ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1274 ชำระแค้น
ยันต์เต๋าสามใบที่เยี่ยนจ้าวเกอปล่อยออกไปก่อนหน้านี้ มอบให้แก่เยว่เจิ้นเป่ย หลงเสวี่ยจี้ และราชันพระอังคารสั่วหมิงจาง
ก่อนหน้าถึงแม้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอจะถูกกีดกันออกไป แต่กลับไม่จำเป็นต้องให้เยี่ยนจ้าวเกอนำกลับมา มันก็กลับไปยังจักรวาลสำนักเต๋า กลับสู่โลกซ้อนโลกโลกอย่างว่าง่าย
“อาจารย์ลุงเยว่ อาจารย์ลุงหลง” เยี่ยนจ้าวเกอเห็นสองคน พลันยิ้มขึ้น คำนับพวกเขา
เยี่ยนตี๋ เนี่ยจิงเสิน อวี่เยี่ย เวลานี้หยุดหลอมลมปราณ เข้าไปคำนับ
พอเห็นกษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ย เยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกก็สะท้อนใจ
“หลายปีมานี้ ได้รับการดูแลจากเขานครหยก กลับเป็นเพราะพวกเราพ่อลูกนำปัญญามากมายมาให้แก่เขานครหยก อยากจะเจออาจารย์ลุงเยว่มาโดยตลอดแต่ไม่มีโอกาส คิดไม่ถึงว่าวันนี้ในที่สุดก็ได้พบกัน” เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจกล่าว
“ไม่เป็นไร” ต่อหน้าเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูก เยว่เจิ้นเป่ยสีหน้ายังคงเคร่งขรึมจริงจัง แต่สายตาอ่อนโยนลงมาก
หลังจากสำรวจเยี่ยนตี๋กับเยี่ยนจ้าวเกอ เยว่เจิ้นเป่ยก็ทอดถอนใจมากกว่าพวกเขาเสียอีก
วินาทีนี้ กษัตริย์กระบี่เหมือนกับเห็นอาจารย์ผู้มีพระคุณในอดีตปรากฏตัวตรงหน้าตนเองอีกครั้ง
การรอคอยตลอดหลายปี บัดนี้ในที่สุดก็ไม่ผิดหวัง
เยว่เจิ้นเป่ยรู้สึกพลุ่งพล่าน ริมฝีปากสั่นไหว
แต่ที่พูดออกมากลับเป็นอีกเรื่อง
เขาใช้น้ำเสียงจริงจัง “ถึงพวกเราจะรวมตัวกัน แต่ว่าสภาพการณ์ยิ่งมายิ่งลำบาก อย่าเพิ่งประมาทไป”
“กษัตริย์ดินฝ่าภัยพิบัติสัจพิศวงแล้่ว?” พวกเยี่ยนจ้าวเกอสบตากัน ต่างคาดเดาความนัยของกษัตริย์กระบี่ออก
เย่วเจิ้นเป่ยกษัตริย์กระบี่กล่าวอย่างแช่มช้า “มิผิด กษัตริย์ดินได้ฝ่าภัยพิบัติสัจพิศวง สำเร็จระดับห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด อยู่ในระดับเซียนกำเนิดสุญญตาแล้ว”
พวกเยี่ยนจ้าวเกอพอฟังก็พยักหน้า ไม่กล่าวอันใด
ถ้าไม่ใช่ราชันพระอังคารสั่วหมิงจางก่อเรื่องบนพื้นที่ของโถงเซียน กษัตริย์ดินเจี่ยงเซิ่นเกรงว่าจะกลับโลกซ้อนโลกแต่แรก
บางทีการเรียกเขาว่ากษัตริย์ดินในตอนนี้อาจไม่เหมาะสมอีกแล้ว
จ้าวสวรรค์ดาวเสาร์จึงเป็นฉายากษัตริย์ในปัจจุบันของเขา หรือจะเรียกว่าราชันพระเสาร์ ฉายาในอดีตของเขายังเหมาะสมกว่า
เจี่ยงเซิ่นที่เลื่อนสู่ระดับเทพเจ้า เกรงว่าแม้แต่กษัตริย์ดารา กษัตริย์กระบี่สองคนร่วมมือกัน ก็ยากจะต้านทาน
ทางราชันพระอังคารสั่วหมิงจาง ถึงแม้ว่าจะสำเร็จระดับเซียนกำเนิดที่ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิดเร็วกกว่าเจี่ยงเซิ่น แต่ว่าพวกเยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่มีทางยินดีอย่าหน้ามืดตามัวเช่นนี้
สั่วหมิงจางมีปัญหาของสั่วหมิงจาง
เป็นอย่างที่คาด กษัตริย์กระบี่กล่าวต่อ “ราชันพระอังคาร มีความแข็งแกร่งด้านพลังไร้ข้อกังขา แต่ว่าคราครั้งนี้ ก่อเรื่องใหญ่เข้าแล้ว”
เขาเหมือนชมเชยเหมือนถอนใจ “ในการล้อมฆ่าที่เมฆดารากำเนิด และสงครามใหญ่หลังจากนั้น แค่จ้าวสวรรค์เส้นทางนอกรีต ก็มีสามคนที่ตายด้วยมือของราชันพระอังคารแล้ว”
“ยอดฝีมือเส้นทางนอกรีตที่ครั้งกระโน้นเข้าร่วมการกลุ้มรุมราชันพระพฤหัสบดีครั้งสุดท้าย และปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ ล้วนถูกราชันพระอังคารแก้แค้นสังหารหมดสิ้น”
เยว่เจิ้นเป่ยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ทุกคนที่อยู่รอบๆ วินาทีนี้ต่างรู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดที่พุ่งมาปะทะหน้า
หลงเสวี่ยจี้พยักหน้าอย่างแช่มช้า “สมคำร่ำลือ!”
ยอดฝีมือโถงเซียนที่ถูกสั่วหมิงจางฆ่าตายมีจำนวนมากขนาดนี้ ยิ่งอย่าว่าแต่กองทัพที่กลุ้มรุมไล่ล่าเขาในตอนนั้นจะน่ากลัวขนาดไหน
ก่อนหน้านี้โถงเซียนส่งคนไปล้อมเมฆดาราปฐมกำเนิด ส่งยอดฝีมือที่ได้เข้าร่วมการไล่ล่าราชันพระพฤหัสบดีเซ่าจวินหวงเข้าไปในเมฆดาราปฐมกำเนิดออกมาหมด ด้านหนึ่งเป็นเพราะว่าพวกเขาคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของเมฆดาราปฐมกำเนิด ด้านหนึ่งความจริงเพื่อใช้เป็นตัวล่อ ตรึงสั่วหมิงจาง ทำให้เขายอมสู้ไม่ถอย บรรลุเป้าหมายล้อมสังหารราชันพระอังคาร
แต่ว่าผลลัพธ์สุดท้าย เหยื่อกลับถูกกิน แหขาดออก แต่ปลาไม่ตาย!
สั่วหมิงจาฝ่าวงล้อมและการโจมตีหลายชั้นอย่างหักโหม สังหารเป้าหมายที่ตนคิดฆ่า แก้แค้นให้แก่เซ่าจวินหวง จากนั้นก็บุกตะลุยออกมาตลอดทาง!
ภายหลังเขาถึงขั้นสลัดหลุดจากผู้ไล่ตาม มาถึงตำหนักโอสถ
เหมือนกับที่เขาสัญญากับเยี่ยนจ้าวเกอในตอนแรก
“เส้นทางนอกรีตมียอดฝีมือระดับเทวกษัตรย์ลงมือ แต่ก็หยุดราชันพระอังคารไม่ได้เช่นกัน” กษัตริย์กระบี่กล่าวอย่างแช่มช้า
ระดับพลังฝึกปรือยิ่งสูงเท่าไร ช่องว่างระหว่างพลังที่เกิดขึ้นเพราะความแตกต่างด้านระดับก็จะยิ่งมากเท่านั้น
เมื่อไปอยู่ในระดับเทวกษัตริย์ แม้จะเป็นเทวกษัตริย์เส้นทางนอกรีต ก็ไม่อาจดูแคลน
พวกเยี่ยนตี๋ถอนใจชมเชยอย่างซึมเซา “พวกเราใฝ่ฝ้นอยากเป็นเหมือนผู้อาวุโส”
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยเสียงเบา “แต่เมื่อเป็นแบบนี้ โถงซียนจะต้องสั่นสะเทือน ก่อให้เกิดการแก้แค้นขนานใหญ่กว่าเดิม หวังจะรุมสังหาราชันพระอังคาร”
“ก่อนหน้านี้กริ่งเกรงการเคลื่อนไหวทางแดนสุขาวดี แต่ตอนนี้เกรงว่าจะลงแรงได้มากกว่าเดิม กลับไม่ทราบว่า เทวกษัตริย์ไร้ประมาณจะลงมือด้วยตัวเองหรือไม่?”
กษัตริย์กระบี่ว่า “เทวกษัตริย์ไร้ประมาณจะลงมือหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่อาจยืนยัน แต่ว่าเส้นทางนอกรีตจะต้องมียอดฝีมือระดับเทวกษัตริย์ออกโรงมากกว่าเดิมเพราะเทวกษัตริย์ไร้ประมาณแน่”
เขามองเยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกับกล่าว “สำหรับเส้นทางนอกรีตในปัจจุบัน เจ้ากับเสวี่ยชูฉิงมารดาของเจ้า เกรงว่าไม่ใช่เป้าหมายเร่งด่วนที่สุดของพวกเขาแล้ว”
ราชันพระอังคารสั่วหมิงจางต่างหาก
เยี่ยนจ้าวเกออดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้
ก่อนหน้านี้ยังคิดตามหาราชันพระอังคารมาช่วยเหลือ ตอนนี้กลับเป็นตนอาจกลายเป็นบ่อปลาโดนไฟลาม ช่างทำให้คนหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้จริงๆ
แต่ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร สิ่งที่ควรเผชิญก็ยังต้องเผชิญ
ราชันพระอังคารสั่วหมิงจางสามารถจัดการความยุ่งยากที่เกิดจากราชันพระเสาร์เจี่ยงเซิ่นได้ เช่นนั้นการคุกคามมากกว่าเดิมจากโถงเซียนจะต้องตามมา
ถึงขั้นที่ โถงเซียนอาจจะมีความเป็นไปได้ว่าจะหาเรื่องพวกเขา เพื่อไล่ล่าสั่วหมิงจาง
สำหรับเขากับเขากว่างเฉิงแล้ว เจี่ยงเซิ่นได้กลายเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงไปแล้ว
ยิ่งอย่าว่าแต่ จักรพรรดิโกวเฉินในตำนานผู้นั้นมีท่าทีอย่างไร ปัจจุบันยากบอกกล่าว
“สถานการณ์เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงแล้ว” กษัตริย์กระบี่กล่าวเป็นครั้งสุดท้าย
ทุกคนที่อยู่รอบๆ รวมทั้งหลงเสวี่ยจี้จากมรกตท่องฟ้า ต่างพยักหน้ากับตัวเอง
สถานการณืเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
เป็นเพราะว่าสั่วหมิงจาง ปัญหาในปัจจุบันเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะไม่ใช่ข้อพิพาทและความขัดแย้งภายในของโลกซ้อนโลกอีก
ไฟสงครามแผ่ลาม สถานการณ์สูญเสียการควบคุมโดยสมบูรณ์ กลายเป็นพายุที่อาจจะม้วนพัดจักรวาลสำนักเต๋า
ในคลื่นโหมกระหน่ำนี้ ผู้ใดกล้ารับประกันว่า ประวัติศาสตร์จะมุ่งไปทางใด
เยี่ยนจ้าวเกอสายตาเยือกเย็น
เขากวาดมองรอบๆ สัมผัสการเชื่อมต่อระหว่างตนกับตำหนักโอสถ ใคร่ครวญเล็กน้อย ประกายในดวงตาค่อยๆ กลายเป็นคมกริบ
เขามีความคิดและแผนการพิเศษกับตำหนักโอสถมาโดยตลอด
เพราะว่าอุปสรรคมากมาย จึงไม่มีความมั่นใจนัก ดังนั้นเดิมทีค่อยๆ วางแผน ค่อยๆ จัดการอย่างละเอียดรอบคอบ
แต่ตอนนี้ แผนการนี้บางทีต้องปรับเปลี่ยน นำมาใช้ก่อนกำหนด
มองความเป็นความตายชืดชา หากไม่ยินยอมต้องกระทำ!
เยี่ยนจ้าวเกอหันไปมองหลงเสวี่ยจี้ กล่วเสียงทุ้ม “อาจารย์ลุงหลง การได้ตำหนักโอสถมาในครั้งนี้ ส่วนใหญ่พึ่งพาการช่วยเหลือของท่านกับศิษย์พี่อวี่”
ยังไม่เอ่ยถึงว่าการวางค่ายกลหากขาดไปหนึ่งคนจะทำไม่ได้ พอมีอวี่เยี่ยจึงครบห้าคน
การขัดขวางเฉินเฉียนหัว โชคดีที่มีหลงเสวี่ยจี้ลงมือ
“ของวิเศษแต่ละชิ้นในตำหนักโอสถ และตำรับโอสถ คัมภีร์พิเศษซึ่งเก็บรักษาอยู่ มรกตท่องฟ้าเอาไปได้ตามแต่ปรารถนา” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “แต่ว่าตัวตำหนักโอสถ มีประโยชน์กับข้ามหาศาล ขอให้อาจารย์ลุงหลงโปรดให้อภัย”
หลงเสวี่ยจี้ส่ายหน้ากล่าว “ไม่จำเป็นต้องเกรงใจเช่นนี้ อวี่เอ๋อร์ได้ประโยชน์ไปไม่น้อย ครั้งนี้พวกเราไม่นับว่ามาเสียเที่ยว ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ามีวิธีปราบวิญญาณตำหนักดวงนั้น ผลลัพธ์ของการเดินทางในครั้งนี้ยังไม่แน่นอน”
………………..