ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1376 ครอบครัวที่มีชื่อ
สำหรับฟ้าเหนือฟ้า วารีสามแสงย่อมเป็นของวิเศษที่ต้องการอย่างเร่งด่วน
เป็นอย่างที่เกาหานว่า เมื่อมีของวิเศษชิ้นนี้ช่วยปิดบัง โถงเซียนกับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณยากจะตามหาร่องรอยที่อยู่ของชิ้นส่วนศิลาฟ้ากำเนิดมากกว่าเดิม
นอกจากนี้จุดหนึ่งที่สำคัญก็คือ เมื่อมีวารีสามแสงคอยช่วยเหลือ การคุกคามที่พวกฟู่ถิง เมิ่งหวาน เหอซีสิงต้องเจอ จะลดลงเล็กน้อย ลดโอกาสที่เทวกษัตริย์ไร้ประมาณจะชำระล้างข้ามมิติโดยตรง
ถึงแม้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะมีความคิดและการเตรียมการต่อสถานการณ์ของพวกฟู่ถิงอีกอย่างหนึ่ง แต่ถ้าสามารถล้อมคอกก่อนวัวหาย กำจัดการคุกคามได้ สุดท้ายก็ดีกว่าอยู่ดี
สำหรับจักรวาลฟ้าฟื้นที่เกิดจากตำหนักโอสถ กับฟ้าเหนือฟ้าที่อยู่ด้านใน แบบนี้จะปลอดภัยกว่าเดิม ซ่อนได้มิดชิดอีกขั้นหนึ่ง
ดังนั้นพอได้ยินชื่อวารีสามแสง เยี่ยนจ้าวเกอก็จิตใจสั่นไหวอยู่บ้าง
กระนั้นเขาไม่ได้รีบร้อนตัดสินใจ ถามคำถามหนึ่งก่อน
“อยู่ในมือสมณะศาสนาพุทธองค์ใด? พวกเราขอฟังชื่อได้หรือไม่?”
เกาหานได้ยินก็ยิ้มแย้ม “ข้าคิดว่าน่าจะเคยได้ยินมาก่อน มีชื่อว่านักบวชฮุ่ยอั้น”
“เหอะๆ…” เยี่ยนจ้าวเกอห้ามความคิดที่จะกลอกตาขาว “ย่อมเคยได้ยินมา”
นักบวชฮุ่ยอั้นมู่จา บุตรคนรองของหลี่จิ้งราชาเจดีย์สวรรค์ พี่ชายคนที่สองของนาจามหาเทพสมุทรตรีภพ
ได้กลายเป็นเซียนในยุคโบราณตอนต้น รับสืบทอดวิชาจากผู่เสียนจินหยินผู้สืบทอดกระแสตรงสายหยกพิสุทธิ์ เป็นลูกศิษย์รุ่นที่สามของสำนักอย่างถ่องแท้
เพียงแต่ภายหลังได้ติดตามผู่เสียนจินหยินเข้าสู่ศาสนาพุทธตะวันตก ผู่เสียนจินหยินกลายเป็นพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ มู่จากลายเป็นนักบวชในศาสนาพุทธ
ผู้สืบทอดกระแสตรงสายหยกพิสุทธิ์ที่เข้าสู่ศาสนาพุทธตะวันตกพร้อมกับผู่เสียนจินหยิน ยังมีเทวกษัตริย์เหวินซู่กว่างฝ่ากับสือหางจินหยิน ท่านแรกกลายเป็นพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ ท่านหลังกลายเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิม
ภายหลังในยุคโบราณตอนกลาง มู่จาได้เปลี่ยนไปเข้าสำนักของพระโพธิสัตว์กวนอิม กลายเป็นลูกศิษย์ของนาง เรียกว่า นักบวชฮุ่ยอั้น
ระหว่างยุคโบราณตอนต้นกับยุคโบราณตอนกลางมีสถานการณ์ที่สับสนคล้ายๆ กันอยู่ไม่น้อย เรื่องราวมากมายนอกจากผู้เกี่ยวข้องแล้ว มีไม่กี่คนที่ทราบถึงความจริง
สำหรับเยี่ยนจาวเกอ เรื่องของนักบวชฮุ่ยอั้นก็นับได้ว่าเป็นบัญชีที่ติดค้างอยู่
“ดังนั้นขอถามราชันพระอาทิตย์ ผู่เสียนจินหยินกับสือหางจินหยินปัจจุบันยังอยู่หรือไม่?” เยี่ยนจ้าวเกอมองเกาหาน
เพราะได้ยินว่าวารีสามแสงปรากฏขึ้นในมือของสมณะในศสสนาพุทธ จึงทำให้เยี่ยนจ้าวเกอไม่อาจไม่คิดมาก
ครั้งกระโน้นของวิเศษชิ้นนี้เป็นวัตถุที่มีอยู่ในตำหนักหยกอันเป็นที่บำเพ็ญของบรมครูเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดเท่านั้น หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว หากบอกว่ามีคนรุ่นหลังได้มาโดยไม่ได้ตั้งใจเพราะวาสนา ความเป็นไปได้นี้ไม่อาจบอกว่าไม่มี แต่มีอัตราความเป็นไปได้ต่ำเกินไป
เทวกษัตริย์เหวินซู่กว่างฝ่า ผู่เสียนจินหยิน ฉือเหิงจินหยิน ผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นผู้สืบทอดกระแสตรงสายหยกพิสุทธิ์ทั้งสาม ได้เข้าสู่ศาสนาพุทธตะวันตกหลังจากเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดหลุดพ้น ถ้าหากว่าเป็นพวกเขานำไปด้วย เช่นนั้นความเป็นไปได้ก็มีสูงกว่าเดิมเล็กน้อย
พอถามก็เป็นอย่างที่คาดจริงๆ
“ฉือหางจินหยินเป็นอย่างไรข้าไม่ทราบ แต่ว่าผู่เสียนจินหยินสมควรยังมีชีวิตอยู่” เกาหานตอบด้วยรอยยิ้ม
เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “เช่นนั้นไม่ทราบว่าราชันพระอาทิตย์สามารถบอกถึงสถานการณ์ของมหาเทพสมุทรตรีภพ ราชาเจดีย์สวรรค์ กับผู้พิทักษ์ธรรมฝ่ายหน้าเขาหลิงซานได้หรือไม่?
มหาเทพสมุทรตรีภพนาจา
ราชาเจดีย์สวรรค์หลี่จิ้ง
ผู้พิทักษ์ธรรมฝ่ายหน้าแห่งเขาหลิงซานจินจา
นักบวชฮุ่ยอั้นมู่จา
นี่นับว่าเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์
“ผู้พิทักษ์ธรรมฝ่ายหน้าเขาหลิงซานยังอยู่อยู่ที่แดนสุขาวดีอภิรดี หรือก็คือแดนสุขาวดีบัวขาวในปัจจุบัน” เกาหานสีหน้าเป็นปรกติ อธิบายฉะฉาน “ราชาเจดีย์สวรรค์เข้าสู่แดนสุขาวดีตะวันตก ส่วนที่อยู่ของมหาเทพสมุทรตรีภพ ขออภัยที่ข้าผู้แซ่เกาไม่ทราบ กำลังตรวจสอบอยู่”
“แต่ว่าในศึกการล่มสลายของวังเทพเมื่อครั้งวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ว่ากันว่าหลังจากมหาเทพสมุทรตรีภพสู้ถึงตอนท้าย เป็นไปไปได้อย่างยิ่งว่าจะพิทักษ์ธรรมถวายเป็นมงคลแล้ว”
คำว่าพิทักษ์ธรรมถวายเป็นมงคล เป็นการพูดคำว่าตายให้ดูดีขึ้น
เฟิงอวิ๋นเซิงขมวดคิ้ว มองดูเกาหาน
ต้องบอกว่าอีกฝ่ายไม่ได้วางแผนอะไรไว้ อะไรที่เสี่ยงกลับบอกออกมาโดยไม่ปิดบัง อธิบายรายละเอียดเป็นข้อๆ
แต่ถ้าอีกฝ่ายมีแผนการ นางฟังอย่างไรก็รู้สึกว่า ได้ขุดหลุมใหญ่ไว้แล้วหลุมหนึ่งไว้แล้ว กำลังล่อให้คนกระโดดเข้าไป
เยี่ยนจ้าวเกอคล้ายนึกอันใดออก “ราชันพระอาทิตย์คิดหยั่งเชิงหรือ?”
“ฉือเหิงจินหยินกับผู่เสี่ยนจินหยินถึงจะเข้าศาสนาพุทธ แต่ว่าก็มีความผูกพันกับสามพิสุทธิ์สายหลักของพวกเราอยู่บ้าง” เกาหานตอบด้วยรอยยิ้ม “ยิ่งไปกว่านั้น พวกเราเองก็เพียงแค่ต้องการวารีสามแสง ไม่ใช่ว่าต้องสร้างความลำบากแก่นักบวชฮุ่ยอั้น จะว่าไปนักบวชฮุ่ยอั้นก็เป็นผู้อาวุโสสำนักเต๋าของพวกเราเช่นกัน”
เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญครู่หนึ่ง เอ่ยปากถาม “ช่วงสถานการณ์ของทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างไรแล้ว? นักบวชฮุ่ยอั้นปรากฏตัวขึ้นที่ใด? ที่ที่เขาอยู่ ในแดนสุขาวดีตะวันตก เผ่าปีศาจ ไปจนถึงเส้นทางนอกรีตอีกสองที่มียอดฝีมือคนใดอยู่บ้าง?”
“โถงเซียนเส้นทางนอกรีต มีแดนเซียนสามพันแห่ง เสียไปแปดร้อย ตกไปอยู่ในน้ำมือของแดนสุขาวดีบัวขาว” เกาหานเอ่ย “แต่เมื่อเทียบกับเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่ทำให้โถงเซียนเจ็บปวดรวดร้าวที่สุดคือเซียนสวรรค์ทั้งสี่คนถูกสหายร่วมเส้นทางสั่วฆ่าตาย”
“โถงเซียนมีเทวกษัตริย์สิบสองคน จำนวนไม่แพ้พระพุทธเจ้าของแดนสุขาวดีบัวขาว สุดท้ายหลังจากถูกสหายร่วมเส้นทางสั่วฆ่าไปสี่ ในระยะเวลาอันสั้นไม่อาจชดเชยได้ นี่จึงเป็นปัญหาในวันนี้ของพวกเขาแล้ว”
“ทว่า ภายใต้การช่วยเหลือของแดนสุขาวดีตะวันตก โถงเซียนเส้นทางนอกรีตก็ตั้งหลักได้ใหม่ เริ่มช่วงชิงแดนเซียนแปดร้อยแห่งที่โดนยึดไป แดนสุขาวดีบัวขาวย่อมไม่ยอม มิหนำซ้ำยังหวังว่าจะรุดหน้าอีกขั้น สองฝ่ายตอนนี้อยู่ในสภาพยื้อยัน ไม่มีผู้ใดยอมแพ้ง่ายๆ”
เกาหานกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่เหนือความคาดหมายใหญ่โต พวกเขาคิดตัดสินแพ้ชนะ ยังอีกนานมาก”
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างราบเรียบ “มีสถานการณ์ในวันนี้ แผนการของราชันพระอาทิตย์ท่านอย่างน้อยก็ง่ายดายลงครึ่งหนึ่ง ข้าผู้แซ่เยี่ยนเลื่อมใส”
“ข้ามิกล้ารับจริงๆ” เกาหานส่ายหน้า “ข้าผู้แซ่เกามีการบำเพ็ญเพียรตื้นเขิน เพียงมีการศึกษาเพราะใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋ ยิ่งไปกว่านั้นที่สำเร็จในตอนสุดท้ายได้ ก็ต้องขอบคุณสาหยร่วมเส้นทางสั่ว”
เขามองเยี่ยนจ้าวเกอ แย้มยิ้มขึ้น “ในนี้ก็มีความดีความชอบของท่าน มีความดีความชอบของเหล่าสหายร่วมเส้นทางเช่นพวกสหายร่วมเส้นทางเซ่าที่หนุนเนื่องมา รวมทรายเป็นเจดีย์ สุดท้ายค่อยทำเรื่องใหญ่สำเร็จ ข้าผู้แซ่เกามิกล้าแอบอ้าง”
“ราชันพระอาทิตย์เกรงใจแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอสีหนาเฉื่อยชา
เกาหานหัวเราะโดยไม่ปฏิเสธและไม่ตอบรับ เอ่ยต่อ “นักบวชฮุ่ยอั้นไม่ได้อยู่บนพื้นที่ของโถงเซียน แต่อยู่ในมิติไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน พัวพันกับเซียนปีศาจส่วนหนึ่ง ใกล้ๆ ยังมียอดฝีมือคนอื่นๆ จากแดนสุขาวดีตะวันตกกับเผ่าปีศาจ ทว่าไม่มีพระพุทธเจ้าหรือมหาเทวะเผ่าปีศาจที่อยู่ในระดับเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลอยู่ด้านข้าง”
“คู่ต่อสู้ที่เขาเจอเป็นมหาเทวะตนใดบ้าง?” เยี่ยนจ้าวเกอถามโดยไม่แสดงสีหน้า
เกาหานตอบ “จากข่าวล่าสุดที่ข้าได้มา สามารถยืนยันได้ว่ามีเผ่ากระเรียน เผ่าวานร และเผ่านกเผิง”
“เช่นนั้นก็แปลกประหลาดแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอพูดด้วยสีหน้าเป็นปรกติ “ครั้งกระโน้นเซียนอวี่อี้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสายเหนือพิสุทธิ์แห่งเผ่านกเผิง เคยเสียท่าต่อหน้าวารีสามแสง”
เกาหานพยักหน้า “มิผิด ครั้งนี้เพื่อสะกดนกเผิง นักบวชฮุ่ยอั้นจึงนำวารีสามแสงออกมาเข้าร่วมสงคราม”
………………..