ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1062 สะกดทุกด้าน
การสืบทอดวรยุทธ์ของจวนวายุอัสนี พัฒนาขึ้นจากมรดกของคนรุ่นก่อน และคิดค้นเป็นของตัวเองหลังจากวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่
ในอดีต บรรพบุรุษของจวนวายุอัสนีเคยได้รับสายฟ้าเทวราชที่หลงเหลืออยู่หลังจากวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่มาไม่กี่ชิ้น
หลังจากได้ทดลองก็พบว่า สายฟ้าเทวราชที่เอาไว้ใช้สะกดความสูสีของคนอื่นๆ สำหรับคนทั่วไป กลับมีส่วนช่วยมหาศาลต่อการฝึกฝนในการสืบทอดวรยุทธ์ของจวนวายุอัสนี
การค้นพบนี้ทำให้จอมยุทธ์จวนวายุอัสนีรู้สึกปลาบปลื้มยินดี และมีแรงกดดันมหาศาลเช่นกัน เพราะถึงแม้ตอนนี้จะมีสายฟ้าเทวราชสำเร็จรูป แต่ว่าวิธีการสร้างสายฟ้าเทวราชได้หายสาปสูญไปแล้ว
บนพื้นฐานที่ได้วิชาอัสนีหลอมทองฉบับสมบูรณ์มาครอง เพื่อที่จะสืบค้นและอนุมานวิชาที่เอาไว้สร้างสายฟ้าเทวราช บรรพบุรุษแต่ละรุ่นของจวนวายุอัสนีจึงศึกษาวิชาหลอมอุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง
น่าเสียดายที่สายฟ้าเทวราชสำเร็จรูปซึ่งพวกเขาครอบครองอยู่นั้นมีจำนวนน้อยเกินไป ไม่มากพอที่จะเอามาให้พวกเขาใช้วิจัย
หลายปีมานี้ จวนวายุอัสนีไม่ได้ล้มเลิกความตั้งใจ ยังพยายามอย่างต่อเนื่อง ทว่าผลลัพธ์ทำให้ผู้คนหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้อยู่บ้าง เพราะสายฟ้าเทวราชที่เฝ้าใฝ่ฝันถึง สุดท้ายก็ไม่อาจอนุมานวิชาหลอมสร้างออกมาได้
ระดับในการสร้างอุปกรณ์ของตระกูลเหิงแห่งจวนวายุอัสนี กลับถูกยกระดับขึ้นรุ่นแล้วรุ่นเล่า สุดท้ายกลายเป็นปรมาจารย์ด้านการหลอมอุปกรณ์ที่มีจำนวนน้อยบนโลกซ้อนโลก
สายฟ้าเทวราชที่ตนคิดหลอมสร้างสุดท้ายก็หลอมออกมาไม่สำเร็จ
อาวุธอื่นๆ ที่หลอมออกมามีชื่อเสียงเลื่องลือ ผู้คนล้วนต้องการ กลายเป็นอุตสาหกรรมและเสาค้ำยันของจวนวายุอัสนีในปัจจุบัน
ทว่าจวนวายุอัสนีก็ตามหาวิชาหลอมสร้างสายฟ้าเทวราชมาโดยตลอด
เพราะมีระดับหลอมอุปกรณ์สูงส่ง ไม่เพียงแต่จัดจำหน่ายเท่านั้น จวนวายุอัสนีย่อมไม่ขาดแคลนอาวุธดีๆ จอมยุทธ์จวนวายุอัสนีแทบทุกคนล้วนบรรจุอาวุธเต็มอัตรา
แต่เนื่องจากสาเหตุต่างๆ เช่นการขาดแคลนวัตุดิบ ตอนนี้จวนวายุอัสนีจึงทำได้แต่อาศัยมรรคาการหลอมอุปกรณ์เพื่อพัฒนาตัวเอง และเริ่มแตะกับเพดานแล้ว
อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงสุดท้ายก็ยังหลอมสร้างออกมาได้ยาก วัตถุดิบหลักก็ยิ่งขาดแคลน ตระกูลเหิงแห่งจวนวายุอัสนีจนปัญญากับเรื่องนี้ยิ่ง
คิดจะทำลายคอขวดเพื่อพัฒนาขึ้นอีกขั้นหนึ่ง สุดท้ายแล้วก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเอง
สายฟ้าเทวราชไม่เพียงแต่ทำให้จอมยุทธ์จวนวายุอัสนีเลื่อนระดับ และเพิ่มจำนวนยอดฝีมือได้เท่านั้น สำหรับจอมยุทธ์จวนวายุอัสนีระดับสุดยอดแล้ว หลังจากได้ฝึกฝนเป็นระยะเวลายาวนานก็เริ่มจะติดคอขวด จำเป็นต้องหาวิธียกระดับ ดังนั้นพอได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอพูดถึงสายฟ้าเทวราช ตั้งแต่เหิงเซียนต๋าซึ่งเป็นผู้ปกครองจวนลงไป ก็ไม่อาจใจเย็นได้อีก
“ไม่ทราบว่าท่านเยี่ยนมีสายฟ้าเทวราชอยู่เท่าไร” เหิงเซียนต๋าสงบจิตใจ “ท่านเปิดราคาได้เต็มที่ จวนวายุอัสนีของข้าล้วนรับทั้งสิ้น”
การตามหาสายฟ้าเทวราชของจวนวายุอัสนีไม่ใช่ความลับอะไรบนโลกซ้อนโลก เหิงเซียนต๋าถือโอกาสป่าวประกาศ ไม่กลัวว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะขึ้นราคาเพื่อกดดันตัวเอง
ถึงอย่างไรดาบนี้มีแต่ต้องรับไว้
เยี่ยนจ้าวเกอโบกมือ “สายฟ้าเทวราชที่้ข้าผู้แซ่เยี่ยนครอบครองอยู่ในตอนนี้ไม่มีแม้แต่ชิ้นเดียว แต่ว่าถ้าหากต้องการ ก็สามารถผลิตขึ้นมาได้ในช่วงสั้นๆ แน่นอนว่าก่อนหน้านั้นข้าจำเป็นต้องรวบรวมวัตถุดิบหลักก่อน ค่อยหลอมสร้างขึ้นได้”
พอได้ยินว่าเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้รับสายฟ้าเทวราชมาโดยบังเอิญจึงต้องการปล่อยของ แต่ว่าครอบครองวิชาสร้าง สายตาของคนทั่วทั้งจวนวายุอัสนีก็อดเร่าร้อนกว่าเดิมไม่ได้
เหิงเซียนต๋าหันไปมองผู้อาวุโสคนอื่นๆ ในจวน จากนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อย
ชิวเจียไห่มาพร้อมกับเยี่ยนจ้าวเกอ เมื่อมีลูกศิษย์ของกษัตริย์กระบี่ผู้นี้รับรอง เช่นนั้นความจริงของเรื่องราวอย่างน้อยก็มีอยู่เก้าในสิบส่วน ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะกุเรื่องโกหก คิดจับแกะขาวด้วยมือเปล่า
“หาเป็นไรไม่ ถ้าหากมีสายฟ้าเทวราชแผงแรก จวนวายุอัสนีของข้าจะรับไว้ทั้งหมด”
เหิงเซียนต๋าเอ่ย “ข้าจะให้ราคาที่น่าพอใจแก่ท่านเยี่ยน ทุกอย่างยึดตามข้อตกลง ท่านโปรดอย่าคิดมาก นี่ไม่กระทบต่อการร่วมมือของพวกเรา เพียงแต่ว่าในขณะที่ร่วมมือ จวนวายุอัสนีของข้าคิดจะเป็นลูกค้ารายแรกเท่านั้น”
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ “จะเป็นไปได้อย่างไร จวนของท่านเมื่อเข้าร่วมแล้ว สามารถประหยัดเวลาและสมาธิในวันหน้าให้แก่ข้าผู่แซ่เยี่ยนได้มากมาย การแลกเปลี่ยนเช่นนี้ย่อมต้องมีการตอบแทนจึงจะถูก”
“มิกล้าๆ ท่านเยี่ยนกรงใจไปแล้ว” เหิงเซียนต๋ากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ดูเหมือนท่านจะเป็นปรมาจารย์หลอมอุปกรณ์คนหนึ่ง หวังว่าภายภาคหน้าจะมีโอกาสได้สนทนาแลกเปลี่ยนกัน”
ชายหนุ่มยิ้ม “การรบกวนของพวกเราเมื่อครู่เป็นเหตุให้การหลอมอุปกรณ์ของผู้ปกครองจวนผู้อาวุโสเหิงถูกหยุดกลางคัน ไม่ทราบมีอุปสรรคใดหรือไม่”
เหิงเซียนต๋าหยีตา จากนั้นก็กล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง “ไม่ต้องวิตก”
“เกิดว่าวิชาอัสนีหลอมทองถูกขัดขวางกลางคัน มักหมายถึงว่าวัตถุดิบจะต้องเสียเปล่าแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกสนใจยิ่ง “แต่ฟังว่าวิชาอัสนีหลอมทองของสำนักท่านมีระดับเหนือกว่าก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ไม่ทราบว่าข้าผู้แซ่เยี่ยนขอดูได้หรือไม่”
บัดนี้แววตาของเหิงเซียนต๋าคมกริบขึ้น วาจาแฝงไว้ด้วยความระแวดระวังหลายส่วน “อ้อ? ท่านเยี่ยนรู้จักวิชาอัสนีหลอมทองเป็นอย่างดีกระมัง”
เยี่ยนจ้าวเกอส่ายหน้า “ขอไม่ปิดบัง ข้าผู่แซ่เยี่ยนมีวิชาอัสนีหลอมทองดั้งเดิมก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่อยู่ ดังนั้นจึงอยากจะเห็นผลลัพธ์จากการสร้างสิ่งใหม่ของจวนท่าน”
เขาเว้นครู่หนึ่งถึงค่อยกล่าวอีก “แน่นอนว่าข้าไม่ได้ต้องการจะเอาความลับของจวนท่าน เพียงอยากจะเห็นว่าอาวุธที่วิชาอัสนีหลอมทองฉบับใหม่หลอมสร้างขึ้นมาเท่านั้น”
“ท่านเยี่ยนเกรงใจแล้ว กำลังจะขอให้ท่านชี้แนะอยู่พอดี” เหิงเซียนต๋าพูดจบก็โบกมือ แสงสีม่วงสายหนึ่งพุ่งออกมาจากในแขนเสื้อ
แสงสีม่วงหยุดลงตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ ป็นครรภกระบี่ของกระบี่ยาวเล่มหนึ่ง บนผิวของครรภกระบี่ยังมีแสงสายฟ้าสีม่วงหลายสายวนเวียนเคลื่อนไหวอยู่ด้วย
นี่คืออาวุธที่เหิงเซียนต๋ากำลังหลอมอยู่ ในขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอและชิวเจียไห่มาถึง
เป้าหมายคืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางชิ้นหนึ่ง สำหรับเหิงเซียนต๋าที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายแล้ว ลำบากเพียงยกมือเท่านั้น
ด้วยตำแหน่งและสถานะของเขา ไม่จำเป็นต้องหลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางตั้งแต่ต้นแล้ว เพียงแต่ว่าเพราะคนที่รู้จักกันมาหลายปีไหว้วาน ต้องการอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางที่เหิงเซียนต๋าลงมือหลอมสร้างด้วยตัวเองชิ้นหนึ่งให้แก่บุตรของตัวเอง ผู้ปกครองจวนชราแห่งจวนวายุอัสนีจึงค่อยฝืนใจแหกกฎลงมือ
เยี่ยนจ้าวเกอมองแวบหนึ่ง ก็ปรบมือพลางถอนใจชมเชย “ไม่ธรรมดาจริงๆ ถ้าหากว่าเป็นวิชาอัสนีหลอมทองดั้งเดิมก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ หลังจะถูกขัดขวางแล้ววัตถุดิบจะเสียเปล่า ผู้อาวุโสผู้ปกครองจวนครั้งนี้ลงมือ แม้ถูกรบกวนกลางทาง แต่ยังรักษาครรภกระบี่ไว้ได้”
“ให้ท่านเยี่ยนเห็นเรื่องน่าหัวร่อเสียแล้ว” เหงเซียนต๋าพยักหน้าเล็กน้อย
เขากำลังแสดงความสามารถของตัวเอง แต่แม้จะเก็บครรภกระบี่ไว้ได้ คิดจะหลอมสร้างต่อเป็นเรื่องยากยิ่งกว่ายาก หากให้คนอื่นรับช่วงหลอมต่อ เกรงว่าจะไม่ได้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลาง ได้แค่หลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นต่ำ
หากเหิงเซียนต๋าดำเนินการต่อ กลับสามารถหลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางได้ เพียงแต่ว่าจะมีคุณสมบัติธรรมดายิ่ง ไม่ได้แสดงถึงความสามารถของเขา ถึงเวลาคงทำตัวขายหน้ากับสหายเก่าแล้ว
ตอนแรกเขาได้วางแผนไว้ว่า เดี่ยวค่อยควักวัตถุดิบของตัวเอง หลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางอีกชิ้นหนึ่งขึ้นมา มอบการแลกเปลี่ยนที่น่าพึงใจให้แก่สหายเก่า
เพียงแต่ว่าวาจาเหล่านี้เหิงเซียนต๋าย่อมไม่พูดกับเยี่ยนจ้าวเกอและชิวเจียไห่
เยี่ยนจ้าวเกอมองครรภกระบี่ตรงหน้า ยิ้มเล็กน้อย แล้วยื่นมือไปจับไว้ จากนั้นเขาก็ใช้อีกมือหนึ่งหยิบเตาผลึกหินชั้นในออกมา แล้วโยนครรภกระบี่เข้าไปด้านใน
พวกเหิงเซียนต๋าตกใจ มีเพียงเยี่ยนจ้าวเกอที่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พวกข้ามารบกวนผู้ปกครองจวนผู้อาวุโสเหิงหลอมกระบี่ ข้าผู้แซ่เยี่ยนรู้สึกไม่สบายใจ โชคดีที่แกะตายเสริมรั้วยังไม่สายไป เพื่อแสดงความเสียใจ จำเป็นต้องรำขวานหน้าหลูปัน ทุกท่านโปรดอย่าหัวเราะเยาะ”
………………..