ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1417 ชิงโอกาส
“สถานการณ์ที่ดีที่สุดย่อมเป็นก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสฉู่พเนจรคนเดียว ไม่มีอันตรายใดๆ” เยี่ยนจ้าวเกอใช้นิ้วนวดขมับของตัวเองเบาๆ “แต่พวกเราก็ต้องคิดในแง่ร้ายที่สุดเอาไว้ด้วย”
เนี่ยจิงเสินมองอวี่เยี่ย “มีเรื่องที่กะทันหันเช่นนี้ หยุดการประลองของพวกเราชั่วคราวดีหรือไม่”
“ย่อมได้อยู่แล้ว” อวี่เยี่ยพยักหน้า “ข้าเคยพบกับผู้อาวุโสฉู่ในมรกตท่องฟ้าครั้งหนึ่ง หวังว่าฟ้าจะช่วยคุ้มครองนาง”
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “เรื่องราวเบาะแสในเมื่อเกี่ยวกับราชันพระอาทิตย์ ทางจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋สมควรทราบเรื่องแล้ว พวกเราแยกกันไปติดต่อกับผู้อาวุโสสั่วกับเจ้าแม่อู๋ตังก่อน”
อวี่เยี่ยตอบ “ข้าจะส่งข่าวกลับมรกตท่องฟ้าทันที”
จากนั้นทุกคนก็แยกกันไปทำหน้าที่ เยี่ยนจ้าวเกอไปตามหาสวีเฟย
สองคนพอพบหน้า หลังจากเยี่ยนจ้าวเกออธิบายสถานการณ์ สวีเฟยก็ถามอย่างใจเย็น “เจ้าคิดจะทำอย่างไร”
“สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคืออีกฝ่ายทำให้พวกเราพะว้าพะวงเพราะมารน้ำกุ่ยกับมารดินโบ่วเคลื่อนไหวพร้อมกัน” เยี่ยนจ้าวเกอตอบอย่างเยือกเย็น “พวกเราคิดดูแลทั้งสองด้านจะกลายเป็นว่าจำนวนคนกับกำลังลดลง มอบโอกาสยิงเกาทัณฑ์ดอกเดียวได้เหยี่ยวสองตัวให้แก่อีกฝ่าย เรื่องที่ศัตรูต้องการกระทำก็เป็นเรื่องที่พวกเราต้องหยุดไว้ให้ได้”
เยี่ยนจ้าวเกอพูดพลางกวักมือ เดินไปด้านนอก สวีเฟยติดตามด้านข้าง คนทั้งสองมุ่งหน้าไปยังตำหนักโอสถ
ครู่ต่อมา อาหู่ที่ได้รับคำสั่งของเยี่ยนจ้าวเกอก็นำสือจวินกับโลงศพน้ำแข็งที่บรรจุร่างของอิ๋งอวี่เจินมาถึงตำหนักโอสถเช่นกัน
ภายใต้การนำของเยี่ยนจ้าวเกอ ทุกคนเข้าไปในห้องโอสถแกนกลางซึ่งอยู่ด้านในตำหนักโอสถ
เยี่ยนจ้าวเกอสูดลมหายใจลึกเฮือกหนึ่ง กระแทกฝ่ามือใส่ตรงกลางพื้นห้อง จากนั้นก็เห็นลำแสงหลายสายพุ่งออกมาจากใจกลางฝ่ามือของเขา แล้วขยายไปรอบๆ คลุมห้องลับไว้เหมือนระลอกน้ำ ลวดายอาคมหลายายเคลื่อนไหวไม่หยุด แผ่กระจายเต็มพื้นถี่ยิบ
หลังจากสั่งสือจวินอีกหลายประโยค เขากับอิ๋งอวี่เจินก็รั้งอยู่ในห้อง พวกเยี่ยนจ้าวเกอถอยออกมา
“ถ้าเป็นเช่นนี้จะถูกอีกฝ่ายยืนยันตำแหน่งตำหนักโอสถและจักรวาลฟ้าฟื้นได้ง่ายๆ จนเกิดการประสานในนอกหรือไม่” สวีเฟยถามขึ้น
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “เว้นเสียแต่ว่ามารสวรรค์ไร้พันธนาจะลงมือด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นในเวลาอันสั้นไม่มีอันตรายอันใด มันอยากลงมือวู่วาม บรรพบุรุษมรรคาคนอื่นๆ ไม่อนุญาต”
เขาพ่นลมหายใจยาว “ตกอยู่ด้านหลังหนึ่งก้าว แล้วตกอยู่ด้านหลังอีกหลายก้าว อีกฝ่ายชิงโอกาสลงมือได้แล้ว พวกเราคิดออกทีหลังหากถึงก่อน พลิกจากแพ้เป็นชนะมีความเสี่ยงบางอย่างที่จำเป็นต้องเสี่ยง”
“พวกเจ้ากับอาจารย์อาเจ้าสำนักต้องระวังให้มาก” สวีเฟยพยักหน้าอย่างเงียบๆ
“ข้าจะระวัง” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “ก่อนจะมาที่นี่ ข้าได้แจ้งให้ท่านแม่มาจากหุบเขาเจิดจรัสแล้ว ต่อจากนี้ยังมีนางดูแลตำหนักโอสถแทนข้า เมื่อมีพลังของตำหนักโอสถคอยช่วยสะกด ข้าเชื่อว่าสามารถถ่วงเวลาได้ระยะหนึ่ง”
สวีเฟยส่งเขาออกไป “ท่านแม่เจ้ามีระดับค่ายกลล้ำเลิศ ทั้งยังเพิ่งเลื่อนสู่ระดับประมุข แสดงพลังออกมาได้มากกว่าเดิม มีนางคอยดูแลย่อมประเสริฐยิ่ง”
เยี่ยนจ้าวเกอบอกลาสวีเฟย ก่อนจะรวมตัวกับเฟิงอวิ๋นเซิงแล้วออกจากฟ้าเหนือฟ้า ผละไปจากจักรวาลฟ้าฟื้น เข้าสู่มิติไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน
คนทั้งสองข้ามเขตแดนของมิติมากมาย มุ่งหน้าไปตามเบาะแสที่เยี่ยนตี๋กับเฉินเสวียนจงได้ทิ้งเอาไว้ เพื่อรวมตัวกับพวกเขา
ในมิติยากจะทราบเวลา พวกเยี่ยนจ้าวเกอเหาะอยู่นาน จิตใจพลันสั่นไหว หลบออกมาจากร่องแยกมิติสองชั้น
พร้อมกับการปรากฏตัวของเขา ในมิติอันมืดมิดก็มีเงาร่างสายหนึ่งโผล่ออกมา เป็นเฉินเสวียนจง ราชันพระพุธ
“บิดาเจ้าไปตามหาหลีหลีแล้ว” หลังจากเจอกันเฉินเสวียนจงก็ไม่พร่ำพิไร กล่าวตรงๆ “พวกเจ้าไปรับเขาเถอะ ข้าจะไปยังดินแดนพันเกล็ดตามแผนการก่อนหน้า”
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ผู้อาวุโสได้โปรดวางใจ พวกเราจะคุ้มครองผู้อาวุโสฉู่ไปหาท่าน”
สำหรับเฉินเสวียนจง ย่อมใคร่จะตามหาเจี่ยหมิงคงกับฉู่หลีหลี ทว่าตอนนี้เมื่อมีตำแหน่งของฉู่หลีหลีแล้ว เขากลับต้องสะกดตัวเอง ไม่อาจเคลื่อนไหววู่วาม เพราะนั่นเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นหลุมพรางที่นพยมโลกจงใจวางไว้
ตอนนี้อีกฝ่ายปล่อยฉู่หลีหลีออกมา อธิบายได้ว่าเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ถ้าเกิดฉู่หลีหลีกับเฉินเสวียนจงรวมตัวกัน บางทีอาจเป็นวินาทีที่มารน้ำกุ่ยจะเคลื่อนไหวโต้ตอบ
ดังนั้นถึงจิตใจจะร้อนรน แต่เฉินเสวียนจงต้องรักษาความใจเย็น ให้เยี่ยนตี๋ เยี่ยนจ้าวเกอ กับเฟิงอวิ๋นเซิงที่ตามมาทีหลังไปตามหาฉู่หลีหลี ส่วนตัวเขามุ่งหน้าไปยังอีกสถานที่หนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นเฉินเสวียนจงหรือว่าพวกเยี่ยนจ้าวเกอต่างมีความคิดคล้ายๆ กัน นั่นคือไม่ยอมให้นพยมโลกจูงจมูก จะต้องชิงโอกาสรุกมาให้จงได้
ดังนั้นหลายปีมานี้ ตอนที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอกับเฉินเสวียนจงออกไปตามหาฉู่หลีหลีและเจี่ยหมิงคง ก็วางแผนการของตัวเองในที่ลับมาโดยตลอด
ตอนที่เฉินเสวียนจงท่องอยู่ในมิตินอกเขตแดนไร้สิ้้นสุด เขาเจออวกาศแปลกประหลาดแห่งหนึ่ง ชื่อว่าดินแดนพันเกล็ด ณ ที่แห่งนั้น ทุกคนดำเนินแผนการทุกอย่าง
ดินแดนพันเกล็ดในปัจจุบันเรียกว่าเป็นถิ่นของพวกเยี่ยนจ้าวเกอได้ในระดับหนึ่ง
“ที่อยู่ของหมิงคงยังไม่ชัดเจน...” เฉินเสวียนจงมองจักรวาลที่ว่างเปล่า ดวงตาสั่นไหว สุดท้ายกลายเป็นเสียงถอนใจ “อีกเดี๋ยวพวกเราค่อยเจอกัน”
เยี่ยนจ้าวเกอใช้สายตาส่งแผ่นหลังของเฉินเสวียนจงออกห่าง ถอนใจคำหนึ่ง “ถ้าหากว่าการคาดเดาก่อนหน้าของกษัตริย์ดาราไม่ผิดพลาด หลายปีมานี้จักรพรรดินีไม่มีข่าวคราวมาโดยตลอด ความจริงนางกำลังตามหาผู้อาวุโสฉู่ด้วยตัวเองอยู่ ถ้าหากผู้อาวุโสฉู่ตกไปอยู่ในมือของนพยมโลกมาก่อนหน้านี้ สถานการณ์ของจักรพรรดินีก็เกรงว่าจะน่าเป็นห่วง พวกเราจำเป็นต้องระวังไว้ด้วย”
เขาส่ายหน้า “แน่นอนว่านี่เป็นการคิดในแง่ร้ายที่สุด หวังว่าจะไม่ถึงขั้นนั้น”
“พวกเราไปเถอะ ไปรับอาจารย์อาเจ้าสำนักกับผู้อาวุโสฉู่” เฟิงอวิ๋นเซิงพยักหน้าเงียบๆ
คนทั้งสองได้รับการชี้ทางจากเฉินเสวียนจง เข้าไปในมิติเวลาอีกทาง ออกตามหาเยี่ยนตี๋
เยี่ยนจ้าวเกอย่อมไม่ได้ตัดขาดข่าวสารกับบิดาของตน แต่ว่าคิดจะติดต่อกันในมิตินอกเขตแดนไร้สิ้นสุดก็ไม่ง่ายจริงๆ
วกไปวนมาอีกรอบหนึ่ง พวกเยี่ยนจ้าวเกอในที่สุดก็เจอตัวเยี่ยนตี๋
ตอนนี้เยี่ยนตี๋กำลังอยู่รอบนอกแถบเศษหินทะเลดาวผืนหนึ่ง
“คนอยู่ด้านใน” เยี่ยนตี๋สัมผัสได้ว่าพวกเยี่ยนจ้าวเกอมาถึง ไม่ได้หันหน้ากลับมา เอ่ยปากขึ้นทันที
เยี่ยนจ้าวเกอหันไปมองเฟิงอวิ๋นเซิง นางในดวงตามีแสงมารสีดำแกมน้ำเงินสว่างขึ้น เคลื่อนไหวอย่างเงียบงัน
ครู่ต่อมาเฟิงอวิ๋นเซิงก็ส่ายหน้าเบาๆ “ยังไม่เห็นว่ามีมารตนอื่นอยู่ใกล้ๆ”
คนทั้งสามเข้าไปในแถบเศษหินผืนนี้ เคลื่อนไหวอยู่ด้านในไปจนถึงอาณาเขตแกนกลาง จากนั้นก็หยุดฝีเท้า
บนก้อนหินที่เสียหายขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางหนึ่งหมู่[1]มีเขาหิน ใต้เขาเป็นถ้ำ
พวกเยี่ยนจ้าวเกอเข้าไปด้านใน เห็นสตรีนางหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ด้านใน ไม่ส่งเสียงหรือเคลื่อนไหว หลับตาพริ้มเหมือนกับนิทรา
ลวดลายมารเส้นหนึ่งตั้งอยู่บนหน้าผากของนาง สาดแสงสีฟ้าออกมา นางย่อมเป็นฉู่หลีหลีที่ไม่ได้เจอมาหลายปี
ตอนนี้นางที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง ใบหน้ายังคงอ่อนเยาว์ ราวกับเด็กสาวอายุสิบห้าสิบหกปี
แต่ว่าเมื่อเทียบกับสตรีที่มีชีวิตชีวาในวันวานแล้ว ตอนนี้นางกำลังใช้สมาธิทั้งหมดไปกับการต่อต้านสำนึกมาร ไม่ตอบสนองต่อตัวเองและโลกภายนอก
………………..
[1] 1 หมู่ เท่ากับ 666.67 ตารางเมตร