ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1313 กระบี่เนรเทศเซียนของเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอออกสี่กระบี่ติดต่อกัน
สี่กระบี่ที่ดูรวบรัด กลับแฝงหลักการของวรยุทธ์อันแยบคายมากมาย
นอกจากหกคัมภีร์หลังกำเนิดการสืบทอดกระแสตรงหยกพิสุทธิ์ กับสี่กระบี่ล้ำค่าการสืบทอดกระแสตรงสายเหนือพิสุทธิ์ ยังมีอีกสี่วรยุทธ์
นอกจากกระบี่มังกรเขียวในแขนเสื้อที่สร้างเอง ก็ได้หลอมรวมวรยุทธ์ชนิดอื่นอย่างต่อเนื่อง ตัดส่วนเกิดเก็บสิ่งสำคัญเอาไว้ พัฒนาสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีกว่าเดิม ยังมีอีกสามวรยุทธ์ที่ถูกบันทึกไว้ในหอเก็บหนังสือวังเทพ
คัมภีร์หมัดเจินอู่ คัมภีร์เซียนหลิงกวงทะยาน คัมภีร์เจ็ดสังหาร
คัมภีร์แรก ใช้คัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิตสายหยกพิสุทธิ์หล่อเลี้ยงมังกรเขียวที่เกิดจากท่ามังกรเขียวในแขนเสื้อ จากนั้นก็ใช้กระบี่ผนึกเซียนสายเหนือพิสุทธิ์สังหารมังกรเขียว พลังชีวิตนับไม่ถ้วนกลายเป็นจิตสังหารและปราณความพินาศในชั่วพริบตา
กระบี่ที่สอง ใช้คัมภีร์นภาหยินหยางหล่อเลี้ยงสภาพเสวียนอู่เต่างูขดเข้าหากันอันเกิดจากคัมภีร์หมัดเจินอู่ จากนั้นก็ใช้กระบี่ลงทัณฑ์เซียนสายเหนือพิสุทธิ์ฆ่าเสวียนอู่ บดขยี้หยินหยาง ทำลายหลักการมากมาย
กระบี่ที่สาม ใช้คัมภีร์นภาความวางเปล่าสายเหนือพิสุทธิ์กับคัมภีร์นภากาลเวลาหล่อเลี้ยงหงส์แดงอันเกิดจากคัมภีร์เซียนหลิงกวงทะยาน จากนั้นก็ใช้กระบี่ลวงเซียนสายเหนือพิสุทธิ์ฆ่าหงส์แดง ทำลายมิติเวลา บดขยี้ความว่างเปล่า
กระบี่ที่สี่ ใช้คัมภีร์นภาครอบจักรวาลและคัมภีร์นภาทันใจหล่อเลี้ยงพยัคฆ์ขาวอันเกิดจากคัมภีร์เจ็ดสังหาร ก่อนจะใช้กระบี่สังหารเซียนสายเหนือพิสุทธิ์ฆ่าทิ้ง มีทั้งปรากฏการณ์ที่มีรูปร่างรวมถึงจิตวิญญาณอันไร้รูปร่างบังเกิด หลังจากหยกหรูอี้เปลี่ยนเป็นพยัคฆ์ขาวที่ดุร้ายอย่างแท้จริง ก็ใช้สังหารหยุดสังหาร โลกกลับคืนสู่สภาพสงบนิ่ง
สี่กระบี่ใช้ออกพร้อมกัน พลังของทุกกระบี่คงอยู่ในจักรวาลเนิ่นนาน
เจตจำนงกระบี่แต่ละชนิดผสมผสานกัน ปราณทำลายล้างกลับสลายไป หลอมรวมด้วยปราณที่ลี้ลับสูงส่ง
กลางจักรวาลเดิมไม่มีการแบ่งทิศ
ทว่าขณะนี้ ยอดฝีมือของโถงเซียนกลับรู้สึกว่า จักรวาลตรงหน้ามีการแบ่งบนล่างสูงต่ำ
เวลานี้เยี่ยนจ้าวเกอเหมือนกับอยู่ในสภาพที่สูงกว่าเดิม ก้มมองพวกเขาจากด้านบน
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่ง และมนุษย์เซียนคนหนึ่ง ต่อให้จะมีคำว่า ‘เซียน’ แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่จอมยุทธ์ระดับเซียนอย่างแท้จริง ไม่ได้ฝ่าภัยพิบัติมนุษย์เซียนจริงๆ ยังคงเป็นคนที่อยู่บนโลกมนุษย์
ยอดฝีมือระดับเซียนที่ได้ผลักประตูเซียนไม่ใช่มนุษย์อีกแล้ว อยู่บนท้องฟ้าเหนือโลกมนุษย์ มองดูความทุกข์ความสุข การจากลาและได้กลับมาเจอกันมากมายบนโลกมนุษย์
เดิมทีสมควรเป็นเช่นนี้ แต่ว่าตอนนี้จุดยืนของสองฝ่ายกลับตาลปัตร
จักรพรรดิเซียนจริงแท้เช่นพวกเขาอยู่ ‘ด้านล่าง’ ในมิติเวลา
ส่วนคนคนหนึ่งก้มมองพวกเขาจาก ‘ด้านบน’
เรื่องที่ทำให้คนรู้สึกเหลือเชื่อ อยู่นอกเหนือความรู้ความเข้าใจดั้งเดิมโดยสิ้นเชิง วินาทีนี้กลับเกิดขึ้นจริงๆ
ไม่เพียงแต่คนของโถงเซียนที่ประหลาดใจเหลือเแสน คนจากโลกซ้อนโลกที่อยู่ใกล้ๆ ตอนนี้ตกตะลึงเล็กน้อย
อัจฉริยะสะท้านโลกบางคนสามารถสู้กับเซียนจริงแท้ด้วยร่างมนุษย์ได้
ไม่พูดถึงคนไกลตัว เพียงแต่หลายปีมานี้ อย่างน้อยก็มีเฉินกานหวาที่สู้กับจักรพรรดิสรรพสิ่งไร้จำกัดได้ และเนี่ยเจิงเสินที่สู้กับจักรพรรดิเอกภพกำเนิดได้
เยี่ยนจ้าวเกอมีพลังสูงส่งยิ่งกว่า ตอนที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ก็สามารถต้านทานการร่วมมือกันของจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำกับหวังเจิ้งเฉิงประมุขปฐวีที่มีอาวุธเซียนอยู่ในมือ สร้างความสะท้านเทือนแก่ชนชาวโลกได้แล้ว
ทว่านั่นสุดท้ายก็เป็นการต่อสู้ในด้านพลัง ที่แล้วมาไม่เคยมอบความรู้สึกพลิกเปลี่ยนระดับสูงต่ำให้แก่ผู้คนมาก่อน
กระนั้นปัจจุบัน ทุกๆ คนต่างรู้สึกได้แล้ว
วินาทีนี้ โลกกับประวัติศาสตร์ในความรู้ก่อนหน้านี้ของพวกเขา เหมือนกับเปลี่ยนเป็นลวงตาไม่เป็นความจริงขึ้นมา
เห็นประกายกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว จากนั้นก็ลอยละล่อง อยู่ใน ‘ที่สูง’ เหมือนกับตัวเขา เวลานี้เหมือนกับธารสวรรค์ม้วนพลิก เทใส่พวกนักพรตรองเท้าสานที่อยู่เบื้องล่าง!
“กระบี่นี้ของข้า ชื่อเนรเทศเซียน”
เสียงของเยี่ยนจ้าวเกอเหมือนดังมาจากมาจากสวรรค์ชั้นเก้า
ประกายกระบี่ที่เหมือนกับไร้รูปร่างเทลงเหมือนกับลำน้ำ พุ่งใส่นักพรตรองเท้าสารเป็นอันดับแรก
นักพรตรองเท้าสานรู้สึกท่าไม่ดี
ถึงเยี่ยนจ้าวเกอจะไม่มีอาวุธเซียนอยู่ในมือ แต่เขายังคงแทบจะโคจรพลังต้านทานด้วยสัญชาตญาณ ไม่ได้อาศัยร่างเซียนจริงแท้ไร้ช่องโหว่วของตัวเองไม่สนใจโดยสิ้นเชิง เหมือนอย่างตอนเผชิญการโจมตีของจอมยุทธ์ที่เป็นมนุษย์
กระนั้น พอถูกประกายกระบี่เนรเทศเซียนของเยี่ยนจ้าวเกอกระทบ นักพรตรองเท้าสานพลันรู้สึกว่าร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง
ปราณเซียนที่ตนลำบากลำบนฝึกฝนสำเร็จถึงแม้ยังคงเต็มเปี่ยม แต่กลับไม่ใช่ของตัวเองอีก เหมือนกับรับฝากไว้ร่างกายของตนชั่วคราว
ร่างเซียนจริงแท้ในวินาทีนี้ เหมือนกับเปลี่ยนเป็นกายเนื้อของมนุษย์อีกครั้ง เหมือนกับแค่เป็นเปลือกร่างที่เอาไว้บรรจุปราณเซียน
“นี่…” นักพรตรองเท้าสานมึนงง ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ
ตั้งแต่เขาผลักเปิดประตูเซียน ไม่เคยปรากฏเรื่องแปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อน!
ต่อให้เยี่ยนจ้าวเกอออกสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนพร้อมกัน ใช้พลังของมนุษย์คนเดียวทำให้ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนที่ว่ากันว่ามีแต่ต้องให้จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ร่วมมือกัน ไม่อาศัยพลังจากวัตถุภายนอกสังหารเซียนจริงแท้ ซึ่งได้สาปสูญไปแล้ว นักพรตรองเท้าสานก็ไม่แตกตื่นขนาดนี้
ทว่าตอนนี้อย่าว่าแต่ค่ายกลลงทัณฑ์เซียน กระบี่นี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ ถึงขั้นที่ไม่ใช่แม้แต่วิชากระบี่สายเหนือพิสุทธิ์!
ไม่เห็นจิตสังหารหรือความดุร้าย ไม่เห็นความอำมหิตเหี้ยมโหด ลี้ลับสูงส่ง กลับแทบไร้รูปร่าง
ประกายดาบพุ่งลงจากฟ้า เหมือนกับมรรคาฟ้าส่งการลงทัณฑ์มาไล่นักพรตรองเท้าสานจากแดนเซียนลงไปยังโลกมนุษย์!
มีชั่วขณะหนึ่ง ในห้วงสมองของนักพรตรองเท้าสารปรากฏภาพมากมาย เลื่อนผ่านอย่างรวดเร็วเหมือนโคมม้าวิ่ง
นั่นเป็นประสบการณ์ในตอนที่เขาผลักเปิดประตูเซียนด้วยความฮึกเหิม
หนึ่งในความทรงจำที่งดงามที่สุดในชีวิต สลักอยู่ในส่วนลึกความทรงจำ
เวลานี้เขาทบทวนความฝันเก่า แต่สิ่งที่ทำให้เขาตื่นตระหนกก็คือ ภาพกลับฉายตรงข้าม!
ทุกอย่างต่างกลับตาลปัตร นักพรตรองเท้าสานเห็นตนผลักประตูเซียนกลับด้าน ประตูลวงตานั้นปิดลงตรงหน้าตนอีกครั้ง!
กระนั้นความรู้สึกนี้คล้ายอยู่ไม่นาน เพียงเกิดชั่วพริบตา
ทว่านักพรตรองเท้าสานไม่ทันมีควมรู้สึกได้ผ่อนคลาย
ในพริบตานี้ กระบี่อีกเล่มพุ่งจากฟ้า บรรลุถึงตรงหน้าเขา
เยี่ยนจ้าวเกอตั้งนิ้วชี้และนิ้วกลางข้างซ้ายขึ้น จากนั้นทิ่มแทงใส่หว่างคิ้วของนักพรตรองเท้าสาร การเคลื่อนไหวผ่อนคลาย ไม่ปรากฏความใจร้อนแม้แต่น้อย
พร้อมกับที่เขาชักนิ้วกลับ นักพรตรองเท้าสานยังคงยืนงงอยู่กับที่ สีหน้าบนใบหน้าถึงขั้นยังเหลือการเปลี่ยนแปลง ดวงตาเหมือนกำลังเปล่งประกาย
พริบตาต่อมา ปราณเซียนของนักพรตรองเท้าสานพรั่งพรู เหมือนกลับคืนสู่ลักษณะเดิม เป็นเซียนจริงแท้ไร้ช่องโหว่วไร้ข้อบกพร่อง
กระนั้นรูเลือดตรงหว่างคิ้วของเขากลับยังคงอยู่ เลือดไหลออกมาเป็นทาง
เซียนจริงแท้กลับเลือดไหลเหมือนกายเนื้อของมนุษย์
ถึงจะเห็นว่ากลับคืนสู่สภาพเดิม กลับเป็นแค่เปลือกร่างว่างเปล่าโครงหนึ่ง
พลังชีวิตด้านในสลายไปแล้ว
พร้อมกับที่พลังชีวิตหายไป เปลือกร่างนี้ก็เริ่มเสื่อมสลายอย่างรวดเร็ว
วินาทีนี้ ไม่ว่าจะเป็นเหล่าเซียนเส้นทางนอกรีต หรือว่าคนของโลกซ้อนโลกต่างเงียบเป็นเป่าสาก
ทุกคนห้วงสมองว่างเปล่าชั่วขณะ มีแต่เสียงหนึ่งที่สะท้อไปมา
“…ตาย…ตายแล้ว? ตายแล้วจริงหรือ?!”
“จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งไม่อาศัยชัยภูมิและค่ายกล ไม่อาศัยอาวุธเซียนและของวิเศษ ใช้เพียงแค่พลังและมือเปล่า สังหารจักรพรรดิเซียนจริงแท้คนหนึ่ง?!”
ทุกคนมองเยี่ยนจ้าวเกออย่างมึนงง “…เซียนผู้ถูกเนรเทศ?”
ก่อนหน้านี้ คำเรียกนี้ใช้บรรยายความเก่งกาจของเยี่ยนจ้าวเกอ เหมือนกับเซียนถูกขับมาอยู่ในโลกมนุษย์ แต่มีสักวันที่ต้องกลับแดนเซียน
ตอนนี้ทุกคนนึกถึงความหมายแฝงอีกอย่างหนึ่งของคำสองคำนี้ ความหมายแฝงที่เก่าแก่ถึงขีดสุด แต่กลับเป็นดั้งเดิมที่สุด
เทพเซียนถูกลดระดับกลายเป็นมนุษย์!
กระบี่เนรเทศเซียน กระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอ กระบี่ทำให้เซียนกลายเป็นมนุษย์!
………………..