ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1283 ต้นกำเนิดของโลกซ้อนโลก
เห็นได้ว่ากษัตริย์เร้นลับได้เตรียมทางถอยให้แก่ตัวเองไว้แล้ว
แสงวิเศษนั่นกวนคนความว่างเปล่า ทำให้จักรวาลหยุดนิ่ง ขวางเส้นทางของพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
แสงวิเศษที่มีความสามารถเช่นนี้ ย่อมดึงดูดสายตา
เยี่ยนจ้าวเกอมีการคาดเดาในใจ มองไปยังกษัตริย์ดารา
เยี่ยนจ้าวเกอทราบจากเสวี่ยชูชิงผู้เป็นมารดาว่า ภายใต้การสนับสนุนและการอนุญาตจากจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋และจักรพรรดิโกวเฉิน เก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ศึกษาคัมภีร์เบิกนภา แล้วบุกเบิกโลกซ้อนโลกพร้อมกัน
ครั้งกระโน้น ได้อาศัยพลังของของวิเศษชิ้นหนึ่ง จึงสร้างโลกที่ยิ่งใหญ่อย่างโลกซ้อนโลกขึ้นมาได้
เก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ในตอนนั้น ถึงแม้แต่ละคนจะเป็นหงส์มังกรในหมู่คน แต่ยังอยู่ในระดับเซียนจริงแท้
การทำลายง่ายการสร้างขึ้นยาก ถึงแม้จะศึกษาคัมภีร์เบิกนภา ร่วมใจกันบุกเบิกโลกซ้อนโลกก็ไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องมีการช่วยเหลือจากพลังภายนอก
เกี่ยวกับของวิเศษชิ้นนั้น ในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอคุยกับทวนพระอังคาร ทวนพระอังคารได้พูดถึงโดยไม่ได้ตั้งใจ ยืนยันถึงการคงอยู่ของมัน
เพียงแต่ว่า แม้แต่ทวนพระอังคารก็ไม่ทราบว่านั่นที่แท้เป็นวัตถุใด
ผู้ที่ทราบ เกรงว่าจะมีแต่ผู้เกี่ยวข้องในตอนนั้น กษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยอาจจะทราบแค่ว่ามีของวิเศษแบบนี้อยู่ กลับไม่ทราบรายละเอียด
เป็นอย่างที่คาด ในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอมองกษัตริย์ดาราด้วยสายตาถามไถ่ กษัตริย์กระบี่ก็มองมาเช่นกัน
กษัตริย์ดาราตอบอย่างราบเรียบ “ในตอนนั้น พวกเราอาศัยพลังหยกหรูอี้ไตรรัตนะของเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดสายหยกพิสุทธิ์ หลังจากบุกเบิกโลกซ้อนโลก สุดท้ายก็สร้างฟ้าดินแห่งนี้”
“ที่แท้เป็นเช่นนี้” เยี่ยนจ้าวเกอประคองหน้าผาก
หยกหรูอี้ไตรรัตนะ เป็นหนึ่งในของวิเศษที่เทวกษัตริย์บรรพกำเนิดบรมครูสายหยกพิสุทธิ์เคยพกติดตัว
หลังจากบรรพเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดหลุดพ้น ว่ากันว่าได้รับการบูชาในตำหนักหยกอันเป็นที่บำเพ็ญของเขามาโดยตลอด
ภายหลังเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ เขาคุนหลุนในอดีตแหลกสลายไปพร้อมกับมหาจักรวาล ตำหนักหยกหายไปไร่ร่องรอย ผู้สืบทอดกระแสตรงสายหยกพิสุทธิ์ส่วนใหญ่โรยรา ของวิเศษในตำหนักล้วนหายไปด้วย ไม่ทราบว่าถูกทำลายหรือหายสาปสูญ
ปัจจุบันพอฟังข่าวของหยกหรูอี้ไตรรัตนะ เยี่ยนจ้าวเกอกับเยว่เจิ้นเป่ยก็จิตใจสั่นไหว
กษัตริย์ดาราเฉินเสวียนจงเข้าใจความรู้สึกของพวกเขา
ถึงอย่างไรทุกคนก็นับได้ว่าเป็นผู้สืบทอดกระแสตรงสายหยกพิสุทธิ์
ครั้งกระโน้นตอนที่เพิ่งได้ยินข่าว เขาก็ยากสงบจิตใจเหมือนเช่นพวกเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้
“หยกหรูอี้มาจากไหน ข้าเองก็ไม่ทราบ เป็นจักรพรรดิอายุวัฒนากับโกวเฉินมอบให้” เฉินเสวียนจงว่า
“คุนหลุนใหม่ สมคำร่ำลือจริงๆ…” เยี่ยนจ้าวเกอทอดถอนใจ จากนั้นเอ่ยขึ้น “จริงด้วย ค่ายกลสิบทิศทันใจ…ทุกๆ ประมาณหนึ่งร้อยปี ในตอนที่พวกเส้นทางนอกรีตสู้กันรุนแรงที่สุด ประมุขทั้งสิบบนโลกซ้อนโลกจะรวมตัวกันที่เขาคุนหลุน วางค่ายกลสิบทิศทันใจ สร้างการกีดขวางเส้นทางนอกรีต”
“ชื่อนี้ไม่ใช่ไม่มีเหตุผลจริงๆ[1]”
เยี่ยนจ้าวเกอมองเฉินเสวียนจง ถ “หรือว่าหยกหรูอี้ไตรรัตนะ ตอนนี้จะอยู่บนโลกซ้อนโลก?”
เขาเพียงแต่สงสัยเท่านั้น
แม้ว่าหยกหรูอี้ไตรรัตนะจะถูกเก็บไว้บนโลกซ้อนโลกจริงๆ ด้วยระดับพลังฝึกปรือในปัจจุบันของเขา มิอาจนำมันออกมา
“ที่อยู่บนโลกซ้อนโลก เป็นตราสลักตราหนึ่ง ปัจจุบันหยกหรูอี้ไตรรัตนะหากไม่มีเรื่องเหนือความคาดหมาย ควรอยู่ในมือของใต้เท้าโกวเฉิน” กษัตริย์ดาราส่ายหน้า
เยี่ยนจ้าวเกอแยกเขี้ยว “เช่นนี้นี่เอง…แล้วเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกัน?”
“หลายปีมานี้ ส่วนใหญ่หยางเซ่ออยู่ในเขาคุนหลุน ก็เพื่อสะกดตราสลัก” เฉินเสวียจงกษัตริย์ดารากล่าว “ตราสลักเมื่อมั่นคง สามารถขยายข่ายอาคมไร้รูปร่างไปรอบๆ โลกซ้อนโลก เพื่อป้องกันการแทรกซึมของเส้นทางนอกรีต”
“หยางเซ่อรู้จักตราสลักดีถึงขีดสุด คงจะศึกษาได้วิชาการเปลี่ยนแปลงมากมาย ยืมพลังของตราสลัก”
“นี่เดิมทีเป็นการป้องกันไว้ก่อน โชคดีหลายปีมานี้ไม่เคยเกิดความวุ่นวาย”
เฉินเสวียนจงกล่าวอย่างสงบนิ่ง “ทว่าต่อจากนี้ เรื่องราวเปลี่ยนแปลง กลับไม่แน่นอนแล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอกับเยว่เจิ้นเป่ยพยักหน้า
ไม่เพียงแต่ปัญหาที่เยี่ยนจ้าวเกอสองแม่ลูกเป็นผู้สืบทอดของจักรพรรดิประกายกาฬและเจิดจรัสเท่านั้น
ราชันพระอังคารสั่วหมิงจางก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ โถงเซียนเกรงว่าจะส่งกำลังมากกว่าเดิมออกไปแก้แค้น
ต่อจากนี้โลกซ้อนโลกจะเป็นอย่างไร ยังเป็นปริศนา
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็รีบกลับกันเถอะ ต้องรีบแข่งกับเวลา รอจนจ้าวสวรรค์เจี่ยงกลับมา สถานการณ์เกรงว่าจะกลับตาลปัตรแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอว่า
คนทั้งสามกลับโลกซ้อนโลกพร้อมกันทันที
เจี่ยงเซิ่นกับหยางเซ่อไม่อยู่ทั้งคู่ ปัจจุบันโลกซ้อนโลกปล่อยให้เยี่ยนจ้าวเกอโลดแล่น
มีงานและการเตรียมตัวมากมาย เขาย่อมต้องวางแผนโดยแข่งกับเวลา
แผนอยู่ที่คน ผลอยู่ที่ฟ้า
เงื่อนไขของประโยคนี้ คือจะต้องพยายามด้วยตัวเองสุดความสามารถก่อน
…
หยางเซ่อกษัตริย์เร้นลับถูกกดดันให้ออกจากโลกซ้อนโลก
หลังจากเคลื่อนที่ในความว่างเปล่าได้สักระยะ ความเร็วของเขาก็ค่อยๆ ช้าลง
อาการบาดเจ็บที่กษัตริย์ดาราเฉินเสวียนจงมอบให้แก่เขา สาหัสขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากไม่จัดการโดยเร็วที่สุด เกรงว่าหากปล่อยไว้ต่อไป สุดท้ายบาดเจ็บถึงรากฐาน ยากจะฟื้นฟู
‘เฉินเสวียนจงไม่ใช้เวลาเปล่าประโยชน์จริงๆ…’ หยางเซ่อส่ายหน้า ปรับลมหายใจฟื้นฟูตัวเอง
เมื่อมาอยู่ในระดับนี้ นอกจากอาการบาดเจ็บและสีหน้าที่ซีดขาวแล้ว หยางเซ่อมิได้แสดงท่าทีอ่อนแรงหรือตึงเครียดหวาดกลัว กลับยังคงผ่อนคลายเหมือนเดิม
เขาทางหนึ่งฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของตัวเอง ทางหนึ่งเซ่นกระดาษยันต์สีเหลืองตุ่นใบหนึ่ง
หลังจากกระดาษลุกไหม้ ก็กลายเป็นควันเขียว ก่อนจะหายไป
หยางเซ่อไม่รีบร้อน อดทนรอคอย
ไม่ทราบผ่านไปนานเท่าไร เขาหยิบกระดาษยันต์สีเหลืองตุ่นออกมาอีกใบ
บนกระดาษยันต์ที่เดิมทีว่างเปล่า พลันปรากฏอักขระสีแดงชาด
หลังจากอ่านเนื้อหา หยางเซ่อก็เก็บกระดาษยันต์ ออกเดินทางต่อ
เขาไม่รีบร้อน ทางหนึ่งรักษาอาการบาดเจ็บ ทางหนึ่งเดินทาง ผละจากจักรวาลสำนักเต๋าที่โลกซ้อนโลกอยู่ มาถึงมิติต่างแดนอันไร้สิ้นสุด
มุ่งหน้าต่ออีกหลายวัน หลังจากข้ามผ่านมิติเวลามากมาย หยางเซ่อก็หยุดยั้งในความว่างเปล่าบริเวณหนึ่ง จากนั้นก็เผากระดาษยันต์ใบหนึ่งอีกครา
ต่อมาเขานั่งขัดสมาธิกลางความว่างเปล่า รักษาตัวเองอย่างเงียบๆ
ครั้งนี้เขาไม่ได้รอนานนัก
ไม่ทันไรก็มีเงาร่างสายหนึ่งปรากฏตรงหน้า
เงาร่างนี้มาอย่างไร้วี่แวว ไม่มีแสงสว่างไหลเวียน ไม่มีความแปรปรวนของพลัง ไม่มีการเคลื่อนไหวสะเทือนฟ้าดิน
ทว่าเขามาถึงในชั่วอึดใจ เสมือนเดินทอดน่องกลางจักรวาล
ผู้มาเป็นชายชราคนหนึ่ง ดูจากรูปร่างภายนอก อายุราวๆ ห้าหกสิบปี แต่ไม่ได้ดูแก่อะไรนัก ใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตากลับแสดงความเมตตา ราวกับครูสอนหนังสือในสถานศึกษา
เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานที่มีตำแหน่งและอำนาจมากที่สุดในหลายปีมานี้ของโลกซ้อนโลก
อดีตกษัตริย์ดิน เทพดาวเสาร์จ้าวปฐพีศูนย์กลาง
ราชันพระเสาร์ เจี่ยงเซ่อ
“ยินดีกับพี่ร่วมเส้นทางที่สำเร็จห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด เลื่อนสู่ระดับเทพเจ้า” หยางเซ่อพอเห็นเขา ก็ผงกศีรษะ กล่าวแสดงความยินดี
“สหายร่วมเส้นทางหยางไม่ต้องเกรงใจ” เจียงเซิ่นน้ำเสียงอ่อนโยน ยื่นมือมาประคองหยางเซ่อ
ปราณที่หนักแน่นอบอุ่นสายหนึ่งไหลเข้าไปในร่างของหยางเซ่อ พลันช่วยขจัดความเย็นที่เหลืออยู่ให้แก่เขาจนหมดเกลี้ยง
“ทำพี่ร่วมเส้นทางผิดหวังแล้ว” หยางเซ่อเอ่ย
ราชันพระเสาร์สายหน้าแช่มช้า “เรื่องราวผันแปร ลมพัดเมฆลอย ไม่ใช่ความรับผิดชอบของคนคนเดียว”
หยางเซ่อถาม “เกี่ยวกับเรื่องทางด้านสหายร่วมเส้นทางสั่วจัดการอย่างไรแล้ว?”
ชายชราส่ยหน้าถอนใจ “เรื่องมันยาวนัก”
“เรื่องราวในครั้งนี้ เกินขอบเขตการควบคุมของเราท่านแล้ว เรื่องที่คิดหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นจริง”
………………..
[1] คำว่าทันใจมาจากคำว่า 如意 ซึ่งหมายถึงหยกหรูอี้