ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1343 มาเร็วมิสู้มาพอดี
ถึงจะถูกกันไว้ด้านนอกมรกตท่องฟ้า แต่ว่าคนที่มีพลังฝึกปรือสูงถึงระดับหนึ่ง สามารถสัมผัสได้ถึงปราณปีศาจอันยิ่งใหญ่นั้น
กษัตริย์เถาใช้มือข้างหนึ่งประสานมุทรา อีกมือหนึ่งป้ายใส่อากาศ ภาพเงาแสงปรากฏขึ้น
ในภาพมีแต่คนที่อยู่บนเขาอวี่อวี๋อันเป็นยอดเขาหลักของเขาแหนเขียวเท่านั้นถึงจะเห็นได้ เสียงที่อยู่ด้านในจำกัดอยู่แค่บนยอดเขา
“ลูกศิษย์หลานศิษย์ของชวนเหอเต้าหยินจงออกมา!”
เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งตามองไป เห็นชายชราสวมมงกุฎสีแดงวาดลวดลายทองใบหนึ่ง ใส่อาภรณ์สีดำ สวมรองเท้าเมฆสีม่วง รัดไหมฟั่นเกลียวสีเหลืองเส้นหนึ่ง
คนผู้นี้หน้าตาเหมือนแตง ตาสุกใสเหมือนดวงดาว มองไปกลับดูเหมือนบรรลุซึ่งสัจธรรม แต่ว่ากลิ่นอายปีศาจทำให้ผู้คนหวาดกลัว
‘เสื้อผ้าแบบนี้…’ เยี่ยนจ้าวเกอมองไป รู้สึกคุ้นตาอยู่บ้าง เพียงแต่มองดูรูปลักษณ์ภายนอก กลับคิดไม่ออกอยู่ชั่วขณะ
เขาหันไปมองพวกเกาเสวี่ยโพที่อยู่ด้านข้าง “คำพูดของเขา…”
ตอนนี้เกาเสวี่ยโพมีสีหน้าเคร่งขรึม เงยหน้ามองท้องฟ้า
พอสัมผัสได้ถึงสายตาของเยี่ยนจ้าวเกอ เขาไม่ได้หันมา เพียงแต่ยังอธิบายว่า “ปรมาจารย์ชวนเหอเป็นบูรพาจารย์ท่านหนึ่งก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ของสำนักเรา เสียชีวิตไปนานแล้ว ดูท่าจะเป็นคนมีความแค้นเก่าบุกมา”
หลี่อิงกษัตริย์เถาพอฟัง หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อย สีหน้าเคร่งขรึมกว่าเดิม มองนักพรตในภาพเงาแสง ถามว่า “หรือท่านจะเป็นจ้าวปีศาจร้อยตา?”
นางเอ่ยขึ้น เยี่ยนจ้าวเกอพลันกระจ่างแจ้ง
แต่ว่าหลังจากความเข้าใจ เขาก็อดขมวดคิ้วมากกว่าเดิมไม่ได้ ‘ที่แท้เป็นปีศาจตนนี้’
นามอันยิ่งใหญ่ของจ้าวปีศาจร้อยตา เยี่ยนจ้าวเกอย่อมเคยได้ยินมาก่อน เพียงแต่ว่ายุคสมัยล่วงเลยมานานเกินไป ไม่เคยได้สัมผัสด้วยตัวเอง เมื่อครู่จึงนึกไม่ออก
ปีศาจตนนี้ได้บรรลุมรรควิถีในยุคไซอิ๋วอันเป็นยุคโบราณกลาง จะว่าไปก็เป็นยอดฝีมือในหมู่จอมปีศาจที่ฝึกฝนด้วยตัวเอง ซึ่งมีไม่กี่ตนในระดับเดียวกัน พลังแข็งแกร่งถึงขีดสุด
ภายหลังเขาถูกคนปราบ ต้องไปเฝ้าที่อยู่ แต่ต่อมาเป็นอิสระอย่างเหนือความคาดหมาย ตั้งตนเป็นราชาอีกครั้ง
เทียบกับกวางขาวตอนนั้นแล้ว จ้าวปีศาจร้อยตาตนนี้น่ากลัวยิ่งกว่า ทั้งเป็นเซียนปีศาจที่แข็งแกร่งกว่า สำเร็จวิชาปีศาจอันลึกลับมากมาย มาตรแม้นจะเป็นคนที่มีพลังฝึกปรือเหนือกว่า ก็ใช่ว่าจะทำอะไรเขาได้
ชวนเหอเต้าหยินเป็นบูรพาจารย์ของหลี่อิง ครั้งกระโน้นได้สังหารลูกศิษย์ของจ้าวปีศาจร้อยตา สืบเนื่องจากเจ้าแม่อู๋ตัง จ้าวปีศาจร้อยตาจึงแก้แค้นไม่สำเร็จ ได้แต่ต้องอดกลั้นไว้ชั่วคราว
ภายหลังจ้าวปีศาจร้อยตาได้เข้าไปอยู่ในเขาดาราทะเลดวงดาว ร่องรอยหายไปจากมหาจักรวาล เรื่องราวคล้ายจบลงเท่านี้
ในกาลต่อมา ชวนเหอเต้าหยินเสียชีวิต ทว่าบุญคุณความแค้นนี้ ลูกศิษย์ในสำนักยังคงทราบเรื่อง
ตอนนั้นทุกคนไม่ได้ใส่ใจ แต่ว่าหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ทุกอย่างล้วนต่างไปจากเดิม
สำนักเต๋าประสบภัยพิบัติ รอความรุ่งเรืองอีกครั้ง คู่แค้นที่ก่อนหน้านี้ไร้ความสำคัญ ปัจจุบันต้องระวังป้องกัน
กษัตริย์เถาเห็นหน้าตาและการแต่งตัวของอีกฝ่าย ในใจก็พอจะทายความเป็นมาของจ้าวปีศาจร้อยตาออก
“เป็นข้าเอง” จ้าวปีศาจร้อยตากล่าวอย่างไม่รีบไม่ร้อน “ชวนเหอเต้าหยินติดหนี้ชีวิตลูกศิษย์ข้า วันนี้เขาตายแล้ว ชีวิตนี้พวกเจ้าจะต้องใช้แทนคืนเขา”
ขณะที่เขาพูด คลื่นแสงสีเหลืองนั้นเหมือนกับเข้มข้นขึ้นเล็กน้อย ทำให้กษัตริย์เถารู้สึกกินแรงกว่าเดิม
พวกเยี่ยนจ้าวเกอมองไปด้านหลังเขา เห็นทะเลเมฆสีทองไร้สิ้นสุดพาดขวางอยู่กลางความว่างเปล่าในจักรวาล
ในทะเลเมฆมีเสียงมังกรคำรามดังออกมาเป็นระยะ เงามังกรลอยล่อง บัดเดี๋ยวสูญหายบัดเดี๋ยวปรากฎอยู่ด้านใน
ความแข็งแกร่งของอำนาจมังกรที่อยู่ด้านใน เหมือนกับแม้กั้นด้วยเขตแดนมิติเวลาของมรกตท่องฟ้าก็ยังสัมผัสได้
ในเมฆมงคลนอกจากเงาร่างของมังกรจริงแท้ ยังเห็นธงธิวยิ่งใหญ่ พัดพลิ้วโดยไร้ลม เต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม
เสียงกลองดังขึ้นในเมฆ รัวกระหน่ำจนทำให้คนเกิดความพลุ่มพล่าน กลับไม่กลบเสียงของจ้าวปีศาจร้อยตา กลายเป็นการขับเน้นชนิดหนึ่ง ทำให้วาจาของจ้าวปีศาจร้อยตามีแรงกดดันกว่าเดิม
พวกเยี่ยนจ้าวเกอต่างรู้สึกได้ถึงความหนักอึ้ง
ความโกลาหลและความน่ากังวลได้มาถึงจริงๆ แล้ว
สถานการณ์ของโลกใบนี้เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงพลิกฟ้าคว่ำดิน
ก่อนหน้านี้แม้จะมีการคุกคามจากเส้นทางนอกรีต แต่อาศัยการสะกดกันระหว่างโถงเซียนและแดนสุขาวดีบัวขาว จักรวาลสำนักเต๋าถูกหนีบไว้ตรงกลาง ยังคงรับมือได้
ทว่านับตั้งแต่ยี่สิบปีก่อน จักรวาลสำนักเต๋าที่สงบสุขมานานไม่ปลอดภัยเหมือนในวันวานอีกแล้ว ภัยพิบัติที่ยิ่งมายิ่งมากเริ่มประดังประเดเข้ามา
แม้ไม่ถึงกับสูญสิ้น แต่ว่าสภาพแวดล้อมก็เลวร้ายมากอย่างมิต้องสงสัย
ถ้าหากไม่ปรับตัวและไม่รับมืออย่างเหมาะสมโดยเร็ว ก็ยากจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกสภาวะอันยิ่งใหญ่ของการเปลี่ยนแปลงกระทั้นกระแทกจนก้าวเดินลำบากได้
“นั่นคือ…เผ่ามังกร?” ฟู่อวิ๋นฉือจักรพรรดิแพรเลิกคิ้วเล็กน้อย ถึงแม้เป็นน้ำเสียงสงสัย แต่สายตากลับค่อนข้างแน่ใจ
เยี่ยนจ้าวเกอมองดูจ้าวปีศาจร้อยตา จากนั้นก็มองเมฆมงคลอำนาจมังกร ‘นี่มาช่วยจ้าวปีศาจร้อยตาสะกดทัพ?’
‘พวกเขาแค่มาแก้แค้น หรือต้องการตำหนักโอสถ คิดใช้กลยุทธ์ ล้อมเมืองตีกำลังเสริม อาศัยการจู่โจมมรกตท่องฟ้า หลอกล่อให้ข้ากับตำหนักโอสถปรากฏตัว?’
ความคิดหนึ่งแวบผ่านห้วงสมองของเยี่ยนจ้าวเกอในชั่วพริบตา
จ้าวปีศาจร้อยตามีพลังแข็งแกร่งถึงขีดสุด แต่ว่าถ้าเจ้าแม่อู๋ตังมา เขาสมควรสู้ไม่ได้
ในเมื่อวันนี้กล้าปรากฏตัว นั่นหมายความว่าจะต้องมีตัวช่วย อย่างน้อยก็ไม่ต้องกลัวว่าเจ้าแม่อู๋ตังจะลงมือ
แต่ถ้าหากไม่ใช่มาแค่แก้แค้น แต่มาเพื่อตำหนักโอสถ เช่นนั้นด้านหลังอนุเทวะเผ่าปีศาจตนนี้ เกรงว่าจะมีเงาร่างของยอดฝีมือระดบมหาเทวะไม่ต่ำกว่าหนึ่ง ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางมั่นใจถึงเพียงนี้
ข้อหลังหมายความว่า ศัตรูตรงหน้าใช้ทัพใหญ่กดดัน วางหลุมพรางดักไว้ รอให้เยี่ยนจ้าวเกอกับตำหนักโอสถตกลงไป
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้กล่าวอะไร ตั้งใจสังเกตอย่างเงียบๆ
เห็นจ้าวปีศาจร้อยตาเหมือนไม่รีบร้อน เพิ่มพลังกดดันมรกตท่องฟ้ากับกษัตริย์เถาทีละน้อยๆ
แม้เหมือนแมวหยอกหนู แต่กลับเหมือนคอยอะไรอยู่
หลังจ้าวปีศาจร้อยตา ทะเลเมฆสีทองแผ่ม้วน ปรากฏเงาคนมากมาย
ผู้ที่เป็นผู้นำอยู่ในร่างมนุษย์ ดูไปเหมือนกับเป็นบุรุษวัยกลางคนน่าเกรงขามคนหนึ่ง คือราชามังกรหวนเฉินนั่นเอง
ราชามังกรหวนเฉินไม่ได้ลงมือ เพียงนั่งนิ่งอยู่บนเมฆมงคล
ทว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ไม่มีใครกล้าดูแคลนอนุเทวะเผ่าปีศาจซึ่งเท่ากับตำแหน่งจ้าวสวรรค์เซียนสุญญตาของสำนักเต๋า
เขายินดีชมดูจ้าวปีศาจร้อยตาลงมืออย่างเงียบๆ อยู่ด้านข้าง
ทว่าหลังจากเขาเผยร่างแล้ว แรงกดดันกับความอันตรายที่ส่งมายังมรกตท่องฟ้า ก็ยิ่งหนึกอึ้งและรุนแรงขึ้น
‘พวกเขากำลังใช้แผนล้อมเมืองตีกำลังเสริม รอคอยให้ข้ากับตำหนักโอสถปรากฏตัวขึ้นอยู่จริงๆ’ เยี่ยนจ้าวเกอตาเป็นประกาย ‘เหลือเวลาให้มรกตท่องฟ้าติดต่อเรามากพอ และเหลือเวลามากพอสำหรับรอเราควบคุมตำหนักโอสถกลับจากมิตินอกเขตแดน’
ดูเหมือนเล็งเป้าหมายมาที่กษัตริย์เถาผู้เดียว ไม่ได้ล้อมรอบๆ มรกตท่องฟ้า
ความจริงเหลือช่องว่างเอาไว้ เพื่อให้จอมยุทธ์สายเหนือพิสุทธิ์ที่คิดจะฝ่าวงล้อมไปติดต่อกับเยี่ยนจ้าวเกอออกไปได้อย่างปลอดภัย
“นี่นับว่ามาเร็วมิสู้มาพอดีจริงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำ “โชคดีที่การเตรียมการพื้นฐานทางมรกตท่องฟ้าได้จัดการไว้พอประมาณแล้ว”
ถึงจะคิดไม่ถึงว่า ศัตรูจะใช้แผนการล้อมเมืองตีกำลังหนุนกับมรกตท่องฟ้า
ทว่าการลงมืออย่างกะทันหันในเวลานี้ ก็ยังอยู่เหนือความคาดมหายของเยี่ยนจ้าวเกออยู่บ้าง
และเยี่ยนจ้าวเกอก็มีความประหลาดใจมอบให้กับเหล่าแขกที่ไม่ได้รับเชิญในวันนี้เช่นกัน
ตำหนักโอสถที่อีกฝ่ายต้องการ ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในมิตินอกเขตแดนไร้สิ้นสุด แต่ว่าอยู่ในจักรวาลสำนักเต๋านี้เอง!
………………..