ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1191 ความเสียดายพันปี
กษัตริย์ดาราได้รับอิสระ ความฝันของจักรพรรดินีกลายเป็นจริง
แต่ว่าในตอนที่วินาทีนี้เกิดขึ้นจริงๆ กลับเป็นเวลาที่เจี่ยหมิงคงไม่มีหน้าพบอาจารย์ของตัวเอง
ถึงแม้ผลลัพธ์ในตอนสุดท้ายจะค่อนข้างตรงกับแผนการเดิมของนาง แต่พอได้สัมผัสกับสายตาที่ซับซ้อนของเฉินเฉียนหัว นางก็ไม่อาจสบตาอีกฝ่ายได้ตรงๆ
ถ้าหากว่าต้องเผชิญความเคียดแค้นและความโกรธ บางทีนางอาจรับได้
ขณะมองเงาหลังที่ห่างออกไปของเจี่ยหมิงคง กษัตริย์ดาราก็เงียบงันอยู่เนิ่นนาน จนกระทั่งเงาร่างสีขาวนั้นหายไปโดยสิ้นเชิง เขาจึงค่อนถอนใจอย่างไร้เสียง
“พวกเราทำสำเร็จแล้ว เรื่องราวยังไม่ถึงขั้นที่ไม่อาจหันหลังกลับ ยังสามารถคิดหาแผนการได้” เยี่ยนจ้าวเกอลดเสียงกล่าวขึ้นจากด้านข้าง
ถ้าหากทำให้ฉู่หลีหลีกลายเป็นมาร หรือถึงขั้นถูกมรกตท่องฟ้ารุมสังหารตามแผนการก่อนหน้าของเจี่ยหมิงคงจริงๆ เท่ากับเรื่องราวที่จะตามมาก็จบลงไปด้วย
“ข้าไม่โทษหมิงคง” กษัตริย์ดาราส่ายหน้า “ตอนนั้นเป็นข้าที่ติดค้างนาง สาเหตุทุกอย่างล้วนมาจากการตัดสินใจของตัวข้า เมื่อมีผลลัพธ์อะไรตามมา ย่อมเป็นข้าที่ต้องรับผิดชอบ ไม่อาจต่อว่าหมิงคงและไม่อาจต่อว่าหลีหลีเช่นกัน เพียงแต่การกระทำในวันนี้ของหมิงคงอยู่เหนือความคาดหมายของข้า ผลกระทบของเรื่องราวในวันนั้นส่งผลต่อนางมากเกินไป”
เยี่ยนจ้าวเกอพอฟังคำพูดนี้แล้ว ก็อดลืมตาโตไม่ได้ ต่อจากนั้นก็ไม่ได้ถามอะไรต่ออย่างรู้ความ
ถึงเขาจะสงสัยมาก แต่ถ้าถามอีกก็เกรงว่าจะเกิดเรื่อง…
“เจ้าไม่ต้องคิดมากขนาดนั้น” กษัตริย์ดารายิ้มพร้อมมองเยี่ยนจ้าวเกอ จากนั้นค่อยส่ายศีรษะและพูดอย่างตรงไปตรงมา “การให้ความสำคัญกับจารีตประเพณีบางอย่างไม่ใช่จะไร้เหตุผล อย่างเช่นอาจารย์บุรุษรับลูกศิษย์สตรี อาจารย์สตรีรับลูกศิษย์บุรุษ”
เยี่ยนจ้าวเกอพลันตาเป็นประกาย
ถึงแม้ว่าจะไม่ทราบถึงอดีตของกษัตริย์ดาราสามศิษย์อาจารย์ แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็มีการคาดเดาผ่านท่าทีแปลกประหลาดระหว่างคนทั้งสามไม่น้อย เปลวไฟแห่งความอยากรู้อยากเห็นลุกโชติช่วง
‘ตอนนั้นเป็นข้าที่ติดค้างนาง’
เมื่อรวมกับคำพูดเมื่อครู่ของกษัตริย์ดารา เยี่ยนจ้าวเกอก็เหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง
ถึงแม้จะยอมแบกรับความลำบากแทนฉู่หลีหลี เฝ้าอยู่ที่นี่อย่างเดียวดายไม่ออกไปไหนมาเป็นร้อยเป็นพันปี แต่ว่ากับศิษย์คนเล็กผู้นี้ บางทีกษัตริย์ดาราเฉินเสวียนจงอาจผูกพันฉันท์ศิษย์อาจารย์ มีเพียงความรู้สึกรับผิดชอบและความรู้สึกทำตามชะตาลิขิต
ผู้ที่ทำให้เฉินเสวียนจงต้องประสบกับด่านรักจริงๆ กลับเป็นศิษย์คนโตของเขา จักรพรรดินีเจี่ยหมิงคง!
กษัตริย์ดารามองเยี่ยนจ้าวเกอ ถอนใจคำหนึ่งและไม่ได้กล่าวสืบต่อ เขาไม่ใช่คนพูดมาก แต่ว่าเรื่องราวในวันนี้ทำให้จิตใจของเขาได้รับการกระทบกระเทือน
เยี่ยนจ้าวเกอเพิ่งช่วยงานใหญ่ไป ทั้งยังเป็นลูกหลานของคนรู้จักเก่า ยิ่งทำให้กษัตริย์ดาราไม่อาจไม่ลดการป้องกันทางจิตใจลงหลายส่วน
เหตุผลที่อยู่ในระดับชั้นลึกยิ่งกว่าก็คือ การคบหาระหว่างเทพกระบี่เยี่ยนซิงถางและจักรพรรดิกระบี่ตี๋ชิงเหลียนสามีภรรยา ซึ่งเป็นปู่และย่าของเยี่ยนจ้าวเกอครั้งกระโน้น มีความรักหวานซึ้ง สมัครสมานกลมเกลียว ทำให้เฉินเสวียนจงซาบซึ้ง
และเป็นเพราะตอนนั้น จิตใจของเฉินเสวียนจงซึ่งที่แล้วมาไม่เคยคิดถึงเรื่องรักใคร่ถูกสั่นไหว
เพียงแต่ก็หยุดแค่เท่านี้
ในกาลเวลาเนิ่นนาน เขาไม่ได้พบสตรีที่ทำให้จิตใจของเขาสั่นไหวเพิ่ม
จนกระทั่งในวินาทีหนึ่ง เขาพลันพบว่าดรุณีอาภรณ์ขาวที่อยู่ข้างกายตนเติบโตแล้ว…
นั่นความจริงยังเป็นตอนที่ฉู่หลีหลีเข้าสำนัก เพียงแต่ว่า เฉินเสวียนจงไม่แสดงออกภายนอก เจี่ยหมิงคงจึงไม่เคยรู้ c]tเป็นเพราะเขาไม่กล้ายืนยันว่าตนทำแบบนี้จะถูกหรือผิด
ด้านจริยะย่อมไม่เหมาะสม แต่ด้านความรักเล่า?
เฉินเสวียนจงที่ได้ผลักเปิดประตูเซียนมานาน และเดินเชิดหน้าอยู่บนเส้นทางวรยุทธ์รู้สึกสับสนอย่างหาได้ยาก
เขาไม่ได้มีโทสะต่อเจี่ยหมิงคงที่ทำตามอำเภอใจในวันนี้จริงๆ
ตอนนี้เขายังจำอดีตในปีนั้น ในวันนั้น ในเวลานั้นได้…นั่นเป็นวันเกิดของเจี่ยหมิงคง
และวันนั้น เจี่ยหมิงคงก็ได้รับของขวัญวันเกิดที่ผู้เป็นอาจารย์มอบให้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าสำนักมา เหมือนกับฉู่หลีหลี
สีหน้าแตกตื่นยินดี กังวลใจ เขินอาย ลังเล ว้าวุ่น เฉินเสวียนจงยังคงจำได้ดีจนถึงวันนี้
น่าเสียดายที่เดิมทีเขาคิดจะให้คำตอบกับเจี่ยหมิงคง แต่กลับถูกขัดขวาง
คำพูดที่ต้องการกล่าวไม่ได้พูดออกจากปาก มิคาดกลายเป็นตลอดไป
ในวันนั้น มารน้ำกุ่ยคืนชีพ ฉู่หลีหลีเกือบปลายเป็นมารน้ำแข็งตนใหม่
ไม่ใช่เพราะถูกเฉินเสวียนจงปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เป็นเพราะนางทราบแล้วว่าฉู่หวน บิดาของตนตายด้วยน้ำมือผู้ใดกันแน่
ดังนั้นเรื่องที่เฉินเสวียนจงเป็นห่วงมากที่สุดมาโดยตลอด ในที่สุดก็เกิดขึ้นแล้ว
ตามข้อตกลงกับอีกสองกษัตริย์ก่อนหน้า การแก้ไขมีอยู่วิธีเดียว นั่นก็คือการส่งมารน้ำแข็งสู่การดับสูญอีกครั้ง โดยที่เฉินเสวียนจงจะเป็นคนทำด้วยตัวเอง
สำหรับมารน้ำกุ่ยที่เพิ่งจะใช้ร่างของฉู่หลีหลีคืนชีพในตอนนั้น เฉินเสวียนจงคิดจะทำเรื่องนี้นับว่าง่ายดายยิ่ง
แต่สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้
การตัดสินใจของตัวเอง ตนต้องรับผิดชอบ แต่ไม่ควรให้ฉู่หลีหลีรับผิดชอบ
ผลลัพธ์สุดท้าย เฉินเสวียนจงแย่งชิงตรามารจากฉู่หลีหลี กลายเป็นร่างสถิตมารน้ำกุ่ยแทนนาง
ความจริงแล้ว พูดถึงคุณสมบัติร่างกาย เขาจึงเป็นคนที่เหมาะสมกับมาตรฐานร่างสถิตของมารน้ำกุ่ยมากที่สุดในยุคนี้
เฉินเสวียนจงไม่รู้ว่านี่เป็นเป้าหมายที่แท้จริงของมารน้ำกุ่ยที่คิดจะใช้เขาเป็นร่างสถิตหรือไม่ แต่เขาก็ยอมรับแล้ว
มิหนำซ้ำยังขวางมารน้ำกุ่ยไว้ด้านนอกประตูใหญ่ของการกลับมาได้สำเร็จ
แต่ว่าข้อแลกเปลี่ยนก็คือ ตัวเขาเองต้องถูกผนึกอยู่ในชายฝั่งยมโลกที่อยู่ระหว่างโลกมนุษย์และนพยมโลกตลอดกาล
ครั้งนั้นนอกจากอาการบาดเจ็บทางกายแล้ว เจี่ยหมิงคงที่ตอนแรกเป็นเพราะช่วยปกป้องฉู่หลีหลีกลับได้รับบาดเจ็บสาหัส มีอาการบาดเจ็บทางใจ ปวดหัวใจสุดแสน
เพิ่งจะเห็นความหวัง ยังไม่ได้รับความรู้สึกมีความสุขและยินดีนั้น ความหวังก็พลันมลาย เหลือเพียงความสิ้นหวังและความเจ็บปวดไร้สิ้นสุด
บางทีนับตั้งแต่ตอนนั้น บนโลกซ้อนโลกไม่ได้มีแค่กษัตริย์ดาราหนึ่งในสามกษัตริย์ที่หายตัวไป เจี่ยหมิงคงผู้เป็นสตรีที่ร่าเริงสดใสก็หายไปด้วยเช่นกัน
มีเพียงจักรพรรดิยะเยือกทมิฬแห่งโลกซ้อนโลกในภายหลัง
เจี่ยหมิงคง จักรพรรดินี
“ที่แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องอยู่อีกต่อไปแล้ว” ความคิดของกษัตริย์ดารากลับมาอยู่ในปัจจุบัน ส่ายหน้าเล็กน้อย “ข้าไม่ควรไปมรกตท่องฟ้า ถ้าหากจ้าวเกอเจ้าสะดวก สามารถไปแทนข้าได้หรือไม่”
ทางฉู่หลีหลีตอนนี้เป็นอย่างไร ยังเป็นปริศนา
พอเกิดเรื่องราวแบบนี้ มรกตท่องฟ้าย่อมไม่อาจให้นางอยู่ต่อไปได้อีก การปล่อยให้นางอยู่ต่อมีแต่จะสร้างความกังวล
สถานการณ์ในปัจจุบันของฉู่หลีหลี ถ้าหากออกจากมรกตท่องฟ้าก็ยังคงได้รับการคุกคามจากจอมมาร
ถึงแม้ว่าจอมมารที่มาถึงชายฝั่งยมโลกแห่งนี้ถูกกษัตริย์ดาราเก็บกวาดไปหมดสิ้น ข่าวคราวกลับยังคงหลุดออกไปได้
“กษัตริย์ดาราเกรงใจแล้ว ข้าจะเดินทางไปยังมรกตท่องฟ้า” เยี่ยนจ้าวเกอประสานมือ “ท่านกับจักรพรรดินี…”
“หมิงคง…” กษัตริย์ดาราถอนใจ ก่อนจะสั่นศีรษะ
เขาไม่โทษจักรพรรดินี แต่ไม่ได้หมายความว่าเขายอมรับการกระทำของนาง
จักรพรรดินีเห็นได้ชัดว่าทราบเรื่องนี้ดี ดังนั้นพอทั้งสองได้เจอกันจึงไม่มีวาจาใดจะกล่าว
เวลายังไม่อาจบรรเทาเรื่องนี้ได้ ได้แต่ต้องรอให้ความจริงปรากฎเหมือนศิลาผุดขึ้นหลังน้ำลด ถึงค่อยมีผลลัพธ์สุดท้าย
เพียงแต่ว่าผลลัพธ์นั้นจะเป็นอย่างไร กลับใช่ว่าจะทำให้คนทุกคนพอใจ
เยี่ยนจ้าวเกอผงกศีรษะ ไม่ได้ถามต่อ
“ส่วนตัวข้าจะกลับโลกซ้อนโลก” กษัตริย์ดารากล่าวอย่างเรียบเฉย “เรื่องราวในวันนั้นเกิดอย่างกะทันหัน ข้าได้แต่หยุดยั้งการกลับมาของมารน้ำกุ่ย มีเรื่องบางเรื่องที่ไม่ทันทำความเข้าใจ เฝ้าสงสัยมาแล้วพันปี”
เจี่ยหมิงคงไม่ได้คำตอบ เยว่เจิ้นเป่ยถึงอย่างไรก็ไม่ใช่คนเกี่ยวข้อง
มีคนบางคน มีเรื่องบางเรื่อง ที่มีแค่เขาเฉินเสวียนจงจึงมีสิทธิ์ถามไถ่
………………..