ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1216 จักรพรรดิอาทิตย์เทียนไข
ในห้าจักรพรรดิแห่งโลกซ้อนโลก เยี่ยนจ้าวเกอเคยเห็นมาแล้วสี่คน เหลือแต่จักรพรรดิอาทิตย์ที่ยังไม่เคยพบกันตรงๆ
ก่อนหน้านี้จักรพรรดิผู้นี้อยู่ในมิติต่างแดน ไม่ได้กลับโลกซ้อนโลกเหมือนอย่างกษัตริย์ดินและกษัตริย์กระบี่
เขาได้พบฝ่ายเดียวกันในต่างแดน เดิมทีเป็นเรื่องที่น่ายินดีสมควรเฉลิมฉลอง แต่เยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่คิดจะผลีพลามเข้าไปทักทาย ‘พวกเดียวกัน’
เป็นเพราะเขาทราบว่า ในห้าจักรพรรดิบนโลกซ้อนโลก จักรพรรดิอาทิตย์สนับสนุนผากิเลน มิหนำซ้ำยังมีความสัมพันธ์กับจักรพรรดิเอกภพกำเนิดดียิ่ง
ไม่นับเฉินเฉียนหัวที่ลือกันว่าได้ผลักเปิดประตูเซียนแล้ว ในหมู่จักรพรรดิเซียนจริงแท้บนโลกซ้อนโลก จักรพรรดินีกับจักรพรรดิเอกภพมีความสำเร็จช้ากว่า
จักรพรรดิอาทิตย์กับจักรพรรดิแพรเป็นคนในยุคเดียวกัน ล้วนได้ผลักเปิดประตูเซียนเมื่อพันกว่าปีก่อน ในเวลานั้นพวกเขาต่างเคยถูกจัดอยู่ในห้าจักรพรรดิพร้อมกับจักรพรรดิประกายกาฬอิ่นเทียนเซี่ย และมีการคบหากัน ส่วนจักรพรรดิสรรพสิ่งไร้จำกัดผลักเปิดประตูเซียนเร็วกว่า เป็นผู้อาวุโสที่สุดในห้าจักรพรรดิแห่งโลกซ้อนโลก
ว่ากันว่ารากฐานของจักรพรรดิอาทิตย์มาจากการศึกษาคัมภีร์นภาหยินหยางและคัมภีร์นภาครอบจักรวาลในสายสืบทอดของเทวกษัตริย์เต๋า อันเป็นการสืบทอดกระแสตรงของสายหยกพิสุทธิ์ซึ่งถูกขุดค้นพบ
ต่อมามีคำพูดกล่าวไว้ว่าเขาร่ำเรียนที่ผากิเลน ได้รับการถ่ายทอดคัมภีร์นภาจากกษัตริย์ดิน
ครั้งกระโน้นในตอนที่ราชวงศ์ต้าเวียนอ๋องเพิ่งก่อตั้งบนทะเลหวงเจียเขตตะวันอาคเนย์ เป็นเพราะว่าวรยุทธ์ของพวกเขาเลียนแบบพัดห้าอัคคีเจ็ดวิหค ดังนั้นจึงมีคนกล่าวว่าคนที่ยืนอยู่เบื้องลังราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องคือจักรพรรดิอาทิตย์เทียนไข
ภายหลังพร้อมกับที่ลูกศิษย์ของจักรพรรดิอาทิตย์เทียนไขปฏิเสธโดยตรง เรื่องราวจึงค่อยจบลง
แต่ว่าตอนนี้พอนึกย้อนว่าจักรพรรดิอาทิตย์กับจักรพรรดิเอกภพมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด ก็คล้ายกับไม่ได้น่าประหลาดใจขนาดนั้น
ถึงอย่างไรตามคำพูดในตอนที่หวังผู่แห่งเขานครหยกสนทนากับเยี่ยนจ้าวเกอ ในตอนที่กานหยวนจื่อผลักเปิดประตูเซียน จักรพรรดิอาทิตย์เคยให้การช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ
‘ถึงแม้จะมาจากสามพิสุทธิ์สายหลักสำนักเต๋าเหมือนกันหมด แต่ว่า…’ เยี่ยนจ้าวเกอหยุดฝีเท้ามองอยู่ห่างๆ ในแสงคันฉ่องที่อยู่ห่างออกไป สามารถเห็นแสงเทียนกระพริบเป็นจุดๆ
เขาใคร่ครวญว่า ‘นั่นคือโคมในคันฉ่องที่ลือกันกระมัง?’
ในห้าจักรพรรดิบนโลกซ้อนโลก จักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงกับจักรพรรดิเอกภพกานหยวนจื่อ เป็นเพราะว่าสำเร็จเป็นเซียนช้ากว่า และปัจจัยทางด้านเวลาบวกกับการวบรวมวัตถุดิบ จึงยังไม่ได้หลอมอาวุธเซียนเป็นของตัวเอง
จักรพรรดินีแม้จะเป็นลูกศิษย์ของกษัตริย์ดารา แต่อาวุธเซียนระดับไร้ช่องโหว่ที่กษัตริย์ดาราเคยหลอมสร้างขึ้นตอนอยู่ในระดับเซียนจริงแท้ได้เกิดความเสียหายในการต่อสู้แต่แรก
นอกจากจักรพรรดินีกับจักรพรรดิเอกภพแล้ว จักรพรรดิไร้จำกัด จักรพรรดิแพร และจักรพรรดริอาทิตย์ล้วนพกพาอาวุธเซียนระดับไร้ช่องโหว่ติดตัว
โคมในคันฉ่องเป็นอาวุธเซียนไร้ช่องโหว่ที่ส่องสว่างฟ้าดินในมือของจักรพรรดิอาทิตย์ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขามาหลายปี มีชื่อเสียงโด่งดัง
‘นั่นคือ…’ เยี่ยนจ้าวเกอสายตาคมกริบ เห็นแสงโคมในคันฉ่องพลันสว่างขึ้น ในแสงไฟสีทองจางๆ พลันมีประกายแสงสีแดงชาดเพิ่มมา จากนั้นก็เห็นเปลวเพลิงสีแดงชาดสายหนึ่งพุ่งออกมาจากโคมในคันฉ่อง ลากเป็นเส้นสีแดงสายหนึ่งกลางที่ว่าง
เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่าแสงเพลิงสีแดงชาดนั้นคุ้นตายิ่ง
‘ทวนพระอังคาร?’ เขาตาเป็นประกาย
ดูท่าทางในตอนที่ราชันพระอังคารสั่วหมิงจางอาละวาดที่โถงเซียนก่อนหน้า ทวนพระอังคารจะไม่ได้ร่วมทางไปด้วย
ภายหลังเป็นเขาสัมผัสได้เองว่าสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง หรือสั่วหมิงจากแจ้งให้เขารู้แล้วจึงมาโผล่บริเวณนี้
แต่ว่ายอดฝีมือโถงเซียนที่รวมตัวกันอยู่ที่นี่มีจำนวนมากเกินไป ทวนพระอังคารไม่อาจล้วงลึกเข้าไปด้านในได้ ได้แต่หยุดอยู่ด้านนอก ทดลองตามหาโอกาส
กลับไม่ทราบว่าเจอกับจักรพรรดิอาทิตย์เทียนไขได้อย่างไร
‘ไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน’ เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิด ‘แต่ดูจากท่าทางเหมือนจะแยกไปตามทางของใครของมัน ไม่ได้เดินบนเส้นทางเดียวกัน’
ขณะที่คิด เยี่ยนจ้าวเกอก็สำรวจสภาพรอบๆ พร้อมติดตามไปยังทิศทางของทวนพระอังคาร
การโจมตีเข่นฆ่าของทวนพระอังคารคมกล้า แต่ว่าไม่ถนัดซ่อนตัว ยามเคลื่อนไหวในบริเวณนี้จึงลำบากยิ่งกว่าเยี่ยนจ้าวเกอ มีโอกาสถูกยอดฝีมือฝ่ายโถงเซียนพบได้ทุกเวลา
ดูเหมือนตัวเขาก็เข้าใจปัญหานี้ดี จึงระวังตัวเป็นพิเศษ
ในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอกำลังส่งเสียงเรียก อีกฝ่ายก็สัมผัสได้ในทันที
กระนั้นพอเห็นว่าคนที่โผล่มาเป็นเยี่ยนจ้าวเกอ ทวนพระอังคารก็ผ่อนคลายลงมาก แน่นอนว่ามีความกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าการจู่โจมในครั้งแรกของตนได้พลาดส่งเยี่ยนจ้าวเกอและฟู่ถิงไปยังจักรวาลที่โถงเซียนปกครอง
“สมควรเรียกท่านว่าผู้อาวุโสเยี่ยกระมัง” เยี่ยนจ้าวเกอกลับยิ้มพร้อมประสานมือเหมือนไม่มีเรื่องราวใด
ยักษ์เพลิงที่กลายร่างมาจากทวนพระอังคารได้ยิน หลังจากเงียบงันเล็กน้อยก็ส่ายหน้าพูดว่า “เยี่ยหยางตายไปแล้ว วันนี้เหลือเพียงทวนพระอังคารอาวุธเซียนไร้ช่องโหว่”
“สถานที่แห่งนี้ไม่เหมาะจะสนทนา พวกเราเปลี่ยนสถานที่พูดคุยเป็นอย่างไร” เยี่ยนจ้าวเกอโบกมือ “ใกล้ๆ นี้มีคนของโถงเซียนเต๋านอกรีต ข้ากับพวกเขาไม่ถูกกันนัก”
ทวนพระอังคารพยักหหน้าทันที “ตรงกับความประสงค์ของข้าพอดี”
คนทั้งสองเคลื่อนที่ไปยังความว่างเปล่า รักษาระหว่างห่างจากวงล้อมของโถงเซียน
รอจนตั้งหลักได้แล้ว ทวนพระอังคารก็พูดขึ้นก่อนว่า “เรื่องราวในวันนั้นถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจ ตอนข้าทราบเรื่องก็รู้สึกสำนึกผิด เสียใจต่อเจ้ากับสหายน้อยฟู่ผู้นั้นเช่นกัน ข้าถึงแม้ว่าจะมีความแค้นกับผู้สืบทอดของเฉินเสวียนจง แต่ไม่มีทางต้องการให้ผู้สืบทอดของสำนักเต๋าสายหลักเป็นอันตรายเพราะมารปีศาจนอกรีต”
เยี่ยนจ้าวเกอมองเขา พูดอย่างน่าขบคิดอยู่บ้างว่า “แม้ว่าตอนอยู่ในนพยมโลกจักรพรรดิแพรจะใช้ประโยชน์จากคนของโถงเซียนเต๋านอกรีต ทำให้ท่านเสียท่าจนเกือบดับสิ้นน่ะหรือ”
“ข้าไม่มีทางระบายโทสะกับคนรุ่นหลังเช่นพวกเจ้าเพราะสาเหตุนี้ เมื่อมีความแค้นก็ต้องชำระกับฟู่แพรงาม” ทวนพระอังคารตอบอย่างไม่ลังเล “ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เมื่อข้าตามหาฟู่แพรงามเพื่อชำระแค้นก็ไม่คิดจะดึงมารปีศาจเต๋านอกรีตเข้ามา”
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย “ดังนั้นท่านกับจักรพรรดิอาทิตย์จึงคุยกันด้วยอารมณ์ไม่ดีนัก?”
ดวงหน้าของคนยักษ์ถูกไฟลุกโชนปิดบังไว้ ทำให้ไม่อาจเห็นสีหน้าของเขาชัดเจน แต่ว่าในน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม “เมื่อครู่ตอนข้าพบกับจู่หยางจื่อ เจ้าอยู่ใกล้ๆ เช่นกันหรือ ข้าถึงกับไม่เจอตัว ดูท่าทางเมื่อครู่ที่สัมผัสร่องรอยของเจ้าได้เป็นผลลัพธ์ที่เจ้าจงใจบอกข้าแล้ว?”
“ผู้อาวุโสชมเกินไป ข้าเพียงเห็นท่านแยกออกมาเท่านั้น” เยี่ยนจ้าวเกอตอบด้วยรอยยิ้ม
ยักษ์เพลิงพยักหน้าอย่างแช่มช้า จากนั้นก็ส่ายหน้า “ข้าเดินคนละเส้นทางกับจู่หยางจื่อ เป็นผลลัพธ์หลังการปรึกษากัน หากเดินทางร่วมกันจะถูกมารปีศาจเต๋านอกรีตพบตัวได้ง่าย ดังนั้นจึงนัดแนะกันว่าให้เขาหาข้อมูล จากนั้นติดต่อกับข้า แล้วค่อยคิดหาแผนการ”
เยี่ยนจ้าวเกอรู้อยู่เต็มอกว่าทวนพระอังคารไม่เชื่อใจจักรพรรดิอาทิตย์เต็มร้อย
จักรพรรดิอาทิตย์เป็นผู้สนับสนุนกษัตริย์ดินมาโดยตลอด ครั้งนี้ราชันพระอังคารอาละวาดที่โถงเซียน โลกซ้อนโลกเป็นคนกลางค่อนข้างกระอักกระอ่วน
ถึงเวลาจะเกิดผลลัพธ์แบบใด ยากจะคาดเดาได้
“กลับเป็นสหายน้อยเยี่ยน เจ้ามาที่นี่เพราะเรื่องอะไรหรือ” ทวนพระอังคารที่อยู่ในลักษณะของยักษ์เพลิงถาม “พบเจอกันโดยบังเอิญ หรือว่าตั้งใจมาตามหาหมิงจางเช่นกัน”
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “ในตอนที่เรื่องของสำนักประกายกาฬเกิดขึ้น ผู้อาวุโสอยู่ในหุบเหวเหมันต์บรรพกาล วันนี้ได้ออกมาแล้ว ไม่ทราบว่าล่วงรู้เรื่องราวในวันนั้นมากน้อยขนาดไหน”
“ฟังคนเล่ามาคร่าวๆ” ทวนพระอังคารว่า “รายละเอียดไม่ทราบ”
เยี่ยนจ้าวเกอหยิบยกเรื่องสำคัญส่วนหนึ่งมาเล่าให้เขาฟัง พอจบแล้วก็กล่าวว่า “เพราะกงจักรมหาประกายกาฬกับมารดาของข้าเป็นเหตุ ข้าจึงกลายเป็นหนามตำตาของโถงเซียนเต๋านอกรีต สุดท้ายผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือข้าได้สังหารหวังเจิ้งเฉิงไปแล้ว”
………………..