ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1096 สิ่งที่ยุ่งยากกว่าคนเสียสติหนึ่งคนคือคนเสียสติสองคน
- Home
- ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี
- บทที่ 1096 สิ่งที่ยุ่งยากกว่าคนเสียสติหนึ่งคนคือคนเสียสติสองคน
จักรพรรดิแพรก้าวถอยหลัง ไม่อาจสะกดมหาพุทธะสีดำสนิทซึ่งเป็นร่างแปลงของเยี่ยนจ้าวเกอได้อีกต่อไป
เขาคิ้วขมวด บนใบหน้ามีแสงสีดำและสีขาวลอยสลับกัน พริบตาเดียวก็เปลี่ยนแปลงแล้วหลายครั้ง เกิดขึ้นไม่หยุด
วิญญาณที่ตอนแรกไม่มั่นคง ตอนนี้เหมือนกับกำลังจะถูกฉีกทึ้ง
สายฟ้าทันใจระเบิดขึ้นในก้นบึ้งจิตใจ กระตุ้นจิตมารของตัวเอง
ครั้งนี้พลังฝึกปรือไม่ได้สำคัญอีก ต้องอาศัยจิตใจของตัวเองในการสยบมารภายใน
ปัญหาของจักรพรรดิแพรในตอนนี้เกิดจากการถูกธาตุไฟเข้าแทรก ตอนนี้จึงเป็นการราดน้ำมันลงบนกองเพลิง แม้จะเป็นเขาที่ได้ผลักเปิดประตูเซียนมาแล้วหลายปี ในตอนนี้ก็ยังยากเย็นยิ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างสงบนิ่ง “ท่านระวังหน่อยจะดีกว่า ที่นี่ถึงอย่างไรก็เป็นนพยมโลก และมารจิตก็คงอยู่มาโดยตลอด”
‘มารจิต’ ที่เขาพูดถึงในที่นี้ ไม่ใช่จอมยุทธ์ฝึกฝนมารภายในของตัวเอง แต่ว่าเป็นหนึ่งในหกสุดยอดมาร สิบสองมารเทพสวรรค์ หนึ่งในมารที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล เป็นจอมมารที่เกิดขึ้นมาเองและคงอยู่ตลอดมา ถูกกำหนดไว้แล้วว่าไม่อาจทำลายได้โดยสิ้นเชิง ขอแค่โลกยังมีสิ่งมีชีวิตที่มีจิตใจคงอยู่ ก็มีโอกาสที่มารจิตจะได้รับการหล่อเลี้ยงและเกิดใหม่
ถ้ามองจากจุดนี้จุดเดียว มันน่ากลัวและรับมือยากยิ่งกว่าหกบรรพมาร เป็นสิ่งที่ได้แต่ต้องสะกดไว้ แต่กลับไม่อาจทำลายให้หมดสิ้น นอกเสียจากว่าทุกสิ่งจะสูญสลาย ไม่อย่างนั้นมารจิตไม่อาจตาย
มารจิตในตอนนี้อยู่ในนพยมโลกหรือไม่ ไม่มีผู้ใดทราบ แต่ถ้าหากมันอยู่ในนพยมโลก เช่นนั้นด้วยร่างเซียนจริงแท้ของจักรพรรดิแพรที่ถูกธาตุไฟเข้าแทรก มารด้านในสร้างความวุ่นวาย ก็อาจมีโอกาสสะกิดความสนใจของต้นกำเนิดแห่งมารภายในทั้งมวลในใต้หล้าตนนี้ได้
จักรพรรดิแพรจิตใจไม่มั่นคง มักทำอะไรที่อยู่เหนือความคาดหมาย แตกต่างจากตอนเป็นปกติ แต่ไม่ว่าจะเป็นด้านอารมณ์หรือเป็นด้านไร้รักสะบั้นน้ำใจของเขา ต่างไม่อยากจะเห็นจอมมารตนนั้นมาปรากฏตัวเบื้องหน้า
เขามองเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่ได้ลงมืออีกแล้ว
จักรพรรดิแพรสะบัดแขนเสื้อทีหนึ่ง แขนเสื้อกางออก ธงใหญ่ผืนหนึ่งปรากฏขึ้น
ธงผืนนั้นมีปราณแรกเริ่มต้นกำเนิดเป็นด้ามธง กาลอวกาศกำเนิดเป็นผืนธงไร้รูปร่าง รอบๆ ธงมีกระแสเมฆสีม่วงลอยวน รูปไท่จี๋สีขาวดำซึ่งเป็นหยินหยางหมุนติ้วอยู่บนนั้น
ธงใหญ่กางออก พลังยิ่งใหญ่สะท้อนออกมา แทบจะกวนคนเขตแดนตรงหน้าให้กลับคืนสู่ก่อนต้นกำเนิด
สภาวะที่ยิ่งใหญ่และงดงามเหมือนกับความแตกต่างระหว่างแดนเซียนกับโลกมนุษย์ ทำให้คนต้องเงยหน้าชมเชยอย่างเลื่อมใส ไม่อาจแตะต้องหรือเข้าใกล้
แม้จะเป็นราชันแห่งอาวุธศักดิ์สิทธิ์เช่นตราประทับตะวันและมงกุฎจันทรา ก็ไม่อาจเปรียบเทียบกับมันได้
ธงพระพฤหัสบดีเป็นธงเหมือนกัน กระนั้นแม้จิตแห่งพลังบนพื้นฐานจะไม่ด้อยกว่า แต่ว่าระดับคุณสมบัติของตัวอาวุธกลับด้อยกว่าขั้นหนึ่ง และขั้นหนึ่งที่ว่านี้ก็เหมือนกับร่องน้ำธรรมชาติที่ไม่อาจข้ามผ่าน
นี่เป็นอาวุธเซียนของจักรพรรดิแพร ธงจตุกำเนิด!
ในตอนที่สู้กับทวนพระอังคาร จักรพรรดิแพรตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ สู้คู่ต่อสู้ที่ตะลุยในใต้หล้ามาหลายพันปีก่อนไม่ได้ ต่อมาเพราะมีธงจตุกำเนิดในมือ จึงค่อยพลิกจากแพ้เป็นชนะ สุดท้ายล้มทวนพระอังคารได้ ได้ชัยในการประชันครั้งนั้น
ในตอนนี้ ธงใหญ่กางออก ครอบคลุมฟ้าดินบริเวณหนึ่ง จักรพรรดิแพรอยู่ใต้ธง
เขานั่งหลับตาทำสมาธิ สงบจิตใจของตัวเอง สะกดมารภายใน
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็หยุดความคิดไล่ตามโจมตี สลายปราณมารที่รวมกันทิ้งไป เพราะเมื่อมีธงจตุกำเนิดคอยคุ้มครอง เขาก็ทำอะไรจักรพรรดิแพรไม่ได้
จักรพรรดิแพรตอนนี้แม้ถูกธาตุไฟเข้าแทรก แต่ว่าถ้าหากเขาไม่สนใจอันตรายจากการมาถึงของมารจิต อดกลั้นต่อการถูกธาตุเข้าแทรกและเสี่ยงชีวิต ก็ยังคงมีพลังทำลายล้างที่รุนแรงอยู่ดี
ตอนนี้กดดันไม่ให้จักรพรรดิแพรลงมือต่อได้แล้ว เป้าหมายแรกของตัวเองถือว่าสำเร็จลุล่วง
มหาพุทธะสีดำสนิทหายไปกลางเขตมารนพยมโลก ปราณมากมายหลายสายกระจายออกไป กลายเป็นร่างของเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง
เขายังไม่ได้ผ่อนคลายจิตใจ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาโล่งใจ
เมฆสายฟ้าจากสายฟ้าอนัตตาที่ถูกเขาดึงมากลุ่มนั้น หลังจากไม่มีการขัดขวางของจักรพรรดิแพร ก็พลันเข้าใกล้อีกครั้ง
แต่เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ถูกร่างกาลอวกาศกำเนิดของจักรพรรดิแพรสะกด จักรพรรดิแพรถูกสายฟ้าทันใจเล่นงานจนต้องถอย ทำให้เมฆสายฟ้าได้รับผลกระทบ มีสัญญาณว่ากำลังจะระเบิด!
เยี่ยนจ้าวเกอดึงเมิ่งหว่านให้หลบไปห่างๆ
ทว่าสายฟ้าอนัตตาได้ระเบิดก่อน!
เมฆสายฟ้าไม่ได้แหลกสลายโดยสิ้นเชิง แต่ว่าจีบของมิติที่ตอนแรกทับซ้อนและหดตัวไปอยู่ด้วยกัน ตอนนี้กำลังแผ่ออกมาเป็นชั้นๆ
พริบตาเดียว โลกแห่งมิติหลายใบก็ซ้อนขยายกันออกไปเรื่อยๆ กางออกเหมือนกับระลอกน้ำไร้สิ้นสุด
มิติที่อยู่รอบๆ เปลี่ยนเป็นความโกลาหล แม้จะเป็นเยี่ยนจ้าวเกอที่บรรลุคัมภีร์กระบี่ลวงเซียนก็ได้แต่ต้องฝืนป้องกัน
จักรพรรดิแพรยังคงนั่งปิดตาทำสมาธิอยู่ใต้ธงจตุกำเนิด ล้วนอาศัยอาวุธเซียนปกป้องตัวเอง ส่ายไหวภายใต้การจู่โจมจากสายฟ้าอนัตตามากมายที่กำลังระเบิด ได้แต่ฝืนหยุดนิ่งอยู่ที่เดิม
เยี่ยนจ้าวเกอหยุดตัวเองอยู่ที่เดิมก่อน ไม่อย่างนั้นเขากับเมิ่งหว่านก็ไม่รู้จะถูกม้วนพัดไปอยู่ที่ไหน
การระเบิดของสายฟ้าอนัตตาเหมือนกับไม่มีสิ้นสุด เกิดขึ้นติดต่อกันไม่หยุด
ชายหนุ่มกลับไม่ถือสา ถึงแม้ว่าจักรพรรดิแพรอาจจะควบคุมจิตใจ สะกดมารภายในที่บ้าคลั่ง ได้พลังในการลงมือกลับอีกครั้งพร้อมกับเวลาที่ผ่านไป แต่ว่าขอแค่อยู่ในนพยมโลก ขอแค่มีสายฟ้าทันใจอยู่ ตนก็มั่นใจว่าจะปกป้องตัวเองได้
จักรพรรดิแพรมีธงจตุกำเนิดปกป้องตัวเอง การคุกคามของสายฟ้าทันใจลดลงมาก แต่ยังคงป้องกันพลังที่เกิดขึ้นจากภายในได้ยาก
ถึงอย่างไรต้นเหตุก็อยู่ที่จิตใจของเขาไม่มั่นคงอยู่แล้ว
เพียงแต่ว่านอกจากจักรพรรดิแพรแล้ว ในนพยมโลกถึงอย่างไรก็ยังมีการคุมคามอื่นๆ อยู่อีกมากมาย
คลื่นที่เกิดจากความขัดแย้งระหว่างสองฝ่าย และการเคลื่อนไหวที่มาจากสาฟ้าอนัตตา จะต้องสะกิดความสนใจของเหล่ามารในนพยมโลก
ทิศทางของสองกษัตริย์จากโถงเซียนก็ทำให้ผู้คนต้องกังวลเช่นกัน
เยี่ยนจ้าวเกอหยุดยั้งท่าร่างของตัวเองในจีบมิติหลายชั้นที่เกิดจากสายฟ้าอนัตตา พร้อมกันนั้นก็วางแผนแยกแยะทิศทาง
จีบมิติหลายชั้นที่ขยายออกไปรอบๆ ได้ฉีกกระชากนยมโลกในตอนแรก ก่อเกิดเป็นร่องแยกมิติหลายช่อง เชื่อมต่อไปยังสี่ทิศแปดทาง มีแต่ฟ้าเท่านั้นที่ทราบว่าจุดหมายของพวกมันอยู่ที่ใด แต่ว่าเมฆสายฟ้าของสายฟ้าอนัตตากลุ่มนั้นสุดท้ายก็ไม่ได้ระเบิดโดยสมบูรณ์
ดังนั้นหลังจากเวลาผ่านไป กระแสปั่นป่วนในมิติก็อ่อนกำลังลงอย่างช้าๆ ค่อยๆ สงบลง ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอกลับจิตใจสั่นไหว เพ่งมองไปยังร่องแยกมิติสายหนึ่งในนั้น
ที่ตรงนั้นพลันมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งสายหนึ่งปรากฏขึ้นจากด้านใน
ในร่องแยกมิติที่บิดเบี้ยว เงาคนสายหนึ่งบินออกมาอย่างแช่มช้า
คนหนุ่มที่นับว่าหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งสวมอาภรณ์สีม่วง ผิวขาวซีด ท่าทางเกียจคร้าน คล้ายกับไม่สนใจทุกสิ่งอย่างดิ้นรนออกมาจากในร่องแยกมิติ กวาดมองภาพรอบๆ ตาพลันเป็นประกาย รู้สึกกระฉับกระเฉง
“โลกช่างกลมดีแท้” คนหนุ่มผู้นี้ทอดถอนใจ
กลับเป็นเฉินกานหัว ประมุขทิศบนที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าไปในนพยมโลก!
เยี่ยนจ้าวเกอสามารถสัมผัสกลิ่นอายอันแข็งแกร่งที่ไม่ด้อยไปกว่าจักรพรรดิแพรและจักรพรรดิไร้จำกัดจากบนร่างของเขาได้อย่างชัดเจน!
ในนพยมโลกไม่ใช่โลกเบื้องล่าง ประมุขทิศบนก็คือประมุขทิศบน จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ที่แกร่งที่สุดซึ่งก้มมองโลกซ้อนโลกทั้งใบ
………………..