ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1143 ทยอยมาถึง
ขณะที่บนโลกซ้อนโลกเกิดการเคลื่อนไหวลับๆ ภายนอกกำลังคึกคักด้วยเรื่องยิ่งใหญ่
ตึกความลับฟ้าที่มีชื่อเสียงขจรขจาย บัดนี้ยืนยันตำแหน่งของตัวเอง กำลังจะจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบสามปี
หลังจากที่เปิดตึกจำหน่ายสินค้าให้แก่ทุกคนจนกลายเป็นประเพณี งานประมูลที่ใหญ่ยิ่งกว่าก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
คนที่เข้าร่วมงานประมูลได้ล้วนเป็นคนที่มีป้ายคำสั่งอยู่ในมือโดยไม่มีข้อยกเว้น
ใช้คำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอ ก็คือมีแต่ ‘สมาชิก’ ถึงจะเข้าร่วมงานประมูลได้
สินค้าประมูลที่อยู่ในงานประมูลไม่ใช่สิ่งที่ตึกความลับฟ้ามีทั้งหมด มากกว่าครึ่งเป็นคนอื่นมอบหมายให้ตึกความลับฟ้าประมูลขายแทน
ในนี้ไม่ขาดแคลนสินค้าล้ำค่า ข่าวพอกระจายออกไป ย่อมดึงดูดให้ผู้คนหลั่งไหลมา
สถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างยอดเยี่ยม
ตั้งแต่กฎระเบียบไปจนถึงกระบวนการ ไม่มีตรงไหนที่ไม่แสดงให้เห็น ว่านี่จะเป็นงานประมูลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดครั้งหนึ่ง
และจักรพรรดิแพรแพรอาภรณ์ดำที่ก่อนหน้านี้ทำให้คนในตึกความลับฟ้ากังวล ก็สงบเสงี่ยมมาตลอด
ตั้งแต่มาถึงเมืองหยวนโจว จนกระทั่งงานประมูลเริ่มขึ้น ถึงปัจจุบันเขาก็ยังคงไม่เคลื่อนไหวใดๆ คล้ายกับมาเข้าร่วมงานใหญ่จริงๆ
แต่พวกเยี่ยนจ้าวเกอกลับยิ่งรู้สึกว่าสภาพการณ์ไม่ถูกต้องมากกว่าเดิม
เป็นเพราะจักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงที่เดิมทีสัญญาว่าจะมาเข้าร่วมงานประมูล ครั้งนี้ได้ผิดนัดแล้ว!
ด้วยเหตุนี้ พวกหวังผู่พลันรู้สึกว่าแรงกดดันที่จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำนำมาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
“เป็นเพราะว่าเรื่องที่เจ้านำสารมาจากมรกตท่องฟ้า ถูกจักรพรรดินีล่วงรู้ นางจึงรู้สึกไม่พอใจหรือไม่” หวังผู่ถามในที่ลับ
การดำรงอยู่ของฉู่หลีหลีเร้นลับถึงขีดสุด แม้จะเป็นโลกซ้อนโลกก็มีไม่กี่คนที่ทราบ ทว่ากลับไม่ได้ถูกอำพรางไว้เหมือนพวกจักรพรรดิเจิดจรัส แต่ในตอนที่นางยังอยู่ในโลกซ้อนโลก เคยติดต่อกับคนไม่กี่ครั้ง
แทบจะไม่มีใครรู้ว่า นอกจากจักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงแล้ว กษัตริย์ดารายังมีลูกศิษย์อีกคน
กษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยย่อมทราบ เป็นเพราะว่าฉู่หลีหลีค่อนข้างคุ้นเคยกับเขา คนของเขานครหยกอันเป็นสำนักของเยว่เจิ้นเป่ยจึงพอทราบอยู่บ้าง เพียงแต่ไม่ได้ละเอียดนัก
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอกลับโลกซ้อนโลก กษัตริย์กระบี่ยังคงอยู่ในมิติต่างแดน ไม่ได้กลับมาด้วย ดังนั้นจึงบอกกับหวังผู่คร่าวๆ สองสามประโยค
ตอนนี้จักรพรรดิแพรผิดนัดอย่างเหนือความคาดหมาย หวังผู่ไม่อาจไม่นึกถึงเรื่องนี้
“สมควรไม่ใช่” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “ตัวข้าไม่ได้แพร่งพรายข่าว ทางมรกตท่องฟ้าแม้จะมีคนคิดแจ้งข่าว แต่สุดท้ายเพียงทราบว่าข้าเข้าพบผู้อาวุโสฉู่ ไม่ได้รู้ว่าพวกเราคุยอะไรกัน ไม่รู้เรื่องส่งสาร”
พวกเกาเสวี่ยโพกับหลงเสวี่ยจี้ไม่มีทางทำร้ายเขา
เกาฉิงน้อยแม้จะไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราว แต่เรื่องนี้เกาเสวี่ยโพปู่ของนางจะต้องกำชับกำชาครั้งแล้วครั้งเล่า ดังนั้นความเป็นไปได้ที่เกาฉิงจะทำข่าวหลุดจึงมีน้อยยิ่ง
พวกจักพรรรดิสัญญะเมฆไม่ชอบโลกซ้อนโลก มาตราแม้นว่าคิดทำให้โลกกซ้อนโลกเกิดการต่อสู้ภายใน แต่เมื่อเมื่อไม่มีหลักฐานที่แท้จริงมากพอ ย่อมไม่ลงมือ
การพบฉู่หลีหลีแค่ครั้งเดียวของเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่อาจสะกิดความโกรธของจักรพรรดินี
“ข้าขอรับประกันว่าทางข้าก็ไม่ได้แพร่งพรายข่าว” หวังผู่กล่าวด้วยรอยยิ้มหนักใจ
“ดังนั้นสมควรไม่ใช่เพราะข้าส่งสาร อย่างน้อยความเป็นไปได้นี้ก็มีต่ำยิ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอนวดขมับของตัวเอง “คาดว่าคงเป็นเรื่องอื่นทำให้จักรพรรดินีผิดนัด กระนั้นเรื่องที่ทำให้นางใส่ใจ เกรงว่าจะมีไม่กี่เรื่อง”
จักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงขึ้นชื่อในเรื่องไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนอื่นๆ
ส่วนใหญ่แล้วในห้าจักรพรรดิบนโลกซ้อนโลก นางเป็นคนที่ให้ความรู้สึกถึงการดำรงอยู่ต่ำที่สุด
เป็นเพราะว่ามีเรื่องไม่กี่เรื่องที่ทำให้นางออกหน้าได้
ดังนั้นเรื่องที่นางมายังพิธีเปิดเขากว่างเฉิง จึงทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างแตกตื่นตกใจ
ถึงแม้จะเป็นการต่อสู้ระหว่างเซียนบนโลกซ้อนโลก อย่างการต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิแพรต่อสู้กับทวนพระอังคารในปีนั้น จักรพรรรนีก็ไม่มีความคิดจะยี่หระเลยสักนิด
เฉินเฉียนหัวบุกที่อยู่ของยอดเขาอัศจรรย์ จักรพรรดินีก็ไม่สนใจเช่นกัน
จนกระทั่งเฉินเฉียนหัวคิดจะรับตำแหน่งประมุขทักษิณ จึงต่อสู้กับเนี่ยจิงเสินจากเขานครหยก เรื่องราวเกี่ยวพันถึงเขากว่างเฉิงและเขานครหยก จักรพรรดินีถึงออกจากเขาอีกครั้ง
สามารถทำให้ยอดฝีมืออันดับหนึ่งในปัจจุบันของโลกซ้อนโลกที่เป็นสตรีผู้นี้ขยับตัวได้ ไม่ง่ายเลยทีเดียว
“ไม่ว่าจะเป็นเขากว่างเฉิงของข้า หรือเขานครหยกของอาจารย์ลุงเยว่ สาเหตุที่จักรพรรดินีแสดงไมตรีจิตด้วย ความจริงสาเหตุล้วนมาจากความสัมพันธ์ระวห่างท่านปู่กับกษัตริย์ดารา”
“ถึงแม้สมควรไม่ใช่เพราะข้าส่งสารแทนผู้อาวุโสฉู่ แต่…” เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญพลางกล่าว “เกรงว่าเรื่องราวที่สามารถสะกิดความสนใจของจักรพรรดินีได้มากที่สุดบนโลกซ้อนโลก คงเกี่ยวข้องกับกษัตริย์ดารา”
หวังผู่ได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าอย่างช้าๆ
“เป็นอย่างที่คิดไว้ คนที่มาหาเรื่องมีไม่ต่ำกว่าหนึ่งคน” เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้ามองเพดานห้องส่วนตัว กล่าวอย่างแน่วแน่ “สภาพในปัจจุบันของจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำไม่มีทางทำเรื่องมากมายขนาดนี้ได้ คนที่ร้อยเรียงทั้งหมดนี้ได้…”
พวกเสี่ยวอ้ายกระจ่างแจ้ง ส่งเสียงพร้อมกัน “ผากิเลนยอดบนเขาหนานเกา!”
“จักรพรรดิแพรที่สวมอาภรณ์ขาวมาไม่ได้ จักรพรรดินีมาไม่ได้…” เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจเบาๆ “ดูอย่างไร เรื่องราวต่างไม่อาจแยกจากกัน แต่เหมือนวางแผนมาเป็นอย่างดี”
“ผู้อาวุโสหวังไม่ชมชอบที่ตึกความลับฟ้ารวมสภาวะให้เขานครหยกหรือ” หวังผู่ถามเสียงทุ้ม
หอความลับฟ้ากวนคนมรสุม เป็นเพราะว่าลูกศิษย์ของเขานครหยกเช่นพวกชิวเจียไห่เข้าร่วม เป็นการเพิ่มบารมีให้แก่กษัตริย์กระบี่อย่างต่อเนื่องในระดับหนึ่งแล้ว
ตั้งแต่กาลก่อน ในสามกษัตริย์ของโลกซ้อนโลก กษัตริย์เร้นลับเก็บเนื้อเก็บตัวมาโดยตลอด กษัตริย์กระบี่มีคุณสมบัติตื้นเขินที่สุด ดังนั้นกษัตริย์ดินจึงเป็นผู้นำ
ในปัจจุบัน การปรากฏขึ้นของตึกความลับฟ้าไม่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์นี้ได้
แต่ว่าหากเติบโตเช่นนี้ต่อไป อิทธิพลยิ่งมายิ่งมาก ยากจะบอกว่าจะเกิดต้นอ่อนต้นใหม่หรือไม่
โลกของจอมยุทธ์ การเอาใจออกห่างไม่ได้สำคัญเท่าโลกของคนธรรมดา
แต่ว่าหลายปีมานี้ โลกซ้อนโลกเหมือนรากไม้ที่สานกันซับซ้อน กิ่งใบขึ้นหนาแน่น ไม่ว่าจะเป็นด้านบนหรือด้านล่างล้วนมีความเกี่ยวข้องกัน
ถึงแม้ว่าหลายๆ ครั้งจะเป็นระดับบนส่งผลต่อระดับล่าง แต่ว่าในตอนที่ระดับล่างเริ่มกอปรกันเป็นส่วนรวม ระดับบนก็จำเป็นต้องใส่ใจเสียงที่เกิดขึ้น
จุดยืนของยอดฝีมือระดับสูงหากเกิดการเอนเอียง ย่อมส่งผลต่ออำนาจของยอดฝีมือระดับสูงสุด
แน่นอนว่า เงื่อนไขคือทั้งสองฝ่ายไม่ปรากฏความแตกต่างกันมหาศาล
ในฐานผู้ดูแลที่ส่วนใหญ่คอยดูแลโลกซ้อนโลก หากบอกว่าประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงไม่เข้าใจเรื่องนี้ หวังผู่กลับไม่เชื่อ
“แต่ก็มีเงื่อนไขหนึ่ง” ชิวเจียไห่กล่าว “กษัตริย์เร้นลับต้องรักษาความเป็นกลาง ถ้าหากว่ากษัตริย์เร้นลับสนับสนุนกษัตริย์ดินอย่างไร้เงื่อนไข เช่นนั้นเวลาที่ตึกความลับฟ้าจำเป็นต้องใช้เพื่อแสดงผลจะยาวนานมากขึ้น”
“หากยึดถือตามนี้ ก่อนที่กษัตริย์เร้นลับจะแสดงท่าที ประมุขปฐวีสมควรไม่เคลื่อนไหวโดยพลการ จึงค่อยสอดคล้องกับพฤติการณ์ของเขา”
เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง “ดังนั้นจึงไม่น่าสะกดตึกความลับฟ้า นอกเสียจากว่าประมุขปฐวีจะกระทำเรื่องที่สวนทางกับสามัญสำนึก ขัดกับพฤติการณ์ที่แล้วมาของตัวเอง”
ความเป็นไปได้ไม่ใช่ไม่มี แต่ค่อนข้างน้อย
“เช่นนั้นเป้าหมายของเขา…” เยี่ยนจ้าวเกอหยีตาเล็กน้อย “อาหู่…”
ไม่รอเขาพูดจบ อาหู่ที่อยู่ด้านข้างสีหน้าฉายแววประหลาดใจ หยิบผลึกแก้วสีม่วงชิ้นหนึ่งออกมา แล้วบีบมันจนแตก
ในผลึกแก้วมีลำแสงปรากฏขึ้น กลายเป็นข้อความ
ทุกคนเห็นดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นไม่น่าดู เยี่ยนจ้าวเกอตบหน้าผาก “ผู้ช่วยแต่ละคนมาไม่ได้ แต่ศัตรูกลับมาทีละคนๆ”
เนื้อหาข้อความในผลึกแก้วคือ
“จักรพรรดิเอกภพกำเนิดมายังฝั่งตะวันออกเฉียงใต้”
………………..