำลังเพียง 12 แต้ม ในขณะที่โอเกอร์นั้นมี 13 แต้ม ซึ่งทำให้มันได้เปรียบมากกว่า
แต่อย่างไรก็ตาม พลังงานสีเขียวรอบๆ ตัวของกันเนอร์ก็เริ่มข้มข้นขึ้นและมันก็แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างช้าๆ และทำให้ร่างกายส่องออร่าเล็กน้อย
ยิ่งมีพลังเข้าไปในตัวมากเท่าไหร่ กันเนอร์ก็ยิ่งได้เปรียบมากขึ้น ตอนนี้กันเนอร์มีพละกำลังมากกว่าและกำลังได้เปรียบโอเกอร์ ในขณะที่มันร้องคำรามออกมาเพื่อเสริมสร้างพลังใจให้กับตัวมันเอง
กันเนอร์รวบรวมพลังงานสีเขียวเข้าร่างกายและลำเลียงพลังนั้นไปที่ส่วนแขน สำหรับความน่ากลัวที่ดาเรียสกำลังได้มองดูอยู่นั่น กันเนอร์ยิ้มอย่างน่ากลัวและคำรามอย่างมีอำนาจ ก่อนที่กันเนอร์จะยกโอเกอร์ขึ้น และฉีกร่างของมันออก
ไม่เพียงเท่านั้น กันเนอร์ยังคงทุบตีโอเกอร์ที่ขาขาดแลละทรุดลงกับพื้นอยางโหดเหี้ยม ดาเรียสได้มองดูด้วยความตกละลึงและน่าสะพรึงกลัว เมื่อผู้ติดตามของเขาได้จัดการมอนเตอร์ได้อย่างโหดเหี้ยม ร่างของมันเละจนจำไม่ได้
กันเนอร์หยุด เขาหอบเหมือนสัตว์ร้ายและหันกลับมาจ้องมองที่ดาเรียส