ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1186 ข้าได้เสียสติไปเมื่อพันปีก่อนแล้ว
ม่านสีขาวหิมะคลี่กาง ครอบฟ้าดิน สะกดจุดเชื่อมต่อระหว่านพยมโลกกับชายฝั่งยมโลกแห่งนั้นไว้ชั่วคราว
การต่อสู้ในชายฝั่งยมโลกก่อให้เกิดคลื่นโหมซัดหลายสาย พุ่งปะปะใส่ม่านสีขาวหิมะ ลดพลังของมันอย่างต่อเนื่อง
แต่ในเวลาสั้นๆ กลับไม่อาจเจาะผนึกนั้นได้
จักรพรรดิศานติและจักรพรรดิอุรุแห่งมรกตท่องฟ้าแตกตื่นโมโห
หากคิดข้ามชายฝั่งยมโลก ออกจากมิติผ่านมิติอีกด้านหนึ่ง จำเป็นต้องข้ามสนามรบไป
จอมมารในนี้ไม่ใช่เยือกเย็นมีสติปัญญาทั้งหมด แต่มีตนบ้าคลั่งกระหายเลือดอยู่ด้วย
ขณะที่โจมตีธารน้ำแข็ง ก็ม้วนจักรพรรดิศานติกับจักรพรรดิอุรุเข้าสู่สนามรบ
“ข้าคือเฉินเสวียนจงจากยอดเขาเมฆมรกตโลกซ้อนโลก ได้สะกดขัดขวางการกลับมาของปีศาจน้ำกุ่ยอยู่ที่นี่ สถานการณ์ในตอนนี้เกิดขึ้นเพราะเจี่ยหมิงคงศิษย์ของข้า พวกท่านรีบออกไปจากที่นี่โดยเร็ว หากตามหาหมิงคงศิษย์ข้าเจอ ก็จะแก้ไขภัยพิบัตินี้ได้”
เพราะไม่มีข่าวคราวมาหลายปี จอมยุทธ์รุ่นเยาว์จึงเริ่มไม่รู้จักชื่อของเฉินเสวียนจง
แต่ว่าจักรพรรดิปฐพีศานติและจักรพรรดิสัจอุรุย่อมไม่มีทางไม่รู้จักชื่อของกษัตริย์ดาราเฉินเสวียนจง อดีตราชันพระพุทธ ต่อให้พวกเขาจะเป็นจอมยุทธ์สายเหนือพิสุทธิ์ก็ตาม
น่าเสียดายตอนนี้พวกเขาถูกจอมมารพัวพันอยู่ หนทางเบื้องหลังถูกปิดตาย ไหนเลยคิดออกก็จะออกไปได้
ยิ่งไปกว่านั้น เสียงในธารน้ำแข็งที่แท้เป็นของผู้ใดกันแน่ สองจักรพรรดิแห่งมรกตท่องฟ้าไม่อาจยืนยัน ยากจะแยกแยะมิตรศัตรูอยู่ชั่วขณะ ไม่กล้าเชื่อง่ายๆ
โดยเฉพาะพวกเขายังรู้สึกได้ว่า ด้านใต้ธารน้ำแข็งมีปราณมารที่น่ากลัวกำลังก่อเกิด!
นี่ยิ่งทำให้พวกเขาไม่กล้าประมาท กลัวว่าจะเป็นการล่อลวงจากมารร้าย
สามฝ่ายสู้กันดุเดือด สถานการณ์สูญเสียการควบคุมโดยสิ้นเชิง
ในเขตมารนพยมโลกด้านนอกชายฝั่งยมโลก เจี่ยหมิงคงหลับตา แต่ยามหันหน้าหาผนึกม่านฟ้าสีขาวหิมะนั้น สีหน้านางกลับเยือกเย็นยิ่ง
นางเปลี่ยนแปลงท่มุทราติดต่อกัน พิธีกรรมหนึ่งเริ่มก่อตัว
‘มีคนสองคนจากมรกตท่องฟ้าเข้ามาร่วมด้วย สองฝ่ายพัวพันกัน แรงกดดันของอาจารย์กลับลดน้อยลงส่วนหนึ่ง สามารถช่วงชิงเวลาได้มากพอ ไม่ถูกมารน้ำกุ่ยฉวยโอกาสจริงๆ’
เจี่ยหมิงคงสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง
ขณะเดียวกัน สองฝ่ายนี้จะดึงดูดความสนใจของเฉินเสวียนจง ทำให้เขาไม่อาจรับมือการเปลี่ยนแปลงต่อจากนี้ได้
จนถึงตอนนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมายของนาง
เวลาพันปีผันผ่าน ถ้าหากไม่ทำอะไรเลย กาลเวลาไร้สิ้นสุดในอนาคตก็เป็นเช่นนี้
นี่เป็นเรื่องที่นางไม่ยินยอมเห็น นางจะต้องเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งนี้ให้ได้ เรื่องอันใดก็ไม่สำคัญเท่าตอนนี้ ราคาใดๆ ก็ต้องจ่ายอย่างเต็มที่
เจี่ยหมิงคงสีหน้าเคร่งขรึม ประสานท่ามุทราบนมือทั้งสองข้างเข้าหากัน
พิธีกรรมตรงหน้ากลายเป็นลำแสง แล้วพองออกด้านในนพยมโลกที่มืดมิด
ธารน้ำแข็งขนาดมหึมาไร้ขอบเขตสั่นไหวอย่างรุนแรงในชายฝั่งยมโลกแห่งนั้น แม้แต่พวกมารที่คลุ้มคลั่งก็ยังสงบนิ่งลงเพราะเหตุการณ์นี้ มองดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกเบื้องหน้าด้วยความสับสน
จักรพรรดิศานติและจักรพรรดิอุรุระวังตัวมากกว่าเดิม
เห็นธารน้ำแข็งตรงหน้าพลันมีแสงสีขาวสว่างขึ้น ข้ามผ่านเขตแดน บรรลุถึงมิติต่างแดนไร้สิ้นสุดที่อยู่ไกลออกไป จากนั้นก็กลายเป็นตราอาคมขนาดยักษ์อันหนึ่งกลางอากาศ
ตราอาคมหมุนวน ส่องแสงสีขาวอ่อนโยน ขณะที่กะพริบกลับทำให้ผู้คนตื่นตะลึง
เสียงถอนใจยืดยาวดังมาจากในธารน้ำแข็ง “หมิงคง ไฉนเจ้าทำเช่นนี้”
ขณะเดียวกันก็มีเสียงที่ล่องลอยดังขึ้นข้างหูของทุกคน เหมือนกับภาพลวงตา
จักรพรรดิศานติกับจักรพรรดิอุรุไม่เข้าใจเจตจำนงที่อยู่ด้านใน แต่พวกเขามีความรู้กว้างขวาง กระจ่างแจ้งในทันที “เจตจำนงของจอมมาร!”
เป็นอย่างที่คาดไว้ เห็นเหล่ามารที่ก่อนหน้านี้ยังคลุ้มคลั่ง โจมตีสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตตรงหน้า ยามนี้ไม่ว่าเป้าหมายก่อนหน้าจะเป็นผู้ใด กลับพุ่งเข้าไปยังธารน้ำแข็งพร้อมกัน เมินจักรพรรดิศานติและจักรพรรดิอุรุโดยสมบูรณ์
“ในธารน้ำแข็งได้ผนึกมารฟ้าที่ร้ายกาจตนหนึ่งเอาไว้ เมื่อครู่เป็นมันออกคำสั่ง ดังนั้นมารเหล่านี้จึงค่อยโจมตีธารน้ำแข็งพร้อมกันหรือ” จักรพรรดิศานติกับจักรพรรดิอุรุขมวดคิ้ว “เป็นกษัตริย์ดาราจากโลกซ้อนโลกที่ผนึกมารน้ำกุ่ยอยุ่ที่นี่มาหลายปีจริงๆ สินะ”
พวกเขาต้องการขัดขวางเหล่ามาร แต่ยังกลัวว่าจะเป็นกับดัก
สองจักรพรรดิเงยหน้ามองตราอาคมที่ส่องแสงสีขาวในมิติที่อยู่ไกลออกไป แตกตื่นพร้อมกัน “ตราอาคมนี้…คล้ายชี้ไปที่มรกตท่องฟ้า?!”
“ไม่ถูกต้อง ชี้ไปที่ใครคนใดคนหนึ่งในมรกตท่องฟ้าหรือ”
เกี่ยวข้องกับจักรพรรดินีเจี่ยหมิงคง แต่กลับอยู่ในมรกตท่องฟ้า…
ฉู่หลีหลี
สองจักรพรรดิแห่งมรกตท่องฟ้าสูดลมหายใจเย็นเยียบพร้อมกัน
ถึงแม้จะยังไม่เข้าใจต้นสายปลายเหตุด้านใน แต่ก็มองออกว่า การเปลี่ยนแปลงตรงหน้าไม่มีผลดีต่อมรกตท่องฟ้าแน่นอน
คนทั้งสองสบตากัน พากันหมุนกาย จากนั้นก็พุ่งใส่ม่านสีขาวหิมะที่สกัดทางไป
ธารน้ำแข็งตรงหน้าแม้ดูอันตราย แต่ถ้าด้านในเป็นกษัตริย์ดาราจริงๆ สมควรยันไว้ได้
คิดแก้ไขสถานการณ์ ต้องตามหาจักรพรรดินีที่อยู่ด้านนอก จะมีประสิทธิภาพมากกว่า
ไม่ว่าอีกฝ่ายคิดทำอะไร การขัดขวางไม่ให้ทำสำเร็จ ย่อมไม่ผิดพลาด
เมื่อไม่มีจอมมารคอยพัวพัน การโจมตีของสองจักรพรรดิเซียนจริงแท้ก็ไม่ธรรมดายิ่ง ผนึกที่ขวางทางอยู่อ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว
ในนพยมโลก จักรพรรดินีสีหน้าไร้อารมณ์ ‘มอง’ ม่านแสงสีขาวหิมะตรงหน้าซึ่งยิ่งมายิ่งบางลง ใบหน้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
ครั้งกระโน้น เฉินเสวียนจงใช้ร่างของตัวเองรับพิธีร่างสถิตซึ่งมารน้ำกุ่ยใช้กลับมา จากนั้นก็หยุดไว้กลางทาง สะกดมันไว้ในชายฝั่งยมโลก
ปัจจุบันจักรพรรดินีคิดกระทำตรงข้าม ใช้คนอื่นมาแทนที่เขา
การกลายเป็นร่างสถิตของจอมมาร ไม่เกี่ยวข้องกับพลังฝึกปรือของคน แต่ต้องดูว่าพรสวรรค์เหมาะสมหรือไม่ ความน้อยของจำนวนเท่ากับหนึ่งในพันล้าน
นางเจี่ยหมิงคงทำไม่ได้ จักรพรรดิศานติและจักรพรรดิอุรุก็ทำไม่ได้ แต่ว่ามีคนทำได้
ผู้ใดเรียนผูกผู้นั้นต้องเรียนแก้
นอกจากเฉินเสวียนจงแล้ว ร่างสถิตที่เหมาะกับมารน้ำกุ่ยมากที่สุดในโลกนี้ในห้วงขณะนี้ก็คือฉู่หลีหลี!
สิ่งที่เจี่ยหมิงคงคิดกระทำในตอนนี้ คือการคืนทุกอย่างกลับไป
ตรามารที่รบกวนเฉินเสวียนจงเดิมทีเป็นของฉู่หลีหลี ถึงแม้ว่าวันนี้เฉินเสวียนจงเสี่ยงจะกลายเป็นร่างสถิตมาร แต่ว่าสุดท้ายแล้วยังคงอยู่ที่ฉู่หลีหลี
จักรพรรดินีลำบากศึกษามาหลายปี อดทนเตรียมตัวเพื่อวินาทีนี้
ต่อให้ปัจจุบันฉู่หลีหลีจะผลักเปิดประตูเซียนแล้วก็ไม่มีประโยชน์
นั่นเดิมทีเป็นของนาง มาตรแม้นว่าจะสะบั้นต้นตอ แต่ก็เหมือนไฟป่าที่ยังไม่มอดดับ พอลมวสันต์พัดผ่านก็ลุกไหม้ขึ้นมาอีก เพียงแต่ว่าลมวสันต์เกิดขึ้นยากเท่านั้น
แต่วันนี้ ลมวสันต์มาแล้ว
เมื่อทำให้ตรามารเกิดขึ้นบนร่างฉู่หลีหลี ทำให้นางกลายเป็นร่างสถิตมารน้ำกุ่ยอีกครั้ง สิ่งชั่วร้ายที่ทำให้เฉินเสวียนจงถูกคุมขัง ย่อมได้รับการแก้ไขไปด้วย
ในมรกตท่องฟ้ามีกษัตริย์ลี้ลับเกาชิงเสวียนอยู่ มีกษัตริย์เถาผู้เป็นบูรพาจารย์สายเหนือพิสุทธิ์อยู่
ถึงแม้จะจะมีคนเล่าว่าสองคนกำลังเข้าฌาน แต่เรื่องการคืนชีพของมาร พวกนางจะต้องไม่มีทางนิ่งดูดาย
ไม่เอ่ยถึงว่าฉู่หลีหลีไม่แน่ว่าจะกลายเป็นมาร ถึงนางจะมีโอกาส เมื่อสองกษัตริย์แห่งมรกตท่องฟ้ารับมือด้วยกัน ในสถานการณ์ที่มารน้ำกุ่ยจะจุติมายังโลก แล้วถูกหยุดไว้ที่มรกตท่องฟ้า ก็เกรงว่าจะมีผลร้ายมากกว่าผลดี
เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเดินตามลอยของฉู่หวนในอดีต ซึ่งเพิ่งคืนชีพได้ไม่นานก็ดับสูญทันที
อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในนี้ไม่ใช่มารน้ำกุ่ย ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นตัวเฉินเสวียนจงเอง!
ที่ล่อเหล่ามารมาที่นี่ ดึงดูดให้จักรพรรดิอุรุและจักรพรรดิศานติมา ก็เพื่อดึงสมาธิของเฉินเสวียนจง
‘ท่านอาจารย์ ต่อให้ท่านจะแค้นข้าเพราะเรื่องนี้ ข้าก็ไม่เสียใจ’ จักรพรรดินีสีหนาเยือกเย็น ‘ข้าได้เสียสติไปตั้งแต่พันปีก่อนแล้ว’
………………..