ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1360 จุดที่สายตาของเทวกษัตริย์สำนักเต๋าไปถึง
เยี่ยนจ้าวเกอคาดคำนวณในใจอย่างรวดเร็ว เปลือกนอกประสานมือ ตอบอย่างสะท้อนใจ “ใต้เท้าเมื่อมีคำสั่ง ข้าผู้แซ่เยี่ยนจะไปดู เพียงกลัวว่าจะทำให้ใต้เท้าผิดหวัง”
เสียงสายฟ้าดังขึ้น “โอกาสและเวลาหากคว้าได้เป็นมั่นเหมาะ ไม่ใช่ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จ”
“ไม่ทราบข้ากลับไปเตรียมตัวได้หรือไม่?” เยี่ยนจ้าวเกอว่า
ในความว่างเปล่า เสียงสายฟ้าค่อยๆ ออกห่างไป “ย่อมได้ หลังจากเจ้าเตรียมตัวเสร็จแล้ว เพียงบอกหลิงชิงก็พอ”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า เห็นจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋จากไป ก็พลันส่งเสียง
“ขอให้ใต้เท้ารักษาตัว ผู้เยาว์ขอขอบคุณใต้เท้าที่ครั้งกระโน้นได้มอบวรยุทธ์ให้แก่เขากว่างเฉิงของข้า”
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ไม่ตอบ แสงสายฟ้าที่บ้าคลั่งค่อยๆ สลายไป เมฆดาราตรงหน้ากลับคืนสู่สภาพเดิม
เฟิงอวิ๋นเซิงมองเยี่ยนจ้าวเกออย่างประหลาดใจ “จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋มอบวรยุทธ์ให้เราตอนไหน...เอ หรือว่าเป็นคัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิตกับบทสวดสายฟ้าทันใดที่อาจารย์ปู่ได้พบเจอโดยบังเอิญ?!”
“นั่นเป็นใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋จงใจสร้างสถานการณ์?” เฟิงอวิ๋นเซิงตอนแรกตื่นตระหนก จากนั้นก็เริ่มเข้าใจ “จริงด้วย คัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิตเป็นการสืบทอดกระแสตรงของบรรพกำเนิดที่ดั้งเดิมที่สุด!”
วรยุทธ์เดียวกัน เมื่อคนแต่ละคนมาฝึกฝนทำความเข้าใจ หลังจากไปถึงระดับล้ำลึก ต่างมีการถอดความและความเข้าใจของตัวเอง
ต่อให้จะเป็นลูกศิษย์ที่เรียนจากอาจารย์คนเดียวกัน แต่ละคนอาจมีความแตกต่างในการทำความเข้าใจต่อวรยุทธ์
หากพวกเขาไปถ่ายทอดให้แก่ลูกศิษย์ของใครของมัน สุดท้ายความแตกต่างอาจจะยิ่งมายิ่งมาก
ถึงจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามาจากสำนักเดียวกัน แต่ว่าสำนักเดียวกันไม่ได้หมายความว่ามีต้นกำเนิดเดียวกัน ย่อมมีความพิเศษเป็นของตัวเอง
การสืบทอดกระแสตรงสายบรรพกำเนิดที่ดั้งเดิมที่สุด ก็คือบันทึกที่เทวกษัตริย์บรรพกำเนิด บรมครูสายหยกพิสุทธิ์ได้สั่งสอนด้วยตัวเอง
ถึงแม้จะเป็นต้นกำเนิดเดียวกัน แต่ว่าหลักการของคัมภีร์นภานี้ไม่ได้สอดแทรกความเข้าใจของคนรุ่นหลัง ใกล้เคียงกับการอธิบายมหามรรคาของเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดมากที่สุด
จะฝึกฝนหรือศึกษาอย่างไร ขึ้นอยู่กับผู้มาทีหลัง ผลลัพธ์ที่ได้ก็ใช่ว่าจะเหนือกว่าคนอื่น
ทว่าหลักของคัมภีร์นภาเช่นนี้ต้องบริสุทธิ์ที่สุด ทั้งชี้ถึงแหล่งกำเนิดโดยตรง ใกล้เคียงกับความเข้าใจของตัวบรมครูเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดสายหยกพิสุทธิ์มากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ตอนอยู่ในโลกยมทะยาน โลกเบื้องล่างใต้การปกครองของโลกซ้อนโลกในจักรวาลสำนักเต๋า คัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิตที่หยวนเจิ้งเฟิงได้เข้าไปในนิวาสสถานเก่าแห่งหนึ่งแล้วได้มาเป็นตัวตนเช่นนี้เอง
หมายความว่าการบันทึกหลักการที่เกี่ยวข้องในคัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิต มาจากคนที่ได้ยินคำสั่งสอนของเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดด้วยตัวเองผู้หนึ่ง
บวกกับวิชาสายฟ้าบทสวดอัสนีทันใจ ตอนนั้นเยี่ยนจ้าวเกอสงสัยว่า คนที่มีความเป็นไปได้ที่จะทิ้งนิวาสสถานนั้นไว้มากที่สุด ก็คือจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ ราชาแห่งสายฟ้าเซียนทั้งมวล ผู้สืบทอดจริงแท้สายหยกพิสุทธิ์!
เพียงแต่ในเวลานั้น ข้อมูลเกี่ยวกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ และผู้ยิ่งใหญ่ในสำนักเต๋าสายหลักของคนอื่นๆ มีอยู่อย่างจำกัด เยี่ยนจ้าวเกอจึงไม่ได้คิดอะไรมาก
อาจเป็นที่อยู่อีกที่หนึ่งซึ่งจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ได้เหลือไว้ หยวนเจิ้งเฟิงกับเขากว่างเฉิงไปเจอเข้าพอดี?
ทว่าตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอยากจะคิดเช่นนี้แล้ว
ปัญหาที่ตอนนี้เขากำลังใคร่ครวญอย่างหนักก็คือ เขากว่างเฉิงหรือว่าเขาเยี่ยนก้าวเกอ ได้เข้าไปสู่สายตาของจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ตั้งแต่ตอนไหน?
ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นคัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิตหรือบทสวดอัสนีทันใจ อาจจะเป็นหมากของเขา เป็นการลงทุนล่วงหน้า เหมือนกับสิบเบี้ยใกล้มือ
จนกระทั่งวันนี้ เยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงผงาดขึ้นจริงๆ จึงค่อยรู้จักอย่างเป็นทางการ
ทว่าอีกฝ่ายเริ่มจับตาดูตนตั้งแต่เมื่อไหร่
เปลี่ยนเป็นคนอื่นคงไม่คิดมากขนาดนี้
ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอที่อดีตกลายร่างเป็นวิญญาณหอเก็บหนังสือวังเทพ และพินาศไปพร้อมกับวังเทพ แล้วค่อยเกิดใหม่เป็นมนุษย์หลังกาลเวลาอันแสนยาวนาน เขาไม่อาจไม่คิดมากเกี่ยวกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ผู้มีอำนาจในวังเทพซึ่งมีจำนวนงอนิ้วนับได้จริงๆ
ครั้งนี้ที่มาเจอจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ เดิมทีก็มีความคิดสืบความจริงอยู่แล้ว
สำหรับตอนนี้ สิ่งที่ได้มายังมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ตอนแรกเสียอีก
“ก่อนหน้านี้มีข้อสงสัยบางอย่าง แต่ไม่มีหลักฐาน” เยี่ยนจ้าวเกอส่งกระแสเสียงตอบเฟิงอวิ๋นเซิง “ทว่าสถานการณ์ในปัจจุบันนี้เกรงว่ามีความเป็นไปได้มากแล้ว”
ถึงแม้จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋จะไม่ยอมรับและไม่ปฏิเสธ อาจกำลังหลอกลวงเขาอยู่ แต่เยี่ยนจ้าวเกอสังหรณ์ว่าสามารถเชื่อถือได้
คิดทำความเข้าใจเส้นสนกลใน ยังจำเป็นต้องตรวจสอบเรื่องราวมากกว่านี้
“ตราประทับพระอาทิตย์กับมงกุฏจันทราถูกทิ้งไว้บนโลกแปดพิภพ ล้วนเป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้ว ตอนนั้นข้ากับท่านยังไม่เกิด” เฟิงอวิ๋นเซิงแม้จะกล่าวเช่นนี้ แต่น้ำเสียงแสดงถึงความกังขาอย่างชัดเจน “ยังมีข้ายังได้รับเปลือกร่างดาบราหูของราชันพระราหูมาอีก...”
เยี่ยนจ้าวเกออว่า “ตอนนี้เรามีสิ่งที่รู้จำกัด อย่าเพิ่งรีบสรุป”
คนทั้งสองจบการส่งกระแสเสียงสนทนา เยี่ยนจ้าวเกอมองราชันพระจันทร์หลิงชิงที่ด้านข้าง
ยามนี้หลิงชิงมองพวกเขาเช่นกัน สีหน้าราบเรียบ กลิ่นอายเย็นชา
“ต่อจากนี้ยังต้องรบกวนผู้อาวุโส” เยี่ยนจ้าวเกอออ่ยอย่างจริงจัง
“ก่อนที่เจ้าจะไปให้แจ้งข้าด้วย ข้าจะติดต่อใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋กับเกาหาน ดึงดูดความสนใจของแดนสุขาวดีบัวขาวแก่เจ้า” หลิงชิงพยักหน้า
เยี่ยนจ้าวเกอตอบ “นี่ย่อมแน่นอน”
เฟิงอวิ๋นเซิงคำนับแก่หลิงชิง “ผู้อาวุโสรักษาตัว”
คนทั้งสองบอกลาหลิงชิง เหาะร่างขึ้นด้านบน ออกจากเมฆดาราผืนนี้พร้อมกัน
หลังออกจากเมฆดารา คนทั้งสองเหาะกลับไปยังตำหนักโอสถ
ระหว่างทางย่อมยังคงระวังตัว ลบร่องรอยที่เหลือไว้ระว่างทาง หลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกคนแอบสะกดรอยตามมา
ต้องรักษาความระวังไว้ ต่อให้ไม่ระวังพวกจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋กับเกาหาน ก็ต้องระวังคู่ต่อสู้คนอื่นๆ
“ขวดวิเศษนี้มองไปเหมือนของล้ำค่าที่ใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋หลอมสร้างขึ้นด้วยตัวเอง” เยี่ยนจ้าวเกอรับขวดหยกสีดำจากในมือของเฟิงอวิ๋นเซิงมา ลูบไล้พิจารณา “วัสดุนี้ไม่ใช่สร้างจากวัตถุดิบอย่างเดียว แต่ว่าหลอมรวมดินวิญญาณหลายชนิด พร้อมทั้งเผากระดาษเซ่นหลอมจนสำเร็จ”
“ซู้ด…ข้างในยังมีดินจากนพยมโลก มีผลึกมารลี้ลับ มีศิลาวิญญาณนพยมโลก จุ๊ๆ มีของวิเศษที่แต่ในนพยมโลกหลอมอยู่ในนี้อย่างน้อยเจ็ดชนิด”
เยี่ยนจ้าวเกอส่ายหน้าเบาๆ “ด้วยความสามารถของใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋ ต้องการเก็บรวบรวมของล้ำค่าจำนวนมากขนดนี้ ก็ไม่อาจสำเร็จได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายสำหลับสามพิสุทธิ์สายหลักเช่นพวกเราอย่างหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่”
“นี่เป็นของล้ำค่าที่เตรียมไว้แต่แรก เพื่อใช้สนับสนุนการปฏิบัติการของราชันพระราหู?” เฟิงอวิ๋นเซิงพึมพำเบาๆ “รอหลังจากราชันพระราหูทำสำเร็จ ก็สามารถใช้ได้”
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “มิผิด เพียงแต่เป้าหมายในตอนแรกเป็นมารทองแก ไม่คิดว่าเจี่ยนซุ่นหวาจะตัดสินใจโดยพลการ ถึงกับลองขโมยอำนาจบารมีของมารสวรรค์ปัจฉิมธรรม”
“ดังนั้นขวดหยกสีดำนี้ ได้แต่ช่วยเจ้าทางอ้อม ไม่ได้มีผลขั้นเด็ดขาด ดังนั้นเจ้ายังจำเป็นต้องระวัง”
เฟิงอวิ๋นเซิงว่า “เรื่องนี้ข้าจะระวัง”
นางรับขวดหยกสีดำมาจากมือของเยี่ยนจ้าวเกอ พินิจอย่างละเอียด “กระนั้นเมื่อมีของล้ำค่านี้ช่วยเหลือ ต่อจากนี้จะได้ก้าวเท้าได้ไกลขึ้นอีกหน่อย และมีความกล้าเพิ่มขึ้นอีกนิดแล้ว”
………………..