ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1181 เก้านพเคราะห์คุนหลุน!
พอฟังกษัตริย์ดารา เยี่ยนจ้าวเกอก็แสร้งเป็นโง่งม “ท่านแม่ข้าเป็นผู้สืบทอดของราชันพระพฤหัสบดี เพียงแต่ว่านางเองก็ไม่ทราบว่าวันนี้ราชันพระพฤหัสบดีอยู่ที่ใด แต่ได้ยินท่านแม่บอกว่าในอดีตราชันพระพฤหัสบดีคล้ายสนิทสนมกับราชันพระอาทิตย์และราชันพระจันทร์”
“เกรงว่าจะตามหาสหายร่วมเส้นทางเซ่าไม่ง่ายนัก” กษัตริย์ดาราส่ายหน้า กล่าวว่า “หลายพันปีมานี้ มีคนไม่ต่ำกว่าหนึ่งคนตามหานาง แต่สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว ครั้งกระโน้น…”
เขาเว้นครู่หนึ่งค่อยกล่าวต่อ “ครั้งกระโน้นเพราะได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่ทราบเหมือนกันว่านางไปยังที่ใด ไม่เคยมีข่าวคราวจนถึงวันนี้”
เยี่ยนจ้าวเกออยากจะยิ้มขื่นขม
‘สหายร่วมเส้นทางเซ่า’ ที่กษัตริย์ดาราพูดถึง ย่อมเป็นราชันพระพฤหัสบดีที่ถูกจัดอยู่ในเก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่เหมือนกับเขา และเป็นบูรพาจารย์ของเสวี่ยชูฉิง อาจารย์ของจักรพรรดิเจิดจรัสหูเยว่ซิน นามว่าเซ่าจวินหวง
หนึ่งในสามยอดฝีมือที่เป็นสตรีเพศในเก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ผู้บุกเบิกโลกซ้อนโลก ขณะเดียวกันก็เป็นคนที่มีความรอบรู้มากมายซึ่งมีไม่กี่คนในคนทั้งเก้า
เพราะวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ แม้จะจะมียอดฝีมือสำนักเต๋าจำนวนน้อยโชคดีรอดชีวิตและอยู่มาถึงยุคนี้ได้ แต่ถึงอย่างไรก็ทำให้การสืบทอดและของวิเศษมากมายสูญหายไป
คนรุ่นหลังสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาบนพื้นฐานของคนรุ่นก่อน และพยายามฟื้นฟูวรยุทธ์กับของวิเศษ หรือแม้แต่วิชาประหลาดพิสดารมากมายอย่างเต็มที่ เพียงแต่ว่านี่ย่อมเป็นกระบวนการที่ยาวนานและยากลำบาก
เยี่ยนจ้าวเกอสร้างตึกความลับฟ้า ทำให้ของวิเศษที่สาบสูญไปแล้วจำนวนมากโผล่ขึ้นมา สั่นสะเทือนโลกซ้อนโลก
ก่อนหน้าเขา ของวิเศษล้ำค่ามากมายและวิชาความรู้ทั่วไปซึ่งแพร่หลายอยูบนโลกซ้อนโลกในตอนนี้ ความจริงต่างได้รับประโยชน์จากการศึกษาและความพยายามของราชันพระพฤหัสบดีเซ่าจวินหวงในอดีต
หลังจากเซ่าจวินหวงหายตัวไป ขั้นตอนการศึกษาฟื้นฟูจึงช้าลง ทำให้คนมากมายเสียดายมาโดยตลอด
จนกระทั่งเยี่ยนจ้าวเกอกับตึกความลับฟ้าโผล่มา จึงค่อยมีวี่แววว่าจะเร็วขึ้นอีกครั้ง
ความพยายามในอดีตของเซ่าจวินหวงไม่ได้จำกัดอยู่ที่ของวิเศษมากมายเท่านั้น ในเก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ นางเป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกล และปรมาจารย์ด้านหลอมโอสถที่น้อยจนงอนิ้วนับได้ ผังค่ายกลและตำรับยาที่ผ่านการฟื้นฟูด้วยตัวนาง จนถึงวันนี้ยังสร้างประโยชน์ให้แก่โลกซ้อนโลก
โดยเฉพาะหัวข้อวิชาหลอมโอสถ ราชันพระพฤหัสบดีเซ่าจวินหวงเป็นอันดับหนึ่งในเก้านพเคราะห์ที่ผู้คนยอมรับ ในขณะเดียวกันก็เป็นยอดฝีมือด้านมรรคาโอสถอันดับหนึ่งท่ามกลางยอดฝีมือสำนักเต๋าที่โผล่ขึ้นหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่
ที่เสวี่ยชูฉิงมารดาของเยี่ยนจ้าวเกอมีระดับในด้านค่ายกลและศาสตร์มากมายและสูงส่งนัก จำต้องบอกว่านางได้รับประโยชน์จากรากฐานที่เหล่าอาจารย์ได้วางไว้
อาจารย์ของนาง รวมถึงจักรพรรดิเจิดจรัสหูเยว่ซินอาจารย์ย่าของนาง ต่างเป็นผู้โดดเด่นทางด้านเหล่านี้ นับว่าเป็นเพราะการสืบทอด
แต่สืบเนื่องจากเซ่าจวินหวงหายตัวไปนาน ความสามารถมากมายของนาง ความจริงหูเยว่ซินได้ร่ำเรียนอย่างจำกัด
กลับเป็นเสวี่ยชูฉิงที่ระดับของค่ายกลเริ่มปรากฏท่วงทำนองของผู้เป็นบูรพาจารย์ในอดีต
น่าเสียดาย ฟังจากความหมายในวาจาของกษัตริย์ดารา ราชันพระพฤหัสบดีเกรงว่าจะประสบผลร้ายมากกว่าผลดี…
“หากเป็นสหายร่วมเส้นทางเกา ตอนแรกข้านึกว่าเขาซ่อนตัวอยู่ในโลกเบื้องล่าง ตอนนี้หากยึดตามคำพูดของเจ้า เขาคงใช้แผนจั๊กจั่นลอกคราบไปนานแล้ว” กษัตริย์ดารากล่าวต่อ “ดูเหมือนเขาจะมีแผนการเป็นของตัวเอง หาคาดเดาไม่ผิด เขาสมควรเป็นห่วงสถานการณ์บนโลกซ้อนโลกมาโดยตลอด”
“หลังจากทราบสถานการณ์ในตอนนี้ ถ้าคิดจะลงมือ ไม่ต้องให้เจ้าบอกเขา เขาก็จะมีการเคลื่อนไหวเอง เพียงแต่ว่า เขาคิดจะทำอะไรกันแน่ กลับบอกได้ยากยิ่ง”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าอย่างเงียบงัน
คำพูดของกษัตริย์ดาราต่อราชันพระอาทิตย์เกาหาน สอดคล้องกับทวนพระอังคารอยู่บ้าง
การวิจารณ์เกาหานของทั้งสองฝ่ายไม่ได้เหมือนกันหมด แต่ในนี้ก็มีจุดร่วมกันมากมาย จุดขัดแย้งกันน้อย
“หากเป็นสหายร่วมเส้นทางหลิง…” กษัตริย์ดาราลังเลอย่างหาได้ยาก “นางสนิทกับสหายร่วมเส้นทางเกายิ่งกว่า แต่ที่แล้วมาไปไหนมาไหนคนเดียว กลับไม่อาจคาดถึงความคิดของนาง”
ในสมองของเยี่ยนจ้าเวกอปรากฏเงาร่างสายหนึ่ง ความจริงเงาร่างสายนั้นคลุมเครือยิ่ง มองไม่เห็นรูปร่างหน้าตาชัดเจน แต่เยี่ยนจ้าวเกอกลับมีภาพประทับต่อเงาร่างที่คลุมเครือนี้ล้ำลึก
เงาร่างที่ทิ้งมงกุฎจันทราเอาไว้บนโลกแปดพิภพ หนึ่งในเก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ ราชันพระจันทร์ หลิงชิง
ยอดฝีมือที่เป็นสตรีเพศคนที่สามในเก้านพเคราะห์นอกจากราชันพระพฤหัสบดีเซ่าจวินหวง และราชันพระราหูเจี่ยนซุ่นหัว
“ถึงแม้ว่าจุดยืนด้านทิศทางและเส้นทางในภายหลังของสำนักเต๋าจะคล้ายคลึงกับสหายร่วมเส้นทางเซ่า สหายร่วมเส้นทางเกา และสหายร่วมเส้นทางหลิง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างกันได้แต่บอกว่าธรรมดา” กษัตริย์ดาราส่ายหน้าเล็กน้อย “หากต้องพูดจริงๆ ในพวกเราทั้งเก้าคน สหายร่วมเส้นทางเซ่ามีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพี่ร่วมเส้นทางเจี่ยงและซิงถางดีที่สุด”
“ถึงแม้นางกับสหายร่วมเส้นาทงเจี่ยงมีความเห็นไม่ลงลอยกันในด้านจุดยืนของเส้นทาง แต่ว่าในอดีต สหายร่วมเส้นทางเซ่าปฏิบัติตัวเหมือนเป็นกึ่งศิษย์ของพี่ร่วมเส้นทางเจี่ยง”
เจี่ยงเซิ่น อดีตราชันพระเสาร์ กษัตริย์ดินในปัจจุบัน คนที่มีอายุมากมที่สุดในเก้านพเคราะห์ และบุคคลที่รอดจากวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่
เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญพร้อมพยักหน้า
ความสัมพันธ์ส่วนตัวค่อนข้างดี แต่ความเห็นในเรื่องส่วนรวมกลับมีความขัดแย้ง เรื่องนี้ไม่ได้หายาก
เพียงแต่ถ้าหากความขัดแย้งขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ท้ายที่สุดก็หลีกเลี่ยงการแยกทางไม่ได้ มิตรภาพและความสัมพันธ์ส่วนตัวในตอนแรกย่อมหายไปด้วย
“ผู้ร่วมเส้นทางเจี่ยงไม่ต้องพูดถึงมาก ซิงถางพบภัยพิบัติและจากโลกไป แต่ยังมีอีกคนหนึ่งที่คบหาสหายร่วมเส้นทางเซ่าค่อนข้างล้ำลึก” กษัตริย์ดารากล่าวอย่างแช่มช้า
เยี่ยนจ้าวเกอถาม “ราชันพระอังคาร?”
“ไม่ผิด” กษัตริย์ดาราตอบ “แต่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหายร่วมเส้นทางเซ่ากับเขา ข้าเองก็ไม่แน่ใจนัก แต่ยืนยันได้ว่าหลายปีที่ผ่านมา เขาตามหาตำแหน่งของสหายร่วมเส้นทางเซ่ามาโดยตลอด ไม่เคยหยุดแม้แต่วินาทีเดียว เป็นความแค้นหรือเป็นอะไร ข้าไม่อาจตัดสินได้”
กษัตริย์ดารามองเยี่ยนจ้าวเกอ “แต่เทียบกับสหายเร่วมเส้นทางเกาและสหายร่วมเส้นทางหลิงแล้ว นี่อาจจะเป็นเส้นทางที่เป็นไปได้ยิ่งกว่า”
เยี่ยนจ้าวเกอคำนวณในใจอยู่สักพัก ไม่ได้พูดถึงค่ายกลเส้นรุ้งจตุรัสของเสวี่ยชูฉิงผู้เป็นมารดา ถามว่า “มิติไร้สิ้นสุดกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต ราชันพระอังคารหายตัวไปหลายพันปี ไม่ทราบกษัตริย์ดารามีวิธีติดต่อกับเขาหรือไม่”
“ข้าไม่มีวิธีติดต่อ” กษัตริย์ดาราตอบ “แต่ว่ามีเบาะแสชิ้นหนึ่ง บางทีเจ้าอาจลองดูได้”
เยี่ยนจ้าวเกอหยั่งเชิงถาม “ทวนพระอังคารหรือ”
“ไม่ใช่ แต่อาจบอกได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกันอยู่” กษัตริย์ดารายิ้ม “เป็นบ้านเกิดของพวกเขา”
เยี่ยนจ้าวเกอสายตากลายเป็นคมกริบทันที “บ้าน…บ้านเกิดของ…พวกเขา”
“ใช่แล้ว ทั้งสองเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งมังกร” กษัตริย์ดาราสีหน้าฉายแววลำลึกความหลัง “บางทีเจ้าอาจจะรู้แล้ว ว่าทวนพระอังคารเกิดจากการผนึกวิญญาณปีศาจเข้าไปในอาวุธ การบอกว่าเป็นปีศาจอาจไม่ถูกต้องนัก สมควรบอกว่าเป็นครึ่งปีศาจถึงจะถูก บางทีอาจเป็นเพราะสาเหตุนี้ ในตอนยังเด็กเขาจึงถูกหยามเหยียดจากคนในครอบครัวไม่น้อย ดังนั้นต่อมาจึงได้จงเกลียดจงชังเผ่ามังกรถึงเพียงนั้น หลังจากได้รับบาดเจ็บปางตาย จนรอดมาได้เพราะอาศัยร่างของอาวุธก็ยังไม่เคยลืมเลือน เข่นฆ่าเหล่ามังกร สุดท้ายถูกผนึกไปหุบเหวเหมันต์บรรพกาล”
เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง “ฟังแล้วดูเหมือนราชันพระอังคารกลับคล้ายไม่ได้เคียดแค้นเผ่ามังกรถึงเพียงนั้น”
“ต่างกับทวนพระอังคารจริงๆ” กษัตริย์ดาราพยักหน้า
“บ้านเกิด…หรือ?” เยี่ยนจ้าวเกอหรี่ตา พึมพำขึ้น
………………..