ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1252 เซียนจริงแท้สามอันดับแรก
พลังโจมตีที่แข็งแกร่งส่งร่างของเฮ่อเหมี่ยนกระเด็นออกไป
ไม่เพียงเท่านั้น หมัดของเยี่ยนจ้าวเกอยังเหมือนกับศาสตราเทพสะท้านโลก ขณะที่ต่อยเฮ่อเหมี่ยนกระเด็น พลังงานอันน่ากลัวยังกอปรเป็นพลังเจาะทะลุอันยิ่งใหญ่ ทะลวงทรวงอกของอีกฝ่าย!
พูดถึงความรุนแรงด้านพลังโจมตี เฮ่อเหมี่ยนเกรงว่าจะยังเหนือกว่าเฉินเฉียนหัวที่ครอบครองคัมภีร์เบิกนภา
ในหมู่คู่ต่อสู้ที่เยี่ยนจ้าวเกอเคยประมือมาด้วยตัวเอง ไม่นับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ เพียงดูที่เซียนจริงแท้ แม้จะเป็นจักรพรรดิแพรงามกับจักรพรรดิพรรดิอาทิตย์เทียนไขที่อยู่ในสภาวะสมบูรณ์ก็ยังทำอะไรเฮ่อเหมี่ยนไม่ได้
ถ้าหากไม่ใช่เพราะเป็นเซียนจริงแท้ไร้ช่องโหว่ พวกเขาก็ไม่ใช่ไม่มีโอกาสพ่ายแพ้ใต้กระบี่ของเฮ่อเหมี่ยนโดยสมบูรณ์
สำหรับจักรพรรดิเซียนจริงแท้จากโถงเซียนเต๋านอกรีต เมื่อสู้กันหนึ่งต่อหนึ่งกับเฮ่อเหมี่ยน ยิ่งได้แต่ถูกทุบตีไม่อาจโต้กลับ
แต่ถ้าหากพูดถึงการป้องกันตัว เฮ่อเหมี่ยนกลับเทียบกับเฉินเฉียนหัวที่รวมหกคัมภีร์หลังกำเนิดสายหยกพิสุทธิ์เป็นหนึ่ง ฝึกฝนฐานโลกสำเร็จไม่ได้
เยี่ยนจ้าวเกอพลังหมัดต่อเนื่องไร้สิ้นสุด ทำให้บาดแผลบนตัวเฮ่อเหมี่ยนเริ่มฉีกออกไปรอบๆ!
ครั้งนี้ในอากาศพลันมีแสงสีแดงกะพริบขึ้น
ชายชราผู้หนึ่งปรากฏขึ้นด้านหลังเฮ่อเหมี่ยน ทาบฝ่ามือบนหลังของเขา หยุดสภาวะถอยหลังเอาไว้
ขณะเดียวกัน บาดแผลที่เป็นรูบนร่างของเฮ่อเหมี่ยนก็หยุดฉีกออกอย่างต่อเนื่อง อาการบาดเจ็บถูกหยุดจนทุเลาลง
ใบหน้าที่เคร่งเครียดของเฮ่อเหมี่ยนฉายแววละอาย “ท่านอาจารย์…”
“การต่อสู้ในวันนี้มีผลดีกับเจ้า ก่อนหน้านี้เจ้าสายตาคับแคบไปแล้ว”
ชายชราหยุดร่างของเฮ่อเหมี่ยน ส่งเขาไปด้านข้าง จากนั้นก็หันไปมองเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอใช้หมัดหนึ่งต่อยเฮ่อเหมี่ยนกระเด็นก็ไม่ได้ติดตามโจมตีต่อ ยืนประสานมืออยู่กับที่ “จักรพรรดิเมฆอยู่ต่อหน้า เยี่ยนจ้าวเกอขอคารวะแล้ว”
ชายชราที่ช่วยเฮ่อเหมี่ยนตรงหน้าเคยเห็นหนึ่งในเจ็ดปราชญ์ท่องมรกต จักรพรรดิสัญญะเมฆ เป็นบุคคลที่อยู่ในยุคสมัยเดียวกับกษัตริย์ลี้ลับเกาชิงเสวียน จักรพรรดิน้ำพุหลงซิงเฉวียน เยี่ยนซิงถางและตี๋ชิงเหลียน ปู่และย่าของเยี่ยนจ้าวเกอ
ครั้งกระโน้นได้ผนึกกำลังของของเจ็ดคนพร้อมกับกษัตริย์ลี้ลับ บุกเบิกฟ้าท่องมกรตโดยมีเจ้าแม่อู๋ตังสนับสนุน
เจ็ดปราชญ์ท่องมรกตในตอนนั้นที่ตายก็ตาย ที่กระจัดกระจายก็กระจัดกระจาย สองคนที่เหลืออยู่ในมรกตท่องฟ้าในปัจจุบันก็คือเกาชิงเสวียนกับอวิ๋นเจิง นักพรตผู้นี้
คนผู้นี้แต่งตัวคล้ายกับเฮ่อเหมี่ยน ต่างก็สวมเสื้อคลุมเต๋า แต่ว่าไม่ได้มัดรวบผม ปล่อยผมสยาย
หน้าตาของชายชราไม่อาจนับได้ว่าหล่อเหลา แต่เอาจริงเอาจังและเยือกเย็น
กระนั้นเพราะการเข่นฆ่าสังหารมาตลอดหลายพันปี ใต้กระบี่มีคนตายนับไม่ถ้วน ทำให้เขาแค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็น่าเกรงขามแล้ว
จะว่าไป เทียบกับบุคคลในยุคเดียวกันอย่างพวกกษัตริย์ลี้ลับ กษัตริย์ดิน กษัตริย์ดารา และกษัตริย์เร้นลับ นักพรตอวิ๋นเจิ้งวันนี้ยังเป็นเซียนจริงแท้ ระดับชั้นคล้ายกับต่ำลง
แต่เยี่ยนจ้าวเกอเคยได้ยินคนกล่าวเตือนว่า จักรพรรดิเมฆผู้นี้ไม่ใช่ไม่มั่นใจในการฝ่าภัยพิบัติสัจพิศวง แต่รั้งอยู่ในระดับเซียนจริงแท้ชั่วคราวเพราะว่าเหตุผลอื่น
ในอดีตเขาได้รับบาดเจ็บเพราะต่อสู้กับจอมยุทธ์โถงเซียน ทำให้การเลื่อนระดับเชื่องช้าลง แต่หลายปีผ่านไป อาการบาดเจ็บก็หายดีแล้ว
ความยิ่งใหญ่ในการสั่งสมของเขาหายากยิ่ง ความแข็งแกร่งในด้านพลังการฝึกปรือเหนือกว่าคนรุ่นเดียวกัน สุดที่ยอดฝีมือระดับเซียนจริงแท้ส่วนใหญ่จะเทียบเคียงได้
เฮ่อเหมี่ยนที่อยู่ในระดับประมุขหากสู้กับจักรพรรดิปฐพีศานติกับจักรพรรดิสัจอุรุ ถึงแม้จะทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ แต่อีกฝ่ายก็ทำอะไรเขาไม่ได้เช่นกัน
กระนั้นถ้าเฮ่อเหมี่ยนต่อสู้กับจักรพรรดิสัญญะเมฆผู้เป็นอาจารย์ของตน นอกจากความตายแล้วไม่มีผลลัพธ์ที่สองอีก
ไม่ใช่เพราะจักรพรรดิสัญญะเมฆรู้จักลูกศิษย์ของตนดี แต่เป็นเพราะความแตกต่างในพลังที่แท้จริงของสองฝ่ายวางอยู่ที่นั่น
จักรพรรดิสัญญะเมฆพิจารณาเยี่ยนจ้าวเกอ ถอนใจชมเชยพลางเอ่ยว่า “คลื่นลูกหลังไล่คลื่นลูกหน้า คนรุ่นใหม่เอาชนะคนรุ่นเก่า การลงมือของเจ้าที่มรกตท่องฟ้าในตอนนั้นเป็นการใช้มีดฆ่าวัวสาธิตเท่านั้น”
“จักรพรรดิเมฆชมเกินไป” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างสงบนิ่ง “สหายร่วมเส้นทางเฮ่อ ศิษย์ของท่านมีพลังไม่ธรรมดา ข้าผู้แซ่เยี่ยนย่อมต้องเอาจริงบ้าง มือเท้าไร้ดวงตา ล่วงเกินแล้ว กลับไม่ทราบว่าจักรพรรดิเมฆจะลงมือด้วยตัวเองหรือไม่”
หลายปีมานี้มรกตท่องฟ้ากับโลกซ้อนโลกไม่ปรองดองกัน ระหว่างสองฝ่ายมักเกิดความขัดแย้งกัน
เทียบกันแล้ว กษัตริย์ลี้ลับมีท่าทีนุ่มนวลต่อโลกซ้อนโลกมากกว่า
กษัตริย์เถา บูรพาจารย์แห่งมรกตท่องฟ้า กับจักรพรรดิสัญญะเมฆค่อนข้างรุนแรง
ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับเขานครหยกบนโลกซ้อนโลกเลวร้ายเป็นอย่างยิ่ง
“ศิษย์ข้าต้องการชิงเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ กลับเพื่อข้าผู้เฒ่าผู้นี้ แต่ว่าทักษะสู้คนไม่ได้ จำเป็นต้องฝึกให้มากๆ” จักรพรรดิสัญญะเมฆไม่มีโทสะ น้ำเสียงไม่ได้มีความเป็นปรปักษ์อย่างชัดเจน “แต่ข้าผู้เฒ่ามีคำกล่าว ต้องการถามสหายน้อยเยี่ยน”
เยี่ยนจ้าวเกอพอจะทายออกว่าอีกฝ่ายคิดถามอะไร “จักรพรรดิสัญญะเมฆคิดถามข้า ว่าถ้าหากสุดท้ายข้าไม่อาจอยู่บนโลกซ้อนโลกได้อีกต่อไป จะยินยอมสวามิภักดิ์กับมรกตท่องฟ้าหรือไม่กระมัง”
“สหายน้อยเยี่ยนมีสติปัญญาเฉียบแหลม ข้าผู้เฒ่ามีความคิดนี้” จักรพรรดิเมฆผงกหัว
เยี่ยนจ้าวเกอถามอย่างเยือกเย็น “กษัตริย์เถา ยังมีจักรพรรดิเมฆท่าน ยินยอมอยู่ร่วมกันอย่างสันติกับกษัตริย์กระบี่อาจารย์ลุงของข้าหรือไม่
“หากร่วมกันต่อต้านมารปีศาจเต๋านอกรีต หรือมารแห่งนพยมโลกย่อมได้’ จักรพรรดิเมฆตอบอย่างตรงไปตรงมา “แต่นอกจากนั้นทำไม่ได้”
“ศิษย์น้องข่งเป็นลูกศิษย์ก้นกุฎิของกษัตริย์เถา หลังจากตี๋หลินจือม่วงย่าของเจ้าเสียชีวิต กษัตริย์เถาเดิมทีโทษปู่ของเจ้า ต่อมาได้ใช้ความพยายามทั้งหมดฝากความหวังกับศิษย์น้องข่ง เลี้ยงดูตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ ยังมีความรักใคร่ล้ำลึกกว่าแม่ลูกแท้ๆ สุดท้ายศิษย์น้องข่งตายด้วยกระบี่ของเยว่เจิ้นเป่ย”
จักรพรรดิสัญญะเมฆสีหน้าเรียบเฉย “สำหรับข้าแล้ว ศิษย์น้องข่งเป็นสหายสนิทคนละรุ่นกับข้า ท้ายที่สุดข้าผู้เฒ่าก็ต้องมีคำว่ากล่วมอบให้เขา”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้ากล่าว “เข้าใจได้ แต่ว่าการตัดสินใจของข้า จักรพรรดิเมฆคงเดาออกแล้ว”
“ใช่แล้ว…” จักรพรรดิสัญญะเมฆพยักหน้าอย่างเสียดาย “เสียดายยิ่ง”
หากมีกษัตริย์ลี้ลับอยู่ตรงกลาง สองฝ่ายไม่ถึงขั้นกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาต แต่เมื่อมีกษัตริย์กระบี่อยู่ตรงกลาง สองฝ่ายก็ยากจะร่วมทางกันได้อย่างสนิทใจ
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ วันนี้ข้าผู้เฒ่าได้แต่ต้องสู้กับสหายน้อยเยี่ยนแล้ว ที่ข้าผู้เฒ่าฝึกจนช่ำชองมีวิชากระบี่ วิชาค่ายกล วิชาโอสถ ไม่อยากปล่อยของวิเศษอย่างเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับไป”
จักรพรรดิสัญญะเมฆว่าแล้วก็ตั้งนิ้วชี้นิ้วกลางขึ้นดุจกระบี่ แล้วแทงใส่เยี่ยนจ้าวเกอกลางอากาศ
ทันใดนั้น ค่ายกลกระบี่สีแดงก่ำค่ายหนึ่งพลันปรากฏขึ้นอย่างไร้เค้าลาง แล้วครอบคลุมเยี่ยนจ้าวเกอไว้
มองข้ามระยะห่างและมิติช่องว่าง เหมือนกับโผล่ขึ้นมาเฉยๆ มองข้ามการขวางกั้นของกาลเวลา เหมือนกับคงอยู่มาแต่แรก
จากนั้น ประกายกระบี่สีแดงก่ำไร้สิ้นสุดก็เริ่มหุบเข้าด้านใน บดขยี้ทุกอย่างเป็นผุยผง
เยี่ยนจ้าวเกอตั้งมือขวาขึ้นประดุจดาบ แฝงแก่นแท้ของคัมภีร์เบิกนภา เบิกฟ้าผ่าดิน เกิดร่องแยกร่องหนึ่งขึ้นในค่ายกลกระบี่แดงก่ำ จากนั้นมือซ้ายก็โจมตีออกด้วยหมัดบดขยี้แสงสว่าง ระเบิดค่ายกลกระบี่ที่มีช่องโหว่ทิ้ง
เขาเพิ่งจะกระโดดออก ก็เห็นค่ายกลกระบี่ค่ายแล้วค่ายเล่าครอบคลุมตรงหน้า
ท่าไม้ตายที่จำเป็นต้องกระตุ้นพลังทั้งหมดเพื่อใช้ออกมาสำหรับเฮ่อเหมียน พอมาอยู่ในมือจักรพรรดิสัญญะเมฆแล้ว สามารถใช้ออกได้อย่างง่ายดาย มิหนำซ้ำแค่พริบตาเดียวยังมีค่ายกลกระบี่ไม่ต่ำกว่าหนึ่งค่าย!
“ท่ามกลางหมู่เซียนจริงแท้ที่ข้ารู้จักทั้งหมดบนโลกในขณะนี้ จักรพรรดิเมฆท่านเกรงว่าจะติดอยู่ในสามอันดับแรก” ในเสียงถอนใจชมเชย เยี่ยนจ้าวเกอเปลี่ยนร่างเป็นแสงสีแดง กะพริบแสงต่อเนื่องกันกลางอากาศ
ครั้งนี้ไม่เพียงแต่คัมภีร์กระบี่ลวงเซียนเท่านั้น ยังหลอมรวมวรยุทธ์อื่นๆ มากมาย
ความเร็วของเยี่ยนจ้าวเกอ เทียบกับตอนต่อสู้กับเฮ่อเหมี่ยนเมื่อครู่แล้วเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง!
………………..