ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1253 ต่อหน้าข้า ไม่มีใครถูกเรียกเป็นอัจฉริยะ
ค่ายกลกระบี่ขนาดยักษ์นับสิบกว่าค่ายที่บ้างเขียว บ้างดำ บ้างแดงตั้งตระหง่านพร้อมกันกลางอากาศ
ประกายกระบี่หลายสายเวียนวน เปลี่ยนจักรวาลรอบๆ โกดังโอสถด้านในตำหนักโอสถเป็นดินแดนมรณะ
ปราณกระบี่น่าสะพรึงแผ่พุ่งทั่วจักรวาล นำมาซึ่งกลิ่นอายอันน่ากลัวของการทำลายล้าง จุดสิ้นสุด และมหันตภัย
แค่สภาวะการวางค่ายกลกระบี่สิบกว่าค่ายนี้พร้อมกัน ก็ทำให้ให้คนขวัญหนีดีฝ่อ ความกล้าหดหายได้แล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าจริงจังขึ้นเล็กน้อย แต่สายตาเยือกเย็น ไม่มีความหวั่นเกรงแม้แต่น้อย
เขาเหาะร่างพุ่งสู่ฟากฟ้า ใช้วรยุทธ์มากมายพร้อมกัน ความเร็วเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด บัดเดี๋ยวสูญหายบัดเดี๋ยวปรากฎขึ้นใจกลางจักรวาล
จักรพรรดิเมฆเห็นดังนั้น สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้น เขาใช้มือซ้ายสั่งการ ค่ายกระบี่สีแดงก่ำหกค่ายยึดครองพื้นที่บนล่างและสี่ทิศรอบๆ ในชั่วพริบตา เบียดเยี่ยนจ้าวเกอไว้ตรงกลาง
จากนั้นค่ายกลกระบี่หกค่ายก็ปรากฏสภาวะเชื่อมต่อ เหมือนหอคอยปลายแหลมสีแดงก่ำสองหอคอยเชื่อมกันในลักษณะหนึ่งคว่ำหนึ่งหงาย ก่อนที่แสงสว่างสีแดงก่ำก็สาดแวบขึ้น ก่อนจะพังทลายเข้าด้านใน
เยี่ยนจ้าวเกออยู่ด้านใน รู้สึกเพียงว่าครั้งนี้เหมือนกับจักรวาลทั้งจักรวาลพังพินาศพร้อมกัน โลกที่ตนอยู่หายไป
เขาสูดหายใจลึกแล้วประสานสองมือ มือซ้ายใช้หมัดแปลงกำเนิด หนึ่งหมัดเติมเต็มทั่วจักรวาล หยุดประกายกระบี่สีแดงก่ำที่กำลังพังทลาย หลังจากนั้นก็ผลักฝ่ามือขวาไปด้านหน้า ปรากฏลักษณะคล้ายขวานไม่คล้ายขวาน คล้ายธงไม่คล้ายธง
ความขมุกขมัวถือกำเนิด เจตจำนงอันยิ่งใหญ่ของการเบิกฟ้าผ่าดินปรากฏ ทะลวงแสงสีแดงทั่วฟ้าเป็นช่องว่างช่องหนึ่งที่น่ากลัวสุดเปรียบปาน จากนั้นหมัดแปลงกำเนิดที่มือซ้ายก็เปลี่ยนเป็นหมัดบดขยี้แสงสว่าง
ในความขมุกขมัวโกลาหล ความมืดสูญหาย แสงสว่างบังเกิด สุดท้ายก็ดับสลาย สองลักษณ์ไม่คงอยู่ พลังที่เหมือนกับการระเบิดขยายช่องว่างบนแสงสีแดงทั่วฟ้าให้ใหญ่ขึ้นอีกขั้น
เยี่ยนจ้าวเกอมือขวาเปลี่ยนกระบวนท่าอีกครั้ง เปลี่ยนจากธงเบิกนภาเป็นรอยตราพลิกนภา พลิกเปลี่ยนทิศทาง ฉีกม่านแสงสีแดงที่กำลังพังทลายทิ้งครึ่งหนึ่งอย่างหักโหม ราวกับฉีกทึ้งม่านฟ้า
จากนั้นเขาก็กลายเป็นประกายกระบี่สีแดงก่ำสายหนึ่ง กะพริบบางๆ กำลังจะหนีออกจากวงล้อมค่ายกลกระบี่ของจักรพรรดิเมฆ
แต่ว่าในขณะเดียวกัน จักรพรรดิเมฆก็ใช้มือขวาตั้งเป็นมุทรากระบี่ ช่องว่างบนม่านฟ้าสีแดงก่ำพลันปรากฏค่ายกลกระบี่สีเขียวค่ายหนึ่ง ประกายสีเขียวเดี๋ยวรวมเดี๋ยวกระจาย ขัดขวางเส้นทางของเยี่ยนจ้าวเกอไว้
เยี่ยนจ้าวเกอพลิกฝ่ามือวูบหนึ่ง พลิกกลับทิศทาง หยินหยางผสานกันที่ใจกลางฝ่ามือของเขา กลายเป็นรูปไท่จี๋
วินาทีนี้ ความลี้ลับของวรยุทธ์มากมายอย่างคัมภีร์พลิกฟ้า คัมภีร์นภาหยินหยาง ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดถูกเยี่ยนจ้าวเกอใช้ออกมาในหนึ่งฝ่ามือ สร้างความปั่นป่วนแก่หยินหยาง ฟ้าดินสูญเสียกฎเกณฑ์
เขาปัดขอบค่ายกลกระบี่สีเขาเพียงเบาๆ ถึงกับทำให้ค่ายกลกระบี่สีเขียวเอียงไปด้านข้าง
ตัวเขากลายเป็นแสงสีแดง พุ่งเฉียดจากขอบค่ายกลกระบี่สีเขียว
ในค่ายกลกระบี่มีแสงสีเขียวระเบิดขึ้น ทะลวงรูปไท่จี๋ใต้ฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอ ยังคงแทงเข้ามาใส่เขา
เยี่ยนจ้าวเกอพ่นลมหายใจออกยาวๆ ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดเปลี่ยนเป็นหมัดแปลงกำเนิด ก่อนกำเนิดพลิกกลับ
หมัดแปลงกำเนิดไม่เพียงแค่เอาไว้ใช้จู่โจมเท่านั้น
โลกราวกับเปลี่ยนเป็นสุญญตาที่ไร้รูปร่างไร้สถานะบริเวณหนึ่ง ไร้การคงอยู่ ไม่มีทั้งลักษณะและภาพลักษณ์ เพราะการตั้งใจป้องกัน
ยังดีที่ความคมกล้าที่แท้จริงของค่ายกลกระบี่ถูกเยี่ยนจ้าวเกอหลบพ้น เพียงกระทบถูกระหว่างทาง
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอฝืนต้านการโจมตีที่เปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ของค่ายกลแล้ว ยังคงหลบพ้นจากการขัดขวางของค่ายกลกระบี่สีเขียว พุ่งออกจากวงล้อมของม่านฟ้าสีแดงก่ำ
เพิ่งบรรลุถึงช่องว่าง ก็เห็นค่ายกลกระบี่สีแดงก่ำสองค่ายลอยเข้ามา แยกกันถมม่านฟ้า ผนึกเยี่ยนจ้าวเกอไว้ด้านในอีกครั้ง
หากแต่ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอพุ่งออกจากวงล้อมของม่านฟ้าแล้ว แผนการของจักรพรรดิเมฆพลันล้มเหลว
ชายชราในชุดเต๋าสีหน้าจริงจังกว่าเดิมหลายส่วน มือตั้งมุทรากระบี่ วาดเป็นครึ่งวงกลมกลางอากาศ ม่านฟ้าสีแดงก่ำด้านหลังเยี่ยนจ้าวเกอพังทลายแหลกสลายด้วยตัวเอง พุ่งลงไปยังความว่างเปล่าเบื้องล่าง
แต่ว่าแสงสีแดงหลายสายตัดกันกลายเป็นค่ายกลกระบี่สีแดงก่ำที่ใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อน มหึมาจนยึดครองความว่างเปล่าทั้งหมด
เยี่ยนจ้าวเกอกวาดสายตามองรอบๆ มองไปที่ใดต่างไม่เห็นขอบเขตของแสงสีแดงนั้น
บนศีรษะของเขา ค่ายกลกระบี่สีเขียวค่ายหนึ่งนำหน้ามา ค่ายกลกระบี่สีแดงก่ำค่ายหนึ่งอยู่ตรงกลาง ค่ายกลกระบี่สีดำค่ายหนึ่งอยู่รั้งท้าย
ค่ายกลกระบี่สามค่ายทับซ้อนกันสามชั้น จากนั้นก็ต่อกลายเป็นเส้นเดียว เหมือนกับหอคอยวิเศษสามชั้นหอคอยหนึ่งกดทับใส่เยี่ยนจ้าวเกอ!
ขณะเดียวกัน เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าค่ายกลกระบี่สีแดงก่ำที่ใหญ่ยักษ์จนไม่อาจใหญ่มากไปกว่านี้ ต่างลอยขึ้นมาจากทิศทางรอบๆ อย่างไร้สุ้มไร้เสียม กอปรเป็นสภาพครึ่งวงกลม
ขณะที่ขัดขวางเส้นทางพุ่งลงด้านล่าง ก็ผนึกช่องว่างสำหรับหลบหนีในแนวนอนของเขา อีกฝ่ายกดดันให้เขาต้องรับหอคอยประกายกระบี่ที่พุ่งมาจากด้านบน
“เหอะ!” เยี่ยนจ้าวเกอดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย ไม่ได้ขึ้นไป กลับเร่งความเร็วลงด้านล่าง!
เขากลายเป็นแสงสีแดงสายหนึ่ง เหมือนกับกระบี่ยาวสีแดงก่ำเล่มหนึ่ง ปลายกระบี่ชี้ที่ค่ายกลเบื้องล่าง
แสงสีเขียววนเวียนบนปลายกระบี่ ปราณสีดำหลายสายเวียนวนอยู่รอบๆ คมกระบี่ เย็นเยียบแข็งกระด้าง โหดเหี้ยมน่าสะพรึง
กระบี่ยาวที่เกิดจากการเปลี่ยนร่างของเยี่ยนจ้าวเกอแทงทะลุค่ายกลสีแดงก่ำด้านล่างที่จักรพรรดิเมฆใช้ผนึกเส้นทางหนีของเขา
แสงสีแดงพุ่งผ่าน สลัดหอคอยประกายกระบี่สามชั้นนั้นไว้ด้านหลัง
“สำเร็จ!”
เฮ่อเหมียนที่มองสถานการณ์รบอย่างตึงเครียดมาโดยตลอด กลับผ่อนลมหายใจโล่งอก
ในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอแทงทะลุค่ายกลสีแดงก่ำด้านล่าง ตรงหน้าปรากฏความว่างเปล่าอันมืดมิด ในความมืดพลันมีประกายแสงที่เจิดจ้าถึงขีดสุดสว่างขึ้น!
ใต้ค่ายกลสีแดงก่ำนี้ยังมีค่ายกลกระบี่อีกหนึ่งค่าย!
ค่ายกลกระบี่ที่ผสมสีแดง สีเขียว สีดำค่ายหนึ่ง!
เป็นค่ายกลกระบี่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าการโจมตีทั้งหมดก่อนหน้านี้ค่ายหนึ่ง!
กระบี่ลงทัณฑ์เซียน ลวงเซียน ผนึกเซียนอยู่ในค่ายกลค่ายนี้ ปราณกระบี่พุ่งสู่หมู่เมฆ ฟันทำลายท้องฟ้า ต้องการเชือดเฉือนจักรวาล
ตัวจักรพรรดิเมฆยืนอยู่กลางค่ายกลกระบี่ ใช้แผนรอซ้ำยามเปลี้ย ซุ่มจู่โจมเยี่ยนจ้าวเกอที่เพิ่งจะฝ่าวงล้อมออกมา เหมือนกับเกาทัณฑ์แรงปลาย
“สหายน้อยเยี่ยน รับกระบี่นี้ของข้าผู้เฒ่าต่อ!” จักรพรรดิเมฆตั้งมุทรากระบี่ คมกระบี่นับไม่ถ้วนพุ่งสู่ด้านบน ฟันใส่เยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอยามเผชิญหน้ากับค่ายกลกระบี่อันน่าพรั่นพรึงนี้กลับยิ้มเล็กน้อย “จักรพรรดิเมฆ ข้ากำลังรอกระบี่นี้ของท่านอยู่พอดี!”
เขาใช้มือซ้ายประสานมุทรา แล้วนาบติดกับจุดตันเถียน ส่วนมือขวาต่อยลงด้านล่าง!
สี่นิ้วกำเข้าหากัน หน้ากำปั้นเรียบเสมอ แต่กลับเหมือนเปลี่ยนเป็นดุร้ายเหลือประมาณ สภาวะเหมือนเบิกฟ้าผ่าดิน มองจากด้านหน้าเข้าไป หมัดของเยี่ยนจ้าวเกอกลับเหมือนวัตถุที่คล้ายขวานไม่คล้ายขวาน คล้ายธงไม่คล้ายธง
ด้านหลังหมัดราบเรียบเช่นกัน แต่ตอนนี้กลับเหมือนตรายักษ์ที่ลอยขึ้นด้านบน เมื่อตรายักษ์ลอยขึ้นด้านบน ก็เหมือนฟ้าดินพลิกเปลี่ยน ผืนดินลอยสูง ท้องฟ้าพังทลาย
ด้านข้างหมัดเผยให้เห็นกระดูกข้อมือ กลับเหมือนกระบี่เทพสะท้านโลกเล่มหนึ่ง เมื่อสะบัดออกเอียงๆ คมกระบี่ไปถึงที่ใดล้วนไม่มีสิ่งใดที่ไม่อาจทำลาย สรรพวิชาเกินต้านทาน!
ตอนที่คนใช้กำปั้นสู้กันในวิถีบู๊ เมื่อใช้หน้าหมัดที่รวบกระดูกนิ้วสี่นิ้วจู่โจม เรียกว่า ‘กระแทก’ เมื่อพลิกเปลี่ยนมือ ใช้หลังมือฟาดลง เรียกว่า ‘ทุบ’ และเมื่อสะบัดออกในแนวนอ ใช้ด้านข้างกำปั้นจู่โจมเอียงๆ เรียกว่า ‘หวด’
ในหมัดของเยี่ยนจ้าวเกอ ใช้หมัดแปลงกำเนิดเป็นฐาน ผสมแก่นแท้ของธงเบิกนภา รอยตราพลิกนภา กระบี่ลงทัณฑ์เซียน ได้เป็นหมัดที่สามารถสั่นสะเทือนจักรวาล!
เจตจำนงหมัดแสดงการผ่าเปิดความขมุกขมัว ถึงการเปลี่ยนแปลงในธรรมชาติ จากนั้นโลกก็เข้าสู่การสิ้นสูญ สุดท้ายทุกอย่างกลับคืน ปรากฏความโกลาหลในยุคบรรพกาลอีกครั้ง!
หมัดแปลงกำเนิด สังสารวัฏมหามรรคา!
ครั้งกระโน้น เยี่ยนจ้าวเกอเปลี่ยนหมัดแปลงกำเนิดและกระบี่ลงทัณฑ์เซียนเป็นรอยตราพลิกนภา แสดงการเปลี่ยนแปลงของการเปลี่ยนสู่การสร้างของรอยตราพลิกนภา
วันนี้เขาเปลี่ยนคัมภีร์เบิกนภา คัมภีร์พลิกฟ้า กับเจตจำนงของกระบี่ลงทัณฑ์เซียนเป็นหมัดแปลงกำเนิด ได้วิชาหมัดสังสารวัฏมหามรรคามา
หนึ่งหมัดทะลวงค่ายกลกระบี่ของจักรพรรดิเมฆอย่างหักโหม กระแทกใส่ตัวจักรพรรดิเมฆ!
เฮ่อเหมี่ยนเห็นดังนั้น สีหน้าพลันหม่นหมอง
จักรพรรดิเมฆถอนใจคำหนึ่ง “ต่อหน้าเซียนผู้ถูกเนรเทศเยี่ยน ไม่มีใครสามารถเรียกได้ว่าอัจฉริยะจริงๆ!”
………………..