ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1277 ความลึกของทะเลมารนพยมโลก
เฉินเฉียนหัวที่มีพลังแข็งแกร่งอยู่แล้ว หลังจากได้คัมภีร์เบิกนภา ในคัมภีร์นภาแรกเริ่มสิบม้วน นอกจากค้มภีร์นภาไร้ขอบเขต อีกเก้าคัมภีร์ที่เหลือล้วนรวบรวมครบ พลังพลันเพิ่มขึ้น
หลงเสวี่ยจี้ที่มีชื่อเสียงมากกว่าเขา ถึงข้้นที่ผลักเปิดประตูเซียนเร็วกว่าเขา ยังรู้สึกกินแรงในตอนที่สู้กันเมื่อครู่
วิชากระบี่สายเหนือพิสุทธิ์มีการกดข่มหกคัมภีร์หลังกำเนิดแรกเริ่มอย่างชัดเจน ดังนั้นฐานโลกที่มีพลังป้องกันแข็งแกร่งกว่าวรยุทธ์อื่น ต่อหน้าสี่กระบี่ล้ำค่า พลังป้องกันไม่ต่างอะไรกับกระดาษสา ถึงขั้นที่ยังสู้ความสามารถของวรยุทธ์ก่อนกำเนิดที่ไม่ผสมอะไรเลยอย่างร่างกาลอวกาศจุดกำเนิดไม่ได้
เฉินเฉียนหัวเองก็ไม่คิดป้องกัน แต่ว่ารวมสามคัมภีร์ก่อนกำเนิดเป็นหนึ่ง ปล่อยพลังเบิกนภาอันไร้สิ้นสุดออกมปะทะการโจมตีของหลงเสวี่ยจี้
เขาเพิ่งจะฝึกฝนคัมภีร์เบิกนภา ยังมีจุดที่ยังมิอาจใช้ได้ดั่งใจ จึงเอาชนะวิชากระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ที่ผ่านการเคี่ยวกรำมานับร้อยนับพันครั้งของหลงเสวี่ยจี้ไม่ได้
ทว่าเมื่อมีคัมภีร์เกิดนภาคอยช่วยเหลือ หลงเสวี่ยจี้ก็มิอาจยึดครองความได้เปรียบ
วิชากระบี่ลงทัณฑ์เซียนเหมือนกับหมัดแปลงกำเนิด ที่สามารถแก้ไขการสอดแนมจากคัมภีร์เกิดนภาได้ในระดับหนึ่ง แต่มิอาจขัดขวางได้ทั้งหมด
ดังนั้นหลงเสวี่ยจี้มักเกิดความรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของตัวเองอยู่ในความคาดหมายของอีกฝ่าย
โชคดีที่สี่กระบี่ล้ำค่ารุนแรงเหี้ยมโหดถึงขีดสุด กำจัดอุปสรรคขวากหนาม ไม่มีสิ่งใดมิอาจทำลาย หลายๆ ครั้งเฉินเฉียนหัวมองออก แต่ก็ได้แต่พยากรณ์หลบได้ก่อน มิอาจฝืนแก้ไขได้
ทว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ในการต่อสู้ครั้งนี้หลงเสวี่ยจี้ก็เกิดความรู้สึกคับข้องเหมือนถูกมัดมืดมัดเท้า มิอาจใช้ความสามารถได้อย่างเต็มที่
“รากฐานของเฉินเฉียนหัวหรือเดิมทีเป็นกษัตริย์เร้นลับฟูมฟัก?” หลงเสวี่ยจี้มองพวกเยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกับถาม
เยี่ยนจ้าวเกอสบตากับเยว่เจิ้นเป่ยแวบหนึ่ง ก่อนจะตอบว่า “ตอนนี้ยังมิอาจยืนยัน แต่ทั้งสองฝ่ายสมควรมีความสัมพันธ์กันอยู่บ้างถึงจะถูก ใต้เท้ากษัตริย์เร้นลับน่ามีการดูแลเฉินเฉียนหัว เมื่อเป็นแบบนี้ เขาจึงสามารถถ่ายทอดคัมภีร์เบิกนภาให้แก่เฉินเฉียนหัวในตอนที่เขาต้องการ แม้ตัวเขาจะยังอยู่ในหุบเขาเซียนเร้นกายมิได้ออกมา”
“ถ้าหากว่ากษัตริย์เร้นลับฝึกฝนคัมภีร์เกิดนภา กลับมิอาจไม่ป้องกันแล้ว” หลงเสวี่ยจี้พยักหน้า
ระดับพลังฝึกปรือของหยางเซ่อกษัติรย์เร้นลับ ปัจจุบันยังเหนือกว่าเฉินเฉียนหัว สิ่งที่เห็นได้ผ่านคัมภีร์เกิดนภาก็ย่อมมีมากกว่า
ถึงแม้สมมติว่ากษัตริย์เร้นลับจะฝึกฝนคัมภีร์เกิดนภาจริงๆ เช่นนั้นต่อจากนี้เขากับเฉินเฉียนหัวจะต้องเกิดความขัดแย้งขึ้น
คัมภีร์เกิดนภาที่อนุญาตให้คนหลายคนฝึกฝน สุดท้ายจะเหลือแค่คนคนเดียวที่ฝึกฝนสำเร็จ ใครสำเร็จก่อน เส้นทางของคนอื่นๆ จะถูกปิดตาย
กระนั้นนั่นก็เป็นเรื่องราวในอนาคต
หลังจากทุกคนสนทนากันสักพักหนึ่ง เยี่ยนตี๋ เนี่ยจิงเสิน อวี่เยี่ยต่างนั่งขัดสมาธิกลางตำหนัก หลอมลมปราณปรับลมหาย หลอมเปลี่ยนแก่นแท้ของควันยาที่ได้ดูดซับก่อนหน้าอย่างเงียบๆ
เยี่ยนจ้าวเกอยังคงสำรวจทั่วตำหนักโอสถ เพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่การควบคุมตำหนักวิเศษของตัวเอง
ทางด้านราชันพระอังคารสั่วหมิงจาง เยี่ยนจ้าวเกอได้ส่งข่าวไปแล้ว
สั่วหมิงจางมิได้มารวมตัว แต่ว่ามีการตอบกลับ
ก่อนหน้านี้คนของโถงเซียนมาสายไปก้าวหนึ่ง แต่ก็ได้ไปถึงมิติต่างแดนอันเป็นที่อยู่เดิมของตำหนักโอสถ ผลลัพธ์เจอสั่วหมิงจางเข้าพอดี
สั่วหมิงจางล่ออีกฝ่ายไป ทั้งยังบอกให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง ต่อจากนี้เขาจะกลับโลกซ้อนโลกเอง
หลังกลับจากมิติต่างแดนมายังจักรวาลสำนักเต๋า หลงเสวี่ยจี้ก็พาอวี่เยี่ยบอกลา ก่อนจะกลับมรกตท่องฟ้า
พวกเยี่ยนจ้าวเกอกลับโลกซ้อนโลก
…
เขตมารนพยมโลกอันไพศาล ควันมารสีดำฟุ้งกระจายไปทั่ว ด้านในมีแสงสีแดงน่ากลัวหลายสายกะพริบอย่างต่อเนื่อง
นพยมโลกกว้างใหญ่ราวกับไร้ขอบเขต
เมื่อล่วงลึกเข้าไปด้านใน ข้ามผ่านมิติเวลาอย่างต่อเนื่อง จะมีจุดที่เป็นใจกลาง
ด้านในดินแดนอันแห้งแล้งบนเขตมาร พลันปรากฏท้องทะเลบริเวณหนึ่ง น้ำทะเลเป็นสีดำขลับ เรียบลื่นราวกระจก ไม่เห็นระลอกน้ำคลื่นทะเล ราวกับทวีปที่จับตัวกัน
ความยิ่งใหญ่ของทะเลมารผืนนี้ ยากจะใช้ระยะห่างทั่วไปมากะประมาณ เหมือนกับบรรจุฟ้าดินไร้สิ้นสุดได้
คล้ายกับแม้จะเป็นโลกอย่างโลกซ้อนโลกหรือมรกตท่องฟ้า ล้วนบรรจุได้อย่างเหลือเฟือ
ที่นี่เงียบสงบ มีได้มีปราณมารตัดขวางกันอย่างน่าพรั่นพรึงเหมือนนอกทะเล
แต่ว่าด้านในกลับแฝงความน่ากลัวที่ล้ำลึกกว่า ทำให้จอมมารระดับสุดยอดจำนวนนับไม่ถ้วนในนพยมโลกต่างมิกล้าเข้าใกล้ง่ายๆ
ด้านใต้ผิวมหาสมุทรสีดำอันราบเรียบ มิติเวลาซ้อนทับเปลี่ยนแปลง ยากจะทราบถึงเลศนัย
ณ ที่แห่งนี้ มิติช่องว่างเหมือนไม่มีการแบ่งบนล่างซ้ายขวา
แต่ว่าหากมุ่งหน้าไป ‘ด้านล่าง’ ก็จะเป็นโลกที่สูงล้ำใบหนึ่ง
เหมือนกับสวรรค์สามสิบสามชั้นหรือตำหนักสวรรค์ชั้นเก้าที่เป็นมายาในอดีต
เพียงแต่ว่า เทียบกับการขึ้น ‘ด้านบน’ ของที่นั่นแล้ว ที่นี่เป็นการลง ‘ด้านล่าง’ อย่างต่อเนื่อง ยิ่งเข้าไปลึก ยิ่งลี้ลับโบราณ สะเทือนขวัญวิญญาณ
ในมิติช่องว่างบริเวณหนึ่งด้านในทะเลมารนี้ว่างเปล่าไม่มีสิ่งใด มีต้นไม้โบราณต้นหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่
ต้นไม้โบราณมองไปเฉาตายนานแล้ว ยอดไม้โรยรา ใบล้วนแห้งเหี่ยวหลุดร่วงหมดสิ้น เหลือแต่กิ่งไม้รูปร่างพิลึกกึกกือ
ทว่าด้านล่างต้นไม้ กลับมีร่มเงาขนาดมหึมา
ถึงกับมีพลังชีวิตไหลออกมาจากด้านในเงาของต้นไม้โบราณต้นนี้ เหมือนกับมีสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนเคลื่อนไหวอยู่ด้านใน
ในทะเลมารเหมือนกับไม่มีนิยามของกาลเวลา
เงาใต้ต้นไม้โบราณพลันสั่นไหว หายไปจากพื้นดิน
เหลือแค่ต้นไม้เก่าแก่ไร้เงาที่ยังคงตั้งอยู่ที่เดิม
ในตอนที่เงาสายนั้นปรากฏขึ้นอีกครั้ง ก็มาถึงมิติเวลาอีกด้านหนึ่งของทะเลมารแล้ว
ในมิติเวลาบริเวณนี้กลับแตกต่างไปจากทะเลมารและเขตมารของนพยมโลกโดยสิ้นเชิง
สถานที่แห่งนี้เหมือนกับโลกมนุษย์ ไม่เห็นร่องรอยที่เกี่ยวกับมารแม้แต่น้อย
โลกและกลุ่มดาวที่แตกต่างกันใบแล้วใบเล่ากระจายอยู่หนาแน่น ในโลกทุกใบต่างมีสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนเจริญเติบโต
เงานั้นคุ้นเคยกับสิ่งนี้ดี เข้าไปในโลกใบหนึ่งที่อยู่ข้างใน
กลางเทือกขาวยาวเหยียด พืชพรรณงอกงาม ทวิชาติโบยบิน แสงวสันต์สว่างไสว ทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกเหมือนกลับสู่โลกมนุษย์
ที่สันเขาไม่สะดุดตาลูกหนึ่ง น้ำไหลเสียงซู่ซ่า บนหินใหญ่ก้อนหนึ่งริมแม่น้ำ วัชพืชมีสีมรกตหยดย้อย
ชายชราคนหนึ่งเอียงตัวเอนนอนอยู่ด้านบน
รอจนเงาปรากฏด้านหน้าเขา ชายชราค่อยลืมตา บิดขี้เกียจอย่างเกียจคร้าน “เจอคนแล้วหรือ?”
เงาเหาะลงบนพื้น รวมกับเงามืดของก้อนหินใต้ร่างชายชราเป็นหนึ่ง ส่งเสียงจากในเงาว่า “สายไปก้าวหนึ่ง ปล่อยนางหนีไปได้”
“ที่แล้วมาเป็นฝ่ายเราแทรกซึมโลกมนุษย์ ครั้งนี้กลับมีคนแทรกซึมมาทางฝั่งเรา หายากจริงๆ” ชายชราหัวเราะชอบใจ
เสียงดังมาจากเงา “จับนางได้แน่ ตอนนี้นางยังไม่ประสบความสำเร็จ”
“ตัวนางมีปัญหา ต้องการตามหานาง ต้องส่งคนไปโลกซ้อนโลกสามพิสุทธิ์สายหลักของเหล่ามนุษย์ นางสมควรคิดกลับที่นั่น” ชายชรากล่าว “ตอนนี้ที่นั่นวุ่นวาย สภาพปั่นป่วน ต่างปรักปรำซึ่งกันและกัน ละเลยการป้องกันพวกเรา”
เงากล่าว “ข้ามีความคิดนี้อยู่พอดี นอกจากนางแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องจัดการ”
“ได้เท่าไรก็เอาเท่านั้น ไม่สำเร็จก็ไม่จำเป็นต้องกังวล อนาคตยาวไกล ไม่ต้องรีบร้อน” ชายชราเอนตัวบนหินใหญ่อีกครั้ง “ท่านอยู่ที่นั่นมานาน ยากจะป้องกันไม่ให้ถูกคนจับตา”
“นั่นย่อมแน่นอน” เงาพูดจบก็ส่ายวูบหนึ่ง หายไปจากโลกใบนี้
ชายชราหลับตา งีบหลับต่อ
…
หลังจากล่องลอยเป็นเวลานาน เยี่ยนจ้าวเกอก็บังคับตำหนักโอสถกลับโลกซ้อนโลกอีกครั้ง
ตำหนักโอสถถูกเยี่ยนจ้าวเกอทิ้งไว้ในมิติจักรวาลด้านนอกโลกซ้อนโลก
เยี่ยนตี๋กับเนี่ยจิงเสินปัจจุบันล้วนเข้าฌานกักตัวฝึกฝนอยู่ในตำหนักโอสถ
เยี่ยนจ้าวเกอกับกษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ย กลับโลกซ้อนโลกพร้อมกัน
………………..