ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1427 กระจกพันเกล็ด หน้าไม้ยิงดาว!
เกาชิงเสวียนเป็นศิษย์สายตรงของกษัตริย์เถา ในตอนยังเด็กกษัตริย์เถารับเข้าสำนักร่ำเรียนวิชาต่างๆ
ถึงนักพรตอวิ๋นเจิ้งจะไม่ใช่ผู้สืบทอดของกษัตริย์เถา แต่ตอนที่ระดับยังต่ำก็ได้รับการชี้แนะจากนาง
ความจริงไม่เพียงแต่นักพรตอวิ๋นเจิ้งเท่านั้น ยอดฝีมือที่อยู่บนมรกตท่องฟ้าในปัจจุบันต่อให้ไม่ใช่ศิษย์ของกษัตริย์เถา แต่ส่วนใหญ่ก็มีประสบการณ์คล้ายๆ กัน ได้รับการชี้แนะจากกษัตริย์เถา
ดังนั้นผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์บนมรกตท่องฟ้า ไม่ว่าจะเป็นผู้สืบทอดของกษัตริย์เถาหรือไม่ ล้วนเรียกนางว่า ‘บูรพาจารย์อาวุโส’
ตอนนี้เห็นกษัตริย์เถาถูกพันธนาการไว้เพราะนพยมโลก เยี่ยนตี๋ หลงซิงเฉวียน ไปจนตลอดหลิงชิงต่างจิตใจหนักอึ้ง
“ข้าได้รับความอัปยศนี้ เพียงแค้นที่ไม่อาจฆ่าตัวตาย ไหลเลยจะกลัวตาย” เวลานี้กษัตริย์เถากลับเอ่ยอย่างราบเรียบ “พวกเจ้าแก้แค้นให้ข้าก็พอแล้ว”
สีหน้าแม้สงบนิ่ง แต่น้ำเสียงแน่วแน่ ไม่มีที่ให้ปรึษาหารือ แข็งกร้าวถึงขีดสุด
แค่เห็นผู้ชรามีสายตาสงบนิ่งไร้ความสั่นไหว ก็ทราบถึงความมั่นคงทางจิตใจของนางในตอนนี้แล้ว
ไม่ว่าใครต่างดูออกว่าตอนนี้กษัตริย์เถามีความคิดตายจริงๆ ไม่คาดหวังถึงความโชคดีและการประนีประนอมแม้แต่น้อย
“เพราะฉะนั้นเมื่อครู่ข้าถึงพูดว่ามีอาจารย์แบบไหนก็มีศิษย์เช่นนั้นจริงๆ” จอมมารตนนั้นหัวเราะเหอะๆ “แต่ถึงแม้จะสนองความแข็งกร้าวของเจ้าและสามารถแก้แค้นข้าให้แก่เจ้าได้ ศิษย์ของเจ้าเกรงว่าจะคับแค้นเสียใจกระมัง เจ้าจะยอมได้อย่างไร ทั้งๆ ที่สามารถจัดการเรื่องราวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ต่างฝ่ายต่างยินดี หรือว่าจะไม่ดีหรือ”
กษัตริย์เถาได้ยินก็กล่าวอย่างเย็นชา “ถอยแล้วถอยอีก ทำให้เจ้ามีโอกาสสยบศิษย์ในสำนักของข้า และกระทำทุกสิ่งได้ตามใจ ข้ามิสู้สละชีวิตนี้ เพียงแต่ขอให้พวกชิงเสวียนสามารสังหารเจ้าเซ่นสรวงหญิงชราเช่นข้าได้!”
แสงดาวสีแดงชาดวนเวียน พญามารตนนี้ไม่มีโทสะ หัวเราะฮ่าๆ กล่าว “จะทำได้อย่างไร ข้าบอกแล้วว่าไม่คาดหวังให้พวกเจ้าช่วยนพยมโลก ขอแค่พวกเจ้าไม่ขัดขวางการต้อนรับใต้เท้าดินโบ่วและน้ำกุ่ยของพวกเราก็เพียงพอแล้ว ผู้สืบทอดกระแสตรงสายเหนือพิสุทธิ์มีผู้ฝึกกระบี่เป็นส่วนใหญ่มีนิสัยทะนงตน ยอมหักไม่ยอมงอ ที่แล้วมาข้านับถือยิ่ง ไม่ต้องการได้ออะไรมากกว่านี้แล้ว”
กษัตริย์เถาถูกขังอยู่ในดวงดาวสีแดงชาด แค่นเสียงกล่าว “มารร้ายนพยมโลกเชื่อถือได้หรือ”
“อย่างน้อยข้าก็เชื่อถือได้” จอมมารตนนั้นพูดกับเกาชิงเสวียนและนักพรตอวิ๋นเจิ้ง “พวกเจ้าลองคิดดูก่อนเป็นไร ถึงอย่างไรเฉินเสวียนจงกับฉู่หลีหลีก็ไม่ใช่คนในสายสืบทอดของพวกท่าน การสละชีวิตของฆราวาสเถาม่วงผู้นี้เพื่อพวกเขาคุ้มค่าหรือ”
ขณะที่จอมมารกำลังพูดอยู่ พลันได้ยินกษัตริย์เถาตวาดด้วยความโมโห “อย่ามาเล่นลิ้น เจ้าเอาชีวิตข้าไปก็พอ พวกเราไหนเลยจะรับการข่มขู่จากเจ้า…”
พูดยังไม่ทันจบ เสียงพลันหายไป
ถึงแม้ยังคงเห็นเงาร่างของกษัตริย์เถา แต่ว่าเสียงกลับถูกแสงดาวสีแดงชาดกั้นไว้ ไม่ดังลอดออกมา
จอมมารตนนั้นหัวเราะเหอะๆ “ช่างกล้าหาญและแข็งกร้าวนัก แต่ว่าความเป็นความตายของนางตอนนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวนางแล้ว แต่เป็นพวกเจ้าตัดสิน ยังไม่เอ่ยถึงว่าพวกเจ้ามีปัญญาสังหารข้าแก้แค้นให้นางหรือไม่ ต่อให้กระทำได้ แล้วคุ้มค่าหรือ คนเมื่อตายไม่อาจคืนชีพ สังหารข้าไปก็ไร้ประโยชน์ พวกเจ้าไม่ใช่ไม่มีโอกาสช่วยนาง นี่มีอันใดต้องลังเลกัน”
พญามารตนนั้นชักแม่น้ำทั้งห้า คิดโยกคลอนจิตใจอันแน่วแน่ของเกาชิงเสวียนกับนักพรตอวิ๋นเจิ้ง
ขณะเดียวกัน การโจมตีค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายกับดินแพนพันเกล็ดของจอมมารตนอื่นๆ ก็ไม่ได้ขาดตอน สองฝ่ายยังคงสู้กันอย่างดุเดือด
เหล่ามารของนพยมโลกร่วมมือกัน ในตอนโจมตีตั้งใจเพิ่มแรงกดดันให้หลิงชิง เยี่ยนตี๋ และหลงซิงเฉวียน ผ่อนคลายทางด้านเกาชิงเสวียนและนักพรตอวิ๋นเจิ้ง
ทว่าความจิง ในตอนนี้พวกมันกำลังสังเกตสภาพของพวกเกาชิงเสวียน
หากว่าสองคนเกิดความหวั่นไหว การแสดงออกสับสน การลงมือผ่อนช้าลง จอมมารเหล่านี้ยินดีฉกฉวยโอกาส
ขณะพญามารที่เหมือนกับดวงดาวสีแดงเลือดตนนั้นจับตาดูคนห้าคนในค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลาย ก็คอยระวังเยี่ยนจ้าวเกอเช่นกัน
ถ้าหากว่าเกาชิงเสวียนกับนักพรตอวิ๋นเจิ้งถอยออกไปจริงๆ อีกสามคนที่เหลือก็ไม่อาจคงสภาพค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายได้ต่อ
ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีชื่อเสียงโด่งดัง ระดับพลังฝึกปรือถึงจะยังต่ำ แต่ถ้าหากว่าเสริมได้ทันก็อาจจะกางค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายพร้อมเยี่ยนตี๋ เกาซิงเฉวียน และหลิงชิงได้อีกครั้ง
ถึงเวลาเมื่อมีค่ายกลช่วยเหลือ แม้เขาจะเป็นเซียนจริงแท้ เหล่ามารก็มิกล้าดูแคลน
“ถ้าหากว่าผู้ใช้กระบี่สองคนนั้นถอยออกไปจริงๆ จงโจมตีใส่ทันที ฉีกค่ายกลออกให้หมด ไม่ให้โอกาสเยี่ยนจ้าวเกอนั่นเสริมทัน” เหล่ามารลอบสนทนากันอย่างรวดเร็ว
ทว่าในตอนนั้นเอง เยี่ยนจ้าวเกอที่พวกมันจับตาดูอยู่พลันเคลื่อนไหวแล้ว
“เป็นอย่างที่เจ้าว่า วิกฤตการณ์ของกษัตริย์เถาในตอนนี้เป็นพวกเราตัดสินจริงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้ามองดวงดาวสีแดงเลือดขนาดมหึมากลางความว่างเปล่าอันมืดมิด “วาจาของเจ้า ยิ่งเชื่อไม่ได้”
เขาลอบเปลี่ยนแปลงมุทราฝ่ามือ ตอนนี้เตรียมตัวเสร็จแล้ว
ในขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยปาก ดินแดนพันเกล็ดข้างใต้เขาพลันเกิดความเปลี่ยนแปลง!
ลำแสงนับพันนับหมื่นสายกระเพื่อมขึ้นลงอยู่กับเหมือนกับปลาหลี่ฮื้อกระโดดออกจากน้ำ ตอนนี้พลันหยุดนิ่งลงในชั่วอึดใจหนึ่ง
ลำแสงเคลื่อนไหวไม่หยุด เหมือนกับเปลี่ยนจากสายน้ำเป็นน้ำแข็งในพริบตา
ลำธารแสงสว่างที่ทอดยาว วินาทีนี้เหมือนกับธารน้ำแข็งเส้นหนึ่ง ผิวน้ำแข็งหักเหแสงสว่าง
ลำแสงทุกสายต่างผนึกรวมกลายเป็นผิวกระจกทรงขนมเปียกปูน
จากนั้นกลางผิวกระจกทั้งหมดต่างมีลำแสงหนึ่งกลายเป็นรังสีด้านนอก แล้วข้ามค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลาย ส่องใส่ดวงดาวสีแดงเลือดนั้นในชั่วพริบตา!
หมื่นสายกลับคืนสู่จุดมุ่งหมาย เส้นแสงนับพันนับหมื่นรวมตัวกันเป็นจุดเดียวบนดวงดาวสีแดงเลือดนั้น
จอมมารที่เหมือนกับดวงดาวสีแดงเลือดแตกตื่น ถูกเส้นแสงนับพันนับหมื่นสายยิงใส่
พญามารตนนี้ไม่ต้องทายก็ทราบว่าเป้าหมายของเยี่ยนจ้าวเกอเป็นกษัตริย์เถา จึงเคลื่อนไหวในทันที
แต่จุดที่แสงกระจกรวมตัวเป็นตำแหน่งที่กษัตริย์เถาหลี่อิงอยู่ แสงกระจกนับพันนับหมื่นพอสาดส่อง ถึงกับยิงทะลุร่างของจอมาร หยุดแสงดาวสีแดงเลือดที่อยู่รอบๆ ตัวกษัตริย์เถา
พญามารนั้นโคจรแก่นมารของตัวเอง ถึงกับรู้สึกติดขัด ร่างกายราวกับเป็นอัมพาต
‘ดินแดนพันเกล็ดกดข่มพวกเรา แต่ข้ายังไม่ได้เข้าไปด้านใน เยี่ยนจ้าวเกอผู้นี้ถึงกับชักนำพลังของดินแดนพันเกล็ดออกมา!?’ สถานการณ์พลันอยู่เหนือความคาดหมาย จอมารตนนั้นคิดจะพุ่งตัวไปด้านหลัง
จอมมมาตนอื่นหนุนเนื่องมา หมายจะตัดแสงกระจกนับพันนับหมื่นที่รวมศูนย์นั้น
แต่เยี่ยนจ้าวเกอยื่นมือหนึ่งออกมา ชักมือหนึ่งกลับ ทำท่าขึ้นเกาทัณฑ์ เล็งที่ดวงดาวสีแดงเลือด
“นี่เดิมทีเป็นวิธีการช่วยเหลือที่เผื่อเอาไว้ป้องกันกรณีที่จักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงตกไปอยู่ในมือพวกเจ้า ถึงตัวประกันจะเปลี่ยนแปลง อยู่เหนือความคาดหมายของข้า แต่หวังว่ายังคงใช้ได้”
เยี่ยนจ้าวเกอส่งเสียงตะโกน กระตุ้นให้ดินแดนพันเกล็ดที่อยู่ด้านล่างเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ประกายแสงกะพริบวาบ ผิวกระจกนับพันนับหมื่นเปลี่ยนจากหยุดนิ่งเป็นเคลื่อนไหวอีกครั้ง กลายเป็นประกายเกล็ดที่เคลื่อนไหว
เส้นแสงนับพันนับหมื่นที่รวมอยู่บนดวงดาวสีแดงเลือดกลายเป็นลำแสงรุนแรง เจาะทะลุส่วนในของดวงดาวสีแดงเลือด
กระจกพันเกล็ด หน้าไม้ยิงดาว!
ลำแสงเหมือนกับลูกเกาทัณฑ์ ทะลวงร่างของพญามารตนนั้น ขณะทำให้มันขยับไม่ได้ ถึงกับฉีกกระชากเขตมารแห่งนี้ เจาะเป็นรูมิติขนาดมหึมา
พอถูกลำแสงนั้นชักนำ ดวงดาวสีแดงฉานถูกพาไปด้านหลัง พุ่งเข้าไปในรูมิติแล้วหายสาบสูญไป
รูสมานตัวอย่ารวดเร็ว ทำให้จอมมรตนอื่นๆ ไล่ตามไม่ทัน
เทพมารระดับมหาชาลตนนั้นคิดสอดมือ ครั้งนี้กลับถึงตาเฟิงอวิ๋นเซิงขวางเส้นทางของมัน ได้แต่มองดูดวงดาวสีแดงเลือดนั้นหายไปตาปริบๆ
‘มีประโยชน์อันใด ผู้ใช้กระบี่สายเหนือพิสุทธิ์นั่นยังอยู่ในมือเรา…’ พญามารตนนั้นมึนงงสับสนเพราะเยี่ยนจ้าวเกอ ตั้งหลักในความว่างเปล่าอย่างยากเย็น
ตรงหน้าเป็นจักรวาลอีกด้านหนึ่งที่อยู่ห่างจากดินแดนพันเกล็ดออกมาไกล
พญามารที่เหมือนกับดวงดาวสีแดงเลือดกำลังทดลองแก้ไขอาการชาและอ่อนแรงทั่วร่างของตนเอง จู่ๆ ก็ตกใจ
กลิ่นอายหลายสายพลันปรากฏขึ้นที่นี่ เหมือนกับคอยท่าอยู่นานแล้ว