ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1359 บุกเขาเบญจคีรีอีครั้ง
พอฟังคำถามของจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ เยี่ยนจ้าวเกอจิตใจสั่นไหว
ครั้งกระโน้นหลังจากเขาเพิ่งได้เตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ ได้พลัดหลงเข้าไปในแดนสุขาวดีบัวเขา พบเจอกับคนส่วนหนึ่ง ไม่ได้เห็นคนฆ่าคนเพื่อรักษาความลับ หรือฆ่าปิดปากหมดสิ้น
กระนั้น พลังฝึกปรือของเขาในตอนนั้นยังต่ำอยู่ ไม่ดึงดูดความสนใจของผู้คนจริงๆ
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ทราบเรื่องนี้ กลับไม่ทราบว่ารู้มาจากไหน?
ขณะที่ใคร่ครวญ เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน ตอบโดยไม่ลังเล “เคยไปจริงๆ ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าแดนสุขาวดีตะวันตกยังอยู่ นึกว่าการสืบทอดของศาสนาพุทธเหลือแค่แดนสุขาวดีบัวขาวนั้น”
“แดนสุขาวดีตะวันตกก่อนหน้านี้ซ่อนตัวมาโดยตลอด จนกระทั่งหลายปีมานี้จึงค่อยปรากฏตัว” สายฟ้าในความว่างเปล่าว่า “แต่พวกเขาก็คงอยู่มาโดยตลอด”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยิน เหมือนนึกอะไรได้
“ตอนเจ้าไปถึงแดนสุขาวดีบัวเขา ขณะเคลื่อนไหวอยู่ด้านใน ได้ไปยังโลกใดบ้าง?” เสียงสายฟ้าในความว่างเปล่าพลันถามขึ้น
เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะบอกชื่อของโลกสิบกว่าใบ
ต่างเป็นโลกศาสนาพุทธที่เขาได้พบเจอระหว่างหาเส้นทางกลับมาในตอนที่หลุดเข้าไปในแดนสุขาวดีบัวขาว
ด้านในยังรวมถึงแดนขวางกั้นที่ทำให้เขายังคงสนใจจนถึงทุกวันนี้
กระนั้นต่อหน้าจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ เขาไม่ได้พูดถึงความสนใจของตัวเอง เพียงแต่แทรกแดนขวางกั้นอยู่ในโลกสิบกว่าใบเหล่านั้น พูดออกมาพร้อมกัน เหมือนกับไม่มีความผิดปกติใดๆ
“โลกศาสนาพุทธที่ชื่อแดนขวางกั้นใบนั้น เจ้าจำตำแหน่งเพื่อตามหาได้หรือไม่?”
ไม่ทราบสมควรบอกว่าอยู่ในความคาดหมาย หรืออยู่นอกเหนือความคาดหมาย หลังจากได้ยินคำตอบของเยี่ยนจ้าวเกอ เสียงสายฟ้าในความว่างเปล่านั้นกลับจงใจพูดถึงแดนขวางกั้น
เยี่ยนจ้าวเกอตอบอย่างหนักแน่น “ตามเจอนั้นตามเจอ ไม่ทราบใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋มีคำสั่งใด?”
เสียงายฟ้าดังขึ้น “แดนขวางกั้นนั้น มิติเวลามีความพิเศษ เชื่อมต่อไปยังสถานที่แห่งหนึ่งก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ เก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ เรียกว่าเขาสองเขตแดน”
“ถ้าหากข่าวที่เราได้รับไม่ผิด ที่นั่นสะกดตัวตนหนึ่งไว้”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงรอคอยคำพูดต่อจากนี้ของจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋อย่างสงบนิ่ง
“ถ้าเจ้ามีเวลา ลองไปยังแดนขวางกั้นดู” เป็นอย่างที่คาด เสียงสายฟ้าพูดต่อ
“เรียนใต้เท้า ผู้เยาว์ไม่มีทางปฏิเสธ เพียงแต่ที่แล้วมาข้าผู้แซ่เยี่ยนมุทะลุวู่วาม แต่อย่างน้อยยังมีความสำนึกตัวอยู่” เยี่ยนจ้าวเกอถาม “ไม่ทราบผนึกสะกดนั้นเป็นผู้ใดสร้างขึ้น พลังฝึกปรือในปัจจุบันของข้าสามารถรับภาระนี้ได้หรือไม่?”
ขณะที่เขาพูด เขามองไปยังราชันพระจันทร์หลิงชิงที่อยู่ด้านข้าง
“เกาหานกับหลิงชิง เป้าหมายเดิมทีชัดเจน” เสียงสายฟ้าไม่ถือสา “เรากับโกวเฉิน และอู๋ตัง ยังมีสหายร่าวมเส้นทางสั่วผู้มาใหม่ ถูกแดนสุขาวดีบัวเขาค้นพบหยุดยั้งได้ง่าย”
“เจ้าไปยังแดนขวางกั้น ครั้งนี้ไปบนเส้นทางคุ้นเคย ปัจจุบันเจ้ามีชื่อเสียงไม่น้อย ทั้งยังเกี่ยวพันกับตำหนักโอสถ สมควรดึงดูดความสนใจของผู้คน ทว่าเรากับพวกเกาหานและหลิงชิง จะช่วยอำพราง ดึงความสนใจของแดนสุขาวดีบัวขาวกับเผ่าปีศาจแก่เจ้า”
การต่อสู้ระหว่างแดนสุขาวดีบัวขาวกับโถงเซียนในปัจจุบันอยู่ในช่วงเวลาที่รุนแรงที่สุด ต่อให้สามารถดึงความสนใจส่วนหนึ่งมาได้ สุดท้ายยังมีจำกัดอยู่ดี
รอไฟสงครามระหว่างพวกเขาสงบลง ก็ไม่มีโอกาสอันดีแบบนี้อีก
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋เลือกเวลานี้ ถือว่าเหมาะสมจริงๆ
“ที่ขอให้เจ้าไปในครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะตราผนึกที่สะกดอยู่นั้น” เสียงสายฟ้าดัง
เยี่ยนจ้าวเกอตาเป็นประกาย “เช่นนั้นใต้เท้าต้องการให้ข้าผู้แซ่เยี่ยนทำอย่างไร?”
“แค่ยืนยันก็พอว่า ตัวตนที่ถูกสะกดอยู่ใต้เขาสองเขตแดนที่แท้เป็นผู้ใด” จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ว่า
“สุดแต่ใต้เท้าจะบัญชา” เยี่ยนจ้าวเกอเว้นเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวเสียงเบา “ใต้เท้า ชื่อเขาสองเขตแดนนี้ผู้เยาว์เคยได้ยินมาก่อน”
“ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่มหาเทวะเสมอฟ้าเผ่าปีศาจถูกสะกดในยุคโบราณตอนกลาง ต่อมาได้พระสมณะมาช่วยเหลือแก้ไข สุดท้ายได้รับพระไตรปิฏกที่วัดหลิงซานแดนตะวันตก อัญเชิญศาสนาพุทธตะวันตกสู่ตะวันออกเป็นครั้งที่สอง ได้ปฏิบัติหน้าที่ในแดนสุขาวดีอภิรดีศูนย์กลาง สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า กลายเป็นนโมยุทธวิชัยพุทธะกระมัง?”
สายฟ้าดังครืนคราน กลายเป็นคำพูดที่คนเข้าใจ น้ำเสียงสงบนิ่งดุจเดิม “ตำนานนี้ไม่แปลกปลอม แต่ว่าวันนี้นึกย้อนไป มีเลศนัยอยู่”
‘พอดีไม่นานมานี้ได้พบว่าที่นั่นคล้ายมีตัวตนที่ยังเป็นปริศนาถูกสะกด เพื่อยืนยันซ้ำอีกรอบ จำต้องมีการตรวจสอบ’
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวในใจ
ความจริงที่ไม่สมบูรณ์ มักมีความไม่น่าเชื่อถือยิ่งกว่าคำลวงที่ไม่มีจริงเสียอีก
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ปฏิเสธหลักเหตุผลนี้
กระนั้นหากกล่าวว่าจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋พึ่งค้นพบว่าใต้เขาสองเขตแดนมีคนถูกสะกดไว้เมื่อไม่นานมานี้ เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่าต้องมาถกกันอีกที ใช่จะเป็นเรื่องจริง
ส่วนทำไมถึงเลือกให้เขาไป เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่าจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ไม่ได้ตัดสินตามใจชอบ คล้ายมีเงื่อนงำเช่นกัน
ถ้าหากพวกผู้ยิ่งใหญ่ระดับสูงเหล่านี้สนใจเรื่องนี้ ก่อนหน้าไฉนจึงไม่ส่งคนไปตรวจสอบ
เยี่ยนจ้าวเกอหันไปมองเฟิงอวิ๋นเซิง ขวดหยกสีดำใบนั้นเป็นค่าตอบแทนอย่างไม่ต้องสงสัย
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานตี๋กลับเปิดเผยเช่นกัน กำหนดเงินมัดจำก็จ่ายทันที
เยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่ใช่ไม่มีที่ให้ปฏิเสธ แต่เขาไม่คิดปฏิเสธ
พูดจากใจจริง เขารู้สึกสนใจเรื่องทางเขาสองเขตแดนหรือเขาเบญจคีรีมากเช่นกัน
คนอื่นๆ บางทีไม่เข้าใจ แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอที่เคยไปถึงแดนขวางกั้น และทอดน่องด้านนอกเขาสองโลกอยู่นาน กลับมีลางสังกรณ์ที่รุนแรงชนิดหนึ่ง
ตัวตนที่ถูกสะกดอยู่ใต้เขานั้น เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นวานรที่สมควรหลุดออกไปนานแล้วตัวนั้น!
ครั้่งกระโน้นมีพลังต่ำต้อย ทั้งไม่มีชื่อเสียง ได้ไปถึงแดนสขาวดีบัวขาวโดยบังเอิญ จึงไม่ดึงดูดความสนใจของผู้คน
ตอนนี้คิดไปอีกครั้ง ต่างไปจากเมื่อก่อน ดึงดูดความสนใจของยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดของแดนสุขาวดีบัวขาวได้ง่ายๆ
อุตส่าห์ได้จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานตี๋ เกาหาน และหลิงชิงมาช่วยอำพราง ดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆ ให้ การเดินทางไปครั้งนี้จะต้องเป็นโอกาสที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
เรื่องทางจักรวาลฟ้าฟื้นกับฟ้าเหนือฟ้า มรกตท่องฟ้า จัดการเสร็จไปพอประมาณแล้ว ไม่ถึงกับมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่อะไรอีก
ตอนเพิ่งฝ่าภัยพิบัติมุนษย์เซียนสำเร็จ การกักตัวฝึกฝนในระยะหนึ่งไม่มีประโยชน์มากนัก
สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้ การฝึกฝนเคี่ยวกรำมากกว่าเดิม ส่งผลดีต่อการสั่งสมของเขามากกว่า
หลังจากมาถึงระดับในปัจจุบันของเขา หลายๆ ครั้งแล้ว ไม่อาจขาดช่วงตกผลึกซึ่งเปลืองเวลา ทว่าอาศัยแค่การตกผลึก กลับไม่มีความเป็นไปได้ที่จะรุดหน้าอีกก้าว
ถ้าหากว่าใต้เขานั้นเป็นวานรจริงๆ เช่นนั้นความพิเศษของเขา ก็เกรงว่าจะเกี่ยวพันถึงความลับของเผ่าปีศาจ ศาสนาพุทธ ไปจนถึงสำนักเต๋า
นี่เป็นวัตถุที่มีค่าเหนือกว่าของล้ำค่าคัมภีร์ลี้ลับสำหรับเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้
เรื่องที่จำเป็นต้องให้ความสำคัญเพียงเรื่องเดียวคือ…
“ใต้เท้า ไม่ทราบข้ามีเวลาเท่าไร” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยถาม
“เริ่มตั้งแต่วินาทีที่เจ้าเข้าไปแดนสุขาวดีบัวขาว ในเวลาหนึ่งชั่วยาม” จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ตอบ
สำหรับยอดฝีมือที่อยู่ในระดับเซียน เวลาหนึ่งชั่วยามไม่ถือว่าสั้นอีกต่อไป แม้จะนับเวลาไปกลับก็ตาม
กระนั้นผู้ใดคาดคิดออกว่า เกิดอะไรขึ้นใต้เขาสองเขตแดนในแดนขวางกั้นกันแน่?
เมื่อเป็นแบนี้ เวลาหนึ่งชั่วยามคงผ่านไปแค่ชั่วลัดนิ้วมือ
‘ต้องระวังไว้ด้วยว่า ถ้าเกิดนี่เป็นหลุมพรางควรทำอย่างไร’ เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำในใจ ‘แต่น่าจะใช้ได้แล้ว’
………………..