ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1430 ค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายแหลกสลาย
หลังจากเหล่าจอมปีศาจปรากฏตัวก็ไม่กล่าวมากความ ไม่ได้โจมตีเหล่ามารจากนพยมโลก แต่ว่าโจมตีใส่ค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายและดินแดนพันเกล็ด
อนุเทวะเผ่าปีศาจที่เทียบเท่าระดับเซียนกำเนิดสุญญตาไม่ต่ำกว่าหนึ่งตนลงมือพร้อมกัน แรงกดดันของค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายพลันเพิ่มขึ้น
ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้เหล่ามารประหลาดใจเล็กน้อย แต่ว่าจุดที่นี่กลัวที่สุดยังไม่ใช่ตรงนี้
พลังอันเกรี้ยวกราดที่ครอบคลุมมิติก็เริ่มลงมาถึง เบียดอัดเฟิงอวิ๋นเซิงและเทพมารตนนั้น คิดฝ่าวงล้อมเข่นฆ่าเข้าไประหว่างสองคน
แสงมารสีดำอมน้ำเงินในม่านตาของเฟิงอวิ๋นเซิงโชติช่วงถึงขีดสุด เปลวเพลิงยิ่งมายิ่งลุกโหมและยิ่งเย็นเยียบ ภาพตรงหน้านางยิ่งมายิ่งกระจ่างชัด
กลับเห็นผู้มายืนตรงเหมือนคน สวมเกราะรบ ใส่หมวกเกราะสีเงิน ในมือมีพลั่วพระธรรมเล่มหนึ่ง เสียงเหมือนกระเรียนร้องสะท้านสวรรค์
มองจากไกลๆ เห็นศีรษะข้างเดียว แต่พอมองในระยะใกล้ รอบๆ ล้วนเป็นหัวคน
หน้ามีตา หลังมีตา แปดทิศมองถึง ซ้ายเป็นปาก ขวาก็ปาก แปดปากกล่าววาจา
เฟิงอวิ๋นเซิงไม่เคยเจออีกฝ่าย แต่ว่าเคยได้ยินชื่ออีกฝ่ายมาก่อน
จอมมารที่โด่งดังไปทั่วใต้หล้าในยุคไซอิ๋วโบราณตอนกลาง หนอนเก้าเศียร ถึงแม้จะถูกเรียกเป็นหนอนเก้าเศียร แต่ไม่ใช่เป็นหนอนจริงๆ หากแต่เป็นสัตว์ปีก
พูดถึงความเป็นมา เป็นนกวิเศษหงส์เก้าเศียร เกวียนผี หรือก็คือวิหคเก้าเศียรในตำนาน หนึ่งในมหาเทวะเผ่าปีศาจที่ในอดีตเคยพัดกระพือคลื่นลมขนาดมหึมา ขึ้นเป็นใหญ่ในดินแดนแห่งหนึ่ง มีชื่อเสียงโด่งดัง เรียกตัวเองว่ามหาเทวะเก้าเศียร!
ในยุคไซอิ๋วโบราณตอนกลาง เผ่าปีศาจต่อสู้กับศาสนาพุทธ มีมหาเทวะสามสิบหกตน อนุเทวะเจ็ดสิบสองตนรับคำสั่งกษัตริย์บูรพาก่อตั้งค่ายกล หนอนเก้าเศียรตนนี้เป็นหนึ่งในมหาเทวะสามสิบหกตน
ตอนนั้นซุนเห้งเจียยากจะเอาชนะเขา ภายหลังได้รับการช่วยเหลือจากหยางเจี่ยน จ้าววิสุทธิภูมิเลิศวิถี[1] ผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดแห่งสำนักเต๋า จึงค่อยทำร้ายเขาจนรับบาดเจ็บสาหัสได้
หยางเจี่ยนแม้มีฉายาจ้าว แต่ว่าระดับพลังฝึกปรืออยู่ในชั้นมหาชาลแต่แรก เพียงแต่ว่าเวลาส่วนใหญ่เร้นกายฝึกฝน ไม่ยุ่งกับโลกภายนอก ดังนั้นจึงไม่มีฉายาเทวกษัตริย์แพร่หลายในโลก
แต่หากพูดถึงพลังฝึกปรือ หยางเจี่ยนเป็นอันดับหนึ่งในศิษย์รุ่นสามของผู้สืบทอดกระแสตรงสายหยกพิสุทธิ์ที่แท้จริง หลังเลื่อนสู่มหาชาลก็เป็นคลื่นลูกหลังกลบคลื่นลูกหน้า เหนือกว่าบรรพบุรุษมากมาย
รอจนถึงยุคไซอิ๋วโบราณตอนกลาง แม้ลงมือไม่กี่ครั้ง ส่วนใหญ่ปรากฏตัวขึ้นแวบเดียวก็จากไป แต่ทำให้คนที่ได้ชมดูทุกคนถอนใจชมเชย ยกย่องเขาเป็นผู้โดดเด่นในเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาล
หนอนเก้าเศียรบาดเจ็บด้วยมือของเขา ถูกตัดไปหนึ่งเศียร คนอื่นๆ นึกว่าสมควรตกตาย แต่ว่ามหาเทวะเก้าเศียรก็แข็งแกร่งนัก หนีเอาชีวิตรอดได้ ภายหลังหลบลี้เข้าสู่เขาดาราทะเลดวงดาว ฟื้นฟูพลังและอยู่มาถึงวันนี้
ก่อนหน้านี้ตอนมรกตท่องฟ้าย้ายเข้าไปในตำหนักโอสถ พอดีกับที่เหล่าปีศาจมาจู่โจม
บุคคลผุ้ยิ่งใหญ่ซึ่งยืนอยู่เบื้องหลังมหาเซียนหรูอี้ ฝูลัวจื่อ เทพปีศาจร้อยตาในตอนนั้น มีราชาปีศาจกระทิงมหาเทวะสยบฟ้าและมหาเทวะเก้าเศียรตนนี้ คอยพัวพันเทวกษัตริย์สำนักเต๋า
ถึงแม้ไม่ได้พบกับพวกเยี่ยนจ้าวเกอและเฟิงอวิ๋นเซิง แต่ว่าภายหลังพวกเยี่ยนจ้าวเกอก็ได้ยินข่าวจำนวนหนึ่ง
ขณะที่ระวัง ย่อมต้องทำความเข้าใจกับหนอนเก้าเศียรตนนี้
ดังนั้นพอเฟิงอวิ๋นเซิงเห็นรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่าย ก็ทราบถึงความเป็นมาทันที เป็นเพราะทราบว่าอีกฝ่ายเป็นใคร นางจึงรู้สึกตึงเครียด
ผู้ยิ่งใหญ่ระดับมหาชาลมีการแบ่งเป็นแข็งแกร่งอ่อนแอ เทียบกับเทพมารที่สู้กับนางเมื่อครู่ หนอนเก้าเศียรตนนี้มีพลังแข็งแกร่งกว่าอย่างชัดเจน
เขาหวดพลั่วพระธรรมในมือ ประกายดาบครึ่งเสี้ยวสองสายแยกออกมาจากด้านใน กวาดทำลายไปทั้งสองด้าน กดดันให้เฟิงอวิ๋นเซิงกับเทพมารตนนั้นต้องป้องกัน
หนอนเก้าเศียรฉวยโอกาสรุกคืบ เบียดตัวเข้าไปในเขตมาร พลั่วพระธรรมหมุนวนอยู่ในมือ เย็นเยียบจนเกิดลม
ในสายตาคนอื่นๆ นอกจากเฟิงอวิ๋นเซิงกับเทพมาร เพียงเห็นแสงสีขาวมาจากด้านบน แยกเขตมารที่มืดมิด ยึดครองมิติเหนือศีรษะ
แสงสีขาวแยกจากหนึ่งเป็นสอง กวาดออกไปสอด้าน แยกกันปะทะใส่แสงมารสีดำอมน้ำเงินและสายฟ้าสีแดงอมดำ
ขณะที่แสงสีขาวแยกร่องแยก ก็มีพายุอันน่าพรั่นพรึงที่ไร้รูปร่างหากแต่เย็นเยียบ กวาดไปทั่วมิติในชั่วพริบตา เหมือนกับคมดาบฟันทำลายจักรวาล
ผู้ที่อยู่รอบนอก ไม่ว่าเป็นปีศาจหรือมารต่างพากันถอยหลัง หลบหลีกด้วยความหวาดกลัว
ทว่าค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายที่คุ้มครองดินแดนพันเกล็ดอยู่กลับไม่อาจหลบหลีก บัดนี้พายุพุ่งใส่ แสงของค่ายกลพลันอ่อนลง
ตอนที่งูเก้าเศียรควงพลั่วพระธรรมในมือ เกิดประกายเย็นเยียบกระแทกเฟิงอวิ๋นเซิงกับเทพมารตนนั้น พายุสายแล้วสายเล่าพัดลงไม่หยุด จนกระทั่งทำลายค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายเป็นส่วนๆ
ลวดลายค่ายกลเหนือศีรษะของพวกเยี่ยนตี๋พังทลายในชั่วพริบตา
คลื่นหลงเหลือจากพายุคล้ายไม่หยุดลง กลายเป็นคมพายุนับพันนับหมื่น ตัดเฉือนมิติเวลาแห่งนี้จนแหลกสลาย
เกาชิงเสวียนกับหลิงชิงพุ่งไปด้านทาน ช่วยเยี่ยนตี๋ หลงซิงเฉวียน และนักพรตอวิ๋นเจิ้งป้องกัน
เพียงแต่เมื่อเป็นแบบนี้ แรงกดดันของพวกนางจึงมหาศาลเป็นพิเศษ พากันกระเด็นถอยหลังพร้อมกับเสียงครางหนักๆ
ศัตรูมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย แรงกดดันของค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายเพิ่มขึ้น อยู่ในสภาพง่อนแง่น
ขณะนี้ค่ายถูกทำลาย พวกเยี่ยนตี๋ยากดูแลหัวท้าย สภาพการณ์คับขันกว่าเดิม พวกพญามารสุขสันต์เหล่ามารร้ายนพยมโลก พวกปีศาจกวางขาวเหล่าจอมปีศาจเห็นดังนั้นก็พากันพุ่งเข้ามา
เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าเคร่งขรึม มือถือลายมือแห่งแผ่นดิน เตรียมสู้ศัตรู แต่เป้าหมายของจอมปีศาจเช่นปีศาจกวางขาวและปีศาจกระต่ายหยกกลับไม่ใช่เขา กลับโจมตีใส่ดินแดนพันเกล็ดแทน
ไม่ว่าพวกเยี่ยนจ้าวเกอหรือเหล่ามารจากนพยมโลกต่างงุนงงในฉากนี้ เห็นชัดว่าเผ่าปีศาจไม่ได้มาเพราะต้องการตีชิงตามไฟ ไม่อย่างนั้นเป้าหมายของพวกเขาสมควรยังคงเป็นเยี่ยนจ้าวเกอ เจ้าของตำหนักโอสถในตอนนี้
แต่ถ้าหากบอกว่าพวกเขาต้องการช่วยนพยมโลก เช่นนั้นเหล่ามารร้ายยังรู้สึกประหลาดใจ
ถึงนพยมโลกจะเป็นศัตรูทุกฝ่าย แต่ในประวัติศาสตร์ไม่เคยปรากฏเหตุการณ์ที่ขุมกำลังอื่นๆ รวมมือกับนพยมโลกมาก่อน
แต่ว่าครั้งนี้นพยมโลกมาต้อนรับการคืนชีพของมารน้ำกุ่ยคืน เผ่าปีศาจเห็นได้ชัดว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องช่วยพวกมัน ยิ่งอย่าว่าแต่ก่อนหน้านี้ไม่มีวี่แววแม้แต่น้อย เหล่ามารก็ไม่เคยได้ยินข่าวว่าเผ่าปีศาจจะผนึกกำลังกับฝ่ายตนในวันนี้
มหาเทวะเก้าเศียรถึงขั้นที่ใช้พลังของตัวเองสะกดเต๋ากับมารพร้อมกัน
‘…พวกเขาคิดสังหารกษัตริย์ดารากับผู้อาวุโสฉู่!’ หลังจากความตกใจในตอนแรกสุด เยี่ยนจ้าวเกอพลันได้สติ
เป้าหมายของพวกปีศาจกวางขาว เป็นเฉินเสวียนจงกับฉู่หลีหลีเหมือนกัน เพียงแต่ว่าพวกเขาคิดกำจัดพวกกษัตริย์ดาราซึ่งเป็นร่างสถิตสำหรับคืนชีพของมารน้ำกุ่ย มิหนำซ้ำไม่ว่าพวกเขาจะร่วงหล่นเป็นมารหรือไม่ ก็จะถือโอกาสังหารลงที่นี่ ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม!
สำหรับพวกเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว เฉินเสวียนจงกับฉู่หลีหลีเป็นพวกเดียวกัน ผูกพันกันเป็นญาติมิตร
สาเหตุที่ลำบากวางแผน เตรียมตัวมาหลายปีก็เพื่อช่วยเหลือปกป้องคนทั้งสอง ในตอนถอนทำลายตรามารของพวกเขา และผนึกหนทางการคืนชีพของมารน้ำกุ่ย
แต่ว่าสำหรับเผ่าปีศาจ ไม่ได้ใส่ใจกับความเป็นความตายของพวกเฉินเสวียนจง หากฆ่าไปพร้อมกันได้ย่อมเป็นการแก้ปัญหามากมายในครั้งเดียว ในระยะเวลาอันสั้นมารน้ำกุ่ยสูญเสียโอกาสในการคืนชีพมีชีวิตอีกครั้ง
หากจะรอร่างสถิตที่เหมาะสมสำหรับคืนชีพ ก็มีแต่ฟ้าเท่านั้นที่ทราบว่าจะเป็นตอนไหน อาจจะมาถึงในพริบตาเดียว และอาจผ่านไปเป็นพันเป็นหมื่นปีโดยไม่เกิดขึ้น
พวกพญามารสุขสันต์ไม่ทันไรก็ทราบถึงเจตนาของเผ่าปีศาจ อดร้อนรนและโมโหไม่ได้ เริ่มพุ่งเข้าหาดินแพนพันเกล็ดโดยไม่สนใจว่าต้องแลกด้วยการบาดเจ็บล้มตาย
ดินแดนพันเกล็ดส่งผลกดข่มต่อมารร้าย ขัดขวางเส้นทางของพวกมัน แต่กลับป้องกันพวกจอมปีศาจไม่ได้
อนุเทวะเผ่าปีศาจบางส่วนเป็นทัพหน้า ทำลายลำแสงที่สะท้อนแสงระยิบระยับ พุ่งเข้าหาลูกกลมที่ลำแสงครอบคลุมอยู่!
………………..
[1] จ้าววิสุทธิภูมิเลิศวิถี หมายถึง เทพเอ้อร์หลาง