ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1403 โอสถลวงเซียน คาถากักขังเซียน
ม่านน้ำหลายสายพังทลายพร้อมกัน หลอมเข้าไปในแควธารสวรรค์
วินาทีนี้ แควของธารสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังถึงกับกลายเป็นสีเหลืองเข้มโดยสิ้นเชิง
บนธารน้ำสีเหลืองเข้ม ลมโรคาพัดเป็นระลอก หมอกดำลอยวนเวียน แม้แต่แสงจรัสที่เดี๋ยวลอยเดี๋ยวจมในแม่น้ำยังถูกกลบ ไม่เห็นร่องรอยชั่วขณะ
พอถูกธารน้ำสีเหลืองเข้มม้วนพัดและถูกลมโรคาหมอกดำเป่าใส่ หลี่ซิ่งป้ากับอนุเทวะเผ่ากระเรียนตนนั้นที่อยู่ด้านใน ต่างรู้สึกจิตใจเลอะเลือน คล้ายกับดื่มสุราจนมึนเมา
สำหรับเซียนกำเนิดสุญญตาที่ได้สัมผัสกับสัจธรรมแห่งมหามรรคาสองคน สภาพแบบนี้ผิดปกติถึงขีดสุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ทว่าวินาทีนี้กลับเกิดขึ้นตรงหน้าจริงๆ
ลมโรคาพัดหวีดหวิว เสียงมหามรรคาเหมือนกับเบาลง ถูกเสียงลมกลบไว้
พอถูกลมโรคานั้นเป่า โดนหมอกดำคลุม พวกหลี่ซิ่งป้าวิงเวียนศีรษะ เพียงคิดหลับไป
“ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้ง?!” หลี่ซิ่งป้ามองภาพตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ อดส่งเสียงร้องออกมาไม่ได้
เขาสำเร็จมรรควิถีในยุคสถาปนาเทพ เคยศึกษาร่ำเรียนในสำนักเหนือพิสุทธิ์ จะไม่รู้จักค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งที่มีชื่อเสียงดังกระฉ่อนของเจ้าแม่แห่งฟากฟ้าทั้งสาม ซึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่สายเหนือพิสุทธิ์ได้อย่างไร
แต่ว่าเป็นเพราะจำได้ เขาจึงตกใจกว่าเดิม
เทียบกับคนอื่นๆ เขาคุ้นเคยกับค่ายกลที่เลิศภพจบแดนนี้มากกว่า
ขณะมองลวดลายยันต์อาคมที่ลอยขึ้นในแม่น้ำสีเหลืองเข้มตลอดเวลา หลี่ซิ่งป้าหน้าดำจนกลายเป็นก้นหม้อ “คาถากักขังเซียน!”
ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งในตำนาน ในค่ายกลควบคุมไตรภาค บรรจุความวิเศษของฟ้าดิน
ด้านในยังมีโอสถลวงเซียนและคาถากักขังเซียน ทำให้เซียนเสียสติ พรากวิญญาณของเซียน ทำลายจุดกำเนิดของเทพเซียน สร้างความเสียหายต่อร่างของเทพเซียน
เก้าโค้งคดเคี้ยวไร้ทางตรง บิดงอความน่าอัศจรรย์แห่งธรรมชาติ เผยความลับของเทพเซียนจนหมดสิ้น
คาถากักขังเซียน กับโอสถลวงเซียนในนี้เป็นของสำคัญอันเป็นแกนหลัก คนอื่นๆ ยากจะสร้างเลียนแบบ ต้องเป็นเซียนผู้สืบทอดของเกาะสามเซียนจึงจะสร้างได้
ตอนเยี่ยนจ้าวเกอวางค่ายกลนี้บนโลกซ้อนโลก พลังฝึกปรือส่วนตัวยังต่ำ หนำซ้ำยังหลอมโอสถลวงเซียนไม่ได้ ทั้งเขียนคาถากักขังเซียนไม่ได้อีกต่างหาก ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งที่อาศัยชัยภูมิกางขึ้นมีดีแค่ชื่อเท่านั้น
ในปัจจุบัน เขาได้ผลักเปิดประตูเซียน สำเร็จร่างเซียน เงื่อนไขที่อดีตไม่มี ตอนนี้มีพร้อมแล้ว
แควธารสวรรค์ในขณะนี้ถึงแม้จะสู้สภาวะน้ำของธารสวรรค์ที่แท้จริงไม่ได้ แต่เมื่อเทียบกับสายน้ำธรรมดา สายหนึ่งอยู่บนฟ้า สายหนึ่งอยู่ใต้ดิน ต่างกันราวฟ้ากับเหว
ตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอกำลังมาถึงแควธารสวรรค์แห่งนี้ ก่อนที่จะตามหาที่ฝังสังขารของจักรพรรดิเจิดจรัส เขาจงใจหยุดเดินทางครู่หนึ่ง ใส่ยันต์วิญญาณที่เขียนคาถากักขังเซียนหลายใบไปด้านในแม่น้ำ เตรียมตัวไว้ก่อน
ก่อนหน้าที่เขากับเฟิงอวิ๋นเซิงจะเข้ามา ที่นี่ก็กลายเป็นถิ่นของเขาเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว!
ถึงตอนนั้นจะไม่ค้นพบร่องรอยของศัตรู แต่เยี่ยนจ้าวเกอยินดีเตรียมตัวไว้ก่อน ดีกว่ามาแก้ทีหลัง
ทั้งเป็นเพราะเฉินเฉียนหัวไม่ได้เข้ามาในแควธารสวรรค์ ไม่อย่างนั้นต่อให้เขามีมุกลวงตาเป็นจริงสักร้อยเม็ด ครั้งนี้เยี่ยนจ้าวเกอก็จะกดให้เขาจมน้ำตายในธารสวรรค์
เฉินเฉียนหัวรอดพ้นภัยพิบัติไปได้ หลี่ซิ่งป้ากลับหลีกหนีไม่พ้น
เยี่ยนจ้าวเกอนั่งขัดสมาธิอยู่ในค่ายกล มือหนึ่งทำมาสมุทรา อีกมือหนึ่งรองยาลูกกลอนสีแดงชาดเม็ดหนึ่ง
ในยาลูกกลอนมีหมอกสีแดงหลายสายลอยออกมา หลอมรวมกับแม่น้ำ
เมื่อมีเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ และวัตถุดิบยากับของวิเศษที่เหลืออยู่ในตำหนักโอสถอยู่บนมือ เยี่ยนจ้าวเกอใช้เพียงเวลาสั้นๆ ก็หลอมโอสถลวงเซียนสำเร็จแล้ว
ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งที่เขาวางขึ้นในตอนนี้จึงค่อยแสดงถึงความสามารถที่แท้จริง!
ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นเซียนกำเนิด สองฝ่ายมีความแตกต่างด้านระดับมากเกินไป หากเป็นเวลาอื่นเขาคงคิดว่าจะล่อพวกหลี่ซิ่งป้าเข้ามาในค่ายกลอย่างไรดี เพราะบนมือเขาก็ไม่มีของวิเศษอย่างถังทองกำเนิดโกลาหล
ทว่าตอนนี้อีกฝ่ายอยู่ในแควธารสวรรค์อยู่แล้ว ค่ายกลพอเปิดออกก็อยู่ในค่ายกลโดยธรรมชาติ
อุปสรรคสุดท้ายในการกางค่ายกลสู้ศัตรูของเยี่ยนจ้าวเกอหายไป ตอนนี้เขาย่อมทำอะไรก็ได้
ค่ายกลทำงานอย่างรุนแรง พลังอันแปลกประลาดแต่ก็เกรี้ยวกราดพุ่งใส่พวกหลี่ซิ่งป้าอย่างมืดฟ้ามัวดิน กำลังจะกลืนกินพวกเขา
‘เขาเกี่ยวข้องกับวังเทพเหมือนกับเกาหานหรือ’ หลี่ซิ่งป้าบ่นในใจ ‘ไม่อย่างนั้นเขาไปได้ผังค่ายกลของค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งมาจากที่ใด’
อนุเทวะเผ่ากระเรียนตนนั้นมีสายตาไม่ธรรมดาเช่นกัน จำความร้ายกาจของค่ายกลตรงหน้าได้ บัดนี้มองหลี่ซิ่งป้าด้วยความคับข้องกว่าเดิม “ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้ง?! ทำไมไม่เคยได้ยินพวกท่านบอก?”
“คิดหาวิธีก่อนค่อยว่ากล่าว” หลี่ซิ่งป้าลนลาน ยกมุกผ่าดินขึ้น คิดทะลวงออกจากค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้ง
ทว่าแควธารสวรรค์เป็นน่านน้ำอันกว้างใหญ่ ไหนเลยจะทะลวงออกไปง่ายดายปานนั้น
ลมโรคาส่งเสียงโหยหวน หมอกดำม้วนพัด ลดพลังของหลี่ซิ่งป้าอย่างต่อเนื่อง ล่อลวงกักขังจิตใจของเขา
ที่โชคดีก็คือ ดวงดาวมากมายลอยจมอยู่ในธารน้ำ ถึงจะได้รับผลกระทบจากค่ายกล แต่สุดท้ายก็ยังเคลื่อนไหว
หลี่ซิ่งป้ากับปีศาจกระเรียนตนนั้นอาศัยแสงดาวสลัว ฝืนแยกแยะทิศทางอย่างทุลักทุเล
น่าเสียดายภายใต้การควบคุมค่ายกลของเยี่ยนจ้าวเกอ สภาวะน้ำเปลี่ยนแปลง มิติเวลาสับสน ทำให้พวกหลี่ซิ่งป้าไม่อาจทะลวงออกจากค่ายกล
ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งลดพลัง แสงสว่างหย่อมหนึ่งบนศีรษะของหลี่ซิ่งป้าเริ่มมัวหม่น จนกระทั่งหายไปในท้ายที่สุด
เขาทั้งร้อนรน ทั้งหวาดกลัว ทั้งโมโห เดือดดาลจนลมออกหู แต่กลับทำอะไรไม่ได้
ปีศาจกระเรียนตนนั้นมีสถานการณ์เช่นเดียวกัน โดนพลังของค่ายกลทำลายวิญญาณและกายเซียน ตกใจระคนโมโห “ทำอย่างไรดี หากเป็นแบบนี้ต่อไป สถานการณ์รังแต่จะย่ำแย่ ถ้าสลบไสลไปเช่นนี้ การบำเพ็ญเพียรนับพันปีจะเสียเปล่าหมดสิ้น!”
“เขาเป็นแค่เซียนจริงแท้ แม้กางค่ายกลได้ แต่คิดรับมือเซียนกำเนิดสองคนอย่างพวกเราคงไม่ง่ายดายขนาดนั้น” หลี่ซิ่งป้าฝืนทำให้ตัวเองใจเย็นลง “หากเอาแต่วนอยู่ในค่ายกล ออกไปไม่ได้ จะช้าจะเร็วพวกเราคงล้มลงที่นี่ มีแต่ต้องทำลายตาค่ายกล จึงมีโอกาสพลิกจากแพ้เป็นชนะ อย่างน้อยสุดก็หาวิธีออกไปได้”
หลี่ซิ่งป้าชี้แสงดาวที่บัดเดี๋ยวสว่างเดี๋ยวหายด้านในแม่น้ำสีเหลืองเข้ม “ไปตามแสงดาว แสงดาวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พวกเราไม่อาจออกจากค่ายกล แต่ต้องตั้งใจหาที่ที่ไม่มีแสงดาว ที่ที่แสงดาวเข้าใกล้ไม่ได้ก็คือที่อยู่ของตาค่ายกล มารผจญน้อยนั่นสมควรอยู่ที่นั่น!”
สองคนกัดฟันกรอด อดทนต่อการลดกำลังอย่างต่อเนื่องของหมอกโรคาและหมอกดำในแม่น้ำเหลืองเก้าโค้ง ไม่คิดออกจากค่ายกลอีกต่อไป แต่มุ่งหน้าไปยังตาค่ายกลแทน
ครั้งกระโน้นในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอวางค่ายกลนี้บนโลกซ้อนโลกเป็นครั้งแรก คู่ต่อสู้ที่ติดอยู่ในค่ายกลก็เลือกใช้วิธีการรับมือคล้ายๆ กัน เป็นการตัดสินใจในสภาพจนตรอก
พวกหลี่ซิ่งป้ากระตุ้นแก่นเซียนและแก่นมารของตัวเอง รักษาสติให้กระจ่างแจ้ง เคลื่อนไหวไปในทางตรงกันข้ามกับที่แสงดาวชี้ ในที่สุดก็มาถึงตำแหน่งตาของค่ายกล
ร่างของเยี่ยนจ้าวเกอปรากฏขึ้นในคลองจักษุของพวกเขา
กระนั้น ไม่รอให้พวกเขาดีใจ เยี่ยนจ้าวเกอก็หัวเราะเหอะๆ “มาได้ดี”
เขาพูดพร้อมกับยกมือซ้ายมือขวาขึ้น มือแต่ละข้างบี้โอสถลวงเซียนสีแดงชาดเม็ดหนึ่ง
พร้อมกับที่เยี่ยนจ้าวเกอยกมือ ยาลูกกลอนสีแดงชาดหลุดลอยออกจากมือ ถูกลมโรคาหมอกดำห่อหุ้ม ถูกแม่น้ำสีเหลืองเข้มซัดไปกระแทกใส่หน้าผากของหลี่ซิ่งป้ากับปีศาจนกกระเรียน!
คนทั้งสองร้องโอย พากันกระเด็นไปด้านหลัง
ขณะที่วิงเวียน หลี่ซิ่งป้ารู้สึกว่าแก่นเซียนของตัวเองทะลักออก กลายเป็นวายุเซียนกระจัดกระจาย