ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1276 ความยากของการฝึกฝน
ถึงแม้จะเป็นพี่น้องกัน แต่เกาเสวี่ยโพกับหลงเสวี่ยจี้ก็มีอายุแตกต่างกันมาก
เกาเสวี่ยโพแทบจะเรียกได้ว่าเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับประมุขที่อาวุโสที่สุดในมรกตท่องฟ้าในปัจจุบัน
พูดถึงเรื่องวัยวุฒิแล้ว เขายังสู้ประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงทางโลกซ้อนโลกไม่ได้ แต่ถ้าเทียบกับคนอื่นๆ ก็เป็นผู้อาวุโสชราแล้ว
เป็นเพราะว่ามีอาการบาดเจ็บเก่าติดตัว หวังเจิ้งเฉินจึงติดอยู่ในระดับมนุษย์มาโดยตลอด เขาถ้าหากทดลองผลักเปิดประตูเซียนฝ่าภัยพิบัติมนุษย์เซียน นอกจากความตาย ก็ไม่มีความเป็นไปได้ที่สองอีก
ถ้าไม่ใช่เพราะมีโอสถวิญญาณและยาวิเศษที่ช่วยยืดอายุขัยมากมาย เขาเกรงว่าจะหมดอายุขัยไปแล้ว
หลังจากวันที่เกาเสวี่ยโพเลื่อนสู่ระดับประมุขในหมู่คน ก็ผ่านไปแล้วหลายปี จากนั้นก็ชะงักติดอยู่กับที่มาโดยตลอด หลงเสวี่ยจี้ที่อายุน้อยกว่าเขามากผลักเปิดประตูเซียนสำเร็จ แซงไปอยู่ด้านหน้าเขา
ถึงขั้นที่แม้แต่เฮ่อเหมี่ยนกับอวี่เยี่ยที่เป็นคนรุ่นหลังได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดท่ามกลางหมู่มนุษย์ ยืนเคียงไหล่กับเขา
ครั้งก่อนตอนได้เจอเกาเสวี่ยโพ เยี่ยนจ้าวเกอก็คาดเดาได้รางๆ รู้สึกว่าเขาอาจจะกำลังหล่อเลี้ยงกระบี่เหมือนกับจักรพรรดิสัญญะเมฆอยู่
สถานการณ์เดียวกันยังมีหลงซิงเฉวียน หลงจักรพรรดิน้ำพุมังกร
กระนั้นการคาดเดาก็ยังเป็นแค่การคาดเดา ไม่แน่ว่าจะแม่นยำ มีโอกาสที่สามคนนี้มีศักยภาพจำกัด หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง ระดับพลังฝึกปรือในปัจจุบันก็เป็นจุดสูงสุดสุดท้าย
ทว่าหลังจากได้สัมผัสกับจักรพรรดิสัญญะเมฆและเกาเสวี่ยโพด้วยตัวเอง เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกว่าพวกเขาไม่น่าจะหยุดอยู่แค่เท่านี้
“อาจารย์อาหลงกับศิษย์น้องเกาต่างกำลังฝึกฝนวิชาโบราณสายเหนือพิสุทธิ์ ซ่อนคมหล่อเลี้ยงกระบี่” กษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยตอบคำถามของเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “เป็นอย่างที่คิดไว้”
วรยุทธ์อย่างเดียวกัน สภาพแวดล้อมเหมือนกัน เงื่อนไขเหมือนกัน ความสำเร็จที่แต่ละคนจะได้ก็แตกต่างกันไป
ถ้าหากนับผลกระทบร่วมกันของเงื่อนไขภายนอกมากมายเช่นวรยุทธ์ที่ฝึกฝน และสภาพแวดล้อมในการฝึกปรือ การมีกับไม่มีอาจารย์คอยชี้แนะ รวมถึงการมีหรือไม่มีทรัพยากรอันเต็มเปี่ยม สุดท้ายระดับที่แต่ละคนจะไปถึงได้ในตอนสุดท้ายก็อาจแตกต่างราวฟ้ากับดิน
ทำไมถึงกล่าวว่า อยู่มานานมิได้หมายความว่าจะต้องแข็งแกร่ง
เป็นเพราะว่า คนมากมายเมื่อเดินบนเส้นทางฝึกไปถึงความสูงระดับหนึ่ง ก็มิอาจทำลายคอขวดได้อีก
ในเวลาต่อจากนี้ของชีวิต ถ้าหากพวกเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ เช่นนั้นได้แต่ติดอยู่ในระดับปัจจุบันจนกระทั่งอายุขัยสิ้นสุด ฝุ่นกลับสู่ฝุ่น ดินกลับสู่ดิน
ไม่ว่าจะเป็นยุคที่มรรคายุทธ์เจริญรุ่งเรืองก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ หรือว่ายุคตต่ำหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ล้วนเป็นเช่นนี้
แน่นอนว่าหากอยู่มานานย่อมมีความหวังมากกว่า มีความเป็นไปได้ที่จะได้เจอกับวาสนากับโอกาสที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดถึงมาก่อนมากกว่า จากนั้นก็ทำลายคอขวดได้ราวกับปาฏิหาริย์ แต่นั่นถึงอย่างไรก็เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นน้อย
ปัญหาที่คนหลายคนต้องเผชิญก็คือ แม้แต่ยอดฝีมือระดับเซียนก็มีจุดสิ้นสุดอายุขัยของใครของมัน
ยิ่งเลื่อนสู่ระดับสูงได้เร็วเท่าไร ก็มีเวลาอันเหลือล้นให้ไปทุ่มตามหาความเป็นไปได้ในการเลื่อนระดับเพิ่มอีกขั้นมากเท่านั้น
ดังนั้นพวกเยี่ยนจ้าวเกอ เยี่ยนตี๋ เนี่ยจิงเสิน เฉินเฉียนหัว หลงเสวี่ยจี้ อวี่เยี่ย และเฮ่อเหมี่ยน จึงถูกยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะแห่งยุค ถูกลิขิตให้กลายเป็นตำนาน
ด้านหนึ่งเป็นเพราะว่าพวกเขาสามารถขึ้นมาอยู่ในระดับสูงทั้งๆ ที่อายุยังน้อย แสดงให้เห็นแล้วว่ามีศักยภาพลึกล้ำไม่ธรรมดา ไม่มีทางหยุดชะงักง่ายๆ
ด้านหนึ่งเป็นเพราะว่าพวกเขามีเวลาทุ่มเทมากกว่า แต่ว่าเรื่องราวในโลกยากหยั่งคาด ก่อนหน้านี้พุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว ภายหลังจู่ๆ ก็ติดอยู่ที่ด่านหนึ่งเป็นพันปี หรืออาจเป็นเวลาที่ยาาวนานกว่า ถือเป็นเรื่องปกติ
ดังนั้นการเดินบนเส้นทางมรรคายุทธ์ ไม่มีใครกล้าประมาท ต่างมุ่งไปด้านหน้าด้วยใจศรัทธา ค้นหาด้วยความเพียร
วิชาโบราณซ่อนคมหล่อเลี้ยงกระบี่ของสายเหนือพิสุทธิ์ เป็นผู้อาวุโสในอดีตสร้างขึ้นมา
ผู้ฝึกกระบี่เน้นฝึกฝนวิชาสังหาร เดิมทีไม่ด้อยกว่าเส้นทางหล่อเลี้ยงชีวิตอยู่แล้ว ต่อให้มีวิชาหล่อเลี้ยงชีวิตโดยเฉพาะคอยปรับพลัง แต่ก็ยังเสียเปรียบในด้านอายุขัย
ในการต่อสู้เข่นฆ่ากับผู้คน ขณะที่พลังต่อสู้แข็งแกร่ง สภาวะโจมตีดุร้าย กลับมีผลกระทบด้านลบ นั่นก็คือการเลื่อนระดับจะยิ่งลำบากกว่าเดิม
ในหมู่ผู้สืบทอดกระแสตรงสามพิสุทธิ์สายหลัก ผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ยามเลื่อนระดับจะมีระดับความยากสูงที่สุด
ตราบใดที่ยังไม่ผลักเปิดประตูเซียนจะยังไม่เป็นไร แต่ว่ารอหลังสำเร็จเป็นเซียน โดยเฉพาะตอนเลื่อนจากเซียนจริงแท้สู่เซียนลี้ลับ ระดับความยากจะสูงถึงขีดสุด
เป็นเพราะว่าปราณเซียนชนิดแรกที่จักรพรรดิเซียนจริงแท้ซึ่งเป็นผู้ฝึกกระบี่หลอม ไม่ใช่ปราณกาลีหรือปราณเที่ยงตรง
ในสถานการณ์ที่มีเงื่อนไขอื่นๆ คล้ายกัน จอมยุทธ์ที่ฝึกฝนหนึ่งในปราณเซียนสองชนิดนี้ จะมีพลังต่อสู้ตามจริงแข็งแกร่งถึงขีดสุด
ทว่าปราณเซียนสองชนิดนี้ ก็หลอมรวมกับปราณเซียนชนิดอื่นๆ เป็นวายุเซียนได้ยากที่สุด
ความยากในการพัฒนาของผู้ฝึกกระบี่ กรณีที่คุ้นเคยกันดีที่สุดไม่ใช่ใครอื่น ก็คือราชันพระศุกร์เยี่ยนซิงถาง ปู่ของเยี่ยนจ้าวเกอนั่นเอง
เยี่ยนซิงถางถูกยกย่องเป็นเทพกระบี่ ในอดีตได้รับการจัดเป็นเก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ มีพลังโดดเด่น แต่กลับเป็นคนที่ฝ่าภัยพิบัติสัจพิศวง สำเร็จเป็นระดับเซียนลี้ลับช้าที่สุดในบรรดาคนทั้งเก้าในตอนนั้น
วิชาหล่อเลี้ยงกระบี่อันเป็นการสืบทอดลับของสายเหนือพิสุทธิ์ ถึงแม้จะทำให้จอมยุทธ์ติดอยู่ในระดับปัจจุบันนานกว่าเดิม ถึงขั้นที่ช้ากว่าคนร่วมเส้นทางคนอื่นๆ แต่หลังจากเปิดกระบี่ เลื่อนสู่ระดับถัดไป การฝึกฝนต่อจากนั้น จะประหยัดเวลาได้ มิหนำซ้ำยังมีความหวังในการเลื่อนสู่ระดับที่สูงกว่าเดิม
การส่งเสริมในนี้แตกต่างไปตามแต่ละคน และมีขีดจำกัดเช่นกัน
แต่ว่าการจะยืดไม้ไผ่ร้อยปล้องให้ยาวขึ้นอีกก็ยากลำบากเป็นพิเศษ ยอดฝีมือที่มาอยู่ในระดับสูง คิดจะเพิ่มระดับขึ้นต่อ การช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ล้วนล้ำค่าเหนือธรรมดา
เพียงแต่ว่าวิชาซ่อนคมหล่อเลี้ยงกระบี่ความจริงก็มีความเสี่ยงมหาศาล ยอดฝีมือสายเหนือพิสุทธิ์ที่หล่อเลี้ยงกระบี่ไม่สำเร็จนทำร้ายตัวเองในประวัติศาสตร์ก็มีอยู่ไม่น้อย
จะเลือกอย่างไร ขึ้นอยู่กับความมั่นใจของผู้ฝึกยุทธ์เอง
ไม่หล่อเลี้ยงกระบี่ หลังจากเลื่อนสู่ระดับหนึ่งแบบธรรมดา แม้ลำบากยากเข็ญนับพันปี ระดับที่สูงกกว่าก็อาจจะยังคงยาวไกลไม่มีกำหนด
หล่อเลี้ยงกระบี่ ยอมอดกลั้นชั่วคราว ติดอยู่ในระดับปัจจุบันสักพันปี ต่อมาค่อยเลื่อนระดับทีเดียว ระดับที่สูงกว่าอาจจะเหลือใกล้แค่ก้าวเดียว แต่ต้องแบกรับความเสี่ยง
แน่นอนว่าคนที่มีความสามารถเดินบนเส้นทางนี้ ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องเดิน ขึ้นอยู่กับความปรารถนาส่วนตัวและเงื่อนไขทางสภาพแวดล้อม
การติดอยู่ในระดับปัจจุบันเป็นเวลานาน จะทำให้พลังของจอมยุทธ์หยุดอยู่ในระดับนี้ตลอดไปเช่นกัน ถ้าสภาพแวดล้อมภายนอกเลวร้าย ถึงอย่างไรก็ลำบากอยู่ดี
ถ้ามรกตท่องฟ้าไม่มีกษัตริย์ลี้ลับและกษัตริย์เถาคุ้มครอง จักรพรรดิน้ำพุหลงกับจักรพรรดิสัญญะเมฆสมควรไม่หล่อเลี้ยงกระบี่อย่างสงบสุขมาได้ถึงพันปี
ในกาลเวลาอันยาวนานหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ เป็นเพราะว่าท่วงทำนองรุนแรงเด็ดขาดในการต่อสู้กับโถงเซียนเส้นทางนอกรีต การสืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ได้สูญเสียยอดฝีมือไปมากมาย
ภายหลังก็ประสบกับความแตกแยกเหมือนกับโลกซ้อนโลกในอดีต
โชคดีที่เมื่อเทียบกับโลกซ้อนโลกซึ่งมีสถานารณ์คล้ายๆ กันแล้ว ยอดฝีมือระดับสุดยอดที่ออกจามรกตท่องฟ้ามีค่อนข้างน้อย ดังนั้นมรกตท่องฟ้าจึงยังคงมีสภาพเหมือนในปัจจุบัน
ไม่อย่างนั้นเกรงว่าจะลำบากกว่าเดิมเพราะสูญเสียกำลังหลัก
“เฉินเฉียนหัวได้คัมภีร์เบิกนภามา ทั้งยังผลักเปิดประตูเซียนแล้ว” กษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยพลันนึกถึงเรื่องหนึ่ง กวาดสายตามองทุกคน สุดท้ายหยุดอยู่บนร่างของหลงเสวี่ยจี้
เมื่อครู่ในตำหนักโอสถ ขณะที่หลงเสวียจี้สู้กับเฉินเฉียนหัว กษัตริย์อนันต์จางปู้ซวีได้ปรากฏตัว เยว่เจิ้นเป่ยมาถึงช้ากว่า
ถึงแม้จะเพ่งสมาธิอยู่ที่การต่อสู้กับจางปู้ซวี แต่เยว่เจิ้นเป่ยพอเห็นการต่อสู้ของหลงเสวี่ยจี้กับเฉินเฉียนหัว ก็แยกแยะการเปลี่ยนแปลงของเฉินเฉียนหัวออก
“เป็นคัมภีร์เบิกนภาจริงๆ” หลงเสวี่ยจี้พยักหน้า “มิหนำซ้ำเขาสมควรเรียนคัมภีร์เบิกนภาก่อน จากนั้นก็ฝ่าภัยพิบัติมนุษย์เซียน”
เยว่เจิ้นเป่ยสีหน้าเคร่งขรึม หลังจากครุ่นคิดสักพัก ก็หันไปมองพวกเยี่ยนจ้าวเกอ กล่าวว่า “หากเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกซ้อนโลก และการกระทำของเฒ่าหยางแห่งหุบเขาเซียนเร้นกายที่พวกเจ้าบอกเป็นจริง การได้คัมภีร์เบิกนภาของเฉินเฉียนหัวเกรงว่าจะเป็นฝีมือของเขา”
………………..