ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1352 จุดจบของยุคสมัย
เทพารักษ์จอมทัพฟ้าฟื้นช่วยสรรพสัตว์ที่เกิดจากเยี่ยนจ้าวเกอผลักฝ่ามือลง กระแทกใส่ศีรษะของกระทิงใหญ่ตัวนั้น
การลอกเลียนฟ้าดินของมหาเซียนหรูอี้ถูกเขาทำลายทิ้งอย่างหักโหม
ร่างของกระทิงใหญ่หดเล็กลงอย่างรวดเร็ว สุดท้ายเล็กยิ่งกว่าร่างเดิม พลิกตัวบนพื้นไม่หยุด เขาที่แท้จริงถูกเด็ดออกมาข้างหนึ่ง
มหาเซียนหรูอี้ไม่กล้าอยู่ต่อ หมุนตัวพุ่งไปอย่างทุลักทเล วิ่งหนีออกไป
อีกดานหนึ่ง จ้าวปีศาจร้อยตาทนต่อไม่ไหว ออกกระบวนท่าลวง อาศัยแสงสีทองใต้สีข้างคุ้มกันร่าง หนีไปยังที่ไกล
คนยักษ์สีทองม่วงที่สวมเกราะเงยหน้าขึ้น รู้สึกได้ว่าการสั่นไหวของจักรวาลสำนักเต๋ากำลังสงบลงอย่างรวดเร็ว
สถานการณ์ผิดปกติอยู่บ้าง
เยี่ยนจ้าวเกอซึ่งตอนนี้ผสานกับตำหนักโอสถ กลายร่างเป็นเทพพารักษ์ตำหนักโอสถ พลังแทบเทียบได้กับจ้าวสวรรค์ระดับสุดยอด ความปราดเปรียวของจิตใจ และความสามารถในการรับรู้แข็งแกร่งอย่างมิเคยมีมาก่อน
เขาสัมผัสได้ว่าเหมือนมีเงาดำชั้นหนึ่งเกิดขึ้นในจิตใจ
นั่นไม่ใช่ความรู้สึกหลอน
ผู้ยิ่งใหญ่เผ่าปีศาจอย่าง ราชาปีศาจกระทิง หรือมหาเทวะเก้าเศียร ถึงแม้จะเตรียมรับมือเทวกษัตริย์หลายคนและยอดฝีมือระดับสุดยอดของศาสนาพุทธที่อาจจะมา แต่ก็อาจจับตาดูทีนี่อยู่
เกิดว่าพวกเขามีโอกาสลงมือ แผนการในวันนี้ก็ยากที่จะไม่มีตัวแปร
โชคดีที่มรกตท่องฟ้าเข้าไปอยู่ในจักรวาลในตำหนักโอสถแล้ว แผนการของฝ่ายตนในตอนนี้ถือว่าบรรลุเป้าหมายอย่างสมบูรณ์
คนยักษ์สีทองม่วงขนาดมหึมายามนี้เริ่มสลายร่าง
พวกเกาชิงเสวียนกับเฟิงอวิ๋นเซิงไม่ได้ติดตาม เทพารักษ์จอมทัพฟ้าฟื้นช่วยสรรพสัตว์เป็นเทพผู้ปกปักษ์ประจำตำหนักโอสถ อาณาเขตการคือการเฝ้าตำหนักโอสถ
ตอนนี้เทพารักษ์จอมทัพฟ้าฟื้นช่วยสรรพสัตว์สลายร่าง พวกนางต่อให้ไล่จู่โจมก็ไม่ได้เปรียบ อาจจะถูกพวกราชาปีศาจกระทิงขัดขวาง
หลังรวมตัวกับพวกหลิงซิงเฉวียนและเยว่เจิ้นเป่ย ทุกคนก็กลับตำหนักโอสถ
ตำหนักโอสถเรืองแสงสีทองอีกครั้ง ควันม่วงทะเลเมฆที่อยู่รอบๆ ยิ่งมายิ่งเข้มข้น ม้วนตำหนักโอสถเคลื่อนไหวในจักรวาลสำนักเต๋า จากนั้นแหวกม่านกั้นของจักรวาลสำนักเต๋า เข้าไปในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน
ความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดนมีมิติเวลาปั่นป่วน ยากแยกแยะทิศทาง ไม่มีแบ่งบนล่างซ้ายขวา
ถ้าหากไม่ได้ตกลงตำแหน่งที่แท้จริงซึ่งทราบอยู่แล้วไว้ก่อน ต่อให้ออกมาจากสถานที่เดียวกัน ยังอาจจะหลงทิศหลงทาง ไม่ทราบว่าอยู่ห่างกันเท่าไรได้
แต่ก็อาจจะเจอกันได้โดยบังเอิญ ทั้งๆ ที่ออกมาจากตำแหน่งที่แตกต่างซึ่งไกลกันเหมือนฟ้ากับเหว
โชคดีที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอมีโชคไม่เลว หลังหลุดจากจักรวาลสำนักเต๋า ก็ไม่ได้เจอพวกฝูลัวจื่อ หายไปในมิติเวลาอันกว้างใหญ่
อีกด้านหนึ่ง จ้าวปีศาจร้อยตา มหาเซียนหรูอี้ ปีศาจกระต่ายหยก และราชามังกรหวนเฉิน รวมตัวกับฝูลัวจื่ออย่างยากลำบาก
หลังจากที่จัดธงและกลองรบได้ใหม่ เหล่าจอมปีศาจไม่สนใจจะขัดขวางยอดฝีมือศาสนาพุทธจากแดนสุขาวดีตะวันตกอีก รีบเข้าไปในจักรวาลสำนักเต๋าอีกครั้ง
เมื่อไร้ฝูลัวจื่อคอยขัดขวาง ยอดฝีมือจากศาสนาพุทธพลันเริ่มรวมตัว จากนั้นก็มาถึงจักรวาลสำนักเต๋าตามหลังพวกเขา
น่าเสียดายที่ที่นี่ว่างเปล่าแล้ว
มรกตท่องฟ้าที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่หายไปแล้ว ที่หายไปด้วยยังมีโลกเบื้องล่างจำนวนมากที่อยู่ในการปกครองของมรกตท่องฟ้า
ตอนนี้โลกที่อยู่ในจักรวาลสำนักเต๋าเหลือเพียงโลกซ้อนโลกและโลกเบื้องล่างไม่กี่ใบ
เหล่าปีศาจที่ศีรษะแตกเลือดอาบต่างขุ่นแค้น ดวงตากลายเป็นสีแดงฉาน
จ้าวปีศาจร้อยตากับปีศาจกระต่ายหยกยังดีอยู่ มหาเซียนหรูอี้กับราชามังกรหวนเฉินต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส แทบไม่อาจต่อสู้กับคนอื่นได้อีก
แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ เพลิงโทสะในใจของพวกเขาก็ยิ่งลุกโหมกว่าเดิม ปรารถนาจะเข่นฆ่าให้หมดสิ้น
จ้าวปีศาจร้อยตาสีหน้าไม่สู้ดีนักเช่นกัน รู้สึกขุ่นข้องคับแค้น
“โอสถเซียนที่มาถึงมุมปากถึงกับหนีไปแล้ว!” จ้าวปีศาจร้อยตราขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ฝูลัวจื่อสีหน้าเคร่งขรึม ถอนใจคำหนึ่ง “เป็นพวกเราประเมิณอีกฝ่ายต่ำไป เตรียมตัวไม่พอ”
เหล่าปีศาจต่างคับข้อง กวาดมองจักรวาลสำนักเต๋าด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร ตอนสายตากวาดผ่านโลกซ้อนโลก อดหยุดชะงักไม่ได้
“ไม่มีประโยชน์ ไม่แน่จะสร้างปัญหาขึ้นอีก แค่ระบายความแค้นชั่วขณะ ไม่คุ้มค่านัก” ฝูลัวจื่อโบกมือ ฉุดลากทุกคนจากไป “ตอนนี้ไม่เหมาะจะเปิดการสู้รบกับพุทธเกษตรตะวันตกเป็นครั้งที่สอง พวกท่านมีอาการบาดเจ็บติดตัว ยากรับประกันได้ว่า อีกฝ่ายจะไม่คิดเอาเปรียบ พวกเรารีบไปเถอะ”
เหล่าปีศาจเงียบงัน ทว่าล้วนค่อยๆ สงบจิตใจ ออกจากจักรวาลสำนักเต๋าอย่างเคียดแค้นพร้อมกัน
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธจากแดนสุขาวดีตะวันตกคอยจ้งตาเป็นมัน แต่สุดท้ายไม่เกิดความขัดแย้งที่ใหญ่กว่าเดิม
ขณะนี้บนผากิเลนยอดเขาหนานเกาบนเขาคุนหลุนในโลกซ้อนโลก ชายชราผู้หนึ่งยืนเอามือไพล่หลัง เงยหน้ามองฟ้า สายตาทอดไกล เหมือนกับทะลุขอบเขตของโลกซ้อนโลก
ด้านหลังชายชรามีคนจำหนวนหนึ่งยืนอยู่ เงยหน้ามองฟ้าเหมือนกับเขา
“ใต้เท้ากษัตริย์ดิน ภัยพิบัติครั้งนี้ดูเหมือนจะจบลงแล้ว” ชายชราอาภรณ์ดำผู้หนึ่งกล่างเสียงเบา เป็นจักรพรรดิสรรพสิ่งไร้จำกัด
ชายชราที่ยืนอยู่ตรงหน้าผู้คน เป็นเจี่ยงเซิ่น ราชันพระเสาร์ กษัตริย์ดิน
เขามองความว่างเปล่า ไม่ได้หันกลับมา “มิผิด จบลงแล้ว”
เป็นเพราะครั้งกระโน้นเยี่ยนจ้าวเกอดึดเขตแดนมากมายบนโลกซ้อนโลกออกไป หลายปีมานี้ เจี่ยงเซิ่นรั้งอยู่บนโลกซ้อนโลก ปรับปรุงทุกอย่างของที่นี่ให้ดีขึ้น รับประกันว่าวัฏจักรปราณวิญญาณของที่นี่จะมั่นคงกว่าเดิม
ถึงตอนนี้โถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาว ไปจนตลอดแดนสุขาวดีตะวันตกและเผ่าปีศาจจะทำสงครามกันดุเดือด ทว่าพวกกษัตริย์ดินยังคงรั้งอยู่บนโลกซ้อนโลก ไม่ได้ออกไปไหน
การพยายามคุมสถานการณ์ ลบผลกระทบที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอก่อขึ้นอย่างเต็มที่ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ของพวกเขา
เป็นเพราะเหตุนี้ ทุกคนจึงชุมนุมกัน เฝ้ามองสงครามสั้นๆ หากรุนแรงที่เกิดขึ้นในจักรวาลสำนักเต๋าเมื่อครู่จนจบ
เจี่ยงเซิ่นแม้ว่าถูกสั่วหมิงจางลดระดับ แต่ว่าพลังสายตาก็ยังคงมีอยู่
การเปลี่ยนแปลงของมรกตท่องฟ้าที่อยู่ในจักรวาลสำนักเต๋าเหมือนกันยิ่งใหญ่ปานนี้ เจี่ยงเซิ่นย่อมสัมผัสได้ในทันที
เหล่ายอดฝีมือระดับสูงที่อยู่บนโลกซ้อนโลกในปัจจุบัน ย่อมได้รับข่าวเช่นกัน รวมตัวบนผมกิเลน
ในตอนที่ทราบถึงการกลุ้มรุมของพวกจอมปีศาจ พวกเขาเดิมทีนึกว่าพวกเยี่ยนจ้าวเกอส่งตัวเองเข้าหาตาข่าย พบเจออันตรายยิ่งใหญ่
ผู้ใดหาทราบไม่ว่า ผลลัพธ์ทำให้พวกเขาตกตะลึงอีกครั้ง
เหมือนเมื่อยี่สิบปีก่อน
ตอนนั้นเยี่ยนจ้าวเกอม้วนเอาโลกซ้อนโลกไปอย่างไร วันนี้ก็เอามรกตท่องฟ้าไปเช่นนั้น
นอกจากนี้ครั้งนี้ยังไม่ใช่ม้วนเอาไปแค่ส่วนเดียว แต่เอามรกตท่องฟ้าไปทั้งหมด
“พวกเขานำมรกตท่องฟ้ากับโลกจำนวนมากที่อยู่ใต้การปกครองของมันไปด้วย?” หลางชิงประมุขประจิมถามเงียบๆ
เจี่ยงเซิ่นผงกศีรษะ “ถูกต้อง นอกจากนอกจากโลกเบื้องล่างที่มิติเวลาไม่กี่แห่งที่สับสนไม่ชัดเจน อาจะเชื่อมต่อกับชายฝั่งยมโลก ที่เอาไปได้ล้วนเอาไปหมดสิ้น”
ทุกคนพอฟังต่างตกสู่ความเงียบงันชั่วขณะ
เจี่ยงเซิ่นก็ไม่พูดอะไรอีกเช่นกัน
พวกเขาเหมือนเห็นจุดจบของยุคสมัยหนึ่ง
ในอดีต เก้านพเคราะห์คุนหลุนบุกเบิกโลกซ้อนโลก เจ็ดปราชญ์ท่องมรกตสร้างมรกตท่องฟ้า ภายหลังเกิดการวิวัฒนาการ ค่อยๆ กลายเป็นจักรวาลสำนักเต๋าในปัจจุบัน จนกระทั่งปราการเขตแดนมั่นคง ตั้ง ‘กำแพง’ ขึ้นมาได้
ปัจจุบัน ‘กำแพง’ ไม่คงอยู่อีก มรกตท่องฟ้าออกไปแล้ว โลกซ้อนโลกก็หายไปมากกว่าครึ่ง
หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ สำนักเต๋ารุ่งเรือง จักรวาลสำนักเต๋าที่หล่อเลี้ยงชีวิตมาหลายพันปี วินาทีนี้ว่างเปล่าอยู่บ้าง
เหมือนกับซากปรักหักพัง
จุดจบของยุคเก่า เหมือนกับเป็นลางบอกเหตุถึงการมาถึงของยุคสมัยใหม่
………………..