ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1287 ความรุดหน้าของดาบกฎเกณฑ์
ต้นผมขาวที่สูงชะลูดตั้งอยู่กลางมิติจักรวาลด้านในตำหนัก ครอบคลุมจักรวาล แทงทะลุความว่างเปล่า
พอเห็นต้นผมขาว เสวี่ยชูชิงก็กราบกรานอย่างแช่มช้า “ศิษย์เสวี่ยชูชิง คำนับบูรพาจารย์”
เยี่ยนจ้าวเกอมองต้นไม้วิญญาณสูงใหญ่ โน้มกายคำนับเช่นกัน
ราชันพระพฤหัสบดีเซ่าจวินหวง เหมือนกับราชันพระศุกร์เยี่ยนซิงถางสองสามีภรรยา ด้วยอายุขัยจากระดับพลังฝึกปรือของพวกเขา อายุในตอนที่เสียชีวิต ต่างนับได้ว่าเป็นวีรบุรุษจากไปแต่วัยเยาว์
และเป็นเพราะว่าการเสียสละของคนรุ่นก่อนจำนวนนับไม่ถ้วนเหมือนกับพวกเขา ความหวังที่สามพิสุทธิ์สายหลักสำนักเต๋ารุ่งเรืองขึ้นอีกครั้งในตอนนี้จึงเกิดขึ้น
ในฐานะคนรุ่นหลัง ต่างเป็นคนได้รับผลประโยชน์
กิ่งใบของต้นผมขาวที่สูงใหญ่สั่นไหว เคลื่อนไหวโดยไร้ลมอยู่ในจักรวาลในตำหนัก
สั่วหมิงจางเงยหน้ามองต้นไม้วิญญาณต้นนี้ เงียบงันเนิ่นนาน
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอกับเสวี่ยชูชิงผุดลุกขึ้น ต่างก็เงียบงันเช่นกัน
กษัตริย์ดาราเฉินเสวียนจงประสานมือให้แก่ต้นไม้วิญญาณ มีเพียงเสียงถอนใจ
“ฟังว่าครั้งกระโน้นเยี่ยนซิงถางกับตี๋ชิงเหลียนร่วมมือกันสร้างวรยุทธ์สะท้านโลกชนิดใหม่ สุดท้ายเป็นบิดาเจ้ารับช่วงต่อ?”
สักพักหนึ่ง สั่วหมิงจางทำลายความเงียบก่อน หันไปถามเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอทราบว่าสมควรเป็นทวนพระอังคารบอกสั่วหมิงจาง แต่เห็นได้ชัดว่าทวนพระอังคารไม่ทราบรายละเอียด จึงตอบว่า “หากกล่าวให้ถูกต้อง ท่านปู่กับท่านย่ามิได้ทำให้วรยุทธ์นี้สำเร็จอย่างแท้จริง ต่อมามันเกิดมาพร้อมกับบิดา หลังจากตั้งครรภ์อยู่ในเมฆแปลงกำเนิด ก็สร้างเค้าโครงสุดท้ายสำเร็จ จากนั้นก็ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกัน”
“ภายหลัง พร้อมกับที่บิดาฝึกวรยุทธ์ ระดับของตัวเองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ศึกษาหลักการของฟ้าดิน พลังของวรยุทธ์ชนิดนี้ก็เปลี่ยนจากแบบจำลองในตอนแรกสุดก็เกิดเป็นรูปเป็นร่าง”
“กระนั้นหากจะพัฒนาให้สมบูรณ์อย่างแท้จริง ยังมีเส้นทางที่ต้องเดิน พัฒนาพร้อมกับบิดาข้า”
เยี่ยนจ้าวเกอมิได้ปิดบังสั่วหมิงจาง บอกเล่าอย่างละเอียด
“คัมภีร์เบิกนภากับกระบี่ลงทัณฑ์เซียนประสานหัวหาง มีแปลงกำเนิดค่อยปรับ หลังจากตัดหัวตัดหาง ก็ให้กำเนิดการเปลี่ยนแปลงไร้ขอบเขต เหมือนกับการเปลี่ยนแปลงในธรรมชาติ มีแต่ไปด้านหน้า ไร้สิ่งใดขวางกั้น” สั่วหมิงจางพยักหน้าเล็กน้อย “เหมือนตรงกันข้ามกับข้าอยู่บ้าง…”
“แนวคิดในอดีตของเยี่ยนซิงถางกับตี๋ชิงเหลียนสองสหายร่วมเส้นทางกลายเป็นจริง น่ายินดียิ่งนัก”
“น่าเสียดายตอนนี้มิอาจพูดกับพวกเขาด้วยตัวเอง” เขาถอนใจออกมาเล็กน้อย “บิดาเจ้าตอนนี้อยู่ไหน ให้ข้าดูวรยุทธ์นี้ได้หรือไม่?”
คำกล่าวนี้พอกล่าวออกมา ออกจะไม่เหมาะสมไปบ้าง
แม้สั่วหมิงจางจะมีพลังฝึกปรือและวัยวุฒิเหนือกว่าเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูก ถึงขั้นที่มีพลังเหนือกว่าเยี่ยนซิงถางสองสามีภรรยาในตอนนั้น แต่คำขอแบบนี้ก็ไร้มารยาทมาก
กระนั้น สีหน้าของสั่วหมิงจางไม่ได้ฉายแววทะนงตน กลับค่อนข้างจริงจัง
“ในตอนที่ปู่ของเจ้ามีแนวคิดนี้ เคยมาสนทนากับข้า ความคิดบางอย่างในตอนนั้นของเขา อาจจะส่งผลดีต่อบิดาเจ้า”
ในเก้านพเคราะห์คุนหลุน สั่วหมิงจางกับเยี่ยนซิงถางมีความสัมพันธ์ธรรมดา มิอาจนับได้ว่าสนิทสนมกัน
ทว่าสองฝ่ายล้วนเป็นอัจฉริยะผู้ล้ำเลิศ สั่วหมิงจางยังฝักใฝ่ในหลักการวรยุทธ์เป็นพิเศษ เคยสนทนากับเยี่ยนซิงถางไม่น้อย
แนวคิดในตอนแรกเกี่ยวกับดาบกฎเกณฑ์ของเยี่ยนซิงถางสามีภรรยา นอกจากเฉินเสวียนจงที่เป็นสหายสนิทในเก้านพเคราะห์แล้ว ก็มีแค่สั่วหมิงจางที่ทราบอยู่บ้าง
ถึงเขาจะไม่ได้เห็นเยี่ยนตี๋สู้กับคนมาก่อน แต่หลังจากได้ยินทวนพระอังคารเล่าให้ฟังสองสามประโยค แล้วยืนยันกับเรื่องราวที่ทราบในตอนนั้น ก็พอจะเดาออกคร่าวๆ แล้ว
ปัจจุบันพอเห็นว่าวรยุทธ์อย่างดาบกฎเกณฑ์ในที่สุดก็เปลี่ยนจากแนวคิดเป็นความจริง สั่วหมิงจางก็รู้สึกยินดี
น่าเสียดายที่สหายเก่าซึ่งพูดถึงแนวคิดในวันนั้น ได้ตายไปพันปีแล้ว
อีกด้านหนึ่ง กษัตริย์ดาราเฉินเสวียนจงยืนนิ่งอยู่ที่นั่น ไม่พูดไม่จา แต่ดูเหมือนจะมีท่าทางจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอยู่บ้าง
ในเก้านพเคราะห์คุนหลุนใหม่ พวกเขาสองคนเป็นคนที่รักสันโดษทั้งคู่
สั่วหมิงจางเพียงแต่ไปมาหาสู่กับราชันพระพฤหัสบดีเซ่าจวินหวงมากเท่านั้น กับคนอื่นจำกัดแต่การสนทนาแลกเปลี่ยนมรรคายุทธ์
สหายสนิทในเก้านพเคราะห์ของเฉินเสวียนจง ก็มีแค่ราชันพระศุกร์เยี่ยนซิงถางเพียงคนเดียว
หลังจากเฉินเสวียนจงรู้สึกตัว ก็มองสั่วหมิงจาง กล่าวว่า “ครั้งกระโน้นสหายร่วมเส้นทางสั่วสร้างเส้นทางการฝึกฝนของตัวเองขึ้น ในด้านนี้ยังล้ำลึกยิ่งกว่าพวกข้า มีส่วนคล้ายกับการศึกษาของพวกซิงถาง ตอนนั้นเป็นซิงถางขอให้สหายร่วมเส้นทางสั่วช่วยตรวจสอบ”
กระบี่หยกเบิกนภาของเยี่ยนซิงถาง ดาบเทพเย็นเยือกของเฉินเสวียนจง หมัดโบ่วกี้ทะลายฟ้าของเจี่ยงเซิ่น อาคมพระเกตุของหยางเซ่อ ล้วนเป็นพวกเขาประสานวรยุทธ์มากมายที่ตนเองฝึกฝนเข้าด้วยกัน สร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาเป็นของตัวเองบนพื้นฐานมหามรรคา
กระบี่หยกเบิกนภากักเก็บให้กำเนิดลมเบิกนภา ดาบเทพเย็นเยือกกักเก็บและให้กำเนิดน้ำเบิกนภา หมัดโบ่วกี้ทำลายฟ้ากักเก็บและให้กำเนิดดินเบิกนภา อาคมพระเกตุแสดงถึงความขมุกขมัวไร้แสงไร้ความมืดก่อนการเบิกนภา จิตพลังมากมายแม้ดูมุ่งไปยังทิศทางเดียว แต่ต่างได้หลอมรวมวรยุทธ์อย่างอื่น ไม่ใช่แค่ก่อเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของคัมภีร์เบิกนภาสายหยกพิสุทธิ์เท่านั้น
ดังนั้นวรยุทธ์มากมายจะมีประโยชน์เป็นของตัวเอง ไม่ด้อยกว่าจอมยุทธ์ที่ฝึกฝนคัมภีร์เบิกนภาเพียงอย่างเดียว
แน่นอนว่า ในที่นี้หมายถึงระดับในปัจจุบันของพวกเขา
หากพัฒนาขึ้นต่อเนื่อง เส้นทางจำเป็นต้องขยายอย่างต่อเนื่อง ต้องค้นหาสืบเสาะ มิอาจหยุดยั้งลงได้
แต่ว่ามหามรรคาการสืบทอดกระแสตรงจากบรมครูเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดเมื่อไปถึงระดับที่สูงล้ำสุดขีด ก็ขึ้นอยู่กับว่าสติปัญญาของผู้ฝึกฝนจะมีเท่าไร ไม่เหมือนกับคัมภีร์เบิกนภา
พวกเฉินเสวียนจงย่อมฝึกฝนแค่คัมภีร์เบิกนภาได้เช่นกัน
แต่ว่าหลังจากฝึกฝนวรยุทธ์จนถึงระดับหนึ่ง การศึกษาหลักการฟ้าดินและวรยุทธ์เดียวกัน เมื่อคนที่ฝึกแตกต่าง ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะต่างกันราวฟ้ากับเหว
เรียนรู้จากคนรุ่นก่อน ปรับใช้กับตัวเอง เส้นทางจึงจะราบรื่น
กระนั้นเส้นทางสายนี้สุดท้ายจะเดินไปถึงระดับไหน แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
เส้นทางของคนบางคนสามารถมุ่งขึ้นสูงได้ตลอด ของบางคนก็อาจจะมีจังหวะก้าวเดินลำบาก
ที่วรุยทธ์อันน่าอัศจรรย์นับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นพร้อมกันในยุครุ่งเรืองของมรรคายุทธ์ที่เหมือนกับร้อยบุปผาบานพร้อมพรัก ร้อยสำนักประชันเสียงก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ก็มีสาเหตุมาจากเรื่องนี้
เยี่ยนจ้าวเกอย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดี แต่คำพูดของกษัตริย์ดารา ทำให้เขาได้ยินอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนกันอยู่บ้าง
วรยุทธ์เฉพาะตัวของพวกเฉินเสวียนจง รวมถึงกระบี่หยกเบิกนภาของเยี่ยนซิงถาง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ถือกำเนิดจากคัมภีร์เบิกนภาเท่านั้น ความเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดแยบยลในด้านจิตแห่งหลักการบางอย่าง ยังลึกซึ้งยิ่งกว่าตัวคัมภีร์เบิกนภาเองเสียอีก
ทว่าวรยุทธ์เหล่านี้ ยังคงมีความเกี่ยวพันกับคัมภีร์เบิกนภา และวรยุทธ์อื่นๆ ที่พวกเฉินเสวียนจงฝึกฝนอย่างล้ำลึก
แต่ว่าในนี้มีข้อยกเว้น
นั่นก็คือดาบกฎเกณฑ์ที่เยี่ยนซิงถางกับตี๋ชิงเหลียนร่วมกันสร้าง สุดท้ายเยี่ยนตี๋ก็กำหนดต้นแบบได้โดยสมบูรณ์!
จิตพลังของวรุยทธ์ชนิดนี้ ความจริงแตกต่างกับคัมภีร์เบิกนภา ถึงขั้นที่มิอาจใช้วรยุทธ์กระแสตรงสายหยกพิสุทธิ์มากำหนดได้
แน่นอนว่า ไม่ใช่วรยุทธ์สายเหนือพิสุทธิ์เช่นกัน
กล่าวได้ว่า ยังคงเป็นสำนักเต๋าสายหลัก แต่กลับสร้างทางเส้นใหม่ขึ้นมา
ความหมายในวาจาเมื่อครู่ของกษัตริย์ดาราก็คือ การการบำเพ็ญและการฝึกยุทธ์ของสั่วหมิงจาง คล้ายกับเป็นการสร้างสิ่งใหม่แบบนี้เช่นกัน
“ขอบคุณน้ำใจของผู้อาวุโสสั่วด้วย แต่ข้าจำเป็นต้องถามความเห็นของบิดาข้าก่อน” เยี่ยนจ้าวเกอประสานมือ สั่งการความคิด มิติจักรวาลที่ทุกคนอยู่เกิดการเปลี่ยนแปลง
จากนั้น ประตูแสงบานหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคน หลังจากประตูแสงเปิดออก ด้านในก็มีฟ้าดินอีกแห่ง
นี่เป็นห้องยาห้องหนึ่งในตำหนักโอสถ เยี่ยนตี๋กำลังกักตัวฝึกฝนอยู่ด้านใน
ไม่ใช่เข้าฌานปิดตาย ดังนั้นเยี่ยนจ้าวเกอจึงไม่กลัวว่าจะรบกวนบิดาของตัวเอง
หลังจากทราบถึงเจตนาของสั่วหมิงจาง เยี่ยนตี่ก็มิได้ปฏิเสธ “ขอบคุณผู้อาวุโสสั่ว”
ยังไม่เอ่ยถึงว่าสั่วหมิงจางช่วยเหลือด้วยน้ำใจ แค่ความพิเศษของดาบกฎเกณฑ์ ก็มิอาจถ่ายทอดให้กันได้ ต่อให้เป็นชนชั้นสั่วหมิงจาง ก็แค่ได้เชยชม ยากจะศึกษา
ในระดับหนึ่งแล้ว นี่เป็นขีดจำกัดอย่างหนึ่งของดาบกฎเกณฑ์
หรือจะบอกว่า วรยุทธ์อันล้ำเลิศนี้ยังเป็นรูปเป็นร่างโดยสมบูรณ์
หลังจากเยี่ยนตี๋ออกดาบ สั่วหมิงจางก็ยิ้มขึ้นอย่างหาได้ยาก “เยี่ยนซิงถางตี๋ชิงเหลียนมีลูกหลานเช่นนี้ คุ้มค่ากับที่ทำไปแล้ว”
………………..