ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1081 จักรพรรดิสรรพสิ่งไร้จำกัด
หลังจากบอกลาเฉินหมิงอิง เยี่ยนจ้าวเกอก็ผละจากโลกแปดพิภพ กลับไปยังโลกซ้อนโลกพร้อมกับเมิ่งหว่านและจักรพรรดิแพร
ครั้งนี้เพียงเดินทางไปยังบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ซึ่งอยู่เหนือที่ตั้งเดิมของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ มาถึงใต้ยอดเขาอรรณพ ซึ่งอยู่ด้านหลังเขากว่างเฉิง
“พวกเราจะไปเขาโถงทองก่อนหรือ” เยี่ยนจ้าวเกอถามจักรพรรดิแพร “ศิษย์พี่ถังจะสร้างสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง ย่อมได้รับการสนับสนุนจากประมุขอาคเนย์”
จักรพรรดิแพรยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้พบสหายร่วมเส้นทางเฉานานแล้ว”
ทุกคนเดินทางไปยังเขาโถงทองทันที
ระหว่างทางมีสายข่าวติดต่อเยี่ยนจ้าวเกอ ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอทราบถึงสถานการณ์ล่าสุดบนโลกซ้อนโลก มีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย
คราเคราะห์กระหน่ำซ้ำซ้อน ข่าวร้ายก็คือกษัตริย์เร้นลับเข้าฌานปิดตาย ปิดกั้นข่าวสารจากโลกภายนอก
ไม่ว่าจะเป็นพวกหวังเจิ้งเฉิงและหลี่จวินซิ่นที่อยู่บนผากินเลนแห่งยอดเขาหนานเกา หรือพวกหวังผู่ที่อยู่บนเขานครหยกแห่งยอดเขาเป่ยเกา ต่างได้แต่นั่งเฉยๆ ทำอะไรไม่ได้
จักรพรรดินีไม่สนใจเรื่องราวเช่นนี้ ที่แล้วมาไม่เคยไถ่ถาม
จักรพรรดิเอกภพมีความสัมพันธ์กับจักรพรรดิแพรไม่ดีอยู่แล้ว เขามาสอดมือดูแลเรื่องนี้ ยากจะคาดเดาปฏิกิริยาของจักรพรรดิแพร
หากไม่ระวังนิดเดียว ไม่แน่ว่าจะเกิดสงครามระหว่างเซียนจริงแท้ขึ้น
แน่นอนว่ามีข่าวดีเช่นกัน จักรพรรดิสรรพสิ่งไร้จำกัดซึ่งได้รับการจัดอยู่ในห้าจักรพรรดิแห่งโลกซ้อนโลกเหมือนกับพวกจักรพรรดิแพรและจักรพรรดิเอกภพ ได้กลับจากมิติต่างแดนมาถึงโลกซ้อนโลกแล้ว
จักรพรรดิสรรพสิ่งไร้จำกัดหรือจักรพรรดิไร้จำกัดมีนามว่าลี่จวิน เขาเป็นหนึ่งในห้าจักรพรรดิผู้ปกครองถ้ำหมื่นลักษณ์แห่งยอดเขาปัญญาพร้อม ซึ่งอยู่บนเขาคุนหลุนในเขตมหานภากลาง มีพลังล้ำเลิศ
ในการต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิแพรงามฟู่อวิ๋นฉือและทวนพระอังคารเมื่อก่อนหน้านี้ เขาเป็นหนึ่งในคนไกล่เกลี่ยและเป็นพยาน
ภายใต้การรับรองของเขา ในที่สุดจักรพรรดิแพรก็นัดสู้กับทวนพระอังคารในมิติหนึ่ง
แต่ว่าในวันแห่งการต่อสู้ จักรพรรดิไร้จำกัดได้เดินทางไปยังมิติต่างแดน ไม่ได้กลับมาชมดู มีเพียงประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงเพียงคนเดียวที่ทำหน้าที่เป็นพยาน
ต่อมาผ่านไปหลายปี จักรพรรดิสรรพสิ่งไร้จำกัดอยู่ในมิติต่างแดน ไม่ได้กลับโลกซ้อนโลกเหมือนกับยอดฝีมือเช่นกษัตริย์ดินและกษัตริย์กระบี่
จนกระทั่งก่อนหน้านี้ไม่นาน เขาจึงค่อยกลับมา
เมื่อเขากลับมาแล้ว ยังไม่ทันกลับนิวาสสถานบนถ้ำหมื่นลักษณ์แห่งเขาปัญญาพร้อมของตัวเอง ก็ได้รับการแจ้งข่าวว่าจักรพรรดิแพรถูกธาตุไฟเข้าแทรก
อีกฝ่ายเผยชื่อของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณบนทะเลสาบสะท้อนดาราในเขตเพลิงทักษิณ แทบจะก่อให้เกิดคลื่นความโกลาหล
ถึงแม้ว่าเรื่องราวจะไม่ได้ลุกลามใหญ่โตเพราะเยี่ยนจ้าวเกอ แต่เหอซีสิงลูกศิษย์ของจักรพรรดิแพร และหลี่จวินซิ่นลูกศิษย์ของประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงล้วนได้รับความเสียหาย
ในความคิดของคนมากมาย ยังมีเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ตรงนั้นด้วย
หลังจากทราบว่าเยี่ยนจ้าวเกอกับจักรพรรดิแพรไปยังเขาโถงทอง จักรพรรดิไร้จำกัดก็มาถึงที่นี่ด้วยตัวเอง
เยี่ยนจ้าวเกอเคยได้ยินเรื่องของจักรพรรดิสรรพสิ่งไร้จำกัดลี่จวินมาก่อน แต่ว่าวันนี้เพิ่งเคยเห็นตัวจริงครั้งแรก อีกฝ่ายสวมอาภรณ์สีดำ เส้นผมสีขาวถูกหวีอย่างเป็นระเบียบ หน้าเด็ก
เขายืนอยู่ตรงนั้นเป็นหนึ่งกับฟ้าดิน ไม่อาจแยกแยะออกจากกัน ทุกการเคลื่อนไหวล้วนหลอมรวมกับธรรมชาติ เข้าใกล้หลักมรรคา
“จักรพรรดิไร้จำกัดอยู่ตรงหน้า เยี่ยนจ้าวเกอขอคารวะ” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มพร้อมกับคำนับ
จักรพรรดิสรรพสิ่งไร้จำกัดมองเยี่ยนจ้าวเกอ พยักหน้าเล็กน้อย “วีรบุรุษเกิดจากคนหนุ่ม ราชันพระศุกร์มีผู้สืบทอดเช่นนี้ ช่างเป็นเรื่องน่ายินดีนัก เป็นเรื่องยินดีของสำนักเต๋าเราด้วย”
“จักรพรรดิไร้จำกัดชมเกินไป” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย เขาเห็นความเศร้าเสียดายจากดวงตาของอีกฝ่าย
หลักจากทักทายกับเยี่ยนจ้าวเกอและเฉาเจี๋ยแล้ว แววตาของจักรพรรดิไร้จำกัดก็เลื่อนไปอยู่บนตัวของจักรพรรดิแพร
“ลำบากสหายร่วมเส้นทางอีกแล้ว ข้าละอายใจนัก” จักรพรรดิแพรกล่าวด้วยสีหน้าอ่อนโยนเหมือนลมวสันต์
จักรพรรดิไร้จำกัดถอนใจ “ตอนนั้นเคยเตือนท่านแล้วว่าอย่าเดินบนเส้นทางนี้ ท่านกลับไม่ฟังคำเตือน ไฉนจึงมีสภาพเช่นนี้เล่า”
“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ก่อนหน้านี้ได้รับการชำระล้างมานับพันปี สุดท้ายก็ต้องเผชิญหน้ากับหายนะนั้นอยู่ดีไม่ใช่หรือ” จักรพรรดิแพรกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อย่างไรเรื่องทวนพระอังคารก็นับว่าผ่านไปได้แล้ว”
จักรพรรดิไร้จำกัดกล่าว “เมื่อผ่านภัยพิบัติเก่า เกิดภัยพิบัติใหม่อีกครั้ง อุปสรรคในวันนี้ของท่านลำบากยากเข็ญเหมือนกัน”
รอยยิ้มบนใบหน้าของจักรพรรดิแพรสลายไป เขาเงียบงันเล็กน้อยค่อยเอ่ยว่า “เป็นความจริง”
เขาเงยหน้ามองจักรพรรดิไร้จำกัด “ครั้งนี้ที่ท่านคิดจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้”
“เช่นนั้นต้องดูว่าท่านเตรียมจะทำอะไรแล้ว” คิ้วยาวสีขาวราวกับหิมะของจักรพรรดิไร้จำกัดยกขึ้นเล็กน้อย “เรื่องบนทะเลสาบสะท้อนดาราไม่อาจเกิดขึ้นอีกซ้ำสองเป็นอันขาด”
จักรพรรดิแพรเงยหน้าเล็กน้อย หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็พึมพำว่า “เตรียมจะทำอะไร…ตัวข้าเองก็บอกไม่ได้…”
พอได้ยินวาจานี้ของเขา เยี่ยนจ้าวเกอ เฉาเจี๋ย และจักรพรรดิสรรพสิ่งไร้จำกัดต่างก็ปั้นสีหน้าเคร่งขรึม เพราะพวกเขาต่างรู้ว่าคำพูดที่กล่าวอย่างขอไปทีและไม่ชัดเจนนี้ของจักรพรรดิแพร ความจริงแล้วบรรยายถึงจิตใจของเขาอย่างแม่นยำที่สุด
“บุตรีข้ามีสหายคนหนึ่ง เดินทางไปยังดินแดนทางเหนือสุด เข้าไปในมิติต่างแดนยังไม่กลับมา พวกนางไม่ได้พบกันมานาน ระหว่างพวกนางมีความคิดคำนึงมากมาย” จักรพรรดิแพรได้สติกลับมาก็กล่าวขึ้น “ข้าเตรียมจะพาบุตรีไปทางเหนือเพื่อตามหานาง พวกข้าพ่อลูกพลัดพรากกันมาหลายปี ข้าไม่ได้ทำหน้าที่ของผู้เป็นบิดา ทุกครั้งที่หวนคิดถึงจึงก็รู้สึกละอายยิ่ง”
เขามองเมิ่งหว่าน สายตาอ่อนโยน “หว่านเอ๋อร์รู้ความ นางปลอมประโลมข้ามาตลอด บัดนี้นางมีเรื่องที่ต้องการทำ บิดาอย่างข้าย่อมต้องทำเพื่อนางให้ถึงที่สุด”
จักรพรรดิไร้จำกัดสายตาสงบนิ่ง ไม่แสดงสีหน้าอะไร เพียงแต่มองเมิ่งหว่านเงียบๆ
หลังจากย้ายสายตาไปมาระหว่างจักรพรรดิแพรและเมิ่งหว่าน จักรพรรดิไร้จำกัดก็กล่าวอย่างแช่มช้า “ทางเชื่อมเขตแดนที่เชื่อมต่อไปยังมิติอื่นในดินแดนทางเหนือสุด มีเส้นทางอยู่หลายเส้นทางที่เกี่ยวข้องกับนพยมโลก”
“ถูกต้อง บุตรีของข้ากังวลถึงเรื่องนี้” จักรพรรดิแพรพยักหน้า “แต่ว่านั่นถึงอย่างไรก็มีจำนวนน้อย”
จักรพรรดิไร้จำกัดถาม “ข้าอยากจะร่วมทางกับพวกท่านสองพ่อลูก ไม่ทราบว่าสหายร่วมเส้นทางฟู่คิดอย่างไร”
เรื่องราวเกี่ยวพันถึงนพยมโลก จักรพรรดิไร้จำกัดไม่อาจเมินเฉย อย่ามองเพียงว่าเขาเป็นสหายเก่าของจักรพรรดิแพร อีกทั้งบัดนี้ยังสนทนากันอย่างเป็นมิตร แม้กระทั่งจักพรริแพรก็ยังมีท่าทีปกติดี ทว่ามีแต่ฟ้าเท่านั้นที่ทราบว่าการไปในครั้งนี้ จักรพรรดิแพรจะทำเรื่องอะไร
เรื่องบนทะเลสาบสะท้อนดาราทำให้ผู้ที่รู้เรื่องทุกคนต้องเฝ้าระวังผู้ปกครองผาบัวแดงแห่งยอดเขาอัศจรรย์ในอดีตผู้นี้ เหมือนกับเข้าเป็นศัตรูตัวฉกาจเลยก็ว่าได้
“ข้าย่อมไม่ว่าอะไร เพียงแต่ข้ารู้สึกไม่ค่อยดีนักหากจะรบกวนท่าน” จักรพรรดิแพรมองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยรอยยิ้ม “จริงสิ สหายของหว่านเอ๋อร์ก็คือภรรยาของสหายน้อยเยี่ยนผู้นี้”
คิ้วของจักรพรรดิไร้จำกัดเลิกคิ้วเบาๆ “อ้อ? สหายน้อยเยี่ยนคิดจะร่วมทางด้วยหรือ”
เยี่ยนจ้าวเกอตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ข้ากับภรรยาไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว รู้สึกเป็นกังวลยิ่ง ทั้งสองท่านอุตส่าห์ลงมือตามหา จะอย่างไรข้าก็ขอตามไปด้วย หวังว่าจักรพรรดิไร้จำกัดจะอนุญาต”
จักรพรรดิไร้จำกัดมองเขาอย่างล้ำลึก พยักหน้าเล็กน้อย “ย่อมได้แน่นอน”
จักรพรรดิแพรมองเฉาเจี๋ย กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เวลาไม่คอยท่า พวกเราออกเดินทางกันเลยเถอะ เรื่องสร้างสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์บนโลกซ้อนโลกอีกครั้ง สหายร่วมเส้นทางเฉาโปรดช่วยดูแลและชี้แนะด้วย”
ดวงตาของเฉาเจี๋ยฉายแววเป็นกังวลแวบหนึ่ง แต่ก็ยังตอบอย่างสงบนิ่ง “ไม่ต้องห่วง”
ทุกคนออกเดินทาง ผละจากเขาโถงทองในทันที ก่อนจะมุ่งหน้าขึ้นเหนือ ข้ามเขตมหานภากลาง มุ่งหน้าสู่เขตราตรีอุดร
จักรพรรดิแพรกลับไม่ได้หยุดบนเขาคุนหลุน และไม่ได้กลับผาบัวแดงบนยอดเขาอัศจรรย์ เหมือนกับลืมที่อยู่ของตัวเอง ลืมว่าที่นั่นยังมีฟู่ถิงที่เป็นบุตรีอีกคน
ฝ่ายเยี่ยนจ้าวเกอกับจักรพรรดิไร้จำกัดต่างไม่พูดถึงเรื่องนี้อย่างรู้กัน
………………..