ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1255 การแตกแยกของมรกตท่องฟ้า
ท่ามกลางจักรวาลในตำหนักโอสถ ถ้าไม่ได้ถูกกระตุ้นผ่านวิธีการพิเศษ สถานที่ส่วนใหญ่ยังคงไร้รูปร่าง แต่ว่าหอเซียนม่วงที่เป็นที่ที่แกนกลางหลักอยู่ กลับเหมือนเมฆดาราที่สว่างไสวบริเวณหนึ่ง
ถึงแม้ว่าความว่างเปล่าที่ดำสนิททำให้คนสูญเสียความรู้สึกด้านระยะห่าง แต่ขณะมองเมฆดารากลุ่มนั้น ก็ยังคงทำให้ผู้คนรู้สึกว่าที่ที่เมฆดาราอยู่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางของจักรวาลในตำหนักโอสถทั้งตำหนัก
จักรพรรดิสัญญะเมฆกับเฮ่อเหมี่ยนแม้จะมาถึงที่นี่เป็นครั้งแรก แต่ตอนนี้ก็มองความไม่ธรรมดาออก
เยี่ยนจ้าวเกอมาถึงที่นี่อย่างไม่ลังเล ทำให้พวกเขากไม่อาจไม่ให้ความสำคัญมากกว่าเดิม
เฮ่อเหมี่ยนศิษย์อาจารย์ที่มาถึงบริเวณใกล้เคียงโกดังโอสถ ไม่ใช่เพราะอาศัยโชคเพียงอย่างเดียว พวกเขาครอบครองเบาะแสที่แท้จริงส่วนหนึ่งเกี่ยวกับตำหนักโอสถ…เบาะแสมีความเกี่ยวข้องกับโกดังโอสถ
โกดังโอสถถูกเงามืดลึกลับครอบคลุม ทำให้พวกเขาค้นหาลำบาก กระนั้นก็ตัดทางอ้อมไปได้มากมาย คลำหาที่นั่นจนเจอ
แต่สุดท้ายเยี่ยนจ้าวเกอยังเร็วกว่าพวกเขา
เพียงแต่การเจอกันที่โกดังโอสถยังบอกได้ว่าเป็นความบังเอิญ
ทว่าตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอกลับเจอหอเซียนม่วงราวกับคุ้นชินทาง ไม่ใช่เรื่องที่ใช้ความบังเอิญอธิบายได้ เตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับอาจจะช่วยเปิดส่วนสำคัญมากมายในตำหนักโอสถ แต่ว่าไม่มีผลนำทาง
จักรพรรดิสัญญะเมฆกับเฮ่อเหมี่ยนสบตากัน ต่างมองเห็นความประหลาดใจในดวงตาของอีกฝ่าย แต่ว่าศิษย์อาจารย์ไม่ได้ส่งเสียงสนทนา เลื่อนสายตาไปอยู่บนตัวเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงอย่างสงบสุข
เยี่ยนจ้าวเกอรับรู้ได้ถึงสายตาที่พวกเขามองมา แต่ไม่ได้สนใจ
เขาทางหนึ่งสำรวจเมฆดาราที่สว่างไสวตรงหน้า ทางหนึ่งถามอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่ทราบว่าครั้งนี้ทางมรกตท่องฟ้ามีผู้อาวุโสกับสหายร่วมเส้นทางคนใดมาบ้าง”
จักรพรรดิเมฆศิษย์อาจารย์ไม่ได้ปิดบัง
“นอกจากสำนักเราแล้ว จักรพรรดิราชันก็มาถึงเช่นกัน” เฮ่อเหมี่ยนตอบด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอผงกหัว “อาจารย์ลุงหลงก็มาถึงแล้วเช่นกัน”
จักรพรรดิราชันพิสุทธิ์ เป็นฉายาหลังจากหลงเสวี่ยจี้ได้ผลักเปิดประตูเซียน สำเร็จเป็นเซียนจริงแท้
“กษัตริย์ลี้ลับและกษัตริย์เถา ยังมีอาจารย์อาปู่น้อยหลงมาด้วยหรือไม่” เยี่ยนจ้าวเกอยกมือขึ้นขีดเขียนตัวอักษรกลางอากาศ ตัวอักษรอาคมที่เกิดจากลำแสงคงอยู่เนิ่นนาน
จักรพรรดิศานติกับจักรพรรดิอุรุไม่มา เป็นเรื่องที่อยู่ในความคาดหมาย
ตอนนั้นถูกเจี่ยหมิงคงเล่นงานในนพยมโลก วันนี้พวกเขาค่อยนับว่าฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้แล้ว แต่ก็จำเป็นต้องพักรักษาตัว
จอมยุทธ์สายเหนือพิสุทธิ์ เชี่ยวชาญการเข่นฆ่า แต่ไม่ถนัดการพักฟื้น โดยเฉพาะผู้ฝึกกระบี่ซึ่งฝึกฝนสี่กระบี่ล้ำค่ากระแสตรง ยิ่งเป็นเช่นนี้
สี่กระบี่ล้ำค่าดุร้ายถึงขีดสุด ส่งผลดีต่อการเข่นฆ่าสังหารศัตรู แต่ว่ากลับทำให้ผู้ฝึกฝนสิ้นเปลืองพลังมหาศาลเช่นกัน หากไม่ระวัง อาจมีโอกาสย้อนทำร้ายตัวเอง
เมื่อฝึกฝนสี่กระบี่ล้ำค่าเพียงอย่างเดียว คิดจะประคับประคองเจตจำนงกระบี่ที่แข็งแกร่งขนาดนั้น ตัวจอมยุทธ์จะได้รับภาระหนัก อานุภาพการออกกระบี่ล้ำเลิศ แต่ไม่อาจทนการต่อสู้ที่กินเวลานาน ตามปกติจะออกแค่ไม่กี่กระบี่
จำเป็นต้องฝึกฝนพร้อมกับคัมภีร์ห้ายุค อาศัยคัมภีร์ห้ายุคพักฟื้น ขณะเดียวกันก็ใช้สั่งสมปริมาณปราณกำเนิด ค่อยประคับประคองความสิ้นเปลืองมหาศาลนั้นได้
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ในด้านการบำรุงและฟื้นฟูตามปกติยังด้อยกว่าผู้สืบทอดกระแสตรงสายหยกพิสุทธิ์และสายเอกพิสุทธิ์
จักรพรรดิเมฆกับเฮ่อเหมี่ยนมองดูอักษรอาคมที่เยี่ยนจ้าวเกอเขียนขึ้น พอได้ยินคำถามของอีกฝ่าย เฮ่อเหมี่ยนก็มองไปพลาง ตอบไปพลาง “กษัตริย์ลี้ลับกับบูรพาจารย์ ยังมีจักรพรรดิน้ำพุยังไม่ออกฌาน จะมาทันหรือไม่ ตอนนี้พวกเราเองก็ไม่ทราบ แต่ว่า…”
เขาเว้นเล็กน้อย แล้วค่อยกล่าวต่อ “กลับเป็นกษัตริย์อนันต์ ครั้งนี้มาแล้ว”
“กษัตริย์อนันต์?” นิ้วที่ขีดเขียวตัวอักษรอาคมกลางอากาศของเยี่ยนจ้าวเกอชะงักไปเล็กน้อย “กษัตริย์อนันต์ จางปู้ซวี?”
เฮ่อเหมี่ยนไม่ได้ไม่พอใจคำเรียกของเยี่ยนจ้าวเกอ ยึดถือว่าไม่ได้ยิน
จักรพรรดิสัญญะเมฆพยักหน้าแช่มช้า “เป็นสหายร่วมเส้นทางจาง”
กษัตริย์อนันต์จางปู้ซวีเคยถูกจัดอยู่ในเจ็ดปราชญ์ท่องมรกตเหมือนกับกษัตริย์ลี้ลับเกาชิงเสวียน จักรพรรดิเมฆนักพรตอวิ๋นเจิ้ง บุกเบิกมรกตท่องฟ้ามาด้วยกัน เป็นยอดฝีมือระดับเซียนลี้ลับในการสืบทอดกระแสตรงสายเหนือพิสุทธิ์
หากแต่เหมือนกับที่โลกซ้อนโลกเคยมีการแบ่งแยก มรกตท่องฟ้าก็ประสบเรื่องราวคล้ายๆ กัน
โดยรวมแล้ว ท่าทีที่มรกตท่องฟ้ามีต่อโถงเซียนรุนแรงและแข็งกร้าว แต่ว่าในหมู่ยอดฝีมือที่เป็นผู้สืบทอดกระแสตรงสายเหนือพิสุทธิ์ก็มีแนวคิดพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ ว่างแผนการ มีท่าทีนุ่มนวลให้เกียรติต่อโถงเซียนเหมือนกับโลกซ้อนโลก
บุคคลตัวแทนในนี้ก็คือกษัตริย์อนันต์ หนึ่งในเจ็ดปราชญ์ท่องมรกต
ต่อมาเป็นเพราะว่าเกิดความขัดแย้งกับผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดคนอื่นๆ ในมรกตท่องฟ้าอย่างรุนแรง จึงแยกไปตามทางของใครของมัน กษัตริย์อนันต์บอกลาแล้วออกจากมรกตท่องฟ้า
ทว่าเหมือนกับที่พวกราชันพระพฤหัสบดีเซ่าจวินหวงไม่ได้เข้ากับมรกตท่องฟ้า กษัตริย์อนันต์หลังออกจากมรกตท่องฟ้าก็ไม่ได้สวามิภักดิ์กับโลกซ้อนโลกเข่นกัน
ผู้ยิ่งใหญ่สายเหนือพิสุทธิ์ท่านนี้เป็นลูกศิษย์ของกษัตริย์เถา บูรพาจารย์แห่งมรกตท่องฟ้าเหมือนกับกษัตริย์ลี้ลับเกาชิงเสวียนและตี๋ชิงเหลียน ย่าของเยี่ยนจ้าวเกอ
น่าเสียดายที่ความแตกต่างอันใหญ่หลวงในด้านอุดมการณ์ความคิด ทำให้พวกเขาต้องเดินคนละเส้นทาง
ในอดีตกษัตริย์เถาเกือบลงมืดชำระสำนัก
ตี๋ชิงเหลียนลาโลกไปก่อนวัยอันควร กษัตริย์อนันต์ทรยศ กษัตริย์ลี้ลับเกิดความคิดขัดแย้งกับตัวเองในเรื่องมากมาย ล้วนสร้างความผิดหวังแก่กษัตริย์เถา จึงได้ให้ความสำคัญกับศิษย์ก้นกุฎิเป็นพิเศษ ผู้ใดหาทราบไม่ว่าศิษย์ก้นกุฎิก็จากเสียชีวิตไปเร็ว มิน่านางถึงได้ชิงชังเยว่เจิ้นเป่ยอย่างล้ำลึก
สำหรับมรกตท่องฟ้าแล้ว กษัตริย์อนันต์เห็นได้ชัดว่าเป็นบุคคลต้องห้าม
พอได้ยินว่าครั้งนี้เขาเองก็มาตำหนักโอสถ เยี่ยนจ้าวเกออดประหลาดใจไม่ได้ หันไปมองจักรพรรดิเมฆศิษย์อาจารย์
เฮ่อเหมี่ยนอธิบาย “กษัตริย์อนันต์ได้เบาะแสมาด้วยตัวเอง จึงเดินทางมาเอง เบาะแสในมือเขายังมีมากกว่าพวกเรา”
“ถึงแม้เส้นทางที่พวกเราเดินจะมีทิศทางความเห็นไม่เหมือนกัน ข้าผู้เฒ่าไม่เห็นด้วยกับตัวเลือกของสหายร่วมเส้นทางจาง แต่เขาก็ไม่ได้เข้ากับเต๋านอกรีต” จักรพรรดิเมฆกล่าวอย่างสงบนิ่ง “ครั้งนี้ข้อมูลของตำหนักโอสถปัจจุบันดูเหมือนยังไม่ถูกมารปีาจเต๋านอกรีตตรวจสอบเจอ จึงแสดงให้เห็นว่าสหายร่วมเส้นทางจางมีแผนการในนี้อยู่”
เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าผ่อนคลายลง หันไปเขียนอักษรอาคมใหม่ “ไม่กลัวเขามีแผนการ ขอแค่ไม่บอกเต๋านอกรีต เพียงกระจายอยู่ในสำนักเต๋าสายหลักของพวกเรา ผู้ใดได้ประโยชน์ไป เพียงอาศัยความสามารถของตัวเองก็พอ”
หลังจากเขียนขีดครั้งสุดท้าย เยี่ยนจ้าวเกอก็ผลักฝ่ามือไปด้านหน้า ตัวอักษรอันวิจิตรตอนนี้กลายเป็นลำแสง พุ่งเข้าไปในเมฆดาราอันพร่าวพราวตรงหน้า
ครู่ต่อมา เมฆดาราอันพร่างพราวก็เริ่มหมุนวน แสงดาวที่เหมือนกับทะเลควันบัดเดี๋ยวลอยบัดเดี๋ยวจม มาถึงตอนท้าย กลางเมฆดาราถึงกับปรากฏช่องว่างวังวนช่องหนึ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอเรียกเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับออกมาอีกครั้ง จากนั้นก็โยนเตาวิเศษเข้าไปด้านในวังวน
วินาทีถัดมา ที่ก้นวังวนก็มีแสงสว่างไร้สิ้นสุดทะลักออกมา ส่องสว่างจักรวาลที่มืดมิดซึ่งอยู่ไกลออกไป ย้อมให้ทุกสิ่งกลายเป็นสีม่วง
เยี่ยนจ้าวเกอใบหน้าไร้ความรู้สึก หลังจากมองแสงสีม่วงนั้นสักพักก็เหาะร่างลง พุ่งเข้าไปด้านในแสงสีม่วง จมลงไปในวังวนตามแสงสีม่วง
จักรพรรดิสัญญะเมฆติดตามอยู่ด้านหลังเยี่ยนจ้าวเกอโดยไม่ได้กล่าวอะไร เฮ่อเหมี่ยนเห็นดังนั้นก็เคลื่อนไหวอย่างเดียวกัน
หลังแสงสว่างสีม่วงสลายไป สิ่งที่ปรากฏขึ้นในสายตาของเยี่ยนจ้าวเกอก็คือหอหอหนึ่ง
หอไม่ใหญ่มาก การตกแต่งธรรมดา ทำให้ผู้คนยากจิตนาการว่า รูปลักษณ์ภายนอกของมันคือเมฆดาราที่ใหญ่มหึมาปานนั้น
ที่นี่มีกลิ่นอายเก่าคร่ำคร่าสายหนึ่ง จนกระทั่งพวกเยี่ยนจ้าวเกอมาถึง ค่อยมีพลังชีวิต
เยี่ยนจ้าวเกอกวาดมองรอบๆ สีหน้าลึกลับ
“นี่คือหอเซียนม่วงในตำนาน ใจกลางตำหนักโอสถของวังเทพก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่?” จักรพรรดิสัญญะเมฆในฐานะยอดฝีมือระดับสูงสุดของมรกตท่องฟ้า ความลับและข้อมูลที่ได้ทราบมีอยู่ไม่น้อย
เขาพิจารณาหอคอยตั้งแต่ด้านบนจรดด้านล่าง “ตามเหตุผล ถ้าหากวิญญาณตำหนักของตำหนักโอสถยังไม่ได้สลายไปก็สมควรอยู่ที่นี่กระมัง”
………………..