ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 130 ลืมตาอ้าปาก
เยี่ยนจ้าวเกอมองไปทางจ้าวฮ่าว พลางคิดในใจ ‘เจ้าเชี่ยวชาญเรื่องศาสตร์ตำรับโอสถเซียน แล้วได้ศึกษาทดลองเกี่ยวกับสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำหรือไม่’
ซานสือเวิงก็มองไปยังจ้าวฮ่าวเช่นกัน “แบบแผนของเจ้าสมบูรณ์ดีแล้วหรือ”
จ้าวฮ่าวกล่าว “อย่างน้อยสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำผืนนี้ ข้าสามารถฟื้นคืนถึงเจ็ดส่วน เทียบกับเมื่อตอนที่สมบูรณ์ก่อนหน้านี้”
สิ้นสุดคำกล่าวนี้ ท่าทีของจอมยุทธ์เขาไร้พรมแดนทั้งหมดพลันฮึกเหิมขึ้นมา
ปัจจุบันสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำแห่งเขานิมิตเมฆ เมื่อตอนสมบูรณ์มีปริมาณผลผลิตไม่ถึงสี่ส่วน
สำนักเขาไร้พรมแดนแดนเห็นแก่ความมั่นคง จึงจำกัดการขุดแร่ ซึ่งปีก่อนๆ ที่ผ่านมาดูเหมือนจะมีการขุดแค่สองสามส่วนเท่านั้น
ปัญหาสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำนั้น มองเพียงแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเขาไร้พรมแดนรีบร้อนถึงเพียงใด
จ้าวฮ่าวเชื่อมั่นว่าตนเองสามารถฟื้นคืนสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำได้ถึงเจ็ดส่วน แม้ว่าอยากให้ถึงสิบส่วนจะยังอีกไกลนัก ทว่าก็ฟื้นคืนขึ้นได้เกือบจะเท่าหนึ่งแล้ว จะไม่ให้ซานสือเวิงและคนอื่นๆ ประทับใจได้อย่างไร
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย “วิธีของข้ามีสองแบบ วิธีแรกฟื้นคืนได้ถึงเจ็ดส่วน อีกวิธีสามารถฟื้นคืนได้ถึงเก้าส่วน”
อีกฝ่ายได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาทอดมองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอ
ผู้คนต่างเงียบงันอยู่ชั่วขณะ ทั้งซานสือเวิง ผู้อาวุโสจั่ว และผู้อาวุโสเสวียนสือต่างก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก
ปัญหาที่สำนักเขาไร้พรมแดนกลัดกลุ้มมาอยู่หลายปี การมาถึงของเยี่ยนจ้าวเกอไม่เพียงแต่จะแก้ไขปัญหาได้เท่านั้น หากแต่วิธีแก้ปัญหายังมีมากกว่าหนึ่งวิธีอีกด้วยอย่างนั้นหรือ
วิธีที่ฟื้นคืนได้เจ็ดส่วนนั้นยังไม่ต้องเอ่ยถึง หากสามารถฟื้นฟูได้เก้าส่วนจริงๆ จนใกล้เคียงกับช่วงที่สมบูรณ์นั้น ช่างน่ากลัวเสียจริง ทำเอาเขาไร้พรมแดนเหนือความคาดหมายอยู่ไม่น้อย
อีกทั้งยังได้เปรียบกว่าจ้าวฮ่าวอยู่สองส่วน เหนือกว่าที่เขาไร้พรมแดนหวังไว้อยู่พอดิบพอดี
ถ้าหากวิธีของเยี่ยนจ้าวเกอมีหวังอยู่แค่แปดส่วนแล้วละก็ เขาไร้พรมแดนนั้นก็คงจะเลือกจ้าวฮ่าวมากกว่า อย่างไรเสียจ้าวฮ่าวก็เป็นศิษย์สำนักเดียวกัน
เพราะหากเลือกที่จะเชื่อถือเยี่ยนจ้าวเกอแห่งเขากว่างเฉิงก่อน ก็อาจมีความเป็นได้ที่จะถูกครอบงำ
ทว่าเก้าส่วนเทียบกับเจ็ดส่วน ก็ทำเขาไร้พรมแดนสองจิตสองใจอยู่เช่นกัน
โดยเฉพาะยิ่งเป็นเพราะเพลิงใหญ่ก่อนหน้านี้ เยี่ยนจ้าวเกอได้ชี้ขาดอย่างชัดเจนแล้วว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้สายแร่อ่อนแอลง นี่เป็นสิ่งที่จ้าวฮ่าวไม่เคยทำได้มาก่อน
การที่ผู้คนในเขาไร้พรมแดนยังแคลงใจกับวิธีการของจ้าวฮ่าว นั่นเป็นเพราะรู้สึกว่าถึงแม้เขาจะเอ่ยถึงวิธีการ ทว่ายังคงแฝงความรู้สึกที่ว่ามีบางอย่างที่เขายังไม่รู้ว่ามันคืออะไร แล้วเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
ก่อนที่ซานสือเวิงจะออกจากประตูหุบเขาไร้พรมแดน หัวหน้าสำนักระดับสูงได้ปรึกษาหารือถึงความเป็นไปได้ต่างๆ แยกแบบแผนที่มีมุ่งไปยังเป้าหมาย
ดังนั้นสภาพการณ์ ณ ตอนนี้ ก็ยังไม่ถึงกับทำให้เขาหมดสิ้นหนทาง และก็ไม่จำเป็นต้องขอคำแนะนำเป็นพิเศษอีก
“แผนการที่หยุดอยู่แค่บนกระดาษ มีหรือไม่มีมูลฐาน ยังจำเป็นต้องดูผลลัพธ์อยู่อีกหรือ” ซานสือเวิงกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “ท่านทั้งสองสะดวกเผยรายละเอียดสภาพการณ์หรือไม่”
เยี่ยนจ้าวเกอเผยรอยยิ้มน้อย “ทดลองปฏิบัติดูก็ดีกว่าพูด ข้าก็เห็นด้วยในจุดนี้ วิธีของข้าเห็นผลได้ทันที จะพิสูจน์ตอนนี้เลยก็ย่อมได้ ต้องสัมฤทธิ์ผลเป็นแน่ แม้ผลอาจจะไม่ได้ถึงตามที่คาดการณ์ไว้ในทันที แต่ก็เห็นอัตราการฟื้นฟูจนสามารถคาดคะเนได้เลยคร่าวๆ ผลลัพธ์ท้ายที่สุดก็พิสูจน์ได้ด้วยกาลเวลาที่ผ่านพ้นไป ช่วงเวลานี้ข้าก็จะอยู่เขานิมิตเมฆแห่งนี้ คอยดูผลสุดท้ายด้วย”
ซานสือเวิงและคนอื่นๆ ต่างก็ชะงักงันเล็กน้อย ใครจะไปคิดว่าจ้าวฮ่าวที่อยู่อีกด้านจะกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “วิธีของข้าก็เห็นผลไวเช่นกัน”
สายตาของเขามองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอ แววตาชัดเจนว่ามีความฉงนสนเท่ห์อยู่บ้าง
ในการฟื้นฟูสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำ เขาขุดเจอซากสิ่งของของพรรคอสูรที่เหลือรอดมาได้ก่อนวิกฤตการณ์โดยบังเอิญ จึงได้เข้าใจถึงวิธีการบูรณะ
ก่อนหน้าก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใด ว่าเขาไร้พรมแดนจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรจะเกี่ยวอะไรกับเขา แต่ตอนนี้ต้องการลืมตาอ้าปากอยู่ที่สำนักเขาไร้พรมแดน ดังนั้นจึงนำมาใช้การได้พอดิบพอดี
ทว่าหากพูดถึงการฟื้นคืนสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำให้ถึงเก้าส่วน เขาก็ไม่แน่ใจนักว่าจะทำได้เช่นกัน
หลังจากผ่านเรื่องที่เยี่ยนจ้าวเกอใช้วิชาเข็มทองผ่านโอสถ และวิชาเหวเวหาทวนกระแสที่หุบเหวปราการมังกรก่อนหน้านี้ ตอนนี้จ้าวฮ่าวจึงไม่อาจดูถูกเยี่ยนจ้าวเกอได้อีกต่อไป
การที่เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวว่าตนเองสามารถฟื้นคืนสายแร่ได้ถึงเก้าส่วน จ้าวฮ่าวที่เสียเปรียบเขาอยู่เนืองๆ ขณะนี้ก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
ทว่าก็ทำให้ความเกลียดชังในใจของเขาที่มีต่อเยี่ยนจ้าวเกอยิ่งเด่นชัดขึ้น ‘เมื่อตอนอยู่ที่ถังตะวันออก ก็เป็นเจ้าที่ทำลายเรื่องดีๆ ของข้าอยู่ตลอด บัดนี้อยู่เขาไร้พรมแดนแล้ว เจ้าก็ยังจะมาขวางข้าอีกหรือ!’
‘เยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิง ก็ยังคงทำลายล้างผู้อื่นได้ดียิ่ง’
จ้าวฮ่าวแต่ไหนแต่ไรก็หยิ่งยโสโอหังเสมอมา ผลคือพ่ายแก่เยี่ยนจ้าวเกอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แรกเริ่มเป็นเพราะเขากว่างเฉิง เขาจึงรู้สึกว่าเยี่ยนจ้าวเกอช่างขัดหูขัดตา แต่ตอนนี้ความเกลียดชังและเอือมระอาที่มีต่อเยี่ยนจ้าวเกอของเขา กลับมากกว่าที่มีต่อเขากว่างเฉิงไปเสียแล้ว
ซานสือเวิงและผู้อาวุโสจั่วต่างมองไปทางผู้อาวุโสเสวียนสือ หลังจากที่ผู้อาวุโสเสวียนสือใคร่ครวญอยู่ขณะหนึ่ง เขาก็ผงกศีรษะ “ข้าคิดว่าสามารถลองสักตั้งได้ ไม่กระทบสายแร่ทั้งหมด”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็มาดูฝีมือพวกเจ้ากัน” สายตาซานสือเวิงมองกวาดไปยังเยี่ยนจ้าวเกอและจ้าวฮ่าว “ใครจะเริ่มก่อน”
ถึงแม้จ้าวฮ่าวจะให้ความสำคัญกับการระมัดระวังเยี่ยนจ้าวเกอเป็นอย่างมาก ทว่าความทะนงตนของเขาไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย จึงกล่าวอย่างราบเรียบว่า “ผู้มาไกลเป็นแขก ให้เขาก่อนนั่นแหละดีแล้ว”
“เช่นนั้นต้องกล่าวว่า อุปนิสัยตัดสินชะตา” เยี่ยนจ้าวเกอมองจ้าวฮ่าวอย่างไม่ลดละ ยิ้มเล็กน้อยพลางผงกศีรษะ “ข้าอย่างไรก็ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นข้าลองเป็นคนแรกก็แล้วกัน”
ไหล่เขาแห่งนี้มีผู้รับผิดชอบจัดการกับปัญหาที่จะเกิดอยู่แล้ว เยี่ยนจ้าวเกอและพรรคพวกลงไปยังพื้นที่แอ่งกระทะที่มีสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำอยู่
คนส่วนมากอยู่ด้านนอกสายแร่ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ตามเข้าไปในสายแร่ด้วยกัน
เยี่ยนจ้าวเกอลงมายังแก่นแร่โดยพลัน ผู้อาวุโสจั่วเองก็ลงมากับเขาด้วย
อีกฝ่ายปล่อยหมัดออกไปทุกที่ สายแร่ดูเหมือนจะถูกกระแสลมไร้รูปร่างแผ่ปกคลุม ทว่าก็ไม่ได้กระทบกับการแสดงความสามารถของเยี่ยนจ้าวเกอ
ชายหนุ่มรับความรู้สึกสภาพการณ์ของแก่นแร่ และการเปลี่ยนแปลงโดยพลังวิญญาณของชีพจรดินโดยรอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เขายิ่งมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ ‘เขาคาดว่าวิธีการของตนจะฟื้นคืนสายแร่ได้ถึงเจ็ดส่วน หากแต่กลับไม่แน่ชัดว่าสาเหตุที่สายแร่อ่อนแอลงคืออะไร เช่นนั้นวิธีการของเขาคงจะเป็นวิธีที่หยุดการไหลเวียนของชีพจรดินเสียมากกว่า…’
หลังจากไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่ เยี่ยนจ้าวเกอก็พลันลงมือทันที
ผู้คนที่รออยู่ภายนอกไม่ได้รับรู้ถึงสถานการณ์ จึงอดรู้สึกกังวลขึ้นมาไม่ได้
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ทุกคนต่างก็รู้สึกถึงแรงสั่นไหวเบาๆ บนพื้นดิน
ครั้นเงยหน้ามองขึ้นไป กลับพบว่ามีกระแสลมโหมซัดสาดอยู่บนเขานิมิตเมฆ
ลำแสงมากมายส่องแสงออกมาจากหลุมแร่ พลังชีวิตที่ทั้งเข้มข้นทั้งหนาหนักปะทุออกมาฉับพลันทันที
จอมยุทธ์แห่งสำนักเขาไร้พรมแดนเผยสีหน้าปีติยินดี พวกเขาคุ้นเคยกับพลังชีวิตนี้เป็นอย่างยิ่ง นั่นเป็นพลังลมปราณที่แฝงอยู่ในสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำนี้เอง
ภายในสายแร่ จ้าวฮ่าวสัมผัสรับรู้กับการเปลี่ยนแปลงของของพลังลมปราณอย่างชัดเจน ใบหน้าค่อยๆ เผยรอยยิ้มออกมา
อีกฝั่งหนึ่ง หลังจากที่ซานสือเวิง ผู้อาวุโสเสวียนสือ และผู้อาวุโสจั่วต่างมองกันอยู่ชั่วครู่หนึ่ง จึงกล่าวอย่างช้าๆ ว่า “…เจ้ายังมีที่เก็บไว้อีกหรือ”
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย “หากเป็นวิธีในตอนนี้ไม่มีแล้วขอรับ เพียงแต่ต้องมุ่งมานะต่อไปอย่างต่อเนื่องก็พอ”
ผู้อาวุโสจั่วกล่าวอย่างเฉยชาว่า “หากมุ่งมานะต่อไป จะฟื้นฟูสายแร่ได้อย่างมากที่สุดเจ็ดส่วน”
ฟู่เอินซูก็หันไปมองเยี่ยนจ้าวเกอเช่นกัน ชายหนุ่มยิ้มอย่างใจเย็นแล้วกล่าวว่า “วิธีที่ฟื้นคืนได้เก้าส่วน สำนักท่านอาจจะลำบากสักหน่อยที่จะรับ ข้าจึงใช้วิชาที่ฟื้นฟูได้เจ็ดส่วนเสียก่อน วิธีการนั้นคือวิธีเจาะสำรวจ”
เขามองจ้าวฮ่าวอยู่แวบนึง “ถ้าหากวิธีของศิษย์สำนักท่านใช้ไม่ได้ผล เช่นนั้นพวกเราก็ใช้วิธีนี้แล้วกัน”
จ้าวฮ่าวจ้องแก่นแร่ที่อยู่ตรงหน้าอย่างใจลอย ซานสือเวิงและคนอื่นๆ เห็นดังนั้นก็พากันขมวดคิ้ว
บรรดาผู้คนล้วนมีท่าทีเหลือทนอยู่บ้าง ใบหน้าจ้าวฮ่าวจึงพลันเผยรอยยิ้ม “ตาข้าบ้างแล้ว”
ทันทีที่สิ้นคำพูด เขาก็เริ่มลงมือทันที
เนื่องด้วยวรยุทธิ์ของเขายังต่ำนัก จึงต้องมีผู้อาวุโสเสวียนสือคอยอยู่เคียงข้างให้ความร่วมมือ
สายแร่สั่นไหวอีกครั้ง ใบหน้าของผู้อาวุโสจั่วค่อยๆ เผยสีหน้าปีติยินดีออกมา “นี่มัน.. นี่มัน..”
ซานสือเวิง ผู้อาวุโสจั่วและคนอื่นๆ ได้ยินดังนั้นก็ทยอยเผยสีหน้าประทับใจ พลางตรวจสอบอย่างละเอียด
ถึงแม้ว่าการกระทำของจ้าวฮ่าวจะยังไม่สิ้นสุด ทว่าบนใบหน้าเขาก็ปรากฏสีหน้ายินดีออกมา “มันกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้หยุดอยู่แค่เจ็ดส่วน!”
“ผลลัพธ์นอกจากจะทำได้เท่าวิธีเจาะสำรวจก่อนหน้านี้แล้ว ยังทำได้มากกว่าอีกด้วย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อาจถึงมากกว่าแปดส่วนก็เป็นได้ ไม่ถึงเก้าส่วนก็นับว่าใกล้เคียงแล้ว!”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก
ฟู่เอินซูเองก็ขมวดคิ้วขึ้น
จอมยุทธ์เขาไร้พรมแดนคนอื่นๆ ยิ่งรู้สึกดีอกดีใจ
จ้าวฮ่าวพลันหันหน้าไปมองทางเยี่ยนจ้าวเกอพลางพูดอย่างนิ่งสงบว่า “วิธีเก้าส่วนอะไรของเจ้านั่น ไม่ต้องนำออกมาแล้วละ”
ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับที่เอ่ยในตอนแรก เขาไร้พรมแดนสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง เหตุใดจึงต้องขอความช่วยเหลือจากเขากว่างเฉิงอีกเล่า
ยิ่งไปกว่านั้น วาจาของเยี่ยนจ้าวเกอ วิธีที่เขาจะฟื้นคืนสายแร่ให้ได้เก้าส่วนนั้น ก็ยังมีอันตรายอื่นแอบแฝง
บรรดาศิษย์สำนักเขาไร้พรมแดนต่างก็พากันถอนหายใจยาวๆ ในที่สุดสายตาที่มองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอ ก็มีความรู้สึกเหมือนลืมตาอ้าปากได้บ้างสักที
………………..