ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1087 ระดับสูงสุดของวิถีมาร
ยามพูดถึงเหล่ามารในนพยมโลก เยี่ยนจ้าวเกอ จักรพรรดิไร้จำกัด และจักรพรรดิแพรไม่ได้หลบหลีกเมิ่งหว่านอีก
เมิ่งหว่านฟังเงียบๆ อยู่ด้านข้าง พอตอนนี้ได้ยินชื่อของเทวกษัตริย์บรรพกำเนิด ก็อดถอนใจชมเชยไม่ได้ “ตอนอยู่บนโลกแปดพิภพ ถึงแม้จะทราบถึงความน่ากลัวของนพยมโลกเช่นกัน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้”
เยี่ยนจ้าวเกอว่า “ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในกาลเวลาอันยาวนาน ถึงแม้ว่าเวลาส่วนใหญ่เป็นฝ่ายเต๋าชนะมาร แต่ไม่มีผู้ใดปฏิเสธความแข็งแกร่งของนพยมโลก”
“มารสวรรค์บุพกาลชิงตำแหน่งกับบรมครูหยกพิสุทธิ์ คงจะแพ้กระมัง” เมิ่งหว่านถาม
ชายหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้ม “นั่นย่อมแน่นอน ดังนั้นเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดจึงเป็นเทวกษัตริย์บรรพกำเนิด ‘มารสวรรค์บุพกาล’ กลับได้แต่เปลี่ยนชื่อเป็นมารสวรรค์บุพกาล”
จักรพรรดิไร้จำกัดกล่าว “มารสวรรค์บุพกาลพ่ายแพ้จริงๆ ต่อมาถูกเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดสะกดไว้ ไม่อาจหลุดออกมาได้นานถึงหมื่นปี แต่ถ้าหากว่าปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง เกรงว่าจะเป็นฉากวันสิ้นโลกแล้ว”
“หากบอกว่าวันสิ้นโลกมาถึงจริงๆ ต้องดูการจุติของมารสวรรค์ปัจฉิมธรรม (สิ้นสูญกฎ)” จักรพรรดิแพรตอนนี้เอ่ยขึ้นอย่างเหม่อลอย “ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นตัวตนที่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนจากมีเป็นไม่มีในทุกสิ่ง เหมือนกับเทวกษัตริย์รัตนวิเศษ”
เมิ่งหว่านพึมพำเบาๆ “มารสวรรค์ปัจฉิมธรรม…”
เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ด้านข้างอธิบาย “ถึงจะบอกว่าเป็นสิบสองมารสวรรค์ แต่ในนี้มีอยู่ตนหนึ่งที่ไม่เคยเผยโฉม จึงขาดไปหนึ่งตำแหน่งมาโดยตลอด เป็นตนสุดท้ายในหกบรรพมาร บรรพมารก็คือเทพมารก่อนกำเนิด คงอยู่ก่อนที่จะมีการเบิกฟ้าผ่าดิน มีแต่ตนนี้ที่เป็นข้อยกเว้น ถึงจะเป็นบรรพมาร บรรพบุรุษแห่งมารทั้งมวล แต่กลับถือให้การจุติเป็นจุดจบของโลก จุดสิ้นสุดอขงโลกหลังกำเนิด ชื่อของมันที่แท้เป็นอะไร ความจริงยังไม่ทราบ ‘มารสวรรค์ปัจฉิมธรรม’ เป็นคำเรียกที่พวกเราตั้งขึ้นจากความสามารถของมันผ่านไปนานวันเข้า จึงกลายเป็นชื่อของมันไปโดยปริยาย”
เมิ่งหว่านกระจ่างแจ้ง “เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนจากมีเป็นไม่มีในทุกสิ่ง เหมือนกับเทวกษัตริย์รัตนวิเศษบรมครูสายเหนือพิสุทธิ์ บ่งบอกว่าทุกอย่างดับสูญ จุดจบมาถึง การสรรสร้างไม่คงอยู่อีกหรือ”
จักรพรรดิไร้จำกัดพยักหน้า “ไม่ผิด มารสวรรค์ปัจฉิมธรรมเป็นสัญลักษณ์ของวันสิ้นสูญ วินาทีที่มันจุติ หมายถึงภัยพิบัติฟ้าที่แท้จริงของโลกใบนี้ได้มาถึง
“มารสวรรค์บุพกาลและมารสวรรค์ปัจฉิมธรรมเป็นหนึ่งหัวหนึ่งหางที่แข็งแกร่งขนาดนี้ อีกสี่ตนที่เหลือในหกบรรพมารเกรงว่าจะไม่ธรรมดาแล้ว” เมิ่งหว่านถอนใจกล่าว
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “ใครบอกไม่ใช่เล่า”
เขาชี้ดินแดนของนพยมโลกที่ทุกคนอยู่ “นพยมโลกแห่งนี้เกิดจากศพของมารสวรรค์ธรรมชาติ (เทพมารสรรสร้าง) บรรพมารตนที่สอง หลังจากมารสวรรค์บุพกาล”
เมิ่งหว่านประกายตาสั่นไหว “ข้าจำได้ว่าในบันทึกโบราณมีการกล่าวถึง ว่านพยมโลกคือโลกที่อยู่ตรงกันข้ามกับโลกของพวกเราเหล่ามนุษย์ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ เหมือนกับตัวตนที่ต่างกันสุดขั้ว โลกเช่นนี้ถึงกับเกิดจากศพของจอมมารตนหนึ่งหรือนี่”
จักรพรรดิแพรหัวเราะเสียงเบา เอ่ยขึ้น “หว่านเอ๋อร์ มารสวรรค์ธรรมชาติถึงแม้จะตายไปแล้ว แต่ว่ามันจะแข็งแกร่งหรือไม่ พวกเราจำเป็นต้องดูว่าคนที่ฆ่ามันเป็นใคร คนที่สังหารมารสวรรค์ธรรมชาติ ก็คือเทวกษัตริย์รัตนวิเศษ บรมครูสายเอกพิสุทธิ์ หนึ่งในบรมครูสายสามพิสุทธิ์”
เมิ่งหว่านกะพริบตา “เป็นเช่นนี้นี่เอง”
จักรพรรดิแพรไพล่สองมือไว้ด้านหลัง มองดูนพยมโลกซึ่งอยู่ด้านนอกมิติต่างแดนแห่งนี้อย่างเหม่อลอย “ถึงจะบอกว่าเป็นตัวตนที่เหมือนอยู่คนละขั้วกับโลกมนุษย์ แต่ว่านพยมโลกถึงอย่างไรก็รกร้าง ดังนั้นย่อมวางแผนกัดกินโลกของเราเหล่ามนุษย์โดยปริยาย นี่บางทีอาจบอกได้ว่าเป็นอนาคตอย่างหนึ่ง ที่นพยมโลกรวมกับดินแดนที่มารสวรรค์บุพกาลถูกผนึก ก็เพื่อจะรักษาพลังเฮือกสุดท้ายให้แก่วิถีมาร ป้องกันไม่ให้มารสวรรค์บุพกาลทะลายผนึกออกมา และเพื่อไม่ให้ทำลายนพยมโลกจนหมดสิ้น”
เขาพูดพลางหันไปมองเยี่ยนจ้าวเกอ “ต่อจากมารสวรรค์บุพกาลและมารสวรรค์ธรรมชาติ บรรพมารตนที่สามมีชื่อว่ามารสวรรค์สูงสุด บรรพมารตนที่สี่มีชื่อว่ามารสวรรค์ไร้รูป”
เมิ่งหว่านงงงวยเล็กน้อย “มารสวรรค์…สูงสุด?”
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างเฉื่อยชา “มารสวรรค์สูงสุด เป็นร่างแปลงในวิถีมารของเทวกษัตริย์เต๋าแห่งสายเอกพิสุทธิ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบรมครูสามพิสุทธิ์ ส่วนมารสวรรค์ไร้รูป เป็นร่างแปลงในวิถีมารของพระอมิตาภพุทธะ พระพุทธเจ้าในอดีตแห่งศาสนาพุทธ ผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดสองท่านใช้สติปัญญาและอานุภาพยิ่งใหญ่ ชิงตำแหน่งบรรพมาร ทำลายกำลังของวิถีมารในระดับหนึ่ง ดังนั้นหมื่นปีมานี้ ส่วนใหญ่แล้วเต๋าจึงชนะมาร มาตราแม้นว่าจะมีบางครั้งที่มารเหนือกว่าเต๋า แต่ก็ปรากฏขึ้นไม่นาน”
ชายหนุ่มพูดพร้อมยักไหล่ “ดังนั้นนอกจากบรรพมารตนที่หกที่ยังไม่จุติอย่างแท้จริงแล้ว ที่มีชีวิตอยู่มาโดยตลอดมีแค่บรรพมารตนที่ห้า มารสวรรค์ไร้พันธนา (เทพมารอิสระ) แต่นั่นเป็นเรื่องที่ผ่านมานานแล้ว ยุคสมัยของพวกเราในตอนนี้ และในช่วงเวลาก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่เนิ่นนาน ก็ไม่พบบรรพมารปรากฏตัวอีก ผู้ที่ปั่นป่วนฟ้าดิน คือหกตนหลังในสิบสองมารสวรรค์ เรียกว่าหกสุดยอดมาร”
สายตาของเยี่ยนจ้าวเกอยู่บนจิตกระบี่สองสายที่กำลังปะทะกัน “อินสือหยางมารกระบี่ผู้นี้ ได้รวมร่างกับจอมมารในหกสุดยอดมารซึ่งครอบครองตำแหน่งทองแก”
การเปลี่ยนจากมารไปจนถึงมารสวรรค์ซึ่งเป็นราชาแห่งวิถีมาร จำเป็นต้องใช้กระบวนการที่ยาวนาน
กระบวนการที่ยาวนานนี้สั้นสำหรับอินสือหยางที่กลายเป็นร่างแปลงของสุดยอดมาร
แต่ว่ากระบวนการนี้ก็ถูกเยี่ยนซิงถางขัดขวาง
อินสือหยางมารกระบี่กลายเป็นประวัติศาสตร์
จักรพรรดิไร้จำกัดยามนี้เอ่ยขึ้น “อินสือหยางถึงจะตายไปแล้ว แต่สุดยอดมารยังคงไม่สิ้นสูญ เพียงแต่รอโอกาสเกิดใหม่ครั้งต่อไป มารที่ครอบครองตำแหน่งทองแกปัญจธาตุ ก่อนหน้ามีมารมากมายอย่างเช่นมารหอก มารดาบ หลังวิกฤตการณ์จึงค่อยมีมารกระบี่อินสือหยาง ต่อจากนี้ก็จะมีมารทองแกอีกตนเกิดใหม่ ซ้ำไปซ้ำมา”
ที่เรียกว่าหกสุดยอดมาร คือมารจิตและมารปัญจธาตุ
มารปัญจธาตุมีชื่อไม่แน่นอน อย่างเช่นมารที่ครอบครองทองแก หลังจากที่มารหอกตายในตอนแรก ก็ให้กำเนิดมารดาบ ต่อจากนั้นไปๆ มาๆ ก็ไปถึงมารกระบี่อินสือหยาง
มารที่ครองตำแหน่งดินโบ่ว มีมารดิน มารปฐพี มารศิลา
มารที่ครองตำแหน่งน้ำกุ่ย มีมารน้ำแข็ง มารวารี มารหมอก มารโลหิต
ในนี้มีสถานการ์ณที่เกิดขึ้นซ้ำกัน มารตัวเดียวกันอาจจะไม่เกิดจากคนคนเดียวกัน
ผ่านมาหมื่นปี ไม่ต่ำกว่าหนึ่งยุคสมัย มารดับสิ้นแล้วเกิดใหม่ แม้นว่าจอมมารมากมายจะสูญสลายโดยสมบูรณ์ แต่นอกจากมารสวรรค์ธรรมชาติแล้ว สิบสองมารสวรรค์ก็ไม่เคยดับสิ้น
ทว่าจะกลับมาหลังจากการตายหรือไม่ จำเป็นต้องรอโอกาส
สิ่งมีชีวิตที่รวมร่างกับมันได้ อาจจะปรากฏขึ้นมาในพริบตาต่อจากนี้ และต่อให้ผ่านไปพันปีหมื่นปีก็อาจไม่ปรากฏตัว จอมมารตนนั้นได้แต่รอคอยอย่างเงียบงันอยู่ระหว่างความเป็นความตาย
“บนคัมภีร์โบราณก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ที่หลงเหลืออยู่มีการบันทึกไว้ว่า ในหกสุดยอดมารมีแค่มารจิตกับมารเงาซึ่งครอบครองตำแหน่งไม้อิกเท่านั้นที่คงอยู่มาโดยตลอด อีกสี่ตนที่เหลือเกิดและดับมาหลายครั้งแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอมองจักรพรรดิไร้จำกัดและจักรพรรดิแพร
จักรพรรดิแพรยิ้ม กล่าวว่า “หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ก็ไม่เคยมีข่าวบอกว่ามารจิตและมารเงาได้ตายไปแล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอมองประกายกระบี่สองสายตรงหน้า “หลังจากการตายของมารกระบี่ผู้นี้ก็ผ่านไปสองพันกว่าปีแล้ว กลับไม่ทราบว่ามารทองแกจะเกิดใหม่หลังจากตายหรือไม่ หรือว่าใครจะพบภัยพิบัติกลายเป็นมาร”
………………..